ตอน 4 สองมาตรฐาน
เมื่อลงมาถึงก็กวาดตามองหาเจ้านายหนุ่ม เพียงไม่นานก็เห็นเขายืนอยู่ เป็นผู้ชายที่ดูโดดเด่นมากทีเดียว แม้จะมีคนมากมายยืนอยู่เต็มไปหมด แต่เขาก็ดูสะดุดตาเอามากๆ“ขอโทษที่ลงมาช้าค่ะ” มุกดาเอ่ยเมื่อเดินมายืนต่อหน้าเขา“ถ้าคิดจะไปเที่ยวกับฉัน ก็ช่วยทำตัวให้ตรงเวลาหน่อยนะ เพราะฉันไม่ชอบรอใคร” ธราธิปบอกให้รับรู้อย่างชัดเจน“ค่ะ พวกเราจะมาให้ตรงเวลาค่ะ” เธอตอบรับแทนสุนทรี“งั้นไปกินอาหารกัน” ทั้งสองก็พากันเดินตามเขาไปยังห้องอาหารของทางโรงแรมเบื้องหน้ามีแต่อาหารเกาหลีที่เธอกับเพื่อนไม่เคยกินมาก่อน พลางทำนัยน์ตาโตเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น พร้อมกับชี้ให้เพื่อนดู“อาหารน่ากินมากๆ เลยดูสิสุ่น”“ใช่ๆ”“แล้วเรียกว่าอะไรบ้างกัน” หญิงสาวแสดงความสงสัย ธราธิปที่เอ็นดูในความซื่อของพนักงานบริษัทตนเองก็อธิบายให้ทราบ นั่นเพราะว่าเขาเคยมาเที่ยวที่นี่แล้วน่ะเอง“นี่เรียกว่า บิบัมบับ เรียกไทยๆ ว่าข้าวยำเกาหลี ส่วนนี่เรียกว่าซัมเกทัง ไก่ตุ๋นโสม แล้วก็นี่ แนงมยอน บะหมี่เย็น กับ ต๊อกบ๊กกี แป้งต๊อกผัดซอสเผ็ด“อ๋อ แบบที่พวกพระเอกนางเอก ชอบกินกันในซีรีย์เกาหลีน่ะเอง” สุนทรีเปรยขึ้นมาอย่างจำได้“ใช่ๆ” มุกดาตอบรับอย่างเห็นด้วย ธราธิปก็แนะนำอาหารให้ทั้งสองฟังต่อส่วนนั่นก็ คิมบับ ข้าวห่อสาหร่าย ส่วนจานสุดท้ายนี่ก็มันดู หรือเกี๊ยว พอได้ยินที่เขาบอกรายการอาหารให้ตนเองกับเพื่อนฟัง มุกดาก็ดูจะประทับใจกับความฉลาดของอีกฝ่าย“โอ้โห คุณธราธิป รู้หมดเลยว่าอาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง”“ก็ฉันมีเพื่อนที่เป็นเกาหลีนี่นา แล้วก็เคยหาข้อมูลมาบ้าง”“พวกเราไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลยค่ะ” หญิงสาวยอมรับออกไปเบาๆ“ถึงได้ไม่รู้อะไรเลยไงล่ะ เพราะวันๆ เอาแต่หาข้อมูลดาราอย่างเดียว” เหมือนพูดเหน็บแนมใส่กรายๆ เล่นเอามุกดากับยี่สุ่นไปต่อไม่ถูกทีเดียว พลางตักอาหารไปนั่งกินที่โต๊ะแทน“ฉันเอาเมนูนี้กับเมนี้ละกัน” เพื่อนสนิทเรียกไม่ถูกจำไม่ได้หรอกว่าแต่ละอย่างที่เขาบอกมันคืออะไร หากทว่ามันคือเมนู ต๊อกบ๊กกี กับ ซัมเกทัง“ฉันก็เอาเมนูนี้กับนี่เหมือนกัน บะหมี่เย็นเนี่ย” เธอรีบเดินไปตักอาหารเพื่อจะได้ไม่ต้องโดนเหน็บต่อ ครั้นได้อาหารก็เตรียมกลับไปนั่งกับธราธิป แต่ยี่สุ่นรั้งมือไว้และบอก “มุกนั่งตรงนี้เถอะ”“อ้าวทำไมล่ะ” หญิงสาวทำท่างุนงงถามกลับไป“ไปนั่งกับคุณซัน คงคุยกันไม่สนุกหรอก แยกไปนั่งที่อื่นละกัน”“แต่ยังไงเราก็ต้องไปเที่ยวกับเขานะ”“ตกลงมาเที่ยวสนุกหรือไม่สนุกกันเนี่ย” อีกฝ่ายแสดงความคิดเห็นกลับไป“ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกัน มันหมดสนุกก็ตั้งแต่ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกแรงงานหนีเข้ามาทำงานในเกาหลีอย่างผิดกฎหมายละ พูดภาษาอังกฤษกับเขาก็ไม่รู้เรื่องเลย"“เถอะนั่งตรงนี้ดีกว่า ขืนไปนั่งโต๊ะเดียวกับคุณซัน ฉันคงกระเดือกอาหารไม่ลงแน่ๆ”“นั่นสิ” ดังนั้นทั้งสองจึงเลือกที่จะนั่งห่างๆ เจ้านายหนุ่ม ในขณะที่มีสาวๆ มาขอนั่งกับเขาตลอด“ขอนั่งด้วยคนนะคะ”“ได้ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม“ฮึ ทีกับเราทำหน้ามุ่ยเหมือนเหม็นขี้ตลอด แต่กับผู้หญิงคนอื่นยิ้มหน้าระรื่นเชียวดูสิ”“จริงด้วย” สุนทรีพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับเพื่อนสนิท โดยมือก็ตักอาหารมานั่งกินไม่หยุด“อาหารเกาหลี ก็อร่อยดีเหมือนกันนะ” แต่ดูเหมือนมุกดาจะไม่ใส่ใจอาหารตรงหน้ามากไปกว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลอีกด้านหนึ่งที่ดูเหมือนคุยถูกคอกับอีกฝ่ายยิ่งนัก อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวชาวไทยเช่นกัน“มาเที่ยวกับทัวร์เหมือนกันรึเปล่าคะ”“เปล่าครับ มาเที่ยวเอง พอดีว่าผมมางานแต่งงานของเพื่อนด้วยน่ะครับ”“ฉันชื่อจอยค่ะ แล้วคุณล่ะคะชื่ออะไร เผื่อเราจะได้เจอกันที่เมืองไทยอีกน่ะค่ะ”“ผมชื่อซันครับ”“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณซัน” หญิงสาวชวนเขาคุยไม่หยุดเลยทางด้านของมุกดาก็กินอาหารอิ่มแล้ว จึงมองไปยังของหวานหลังอาหารต่อ ทั้งสองก็เดินไปเลือกของหวานที่ดูน่ากินหลายอย่าง พลางใช้นิ้วชี้กับเพื่อน“อุ๊ย ดูสิ ของหวานนี่น่ากินจัง โดยธราธิปก็เดินมาหาผลไม้กินเช่นกัน เห็นสองสาวยืนอยู่ตรงมุมขนมหวานก็เดินเข้ามาบอก“นี่เรียกว่า ออมเลท บีแบง หรือแซนวิทเกาหลี” เป็นเนื้อแป้งนุ่มสอดไส้ผลไม้สด“อุ๊ย คุณซันมาตั้งแต่เมื่อไรคะ”“มาเมื่อกี้นี้น่ะสิ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ผิดกับที่คุยกับผู้หญิงอีกคนเลย“ดูน่ากินดีนะคะ”“ส่วนนี่เรียกว่า บิงซูเมลอน แล้วนั่นก็ขนมปลาไส้ถั่วแดง”“ขอบคุณนะคะที่คอยแนะนำอาหารให้ทุกอย่างเลยค่ะ”“เธอจะได้จำไว้ไง ว่าอาหารแต่ละอย่างเรียกว่าอะไร” เพียงบอกเสร็จชายหนุ่มก็เดินไปตักผลไม้เพื่อกลับไปนั่งกินที่โต๊ะต่อ“ฉันลองกินนี่ดีกว่า” มุกดาตักปลาไส้ถั่วแดง กับ แซนวิทเกาหลีไปลองกิน ส่วนสุนทีก็กินบิงซูเมลอนกับแซนวิทเกาหลีเหมือนกัน++++++++++++++++คุณซันสองมาตรฐานสุดๆ กับหนูมุกกับเพื่อนพูดเหมือนมะนาวไม่มีน้ำ แต่ผู้หญิงคนอื่นพูดดีเชียว ดุขนาดนี้ ทั้งสองคนจะรักกันได้ยังไงนะ มาลุ้นกันค่ะ ว่าทำไมความรักของทั้งคู่ถึงเลิกกันค่ะ