Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เสวนา: จากขบวนการเสรีไทย สู่ 14 ตุลาคม 16 ถึงปัจจุบัน

*สถาบันปรีดี พนมยงค์ จัดเสวนา “การเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชน จาก ขบวนการเสรีไทย (2484 – 2488) สู่ขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน 14 ตุลาคม 2516 จนถึงปัจจุบัน” เนื่องในวาระครบรอบ 63 ปี วันสันติภาพไทย 16 สิงหาคม พ.ศ.2488 ครบรอบ 35 ปี 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ตามโครงการการจัดงานวิชาการเพื่อก้าวไปสู่การจัดงานในวาระครบรอบ 110 ปี รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ พ.ศ.2443-2553 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา

     ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการให้ความหมาย “ขบวนการเสรีไทย” ว่าเป็น “ขบวนการต่อต้านญี่ปุ่น” นั้นไม่เพียงพอ โดยให้เหตุผลว่า กลุ่มคนที่ต่อต้านญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นไม่ได้มีเอกภาพ แต่มีรูปแบบและมีนัยยะของการขับเคลื่อนที่ต่างกัน อีกทั้งคำว่า “เสรีไทย” นั้นยังเป็นการสถาปนาภายหลังที่สงครามโลกเสร็จสิ้นลง ซึ่งการทำงานก่อนหน้านั้นของเสรีไทยเป็นขบวนการเล็กและปิดลับ เรียกได้ว่าเป็นพวกใต้ดิน ดังนั้นน่าจะมองใหม่ในฐานะแนวร่วมชุดหนึ่งที่ประกอบด้วยหลายๆ ฝ่ายในการมีเป้าร่วมต้านญี่ปุ่น

     โดยขณะนั้นกลุ่มคนที่ต่อต้านญี่ปุ่นมาก่อนอย่างเปิดเผยคือกลุ่มคนจีน เพราะกองทัพญี่ปุ่นได้เข้ารุกรานจีนแผ่นดินใหญ่ จนกระทั้งในเดือนธันวาคม พ.ศ.2484 ญี่ปุ่นบุกไทยและนั่นได้นำมาซึ่งความไม่พอใจของคนไทย จึงก่อให้เกิดกลุ่มต่อต้านญี่ปุ่นหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มไทยอิสระ กลุ่มไทยถีบ และเสรีไทย ซึ่งมีอยู่ทั้งในประเทศไทย อังกฤษ และอเมริกา โดยแบ่งเป็นสายต่างๆ

     ตามความคิดของ ดร.สุธาชัย จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ครั้งการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้เริ่มต้นการก่อตั้งกลุ่มเสรีไทยในประเทศและนอกประเทศนั้นไม่ได้มีการติดต่อสื่อสารกัน แต่ต่อมาเกิดการเชื่อมโยงกัน เพราะการมีญี่ปุ่นเป็นเป้าหมายหลักเฉพาะหน้าร่วมกัน และแตกแยกกันไปในเวลาต่อมา

     โดยมองได้จากภายหลังสงครามที่ได้มีการเลือก ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช (ขณะนั้นดำรงตำแหน่งอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ในฐานะหัวหน้าเสรีไทย สายสหรัฐอเมริกา) ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากเสรีไทยในประเทศ จึงอยู่ในตำแหน่งได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ (17 กันยายน 2488 - 31 มกราคม 2489) และต่อมา ม.ร.ว.เสนีย์ได้ก้าวไปสู้ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์

     ในส่วนความแตกต่างของ “ขบวนการเสรีไทย” และขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน 14 ตุลาคม 2516 ดร.สุธาชัยกล่าวว่า มีความแตกต่างกันมากในส่วนรูปแบบเพราะเสรีไทยเป็นขบวนการปิดลับ แต่ใน 14 ตุลาเป็นขบวนการเปิดรับมวลชน ซึ่งเป็นขบวนการมีความแปลกใหม่ทั้งหมด และได้ผลในการโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการจอมพลถนอม กิตติขจร อีกทั้งยังมีผลทำให้การปกครองโดยระบอบเผด็จการภายหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีระยะเวลาสั้นลง และไม่สามารถใช้เผด็จการเต็มรูปแบบได้

     ดังเช่น เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ที่มีพลเอก สนธิ บุญยรัตกลินเป็นหัวหน้าคณะ ซึ่ง ดร.สุธาชัยเชื่อว่ามีความคิดต้องการยึดอำนาจเผด็จการเต็มรูปแบบอยู่แต่ไม่อาจทำได้เพราะขบวนการต่อสู้ของมวลชนที่ผ่านมาได้สร้างให้ประชาชนมีความตื่นตัวในสิทธิเสรีภาพ ย่อมไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการอย่างเต็มรูปแบบ

     ทั้งนี้ เหตุการณ์ 14 ตุลา ทำให้นักศึกษา กรรมกร ชาวนา ตื่นตัวทางการเมืองการปกครองที่เปิดให้หมู่ประชาชนชั้นล่างเข้ามามีส่วนร่วม โดยได้เอื้อประโยชน์ต่อนายทุนนอกระบบราชการด้วย เกิดการกระจายอำนาจที่เคยผูกขาดโดยส่วนราชการสู่ส่วนต่างๆ ถือเป็นรูปแบบของขบวนการมวลชนที่มีอำนาจการต่อรองเพิ่มมากขึ้น

     ดร.สุธาชัย กล่าวต่อมาถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าโดยส่วนตัวคิดว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ ไม่ใช่ขบวนการมวลชน แต่เปรียบเทียบได้กับกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มนวพล หรือกลุ่มกระทิงแดง ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีเป้าหมายรวมมวลชนด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งถือเป็น “ขบวนการมวลชนเพื่อต้านมวลชน” และคิดว่าขบวนการของตัวเองมีความถูกต้องเป็นธรรม ดังเช่นความคิดของพลตรีจำลอง ศรีเมืองที่เชื้อเชิญคนมาร่วมทำบุญช่วยชาติด้วยการชุมนุม นอกจากนี้ยังได้วิพากษ์เอเอสทีวีและสื่อในเครือผู้จัดการว่าเผยแพร่ข้อมูลเชิงยั่วยุ ปลุกระดม คล้ายวิทยุยานเกราะและหนังสือพิมพ์ดาวสยามมากขึ้นทุกวัน

     ดร.วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร ราชบัณฑิต ผู้เขียนหนังสือ “ตำนานเสรีไทย” กล่าวว่า เสรีไทยคือความร่วมมือของประชาชนที่มีความแตกต่างหลากหลายเพื่อรับใช้ประเทศชาติให้พ้นจากเหตุการณ์คับขันของประเทศ ในช่วงสงครามอินโดจีน ราวปี พ.ศ.2484 ถึง2488 ซึ่งหากให้มองเมืองไทยในปัจจุบันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ความร่วมแรงร่วมใจเช่นนั้นขึ้นอีก เพราะปัจจุบันปัญหาไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับชาติ แต่เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย ยังเกิดความสับสน ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ทั้งนี้ คนไทยไทยปัจจุบันมีความแตกต่างกับคนไทยในสมัยนั้น ทั้งในด้านอุดมการณ์ จิตวิญญาณ และความคิดที่ไม่เหมือนกัน เหมือนกับเป็นคนละสายพันธ์กัน

     จากประวัติศาสตร์ ความเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2475 เป็นมูลเหตุของความขัดแย้งในสังคม ซึ่งนับจากที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จนถึงปี พ.ศ.2484 บ้านเมืองก็ไม่ได้อยู่ในภาวะที่ที่ปรกติสุข เพราะเป็นยุคสมัยแห่งการปรับเปลี่ยนจากสิ่งเก่าที่คุ้นชินสู่สิ่งใหม่แบบขุดรากถอนโคน ผลก็คือการต่อต้านที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการก่อกบฏ การลอบยิง และลอบสังหารนายยกรัฐมนตรี ทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ดังเช่นที่มีคนเคยกล่าวว่ากว่า 70 ปีของการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ยังก้าวไปไม่ถึงไหนก็ด้วยเหตุผลดังกล่าว

     ในสภาวการณ์ความแตกแยกภายในประเทศที่คงอยู่ ปี 2484 กองทัพญี่ปุ่นบุกประเทศไทย ก็ได้ก่อเกิดความร่วมมือสมานสามัคคีเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญในการปกป้องประเทศชาติไว้ โดยมีสิ่งรวมใจสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ “จิตสำนึกทางประวัติศาสตร์” เป็นเหมือนเชือกร้อยผูกพันจิตใจ ซึ่งหากไม่มีการปลูกฝัง ก็จะไม่มีวันมีจิตสำนึกร่วม และคนไทยปัจจุบันก็ขาดสิ่งนี้ไป โดยนับตั้งแต่หลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่ให้ความสนใจกับวิชาประวัติศาสตร์ ไม่มีการเรียนรู้ที่ใช้ประโยชน์ได้ เพราะประวัติศาสตร์ที่เรียนมีบริบทที่แตกต่างจากปัจจุบันมากจนไม่อาจผูกพันเชื่อมร้อยไปไม่ถึง และไม่อาจสรุปบทเรียนการแก้ปัญหาเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งบางส่วนยังรังแต่จะก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้าน

     ดร.วิชิตวงศ์ กล่าวต่อว่า การมี “จิตสำนึกทางประวัติศาสตร์” ร่วมกัน ทำให้รู้ว่าประเทศชาติต้องการอะไร และนั่นทำให้ “ขบวนการเสรีไทย” เกิดขึ้นได้ โดยในส่วนของความแตกแยกที่มีเป็นเพียงเรื่องความแตกต่างวิธีการ เพราะต่างก็มุ่งสู่วัตถุประสงค์เดียวกัน และพักเรื่องความขัดแย้งเรื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีมาไว้เบื้องหลัง

     ด้านนายศุขปรีดา พนมยงค์ กรรมการสถาบันปรีดี พนมยงค์ ทายาทของ อ.ปรีดีและท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ กล่าวถึงขบวนการเสรีไทยในอีสานว่าถือเป็นหนึ่งในการต่อสู้ของคนรากหญ้า โดยเล่าว่านับตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ดินแดนอีสานได้ถูกทอดทิ้งและละเลยจากรัฐบาลส่วนกลาง จนเมื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ทำให้เกิดการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นในลักษณะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทำให้คนอีสานมีสิทธิมีเสียงในการปกครอง และต่อมาเมื่อมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ที่เปิดโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนทั่วไป ส.ส.อีสานจึงเกิดความตื่นตัวในสิทธิเสรีภาพอันพึงได้รับ

     การเข้ามาในประเทศไทยของกองทัพญี่ปุ่นในปลายปี 2484 ทำให้ทุกคนในประเทศกระตือรือร้นในการปกป้องประเทศ รวมทั้ง ส.ส.อีสาน หลายคนก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าวโดยการเข้าร่วมในขบวนการเสรีไทย และมีการตั้งหน่วยพลพรรคในพื้นที่อีสาน เช่น “เตียง ศิริขันธ์” “สันต์ ปรายกูล” “ถวิล อุดล” “จำลอง ดาวเรือง” “ทองอินทร์ ภูริพัฒน์” ทำให้การจัดตั้งในขบวนการเสรีไทยได้ขยายไปในหมู่ครูประชาบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านทั่วไป

     สิ่งที่น่าเสียดายเกิดขึ้น หลังจากสิ้นสุดสงครามและบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป โดยในพฤศจิกายนปี 2490 เกิดการรัฐประหาร ทำให้กลุ่มผู้ร่วมขบวนการเสรีไทยในภาคอีสาน รวมทั้งกลุ่มครูประชาบาลถูกคุกคามอย่างหนัก มีการสังหาร 4 รัฐมนตรีโดยเครื่องมือของเผด็จการตำรวจในสมัยนั้น และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญคือการสั่งประหารชีวิต “ครูครอง จันดาวงศ์” ณ ที่เกิดเหตุ (ณ ลานประหาร อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร) ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ซึ่งการปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างเข้มข้นและเหวี่ยงแหไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งที่ครูครองไม่ใช่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ทำให้เกิดความกดดันหมู่ประชาชนทั่วทั้งภาคอีสาน เป็นเหตุให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลรวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์ไทยใช้พื้นฐานตรงนี้ทำการเคลื่อนไหวในภาคอีสาน

     นายศุขปรีดา กล่าวต่อมาว่า ในการเคลื่อนไหวของขบวนการเสรีไทยมีความพยายามลดความเชื่อถือของขบวนการเสรีไทย มาจากทางฝั่งสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ด้วยการเขียนหนังสือ “ขบวนการกรรมกรในการต่อสู้ญี่ปุ่น” ซึ่งขบวนการต่อสู้ญี่ปุ่นของกรรมกรจีนมีมาตั้งแต่ก่อนสงครามเพราะญี่ปุ่นได้เข้ารุกรานจีนแผ่นดินใหญ่ แต่นั่นไม่ได้เป็นการนำขบวนการเสรีไทย

     นอกจากนี้นายศุขปรีดา ยังเล่าว่า เมื่อครั้งไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศจีนได้พบสารานุกรมจีนเล่มหนึ่งที่กล่าวถึงประวิติพรรคคอมมิวนิสต์ไทยโดยระบุว่าพรรคคอมมิวนิสต์ไทยเป็นผู้นำในการต่อสู้ญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งขณะนั้น อ.ปรีดีได้มีการต่อว่าไปทางจีน แต่ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันได้มีการแก้ไขหรือไม่อย่างไร

     ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นสงคราม กองทัพเจียง ไคเช็ค ต้องการเข้ามาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในประเทศไทยเหมือนที่ทำในอินโดจีน แต่กลุ่มเสรีไทยมีความหวาดกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากหากจีนเข้ามาแล้วไม่ยอมถอนทหารออกไป ดังนี้จึงได้ยินยอมให้ฝ่ายพันธมิตร คือ อังกฤษนำทหารเข้ามาปลอดอาวุธทหารญี่ปุ่น ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศคู่สงครามไม่ใช่ประเทศผู้แพ้สงคราม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่จีนคณะราษฎร ฝ่ายเจียง ไคเช็ค แต่สำหรับอังกฤษเองก็มีการแบ่งเป็นฝักฝ่ายทั้งฝ่ายทหารที่มองเห็นการทำงานของคณะราษฎรและเป็นมิตรต่อไทย กับฝ่ายพลเรือนที่ต้องการหนุนให้แก้แค้นคนไทยในฐานะที่เข้าร่วมกับกองทัพญี่ปุ่น


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ประชาไท 10 สิงหาคม 2551

H O M E



Create Date : 13 สิงหาคม 2551
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 19:39:42 น. 1 comments
Counter : 663 Pageviews.

 
พวกเดียวกับดาตอปิโดนี่หว่า555555555555


โดย: 5555555 IP: 58.8.29.3 วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:51:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.