Dinner Mate (2020) Aired on: MBC Air Date: May 25 - July 14, 2020 (16 eps.) Director: Ko Jae-Hyun (Syndrome, The Player, Cafe Minamdang) Based on the 2013 Webtoon:Would You Like To Have Dinner Together? by Park Si-in
ตอนแรกก็ว่าจะแปะไว้ก่อนนะ รอจบ The Player แล้วค่อยตามไปดู สุดท้ายทนไม่ไหว หามาดูเลยละกัน สรุปว่าตอนนี้ก็เลยดู "พี่ชายยย" ควบ 2 เรื่องไปเลย หล่อวัวตายควายล้มจริงๆ
Simply is the Best บางอารมณ์ก็ไม่ได้อยากดูเนื้อหาอะไรใหม่ๆนะ เรตต้งเรตติ้งก็อย่าไปใส่ใจมาก แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน อย่างเช่นตอนนี้ แค่เห็นผู้ชายหล่อๆเดินผ่านหน้าจอก็ฟินแล้ว
How about this drama? - สุดท้ายก็ดูรวดเดียวจบ พัก The Player ไว้แป๊บนึง - This drama is just 'alright'. Not bad, but not good either. หนังดูง่าย สบายๆ ไม่ซับซ้อนปวดกบาล อมยิ้ม ฟินจิกหมอนเล็กๆ ไม่มากมาย - There is really nothing memorable or 'impactful' scene. ตัวหนังเรียบๆ ไม่มีฉาก Wowww ใหญ่ๆให้จดจำ แค่กดย้อนดูซ้ำอีกครั้งทันทีแล้วก็จบไป - The chemistry between the main leads are so-so. เคมีพระ-นาง ก็พอได้อยู่ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมากขนาด ก.ไก่ล้านตัว คือพี่ชายยย Song Seung-Heon นี่เคมีสาธารณะอ่ะ คู่กับใครก็เข้ากันได้หมด แต่สำหรับ Seo Ji-Hye ดูแล้วยังไม่รู้สึกว่าจะขึ้นแท่นเป็นนางเอกได้ ไม่รู้ทำไม มันเหมือนติดๆอะไรสักอย่าง บอกไม่ถูก แต่ก็อาจจะเป็นเพราะคาแรคเตอร์ของตัวละครก็ได้นะ ถ้าได้บทดีๆ อาจจะส่งมากกว่านี้ - ฝีมือการแสดงที่โดดเด่นที่สุดในเรื่อง ตกเป็นของ Lee Ji-Hoon ในบท Jung Jae-Hyeok (แฟนเก่านางเอก) ช่วงครึ่งหลังของเรื่องที่ออกอาการป่วยทางจิต แสดงได้ดีมาก - เรื่องนี้ดารารับเชิญเพียบ Surprise เล็กๆกับแขกรับเชิญ Kim Jung-Hyun ที่เคยเล่นคู่กันใน Crash Landing on You เรื่องนั้นตาย เรื่องนี้เลิกกัน ... จะได้คู่กันจริงๆสักเรื่องมั้ย - Lee Si-Un และ Tae Won-Seock จากทีม The Player (คือเพิ่งดู The Player ไป 3 ตอน เปิดมาเจอที่เรื่องนี้อีกก็ฮาสิคะ) - ส่วนลุง Kim Won-Hae เลิก surprise ล่ะ เพราะลุงแกโผล่ไปทุกเรื่องจริงๆ (ดูพี่ชายยย 3 เรื่อง ก็เจอลุงแกทั้ง 3 เรื่องอ่ะ) เรื่องนี้มารับเชิญในบทเล็กๆ ใน Ep.7
Director's Signature ไม่บ่อยนักที่อยากจะเขียนถึง ผกก. (ส่วนใหญ่จะบ่น ผกก. ซะมากกว่า) ด้วยความบังเอิญที่ได้ดู The Player (2018) และ Dinner Mate (2020) แทบจะพร้อมๆกัน สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดและคิดว่าน่าจะเป็น Signature ของ ผกก.Ko Jae-Hyun คือ การถ่ายแบบ Long Take (continuous take /continuous shot) การถือกล้องเดินตามและหมุนรอบตัวนักแสดงทำให้คนดูได้เห็นบรรยากาศรอบๆตัวละคร เป็นการบรรยายโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร ชอบมากๆๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบและคิดว่าน่าจะเป็น Signature ที่มาพร้อมกับการถ่ายแบบ Long Take คือ การ setting ฉากหลักของเรื่องให้ดูมี detail ให้ความรู้สึกว่ามีสถานที่นั้นจริงๆ ไม่ใช่แบบที่ set ขึ้นมาเป็นส่วนๆที่ไม่ต่อเนื่องกัน (แต่จริงๆก็ต้อง set แหละนะ แค่จัดใหญ่ไฟกะพริบ) เช่น เอาประตูบ้านนั้นมาปะกับห้องบ้านนี้ ด้านนอกเป็นบ้านสวยเปิดมาเป็นอีกห้อง ถ่ายกันคนละที่อะไรแบบนั้น ดูบางเรื่อง (บอกเลยละกัน Chicago Typewriter) ประตูหน้าเปิดมาตรงๆแต่ไหงพอถ่ายจากมุมในบ้าน ประตูมันอยู่ด้านข้าง(วะ) อันนั้นก็ดูแล้วหงุดหงิดเกิ๊นสำหรับคนชอบดูฉาก/การตกแต่งภายในแล้วเอามาประกอบเป็นแบบแปลนในหัวอย่างเรา อย่างเรื่องนี้จะมี 2 ฉากหลักๆคือ ที่ทำงานของนางเอก และ คลินิกของพระเอก ตากล้องแทบจะถือ Handy Cam ตัวเดียวแล้วเดินตามถ่ายได้เลย