ติดต่อพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คเพจนะคะ
https://www.facebook.com/srisurangwriter
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
11 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
::.........ดาราแดง.....บทที่ ๓.....::


สวัสดีค่ะ
วันนี้มาลงนิยายเรื่องใหม่ต่อนะคะ
คงจะลงเพียงเท่านี้ก่อน
หนังสือจะวางจำหน่ายวันที่ 26 มค.ค่ะ








ดาราแดง

บทที่ ๓



หญิงสาวไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ราวกับว่าเธอกำลังจะถูกขังอยู่ที่นี่ ปุณฑริกาละล่ำละลักทันที

“ข้า...ข้าอยากกลับออกไปแล้ว”

เขาหันขวับกลับมาด้วยความโกรธ แววตางุนงงเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ตวาดว่า

“กลับออกไป !? ใครใช้ให้เจ้าเข้ามาในนี้กัน !?”

เขาย่างสามขุมเข้ามาหา ราวกับว่าเกิดสติวิปลาสขึ้นมากะทันหัน ปุณฑริกาถอยกรูดจนน้ำผลไม้ในแก้วกระฉอกรดมือ เธอจึงรู้ว่ายังถือมันอยู่ หญิงสาวสะบัดมันเข้าใส่เขาเพื่อป้องกันตัว

แก้วใบนั้นลอยลิ่วไปในอากาศ ก่อนจะถูกเปลี่ยนทิศทางฉับพลัน เพียงแค่เขาสะบัดมือนิดเดียว มันก็กระเด็นไปกระทบผนังหินแตกกระจาย

เขายังเดินเข้ามาช้าๆ เอียงคอมองหล่อนราวพินิจสิ่งแปลกประหลาดที่สุดในโลก ถ้าเพียงแต่เธอจะไม่รู้สึกเช่นเดียวกันกับเขา ปุณฑริกาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตใดจะแปลกประหลาดน่าสะพรึงกลัวยิ่งไปกว่าอสูรตรงหน้าหล่อนอีกแล้ว ดวงตาเขาดูจะเรืองแสงได้ในความสลัวของห้องที่ถูกปิดทึบกะทันหัน ดวงตาสีแดงวาววามของสัตว์ร้าย

“เจ้าอายุเท่าไหร่”

เขากระโชกเสียงถาม คำถามที่เธอไม่คาดว่าจะได้ยินโดยสิ้นเชิง

“ห้าสิบปี? ร้อยปี? สองร้อยปี?”

ขาเธอถอยไปชนอะไรบางอย่างด้านหลัง คล้ายเก้าอี้ ปุณฑริกาไม่สามารถถอนสายตาจากเขาเพื่อมองดู ด้วยความหวาดกลัวเธอขยับไปด้านข้าง

“ช่างไร้เดียงสาเสียจนไม่น่าเชื่อ”

เขาขยับตาม เธอชนถูกโต๊ะอีกตัวหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่ามันตั้งอยู่ตรงนั้นแต่เมื่อไหร่ เขายังคำรามด้วยเสียงห้าวต่ำ “เจ้ารู้ว่าข้าเป็นอะไรแต่แรกแล้ว มาช่วยข้า ติดตามมาไกลโดยไม่โต้แย้ง เพียงแค่ความน่าไว้วางใจเล็กน้อยที่เป็นเหยื่อล่อ ก็ตรงเข้ามาสู่กลางกรงขัง” เขาส่ายหน้า “ปุณฑริกา เจ้าเห็นว่าเจ้าควรเป็นเช่นไรต่อไป อะไรควรจะเกิดกับเจ้าดีหรือ ?”

ถ้าเธอไม่กลัวจนแทบเสียสติอยู่อย่างนี้ คงประหลาดใจกับแววสั่งสอนในน้ำเสียง

เขากำลังโกรธ เธอไม่เข้าใจเลยจนนิดเดียว พิทยาธรีสาวรู้สึกเหมือนติดกับ ถูกต้อนจนมุม เขาควรจะพึงพอใจ กระหยิ่มใจหัวเราะร่า หรือตั้งท่าจะตะปบหล่อนเหมือนแมว แต่เขากับกำลังโกรธ...โกรธมาก

“ข้าช่วยชีวิตท่านไว้นะ” เธอพยายามเตือนสติเขาด้วยสิ่งเดียวที่นึกได้ หางเสียงสั่น

โฆรัมกลับหงายหน้าแล้วหัวเราะดังลั่น มันสะท้อนสะเทือนกระหึ่มไปทั้งปราสาท

“ข้าขอให้เจ้าช่วยรึ !?”

ปุณฑริกาสั่นไปทั้งตัว ฟันกระทบกันกึกกัก พยายามพูดตอบเขาดีๆ

“ท่าน...ข้ารู้ว่าท่านพยายามช่วยตนเอง ท่านไม่ได้ต้องการตาย”

เขาชะงักนิ่งฟัง

“ท่านดึง...ลูกศร...ออกมา มันมีพิษมาก”

ในพลันเธอก็เกิดฉุกใจสงสัย หวังว่าเธอมิได้หลงช่วยผู้ร้ายเขาอีกตน

“ศรนั้นเป็นของใคร” หญิงสาวตกใจเมื่อรู้ว่าหลุดปากถามออกไปจริงๆ

เขาเบือนหน้า กัดฟัน “มันเป็นของอสูรเลวๆ ตนหนึ่งซึ่งหลอกโลกว่าตนดี”

เธออยากโล่งใจ “แล้วทำไม...”

“นี่เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึ !” เขาตะโกนกลับ “ไม่เข้าใจหรือว่าอยู่ที่นี่จะตายได้ทุกเมื่อ !”

ความกลัวกลายเป็นความโกรธจนหูอื้อขึ้นมา

“ท่านจะให้ข้าทำอะไร ! กรีดร้องแล้วเป็นลมสลบไปอย่างนั้นหรือ !”

เขาสบถ แล้วหันรีหันขวางเหมือนไม่รู้จะทำยังไงกับนางฟ้าตรงหน้าดี “ระยำจริง”

ปุณฑริการู้สึกเหมือนถูกคำหยาบนั้นตบหน้า เธอหายใจลึกแล้วเชิดหน้า ถึงแม้จะอายุแค่ร้อยยี่สิบสี่ปีก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ผู้ใดมาดูถูกดูหมิ่นตะคอกใส่ราวกับทาสรับใช้ในเมืองมนุษย์เมื่อหลายร้อยปีก่อนได้ หญิงสาวพยายามพูดจาอย่างผู้เจริญแล้วให้มากที่สุด ด้วยหวังว่ามันจะช่วยดึงเอาสติสัมปชัญญะและส่วนเล็กๆ ที่มีอารยธรรมซึ่งอาจหลงเหลือแฝงตัวอยู่ลึกมากๆ ในยักษ์ตนนี้ออกมาได้บ้าง

“ในเวลานี้ถ้าท่านจะเปิดประตูให้ข้า...ท่านผู้เจริญ...ข้าก็จะจากไปจากความระคายรำคาญของท่านโดยไม่รบกวนสิ่งใดอีก”

ดวงตาสีแดงวาววามจับจ้องหล่อน

“ในเวลานี้...แม่หญิงที่น่ารัก...เจ้าจากไปไม่ได้แล้ว”

ปุณฑริกาแทบผงะ เขาหมายความว่าอย่างไรกัน

โฆรัมกำหมัดแน่น โกรธตนเองเหลือเกินที่สะเพร่า เขาควรจะรู้ว่าเธอยังเยาว์เกินไป ไร้ความสามารถจะคุ้มครองตนเองได้ดี ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาแล้ว ให้ตายสิ

คุณพระคุณเจ้าช่วยเขาด้วย เขาไม่เคยพบอะไรที่สวยงามน่ารัก บริสุทธิ์สูงส่ง เต็มไปด้วยความกรุณาเช่นนี้ เขารู้สึกถึงมืออ่อนโยนที่ทำแผลให้ตนตั้งแต่ยังไม่ลืมตา และพอลืมตาขึ้นมาก็รู้ว่าเขาจะปล่อยเธอไว้ตรงนั้นตามลำพังไม่ได้

มหัตตากับพวกกำลังตามล่าเขา นางฟ้าแสนหวานสักตนเป็นเหยื่ออันโอชะชั้นเลิศที่หาได้หนึ่งในหมื่นท่ามกลางสภาพป่าดงดิบแห่งนั้น ถึงแม้ว่ามหัตตาจะเป็นพวก ‘ดื่ม’ ไม่ใช่พวก ‘กิน’ แต่บริวารลับๆ ของมันทั้งหมดเป็นพวกที่จะฉีกร่างสวยๆ ออกกัดกินทันทีที่รู้ว่าไม่มีใครพบเห็น

หากสมุนยักษ์พวกนั้นพบเธอเพียงลำพัง ยากที่มันจะละเลยเธอ และหากพบเธออยู่กับเขา เธอจะกลายเป็นยิ่งกว่าเหยื่อ

เขาควรจะรู้เมื่อพาเธอออกมาไกลถึงแดนรกร้างของผู้ถูกเนรเทศแล้วว่าเธอไม่ประสีประสาจริงๆ ถึงได้ไม่คัดค้านอะไรเลยสักคำ นางฟ้าที่เก่งกาจจะต้องรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ถึงได้ถูกย้ายปราสาทมาอยู่ถิ่นนี้

นางฟ้าที่เจนพิภพและรู้รักษาตัวรอดจะผละไปจากผู้ถูกขับจากสมาคมอย่างเขาทันทีที่มีโอกาส โดยมิพักต้องกังวลถึงการร่ำลาตามมารยาท

เทพธิดาที่ทรงอานุภาพจะรังเกียจเกินกว่าจะเข้ามาสนทนากับอสูรอธรรมที่ถูกเนรเทศเพราะเบียดเบียนผู้ทรงศีล ไม่ใช่เดินเข้าปราสาทมาทักทายราวกับอาคันตุกะที่เอื้ออาทร

นางฟ้าที่มีหัวคิดจะไม่ช่วยชีวิตยักษ์กำลังจะตายตนหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จักดีตั้งแต่แรกแล้ว !

ให้ตกนรกเถอะ นางฟ้าเสียสติเท่านั้นถึงได้มีเมตตากับยักษ์อย่างเขาถึงปานนี้

แล้วเขาทำอะไรลงไป

เขากลับพาเธอมาสู่อันตราย

ทันทีที่เขาเห็นสมุนของทูโล มาในรูปนกสีดำบินมาเกาะกิ่งไม้ในสวน เขาแทบฆ่าตัวเองตาย มหัตตาหาเขาไม่เจอในป่าก็จริง แต่ทูโลไม่โง่เลย

เขาอยากหัวเราะให้ปราสาทสั่น ถ้าโง่คงไม่ได้เป็นถึงผู้พิพากษาสูง มันส่งสายมาตรวจสอบเขาในทันที และโฆรัมไม่ต้องเห็นมันเกินกว่าวินาทีเดียวก็รู้ว่ามันเห็นปุณฑริกาอยู่กับเขาแล้ว

มันไม่อาจเข้ามาในปราสาทได้ก็จริง แต่ตอนนี้เขาไม่อาจปล่อยนางฟ้า...พิทยาธรีตนนี้ไป แม้ว่าเขาอยาก...หรือไม่อยากปล่อย โดยส่วนตนก็ตาม เธอจะตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงทันทีที่ไร้การคุ้มครอง

เขาตัดสินใจอย่างหนักว่าควรให้หล่อนรู้เรื่องมากเพียงไหน และคิดว่า หากหล่อนไม่รู้อะไรเลย หรือรู้น้อยที่สุด น่าจะเป็นสิ่งปลอดภัยที่สุดสำหรับเจ้าหล่อนเอง

โฆรัมสูดหายใจลึก รู้ว่าไม่ง่ายเลย เขาอาจต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำ

“ที่นี่เป็นดินแดนที่เรียกว่า ร้างแล้ง มันอยู่นอกเขตเมืองทุกเมืองของเทวา คนธรรพ์ และอสูร มันเป็นแดนของพวกที่ถูกขับไล่” เขากล่าวช้าๆ แววรับรู้เริ่มปรากฏบนใบหน้านวลเกลี้ยงเกลา

“ท่านถูกเนรเทศ !” เสียงอุทานเบาๆ ดังจากริมฝีปากสีชมพูอ่อนเหมือนกลีบดอกกุหลาบป่า

“เพราะอะไร...โอ...ไม่จริง”

พวกที่ถูกขับไล่ไปจากเมือง ถูกเทพทั้งมวลรังเกียจไม่คบหาสมาคมด้วย คือพวกที่ผิดกฎของจตุรเทพผู้เป็นใหญ่ในพิภพนี้ องค์ราชันทั้งสี่ผู้ครองบริวารยักษ์ นาค คนธรรพ์ และกุมภัณฑ์ ทุกๆ ตน

ปุณฑริกาเข่าอ่อน เธอช่วยคนผิดอีกแล้วจริงๆ หรือนี่ อสูรตนนี้เป็นพวกมารร้าย เขาจึงไม่ได้ฐานะใดๆ ในเมืองยักษ์แม้แต่ความเป็นผู้รับใช้ ถูกห้ามเข้าประตูเมืองอันมีมากมายหลายเมือง ทั้งในท้องนภาและในป่าบนเขาสูง

แม้เขาจะบอกว่าผู้ทำร้ายเขาเป็นพวกเลวทราม ทว่าตัวเขาเองกลับไม่ต่างกัน

“ข้า...ข้าต้องการกลับไป” เธอย้ำคำพูดเก่าด้วยเสียงแผ่วสั่นเกือบจะเป็นอ้อนวอน รู้ว่าไม่มีฤทธิ์อำนาจพอจะไปต่อกรกับเขาได้

“ข้ายังไม่ให้เจ้าไป”

“ทำ...ทำไม”

“ต้องมีเหตุผลด้วยหรือ”

ปุณฑริกาตัดสินใจแล้วว่าต้องไปเดี๋ยวนี้ หญิงสาวผละจากเขา ปราดไปที่ประตูหน้า ทว่าใช้กำลัง ฤทธิ์ หรือมนต์ใดๆ ที่เธอรู้จักก็เปิดไม่ได้ เธอพุ่งไปที่หน้าต่างบานใกล้ที่สุดที่มองเห็นและทำเช่นเดียวกันกับอีกบาน และอีกบาน

ความสิ้นหวังหวั่นกลัวเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่มีประโยชน์หรอก” อสูรหนุ่มตามมาคว้าข้อมือเธอจากด้านหลัง เมื่อเธอกำลังพยายามกับหน้าต่างบานที่สาม หญิงสาวดิ้นสะบัดและหวีดร้อง

“ปล่อยข้านะ !”

“ปุณฑริกา” เขาเรียกชื่อหล่อนช้าๆ อ่อนโยนคล้ายปลอบใจ หรือสะกดให้เชื่อฟัง เสียงทุ้มต่ำกังวานทำให้หัวจิตหัวใจเธอสั่นไหวระรัว เธอติดกับแล้วจริงๆ ไม่สามารถหนีไปทางไหนได้เลย

“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำอันตรายเจ้าหรอก”

หญิงสาวโก่งตัวจากเขาเหมือนแมว บิดข้อมือทั้งสองข้างที่ถูกเขาจับเอาไว้อย่างง่ายดายคล้ายไม่ต้องออกแรง แต่แข็งแกร่งราวกุญแจเหล็ก “งั้นท่านจะกักข้าไว้ทำไม”

เขาบิดมุมปากนิดหนึ่งคล้ายจะยิ้มเครียดๆ

“ข้ายังไม่เคยลองชิมนางฟ้า...เอ้อ...พิทยาธรี...สักตนมาก่อน เจ้าท่าทางน่าอร่อยดี”

ไม่มีสิ่งใดที่เขาจะพูด จะทำให้เธอหวาดกลัวมากไปกว่านี้อีกแล้ว ปุณฑริการู้สึกว่าสีเลือดเหือดหายไปจากใบหน้า ระลึกถึงคำถามของเธอที่เขายังไม่ได้ตอบ ราวกับจะรู้ใจเขาถาม

“ไม่อยากรู้หรือว่าข้าจะดื่มเจ้าอย่างไร”

โอ...ไม่...ไม่...เธอไม่อยากรู้เลยแม้แต่น้อย

“ข้าอุตส่าห์ช่วยท่าน มีบุญคุณกับท่าน ท่านจะ...ก...กินข้าได้ยังไง”

เขายิ้ม ประกายตาระยิบระยับขึ้นมาราวกับขบขันอย่างยิ่ง “ช่วย ?! ข้าจะแน่ใจได้อย่างไร ในเมื่อไม่รู้สึกตัวสักนิด อาจเป็นผู้อื่นช่วยข้า แล้วเจ้าสวมรอยมารับความชอบทีหลังก็ได้นี่”

ปุณฑริกาอ้าปากค้าง

“ในความคิดของข้าน่ะ...คุณหญิงตัวน้อย...ข้าว่าเจ้าต่างหากที่ติดหนี้ค้างอยู่”

อสูรตัวนี้เสียสติไปแล้ว “ข้าติดค้างอะไรท่าน !”

เขาไหวไหล่ข้างหนึ่ง “เจ้านั่งดูลูกแก้วอยู่ที่บ้าน มองเห็นข้านอนอยู่...อย่างค่อนข้างเปิดเผยเนื้อตัวสักหน่อย เจ้าเกิดติดอกติดใจอยากมาชมใกล้ๆ ก็ได้ชมสมใจแล้ว แต่ขออภัย เผอิญร่างกายข้ามิได้มีให้ชมโดยไม่คิดมูลค่า ขณะนี้ถึงเวลาชำระหนี้แล้ว เจ้าอิดเอื้อนเบี่ยงบ่ายอย่างนี้ ไม่มีน้ำใจยุติธรรมเสียเลย”

“ตาบ้า ! ยักษ์ผี !”

หญิงสาวหน้าร้อนผ่าว คิดหาคำพูดมาโต้ตอบเขาไม่ออกนอกจากคำผรุสวาทที่ทวยเทพจะต้องปิดหูหากได้ยิน

“ข้าไม่เรียกร้องจนเกินงามหรอก” โฆรัมบอก “แค่อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุยกับข้าสักพักเท่านั้นเอง พอใจแล้วจะปล่อยเจ้าไป”

ปุณฑริกาไม่ไว้วางใจเขาจนนิดเดียว

“ท่านพูดกลับไปกลับมา ว่าจะกินข้า แล้วก็ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อน !”

“ไม่ได้กลับไปกลับมา ข้าต้องการทั้งสองอย่างนั่นเลย”

ปุณฑริกาตกตะลึงจนตัวแข็ง หมดแรงต่อสู้ในฉับพลัน โลกหมุนคว้างรอบตัว เธอนึกถึงบ้านที่แสนอบอุ่นเหนือยอดไม้ พิณสิบสายสีรุ้งพรายซึ่งอาจไม่มีโอกาสกลับไปเห็น กับห้องมืดสลัวดำทะมึนตรงหน้า เธอตกเป็นเชลยของยักษ์อย่างที่เคยกลัวที่สุดจริงๆ

ดวงตาสีแดงสดซึ่งมีเกล็ดประกายทองเล็กๆ ระยิบระยับเคลื่อนเข้ามาใกล้

“เจ้าตกใจเกินไปแล้ว ข้าจะให้เจ้าพักผ่อนสบายๆ สักครู่ ระหว่างที่ข้าออกไปทำธุระข้างนอก ถ้าเจ้าไม่คิดหนีก็จะไม่มีอันตรายใดๆ เลย”

ปุณฑริกาเห็นปลายเขี้ยวแหลมของเขาแวบหนึ่งขณะพูด เมื่อพูดจบเขาก็ดึงหล่อนเข้าไปใกล้ขึ้นอีก กระซิบแผ่ว

“ข้าอาจจะดื่มเจ้าโดยไม่แตะต้องเจ้าเลยก็ได้ แต่บางที สำหรับขนมหวานที่ข้าชอบมากๆ ก็อาจจะอยากอยู่ใกล้พอจะได้กลิ่นหอมด้วย” ลมหายใจเขากระทบแก้มหล่อนแผ่วเบา ปุณฑริกาตาค้างจ้องมองเมื่อริมฝีปากเขาเผยอออกมากพอจะเห็นปลายเขี้ยวคมทั้งสองข้างเพียงนิดเดียว เปลวทองในดวงตาสีแดงเรืองแสงขึ้นราวกับดวงดาวเล็กๆ แล้วเรี่ยวแรงของเธอก็ถูกดึงดูดอย่างรวดเร็วออกไปจากร่าง

แขนขาอ่อนเปลี้ยจนยืนไม่อยู่ในทันใด ใจหวิววาบคล้ายจะเป็นลม

เธอทรุดลงในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะถูกอุ้มขึ้นโดยง่าย

โฆรัมแตะปลายลิ้นเข้ากับเขี้ยวข้างหนึ่ง สีหน้าอิ่มเอม กล่าวเบาๆ ขณะเดินขึ้นบันไดปราสาทพาหล่อนไปยังชั้นบน เสียงทุ้มต่ำสะท้อนสู่หล่อนจากแผ่นอกของเขานุ่มนวล

“เจ้าปลอบโยนวิญญาณของข้า ปุณฑริกา” เขาพาเธอเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง ก้มลงยิ้มน้อยๆ ก่อนวางหล่อนลงบนตั่งที่นอน “อีกนัยหนึ่งหมายความได้ว่า เจ้าอร่อยเกินกว่าที่คิดมากนัก นางฟ้าองค์น้อย”


















Create Date : 11 มกราคม 2552
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 19:51:23 น. 10 comments
Counter : 930 Pageviews.

 
ว้ายๆๆๆ น่ารักเหลือเกิน เหมือนหมาป่าเตรียมขย้ำแกะน้อยยังไงไม่รู้ อิอิ

จะรอสอยตามร้านนะคะ


โดย: wayvy IP: 124.120.103.184 วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:12:48:45 น.  

 
สวัสดีครับคุณศรีสุรางค์


หนังสือกำลังจะวางแผงแล้วเหรอครับ
ดีใจด้วยนะครับ

เดี๋ยวจะตามไปอุดหนุนครับ








โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:7:22:48 น.  

 

Comment Hi5 Glitter


สวัสดีวันจันทร์อันสดใสและหนาวเย็นยะเยือกใน กทม.
มาชมโปรโมทนิยายเรื่องใหม่ค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:8:43:11 น.  

 
รีบวางแผงด่วน

อยากอ่านต่อมากๆเลย


โดย: MiKi IP: 203.170.144.1 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:13:39:17 น.  

 
จบไปแล้วค่ะสำหรับ ตราบดินสิ้นฟ้าฯ หนังสือน่ารักน่าหยิกอย่างที่คุณศรีสุรางค์ว่า เล่มอื่น ๆ ของชญาน์พิมพ์ มีอะไรที่น่าติดตามบ้างคะ

ตอนนี้กำลังอ่านเพลิงสีน้ำเงินอยู่ค่ะ กำลังรอ "ดาราแดง" วางแผงอยู่นะคะ ชอบค่ะแนวโรมานซ์-แฟนตาซีเนี่ย

ดิฉันอยากได้หนังสือเรื่อง "วินธัย" จะซื้อได้จากไหนคะ


โดย: pook IP: 124.122.157.2 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:17:03:37 น.  

 
emo

คุณ wayvy - อิอิ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


คุณ กะว่าก๋า - ขอบคุณค่ะ


คุณ หอมกร - ขอบคุณที่แวะมานะคะ ^ ^


คุณ Miki - รอลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าจะออกได้วันไหน


คุณ pook - เล่มอื่นๆ ของ ชญาน์พิมพ์ เพิ่งสั่งซื้อไป ยังไม่ได้หนังสือมาเลยยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ ^ ^
ขอบคุณมากๆ ที่อุดหนุน เพลิงสีน้ำเงินนะคะ
ดาราแดง คงวางแผงเร็วๆ นี้ แล้วจะมาแจ้งที่บล็อกนี้ค่ะ

หนังสือ วินธัย ตอนนี้ต้องสั่งที่ ศรีสุรางค์ เอง เมล์มาที่นี่นะคะ
srisurang_o@yahoo.com
ขอบคุณมากๆ เลยที่สนใจหนังสือค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:9:17:30 น.  

 
สวัสดีครับคุณศรีสุรางค์




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:10:42:54 น.  

 

อิโรติกชะมัด


โดย: แป๊กก วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:5:55:37 น.  

 
ฮิ้ววว เคลิ้มไปด้วยเลยค่ะ


โดย: Black_Lab IP: 58.8.200.188 วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:9:48:52 น.  

 
emo

คุณ กะว่าก๋า - รูปนี้น้องหมิงหมิงแก้มยุ้ยน่ารักจังค่ะ ^ ^

คุณ แป๊ก - เหรอคะ 555

คุณ Black_Lab - อิอิ แล้วติดตามต่อในเล่มนะคะ ยังมีฉากหวานๆ น่ารักอีกเยฮะเลยค่ะ



โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:10:51:04 น.  

ศรีสุรางค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]












visit me at:
Srisurang's book recommendations, liked quotes, book clubs, book trivia, book lists (read shelf)




ประวัติผลงาน





สงวนลิขสิทธิ์

การนำส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของงานเขียนในเว็บนี้ ไปเผยแพร่ ดัดแปลง เสนอขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
Srisurang's bookshelf: read

หัวใจที่ถูกจอง รักนี้ (ไม่) มีสตรอว์เบอร์รี รวมมิตรแต้พานิช มายานาง เจ้าดวงใจ คนในผ้าเหลือง A Man in Saffron Robes

More of Srisurang's books »
Book recommendations, book reviews, quotes, book clubs, book trivia, book lists

My Goodreads bookshelf

Dream Lake
Rose
เหยื่ออธรรม
ประมูลหัวใจ
Something About You
ปทมาศวรรย์
อานาปานสติ วิถีแห่งความสุข
Celebrity in Death
The Madness of Lord Ian Mackenzie
รักหลงฤดู
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ เล่ม 1
จิตสดใสแม้กายพิการ
Love me, please...เพียงรักฝากใจ
พระสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ภาค๑ และอรรถกถา Tipitaka The Pali Canon (Thai Translation) Book 15
Born in Sin
Dark Desire
ตุ๊กตา
นาคราช
ทวิภพ
Red River, Vol. 8


Srisurang's favorite books »
Friends' blogs
[Add ศรีสุรางค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.