Bloggang.com : jenifaae : ตร.ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าบช.น.มีคนขาขาด

ตร.ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าบช.น.มีคนขาขาด

     เมื่อเวลา 18.20 น.กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรกว่า 1 พันคน ได้รวมตัวกันที่แยกลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนปิดล้อมด้านหน้า บช.น.แต่ถูกจนท.ตร.นำรั้วลวดหนามมาวางปิดกั้นไว้บนพื้นถนนยาวต่อเนื่องตลอดแนวรั้วกำแพงสวนอัมพร ถึงกำแพงรั้ว บช.น.เต็มพื้นที่ 6 ช่องการจราจร ห่างจากประตูทางเข้า บช.น.ประมาณ 10 เมตร

     เมื่อทันที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเห็น จนท.ตร.นำรั้วลวดหนามมากั้นเพื่อรักษาพื้นที่ต่างก็ตะโกนด่าทอและเดินถอยหลังกลับไปที่ตั้งเช่นเดิมโดยทิ้งระยะห่างรั้วหนามประมาณ 50 เมตร พร้อมยืนยันจะบุกเข้ามาใน บช.น.อย่างแน่นอน เนื่องจากไม่พอใจที่ถูก จนท.ตร.ใช้แก๊สน้ำยาสลายการชุมนุมตลอดทั้งวันนี้

     ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้สั่งการเพิ่มกำลัง ตร.จำนวน 4 กองร้อย 6 ร้อยนายจาก ตร.ภูธรภาค 1,2,7 การปฎิบัติหน้าที่ของตร.ตชด. ที่ประจำการอยู่หน้า บช.น.ประเมินสถานะการณ์แล้วว่าน่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดยเฉพาะค่ำคืนนี้ โดยกำชับ จนท.ตร.ที่ปฎิบัติหน้าที่ให้ดูแลที่ บช.น.และสถานที่ราชการที่สำคัญอย่างเต็มที่เต็มกำลังอย่างเต็มความสามารถ

ตร.ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าบช.น.มีคนขาขาด

     เมื่อเวลา 18.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตา ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะเข้าแนวกั้นที่ตำรวจรักษาพื้นที่ไว้ และมีการเจรจาโต้ตอบ แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมฟัง ตำรวจจึงตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาประมาณ 20 นัด อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ จนผู้ชุมนุมได้สลายการชุมนุม ตำรวจจึงเดินเข้าไปเพื่อผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากบริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยการยิงแก๊สน้ำตาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของการสลายการชุมนุมวันนี้ และมีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมขาขาด 1 คน

พธม.ทั่วประเทศระดมพลเข้ากรุง

     นายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ กรรมการสหภาพแรงงานและวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศ สาขาภาคใต้ กล่าวว่า สหภาพมีมติชัดเจนในการเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรทุกรูปแบบ นื่องจากไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลใช้วิธีการนำกำลังเข้าสลายม็อบประชาชนด้วยความรุนแรง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งไม่พอใจพฤติกรรมของรัฐบาลที่มุ่งแต่จะแถลงนโยบายโดยไม่สนใจการแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง

"สหภาพจะเข้าร่วมชุมนุมทุกรูปแบบเคียงข้างประชาชนในการต่อสู้รัฐบาลที่ทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะการเปิดการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้บริการรถไฟเพื่อเดินทางเข้ามาสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ โดยยืนยันว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่มีการหยุดการเดินรถไฟเด็ดขาด เนื่องจากเราต้องการลำเลียงประชาชนเข้าไปกรุงเทพฯ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อต่อสู้ขั้นแตกหัก" นายสาโรจน์กล่าว

     ขณะที่ตำรวจสงขลา-ภูเก็ต คุมเข้มสถานที่ราชการ โดย พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผบก.ภ.จว.สงขลา กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ราชการสำคัญทั่วจังหวัดสงขลา อาทิ สนามบินหาดใหญ่ และศาลากลางจังหวัดสงขลา พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานแต่ละแห่ง เพื่อจัดวางกำลังและมาตรการป้องกันร่วมกันอย่างมีระบบ แม้จากการตรวจสอบจะพบว่ากลุ่มพันธมิตรสงขลา มีเป้าหมายลำเลียงกลุ่มประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นหลักก็ตาม

     ด้านนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวว่า ทางจังหวัดเตรียมความพร้อมตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยประสานงานกันทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ตำรวจภูธรภาค 8 ได้จัดกำลังมาเสริมบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย จำนวน 2 กองร้อย เพื่อเฝ้าระวังสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ และท่าอากาศยานภูเก็ต

"เชื่อว่าที่ภูเก็ต ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรรุนแรง จากการประสานกับแกนนำของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ก็ได้รับการยืนยันว่าจะไม่มีการปิดสนามบินอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นช่องทางในการเดินทางไปสมทบกับพัมธมิตรที่ส่วนกลางได้เร็วที่สุด และทราบว่า มีมวลชนภูเก็ตส่วนหนึ่งเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ส่วนกลางแล้ว" นายวรพจน์กล่าว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานประวัติศาสตร์การเมือง ภาคประชาชน ซึ่งอยู่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ กลุ่มพันธมิตรสงขลาได้มารวมตัวกันเพื่อขึ้นรถบัสที่มาจอดรออยู่ 5 คัน และออกเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ในช่วงเย็นจะมีกลุ่มพันธมิตรสงขลา อีกจำนวนหนึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยขบวนรถไฟ หลังจากทราบว่าตำรวจใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรที่กรุงเทพฯ

     ส่วนที่ จ.ตรัง เมื่อเวลา 14.00 น. กลุ่มพันธมิตรตรัง ประมาณ 200 คน ได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง และที่บริเวณหัวสะพานวังยาว สี่แยกต้นสมอ เพื่อลงชื่อก่อนจะพากันขึ้นรถทัวร์ และรถยนต์ส่วนตัว มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก เพราะการใช้อำนาจและอาวุธปราบปรามประชาชน ถือว่าไม่ชอบธรรม และอยากจะเรียกร้องให้คนใต้ทุกคนที่ไม่ติดภารกิจเร่งด่วน ให้ช่วยกันเสียสละเวลาไปร่วมชุมนุมให้มากที่สุด เพราะถือว่ารัฐบาลนี้บริหารประเทศไปก็ขาดความชอบธรรม คนใต้หากไม่เดือดร้อนจริงๆ คงไม่แสดงออกเหมือนวันนี้

     ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรในภาคอีสาน ที่ จ.ชัยภูมิ มีกลุ่มพันธมิตรประมาณ 300 คน ทยอยขึ้นรถตู้ที่เตรียมไว้รอกว่า 10 คัน เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หลังจากเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม เดินทางไปล่วงหน้าแล้วกว่า 500 คน

     ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือ นายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการแกนนำพันธมิตรภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ทยอยเดินทางไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ กว่า 1 หมื่นคนแล้ว โดยมีทั้งที่เดินทางด้วยเครื่องบิน รถไฟ รถตู้ รถบัส และรถยนต์ส่วนตัว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีวิทยุชุมชนท้องถิ่นใน จ.ราชบุรี ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมสมทบกับพันธมิตรที่กรุงเทพฯ พร้อมกับขอบริจาคน้ำ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อนำไปช่วยกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็มีผู้นำสิ่งของดังกล่าวมาบริจาคให้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีประชาชนกว่า 2,000 คน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้ว

ขณะที่กลุ่มพันธมิตรพิจิตรระดมพลขึ้นรถไฟเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสมทบกับพันธมิตรในกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้มีกลุ่มพันธมิตรกว่า 1,000 คน ออกเดินทางโดยรถบัสและรถยนต์ส่วนตัวแล้ว

     ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี รายงานว่า กลุ่มพันธมิตรได้รวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณหน้าหอนาฬิกา เทศบาลเมืองจันทบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. เพื่อเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ก็ยังไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากรถบัสโดยสารที่ติดต่อเช่าไว้ไม่สามารถมารับส่งได้ เพราะถูกสั่งห้ามออกนอกเส้นทาง

ขอขอบคุณ
ที่มา : คม ชัด ลึกออนไลน์ 7 ตุลาคม 2551

H O M E

Create Date : 07 ตุลาคม 2551

Last Update : 7 ตุลาคม 2551 19:29:42 น.

5 comments

Counter : 654 Pageviews.

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=vikings&month=07-10-2008&group=18&gblog=65 อยากให้เห็นความจริงบ้างค่ะมันยังงัยกันแน่หลอกลวงกันปานนี้เลยเหรอคะ

โดย: deeplove

วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:22:37:07 น.

เต็มที่ ต้องแพ้ชนะกันได้แล้ว จะได้เล่นเกมใหม่ ต่อเวลาอึมครึมกันมานาน 3 ปีแล้ว

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ

โดย: บ้าได้ถ้วย

วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:23:58:58 น.

ไม่ได้บอกให้แยกประเทศนะครับอย่าเข้าใจผิด แต่แยกเขตกันบริหารดีกว่า แต่ละเขตจะได้ใช่นโยบายให้เหมาะกับคนกับวัฒนธรรม ภาษีเขตไหนหามาได้เท่าไหรก็จะได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละเขต ภาษีเข้าส่วนกลางแค่บางส่วน ใครจะประชานิยมก็เอาเงินตัวเองไปประชานิยมไม่ใช่เอาภาษีเขตอื่นเขาไปถลุง ใครจะอนุรักษ์นิยมก็ไปอีกทาง จะได้ไม่ต้องโทษว่าใครถ่วงความเจริญกัน จะได้เลือกทางเดินที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

โดย: ติ๊ก IP: 61.90.174.226 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:8:00:59 น.

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 3 การปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.,อบจ, ยังต้องถูกควบคุมโดยส่วนกลาง เช่น กทม.มีรายได้มหาศาล พ่อเมืองมาจากการเลือกตั้ง ถูกบ่อนทำลายโดย นายสมัคร สุนทรเวช ที่สั่งในนาม รมต.มหาดไทย ให้ผว.กทม.นายธรรมนูญ เทียนเงิน ล้มเลิกไป ในปี 2518 เปลี่ยนเป็น ผว.กทม.จากการแต่งตั้งโดย รมต.มท.ทำให้ปชต.ถอยหลังลงคลองตลอดมาจนปัจจุบัน การโกงกินจึงเป็นจิตวิญญาณของคนที่อาสาเข้าแปรรูปงบประมาณ ภาษี ประชาชนเป็นทรัพย์มรดกส่วนตน ใช้สาธารณูปโภคต่างๆฟรี เช่น โดยสารเครื่องบินฟรี น้ำไฟฟรีจากการเข้าไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ รับเบี้ยประชุมนับพัน หมื่นบาทต่อครั้ง แต่ละคนจึงแก่งแย่งกันอาสาเข้ามาเสวยสุขผูกขาดอย่างต่อเนื่องบนหยาดเหงื่อ เลือด น้ำตา ความทุกข์ทนจากสารพัดปัญหาที่ไม่เคยแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ เพราะหากินจากปัญหาต่างๆอย่างต่อเนื่องยาวนาน บรรดาข้าราชการที่เติบโตชูคอเพราะรับใช้คนชั่วพวกนี้ปัจจุบันล้วนมีตำแหน่งใหญ่โต เก่งในการสรรหางบประมาณประเคนให้คนชั่วที่อาสาเข้ามาหากินงบประมาณ อย่างหน้าชื่นตาบาน ไร้ยางอายต่อการกระทำชั่วจนชินชา ข้าราชการประจำที่ชั่วเป็นคนอำนวยความสะดวกชงเรื่องให้นักกินเมืองทั้งหลายอนุมัติ อนุญาต โครงการต่างๆ เพื่อเก็บกินส่วนต่าง จนร่ำรวย อู้ฟู้ ไปตามกันทั้งนาย บ่าว (ทาสเงิน)ยุคใหม่ ลูกหลานสืบทอดเชื้อชั่วไม่ยอมตายส่งต่อความชั่วกันไปไม่จบสิ้น

โดย: 3347 IP: 58.9.138.159 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:7:25:04 น.

ภูเด็กแนว ศิลปินเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิตสไตล์แนวแนว เจ้าของเพลงสาวมัธยม
www.poodeknaew.com
หรือเข้าgoogleพิมพ์คำว่า ภูเด็กแนว แล้วค้นหาครับ
ขออนุญาติฝากเว็บไซต์นะครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีปีใหม2009ขอให้ทีมงานมีความสุขทุกๆคนนะครับ
จากภูเด็กแนว

โดย: admin IP: 124.120.86.52 วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:21:53:46 น.