ตอน 14 มองหาตลอด
โดยเขาก็จะเข้าไปทักทายครอบครัวของเพื่อนอย่างสนิทคุ้นเคย พลางบอกกับเธอให้ได้ทราบก่อนจะเดินไป“อยากกินอะไรก็กินไปเลยนะ เดี๋ยวฉันมา”“ค่ะ คุณซัน” หญิงสาวรับปากด้วยความเข้าใจ ก่อนที่เขาจะเดินไปหาบิดากับมารดาของเพื่อน“หวัดดีครับ คุณพ่อคุณแม่”“ซันมาแล้วเหรอลูก” มารดาของเพื่อนดึงร่างของเขาเข้าไปกอดอย่างแนบแน่นด้วยความรัก ชายหนุ่มคล้ายเป็นดังลูกชายอีกคน“ครับคุณพ่อคุณแม่” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างเคารพนบนอบซึ่งมุกดาก็เดินตักอาหารเกาหลีมานั่งกินที่โต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย และที่ติดใจมากเมื่อมาประเทศเกาหลีก็คือต๊อกบ๊กกี จึงไม่รอช้าที่จะตักมัน ขณะที่นั่งกินนั้นก็พลันอยากไปเข้าห้องน้ำ จึงเดินไปสอบถามคนในงาน ด้วยภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ“แวร์ ทอยเลท” พออีกฝ่ายได้ยินก็บอกให้ทราบ“อ้อ เดินตรงไปทางนี้นะคะแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปจากนั้นก็เลี้ยวขวาค่ะ” ด้วยการทำท่าให้เธอเห็นด้วย เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร มองจากท่าทางเท่านั้น หญิงสาวก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปตามทางที่อีกฝ่ายบอกซึ่งธราธิปก็หันใบหน้าไปมองยายพนักงานจอมเปิ่นของตนเอง ก็ไม่เห็นอีกฝ่ายในงาน ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจ ไม่ว่าจะกวาดตามองหายังไงก็ไม่เจอ โดยมุกดาก็เดินออกมาจากห้องน้ำและเตรียมเดินกลับไปที่งาน ก่อนจะทบทวนทางที่ตนเองเดินมาเมื่อครู่นี้เพื่อเดินกลับทางเดิม แต่ยิ่งเดินก็ไม่ถึงงานเสียที ก่อนจะมาโผล่ยังสถานที่แปลกตาอีกด้านหนึ่ง“อ้าว มาผิดทางเหรอเนี่ย เดี๋ยวเดินย้อนกลับไปละกัน” ขณะที่กำลังจะหมุนร่างกลับมาก็พลันได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตนเองทางด้านหลัง“มาทำอะไรตรงนี้น่ะ”“คุณซัน” หญิงสาวเรียกชื่อเขาออกมา“คือฉันหลงทางค่ะ จะเดินกลับไปที่งาน แต่ก็มาโผล่ตรงนี้ค่ะ” มุกดาบอกเหตุผลให้เขาทราบ“ฉันเห็นหายไปนานเลยออกมาดู” อดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่เขาเป็นห่วงตนเอง“คุณซันเป็นห่วงฉันเหรอคะ”“ใช่ ห่วงกลัวว่าเธอจะไปทำอะไรเปิ่นๆ ให้คนอื่นเดือดร้อน เกิดไปเดินชนข้าวของคนอื่นเสียหายจะไม่มีปัญญาชดใช้” เขาบอกอย่างไม่ยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายคาดการณ์ออกมา“ไม่วายโดนดุจนได้” มุกดาบ่นงึมงำเบาๆ กับตนเอง“บ่นอะไร” เขาเห็นเธอทำปากขมุบขมิบก็สอบถามอย่างสงสัย“เปล่าค่ะ กลับไปที่งานกันเถอะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างตัดบทด้วยสีหน้าเซ็งๆ ธราธิปเห็นใบหน้าเธอก็อดยิ้มขำในใจไม่ได้ที่พูดแกล้งอีกฝ่ายและเมื่อเดินออกมาทางด้านนอกของงาน ก็มองเห็นบิดากับมารดาของจองมินยืนอยู่ แม่ของเพื่อนก็เอ่ยอย่างสัพยอก“ไม่เห็นพาแฟนมาแนะนำให้แม่รู้จักเลย”“นั่นสิ” พ่อของจองมินก็พูดอย่างเห็นด้วย พอได้ยินเขาก็รีบอธิบายให้อีกฝ่ายทราบ“ไม่ใช่แฟนครับคุณพ่อคุณแม่”“อ้าว เห็นจองมินบอกว่ามากับแฟน” มารดาเอ่ยขึ้นมาหลังจากนั้น“คุณแม่พนันกับผมไหมครับ ตอนนี้บอกว่าไม่ใช่แฟน แต่เดี๋ยวต่อไปก็เปลี่ยนเป็นแฟน”“แม่ก็เชื่อว่าอย่างนั้น” แม่ของเพื่อนบอกไม่ต่างจากจองมินเลย“แค่พนักงานหายก็รีบเดินไปตามหาแล้ว แบบนี้จะให้เชื่อได้ยังไงกัน” จองมินเอ่ยและทำท่ายักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนด้วย พอนึกถึงคำพูดของเพื่อนก็ทำให้เขาเถียงไม่ออก เพราะตนเองทำเช่นที่พูดจริงๆ คอยมองไปยังอีกฝ่ายตลอดเวลาที่ยืนคุยกับบิดาและมารดาของเพื่อนโดยมุกดาก็กินอาหารจนอิ่มทีเดียว ระหว่างนั้นเธอก็กดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนของตนเองด้วยความเป็นห่วงที่อีกฝ่ายอยู่โรงแรมคนเดียว รออยู่ไม่นานสุนทรีก็กดรับสาย“ว่าไงมุก”“สุ่นเป็นยังไงบ้าง หายปวดท้องรึยัง”“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ ไม่ค่อยปวดเหมือนตอนแรกละ แล้วมุกล่ะไปกับคุณซันเป็นยังไงบ้าง” พลางสอบถามกลับมาด้วยสีหน้าอยากรู้“ก็ดี แต่เมื่อกี้เกือบเกิดอุบัติเหตุน่ะ”“อ้าว ทำไมล่ะ” พออีกฝ่ายได้ยินก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย“มีรถขับมาตัดหน้ารถแท็กซี่ที่นั่งน่ะ”“แล้วเป็นอะไรมากไหม” สุนทรีซักไซ้อย่างเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรมากหรอก” เธอไม่กล้าเล่าให้อีกฝ่ายทราบว่าตนเองล้มไปทับคุณซันจนปากเขาหอมแก้มตนเอง“งั้นก็โล่งอกไป นึกว่าเป็นอะไรไป” พลางทำเสียงถอนหายใจออกมาอย่างแรง เธอคุยกับเพื่อนไม่นานก็วางสายไปหลังจากงานเลี้ยงแต่งงานจบลงก็เปลี่ยนเป็นงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ต่อ โดยเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้ไปสังสรรค์ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งธราธิปก็พามุกดาไปด้วย จองมินกับโซยองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นแบบเดรสกระโปรงยาวเหนือเข่าส่วนฝ่ายชายก็เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้าสดใส เป็นงานปาร์ตี้ทิ้งทวนความโสด เป็นงานฉลองแต่งงานแบบไม่เป็นทางการ โซยองซึ่งเป็นเจ้าสาวก็เอ่ยชวนมุกดา“คุณมุกดาดื่มโซจูด้วยกันสิคะ” หญิงสาวหันไปสอบถามเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย“เธอพูดว่าอะไรเหรอคะ”“โซจองชวนเธอดื่มโซจูน่ะ” เขาอธิบายให้เธอได้ฟัง“โซจูคืออะไรคะคุณซัน”“เหล้าเกาหลีน่ะ”“ให้ฉันกินเหล้าอย่างนั้นเหรอคะ” พอรับรู้ดวงตาของมุกดาก็เบิกกว้างอย่างตกใจ+++++++++++++มาดูกันค่ะว่าหนูมุกดื่มเหล้าโซจูแล้วจะเป็นยังไง จะรั่วแค่ไหนเจอกันตอนหน้าค่ะ