..Don't find love, let love find you. That's why..it's called..falling in love..because you don't force yourself to fall..you just fall..
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
about love 3



ฟังชื่อไทยของหนังเรื่องนี้แล้ว อาจจะชวนให้นึกถึงหนังสยองขวัญในกาลก่อนอย่างเรื่อง
three อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต หรือไม่ก็หนังผีสัญชาติไทยอย่าง ผีสามบาท
ที่ประกอบด้วยหนังสามเรื่องที่แตกต่างกัน แต่จับเอามาชนกัน ฉายต่อกันเฉยๆ
แต่สำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าชื่อภาษาไทยจะสื่อออกไปในแนวคล้ายๆกันว่า
น่าจะเป็นเรื่องราวความรัก 3 ตอน 3 ประเทศ 3 ภาษา แต่ไม่ใช่ครับ นี่เป็นเรื่องราวความรักของคู่รัก 3 คู่ ที่ทั้ง 3 คู่ต่างก็มีส่วนเกี่ยวโยงถึงกันและกัน

About love เป็นผลงานการร่วมสร้างภาพยนตร์ โดยผู้กำกับ 3 คน ที่นำนักแสดง 3 คู่ จาก 3 ประเทศ มาสรรค์สร้างเรื่องราวความรักในนิยามต่างๆกัน


1.ความรัก...คือ กำลังใจ
ท่ามกลางความสับสนในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว ผู้คนต่างใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เดินสวนกันบ้าง
ชนกันบ้างบนถนน ซึ่งต่างก็ไม่สนใจคนรอบข้าง
อาเหยา หนุ่มน้อยจากไทเป ผู้ใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักวาดการ์ตูนฝีมือเยี่ยม ได้ออกเดินทางพร้อมจักรยานคู่ชีพ ไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้วิชาการวาดเขียนการ์ตูน (อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นแหล่งผลิตการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง)
กาลเวลาผ่านไปนาน อาเหยากลับยังไม่สามารถไล่ตามความฝันในการเป็นนักวาดการ์ตูนได้สำเร็จ
เนื่องด้วยอุปสรรคหลายๆอย่าง ทั้งความยากเย็นในการฝึกฝนลายเส้น
และเรื่องของภาษาญี่ปุ่น ที่เขาเองยังพูดไม่คล่อง

มิชิโกะ จิตรกรสาวผู้หลงใหลในการวาดภาพบนผืนผ้าใบและสีน้ำ ชีวิตของเธอดูเหมือนจะราบรื่นดี
มีความสุขไปกับการวาดภาพ และการรอคอยการกลับมาของแฟนหนุ่มที่กำลังศึกษาอยู่ ณ ประเทศสเปน แต่แล้วแฟนของเธอที่อยู่ที่ประเทศสเปน ก็ใช้เวลาในการคุยโทรศัพท์กับเธอเพียง 4 นาที
เพื่อตัดสัมพันธ์ความรัก 3 ปีที่พวกเขาร่วมสร้างกันมา

อาเหยากับมิชิโกะ บังเอิญสวนกันขณะกำลังข้ามถนน อาเหยารู้สึกแปลกใจกับใบหน้าอันแสนเศร้า
และเต็มไปด้วยน้ำตาของมิชิโกะ ที่เพิ่งเลิกกับคนรัก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก
ในคืนนั้น อาเหยาเฝ้าคิดถึงเรื่องความก้าวหน้าในการฝึกวาดเขียนการ์ตูนของตัวเอง และตั้งใจจะพยายามต่อ
ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะมีความท้อแท้อยู่ในใจก็ตาม ด้วยความบังเอิญ ในคืนหนึ่ง
โซ่ล้อจักรยานคู่ใจของอาเหยาเกิดหลุดที่หน้า Gallery ที่ชื่อว่า 24 fps
ทำให้เขามีโอกาสได้เห็นภาพวาดของทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่มีถนนทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด
ซึ่งทำให้อาเหยาหวนนึกเปรียบเทียบกับตัวเองว่า หนทางการไล่ตามฝันของเขาจะไปหยุดตรงที่ไหน
และในวันต่อมาอาเหยาก็พบว่าภาพเขียนนั้นเป็นของมิชิโกะ สาวน้อยที่เดินสวนกับเขาบนถนนพร้อมคราบน้ำตานั่นเอง อาเหยาสามารถสัมผัสได้ถึงความเศร้าที่อยู่ภายในใจของมิชิโกะ แม้ว่าเขาเองไม่อาจจะเดินเข้าไปปลอบเธอตรงๆ
จึงได้วาดรูปเหมือนของเธอลงบนกระดาษและแปะเอาไว้ที่กระจกหน้า Gallery
อาเหยาทำอย่างนี้ทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งมิชิโกะได้เห็นอาเหยากำลังเล่นกับแมวอยู่ที่หน้า Gallery
โดยที่เขาไม่รู้ตัว บวกกับมิชิโกะก็ได้ทราบว่าภาพการ์ตูนที่อาเหยาส่งมาให้นั้น
ถ้านำมาเปิดต่อกันจะได้เป็นภาพใบหน้าของมิชิโกะที่กำลังเปลี่ยนจากใบหน้าเศร้ากลายเป็นใบหน้าอันยิ้มแย้มสดใส ทำให้มิชิโกะเกิดความประทับใจในตัวอาเหยาทันที แต่อาเหยาเองก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับมิชิโกะตรงๆ อีกทั้งเขาเองยังพูดภาษาญี่ปุ่นได้ไม่คล่อง ทั้งๆที่ชั้นเรียนภาษาญี่ปุ่นของเขากำลังจะจบลงแล้ว
อาเหยาจึงตัดสินใจจะไปพบหน้ามิชิโกะ แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป
เพราะมิชิโกะได้วาดภาพที่ Gallery แห่งนั้นเสร็จแล้ว และกำลังเดินทางออกจาก Gallery
ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าของ Gallery ทำให้อาเหยาพอจะรู้ว่ามิชิโกะเดินทางไปที่ไหน
และในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็ได้พบกัน และอาเหยาได้มอบภาพการ์ตูนภาพสุดท้าย
อันเป็นภาพลงสีของใบหน้าอันยิ้มแย้มของมิชิโกะให้กับเธอ

อาเหยา เป็นหนุ่มน้อยที่มาตามหาความฝันของตัวเองในต่างแดน
โดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นจะไปจบลงที่ตรงไหน ทำให้เกิดความรู้สึกท้อแท้ และขาดความมั่นใจ
จนกระทั่งได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดของมิชิโกะ
ทำให้เขารู้ว่าเขาควรจะกำหนดเป้าหมายของตนเองไว้ที่ตรงไหน และเดินหน้าต่อไป
ในขณะเดียวกัน ที่มิชิโกะร้องไห้เสียใจกับการถูกคนรักทอดทิ้ง อาเหยาก็ใช้ภาพการ์ตูนที่เป็นภาพเหมือนของมิชิโกะ เพื่อให้กำลังใจกับเธอในการต่อสู้กับปัญหาที่รุมเร้าเธออยู่เช่นเดียวกัน ในภาวะตึงเครียด กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
และมีแรงในการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่อไปได้


2.ความรัก...ไม่จำกัดภาษา
กลางดึกคืนหนึ่งในกรุงไทเป หญิงสาวนามว่า อาซือ นอนไม่หลับ จึงใช้เวลาในยามค่ำคืนไปกับการต่อตู้หนังสือ สร้างความรำคาญให้แก่เพื่อนข้างห้อง แต่เมื่อต่อตู้เสร็จแล้วกลับพบว่า ตู้นี้หนักเกินไป
ไม่สามารถยกขึ้นมาตั้งไว้ในที่ๆต้องการได้ จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนชาวญี่ปุ่น ชื่อว่า เท็ตจัง
ซึ่งเท็ตจังเองก็แอบชอบอาซืออยู่ หลังจากที่เท็ตจังได้ช่วยเหลืออาซือในการยกตู้แล้ว
อาซือก็ขอร้องให้เท็ตจังไปคุยกับแฟนเก่าของเธอว่า เรื่องราวระหว่างเธอกับแฟนเก่านั้นจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ (เพราะเธอเองยังไม่สามารถหลุดจากวังวนแห่งความรักของคนรักเก่าได้) แต่แล้วทั้งสองคนก็สื่อภาษากันไม่รู้เรื่อง เนื่องด้วยความต่างทางเชื้อชาติและภาษา แต่ทั้งสองต่างเข้าใจในการแสดงออกทางอารมณ์ของกันและกัน
และร่วมเดินทางฝ่าสายฝนไปด้วยกันบนจักรยานยนต์ พาหนะคู่ใจของเท็ตจัง

เรื่องราวอันน่าประทับใจสำหรับคู่นี้ก็คือ อาซือถูกคนรักทอดทิ้ง แต่ไม่ยอมรับและยังยึดติดอยู่กับอดีตเก่าๆอยู่ และยังหวังว่าสักวันจะได้คนรักเก่ากลับคืนมา (ทั้งที่อีกฝ่ายลืมเรื่องนี้ไปจนสนิทใจแล้ว)
จนทำให้มีภาวะซึมเศร้า มีปัญหาการนอนไม่หลับ และไม่กล้าที่จะเริ่มมีความรักครั้งใหม่
จนกระทั่งความไม่เข้าใจทางภาษาของเท็ตจัง ทำให้เขาต้องพูดประโยคของแฟนเก่าอาซือ
ที่มีใจความว่า “ ไฟมอดหมดแล้ว ไม่มีทางที่จะจุดขึ้นใหม่ได้อีก” ให้อาซือฟังซ้ำหลายครั้ง
ทำให้อาซือเริ่มเปลี่ยนจากการปฎิเสธ กลายเป็นการยอมรับและเข้าใจ
ทำให้อาซือสามารถเริ่มต้นมีความรักครั้งใหม่ได้ และได้เปรียบเปรยชีวิตว่า ทุกชีวิตย่อมต้องเผชิญอุปสรรค เหมือนเผชิญกับสายฝน แต่เมื่อขับรถเข้าไปในอุโมงค์ที่ปราศจากสายฝนและลมหนาว
ก็กลับทำให้รู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าเมื่อออกจากอุโมงค์ จะพบกับฝนตกและความหนาวเหน็บอีกครั้ง การอยู่ในอุโมงค์ก็เหมือนการเติมพลัง ให้เราพร้อมจะเผชิญอุปสรรคข้างหน้าอีกครั้ง


3.ความรัก...คือการสื่อสาร
ชูเฮย์อิ ชายหนุ่มสองภาษาจากประเทศญี่ปุ่น (พูดได้ทั้งภาษาจีนและญี่ปุ่น) เดินทางไปยังเซี่ยงไฮ้
เพื่อศึกษาต่อ ระหว่างนั้นเขาได้เช่าห้องพักอาศัยอยู่บนห้องชั้นบนของร้านขายของชำร่วยแห่งหนึ่ง
ที่นั่นเขาได้พบกับยุน ซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของร้านขายของชำร่วยแห่งนั้น
ยุนแอบชอบชูเฮย์อิตั้งแต่แรกพบ แต่เก็บซ่อนความรู้สึกของตนเองเอาไว้ภายใน
ชูเฮย์อิได้ทำงานพิเศษที่ผับสัญชาติสเปน ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆที่พักของเขา
วันหนึ่งเขาได้รับจดหมายและพัสดุจากยูกิโกะ แฟนของเขาที่ขณะนี้กำลังศึกษาต่ออยู่สเปน
หลังจากชูเฮย์อิได้อ่านจดหมายฉบับนั้น ทำให้เขารู้สึกเสียใจมากและฉีกจดหมายฉบับนั้นทิ้ง
ยุนอยากทราบรายละเอียดข้อความในจดหมายนั้น จึงได้เก็บเศษชิ้นส่วนของจดหมายฉบับนั้น
นำมาปะติดปะต่อและพยายามแปลข้อความภาษาญี่ปุ่นในจดหมายฉบับนั้นให้เป็นภาษาจีน
เพื่อที่จะทราบถึงเนื้อความทั้งหมด แต่กว่าที่เธอจะทราบเนื้อความในจดหมายทั้งหมด
ก็ถึงวันที่ชูเฮย์อิจะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยุนเอ่ยคำล่ำลากับชูเฮย์อิเป็นภาษาสเปนว่า “เต เกียโร” แล้วชูเฮย์อิเดินทางกลับพร้อมสัญญาว่าจะกลับมาใหม่อีกครั้ง

1 ปีผ่านไป ชูเฮย์อิเดินทางกลับมายังเซี่ยงไฮ้ เขากลับไปเยี่ยมเจ้าของผับที่เคยทำงานอยู่
และได้ทราบว่า “เต เกียโร” นั้นแปลว่า ฉันรักเธอ ชูเฮย์อิเดินทางกลับไปยังร้านขายของชำร่วย
ที่เขาเคยพักอยู่เพื่อพบกับยุน แต่พบว่าร้านดังกล่าวถูกทุบทิ้งหมด ไม่เหลือร่องรอยของผู้คน
มีเพียงความทรงจำระหว่างเขากับยุนเท่านั้นที่ยังวนเวียนอยู่ในจิตใจของชูเฮย์อิ
ความรู้สึกของยุนที่มีต่อชูเฮย์อินั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยการแสดงออกทางภาษากาย
แต่ความรู้สึกนั้นกลับสื่อไปไม่ถึงตัวชูเฮย์อิ ทั้งนี้อาจจะเกิดจากตัวยุนเองที่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง
หรือชูเฮย์อิที่ยังอยู่ในความเศร้าโศกจากการทอดทิ้งของคนรักเก่า การจะสื่อบางสิ่งบางอย่างให้อีกฝ่ายรับรู้ จึงต้องใช้ทั้งคำพูดและภาษากายอย่างสมดุลและเหมาะสม ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง

ทั้ง 3 เรื่องราวนี้ บ่งบอกถึงความไร้พรมแดนของอานุภาพแห่งความรัก
เพราะความรักสามารถทำให้คนต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา สามารถสื่อสารถึงกันและเข้าใจกันได้
ในแง่ความรู้สึกและอวัจนภาษา ซึ่งอวัจนภาษานี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการติดต่อสื่อสารระหว่างเราทุกคน
การแสดงสีหน้า ท่าทางต่างๆที่แสดงให้อีกฝ่ายหนึ่งได้เห็น มีส่วนช่วยเสริม
ให้เกิดความเข้าใจกันมากกว่าการใช้ภาษาพูดเพียงอย่างเดียว
หากภาษาพูดกับภาษากายไม่เป็นไปในทางเดียวกัน หรือไม่สมดุลกันเช่น
สื่อภาษากายแต่ไม่ใช้ภาษาพูด อาจทำให้ผู้ที่สื่อสารด้วยนั้นเกิดความเข้าใจผิดในเจตนาของผู้พูดได้
ท่าทางที่เป็นมิตรของผู้พูดจะเป็นเสมือนกุญแจ ไขประตูสู่หัวใจของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ดั่งตัวเอกพระ-นางทั้ง 3 คู่









Create Date : 21 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 11 ธันวาคม 2548 0:59:22 น. 5 comments
Counter : 1118 Pageviews.

 
กู๊ดไน๊ทกั๊บ
ฟามรักสีชมออน


โดย: zMee IP: 203.170.228.172 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:23:48:00 น.  

 


โดย: VSr. วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:18:52:15 น.  

 
บีจี เค้าสุดๆ เลยนะนี่
กึ๋ย หวานซ้าๆๆๆ


โดย: zMee วันที่: 15 มกราคม 2549 เวลา:15:11:43 น.  

 


โดย: zMee วันที่: 19 มีนาคม 2549 เวลา:13:20:17 น.  

 
แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี


โดย: koreaserie (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:13:09:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

VSr.
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]














There are
so many stars
in the sky..
only some get noticed.
Among those....
you choose to ignore
is the one
which was
willing to shine
for you
forever
even if..
your glance
remained
elsewhere...



my comment : I'm so sorry..
I'm not good as above.










.....GuestBook.....












S w a y : Bic Runca



Don't stray, don't ever go away
I should be much too smart for this
You know it gets the better of me
Sometimes, when you and I collide
I fall into an ocean of you, pull me out in time
Don't let me drown, let me down
I say it's all because of you

● ● ●

And here I go, losing my control
I'm practising your name so I can say it to your face
It doesn't seem right, to look you in the eye
Let all the things you mean to me
Come tumbling out my mouth
Indeed it's time to tell you why
I say it's infintely true

● ● ●

Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you

● ● ●

And there's no cure,
and no way to be sure
Why everything's turned inside out
Instilling so much doubt
It makes me so tired.
I feel so uninspired
My head is battling with my heart
My logic has been torn apart
And now it all turns sour
Come sweeten every afternoon

● ● ●

Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you
Say you'll stay,
don't come and go like you do
Sway my way,
yeah I need to know all about you
It's all because of you,
it's all because of you

● ● ●

Now it all turns sour, come sweeten every afternoon
It's time to tell you why
I say it's infinitely true

● ● ●

It's all because of you,
it's all because of you
It's all because of you



Friends' blogs
[Add VSr.'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.