มันคืออะไร
> สมมุติ ซ้อน สมมุติ เป็นอย่างไร?
มีใครตอบพระธรรมนอกตำราเรื่องนี้ได้บ้าง เพราะผมไปหาใน google แล้วไม่ได้คำตอบว่ามันคืออะไร ?
https://pantip.com/topic/42654440
เบื้องต้นแยกทำความเข้าใจ (สมมติ) จริงโดยสมมติ (ปรมัตถ์) จริงโดยปรมัตถ์ ให้ชัดให้ขาดก่อน ว่าต่างกันอย่างไร สมมติ, ปรมัตถ์ (สภาวธรรม)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=01-10-2023&group=88&gblog=23
- โครงสร้าง: สภาวธรรม (ปรมัตถ์) + สมมติ + สมมติ. สภาวธรรม (รูปนาม) สมมติเรียกว่า คน + (คนๆนี้) สมมติชื่อเรียกกันว่า ด.ช. ก. ด.ญ. ข. นาย ก. นางสาว ข. (เป็นต้น) สภาวธรรม > สมมติ > สมมติ <= นั่น สมมติ ซ้อน สมมติ โดยมีสภาวธรรมเป็นพื้นอยู่ สมมติซ้อนอีกก็ได้ เช่น นาย ก. เป็นคนรวย มีเมีย ๔ คน มี ลูก ๑๒ คน ลูกสาว ๒ คน นอกนั้นเป็นลูกชาย ฯลฯ
สมมติ ไม่ใช่ของมีอยู่จริง (โดยปรมัตถ์) พอนับว่า จริง คือ สภาวะ สภาวธรรม สภาพธรรม รูปนาม (มีสภาวะรองรับ)
ที่นี้เอาของ จริงโดยปรมัตถ์ กับ จริงโดยสมมติ แบดู
> ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้วิธี กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยเถอะครับ
ประเด็นที่พบ
การนั่งครั้งหลังๆ มานี้ เกิดสภาวะคล้ายๆเดิม ตลอดเกือบทุกครั้ง คือ มือหายไปจากความรู้สึก ไม่รู้สึกว่ามีมืออยู่ (รู้ว่ามี แต่รู้สึกว่าไม่มี ผมอธิบายไม่ถูก เชื่อว่าท่านผู้รู้คงเข้าใจผม) ก้นและต้นขาที่นั่งทับพื้นยังรู้สึกว่ามีอยู่ หลังที่นั่งพิงเก้าอี้ก็รู้สึกว่ายังมีอยู่ คือ สรุปว่ามือหายทั้งสองข้าง อย่างอื่นที่เหลือยังรู้สึกถึงได้ อยู่ครบยังไม่หาย มีอาการตัวพองๆยุบๆบ้างแต่ก็ไม่บ่อย มีอาการหายเกือบทั้งตัวบ้างแต่น้อยมาก แต่ที่แน่ๆคือ มือทั้งสองข้างหายทุกครั้ง, ทุกครั้งจริงๆครับ นั่งแป๊บเดียวก็หายแล้ว และหายไปจากความรู้สึกตลอดเวลาที่ยังนั่งอยู่ ลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหมือนลมหายไป เหมือนไม่ได้หายใจ
ในครั้งแรกๆที่เจอสภาวะนี้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ตะลีตะลานรีบควานหาลม แล้วก็กลับมาหายใจแบบปกติ, แต่ในครั้งหลังๆ ผมจะพยายามทนอยู่กับสภาวะนี้ ซึ่งผมจะอึดอัดมาก และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว จนต้องบังคับให้ตัวเองหายใจด้วยการสูดยาว จึงจะกลับมารู้สึกว่าผมหายใจแล้ว ผมจึงเริ่มรู้ลมใหม่ .. แล้วลมก็แผ่ว .. แล้วลมก็หาย .. แล้วผมก็ทน .. แล้วผมก็ทนไม่ไหว .. แล้วผมก็สูดลม .. แล้วผมก็รู้ลม .. แล้วลมก็แผ่ว .. ฯลฯ วนรอบอยู่อย่างนี้ ซ้ำรอบอยู่อย่างนี้
พอมองออกไหม
สภาวธรรม (รูปนาม) มันเป็นของมันอย่างนั้นตามกฎของมัน แต่ (คน,ตัวเอง) ไปฝืนสภาพธรรม เขาจึงเป็นทุกข์เพราะยึด (อุปาทานขันธ์) ถ้าคนได้วิธีปฏิบัติที่เป็นสัมมาแล้วเขาจะนั่งดูมันเปลี่ยนไปนั่นมานี่แบบผ่อนคลายกลายสนุกด้วยซ้ำ
- ใช้ตัวอย่างไหนก็ทำนองเดียวกัน https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=28-03-2024&group=5&gblog=122 คือ คนไม่รู้เข้าใจธรรมะ (ชาติ) พูดโดยภาษาสมมติว่า คนไม่รู้เข้าใจตัวเอง
- พูดว่า สภาวะ (พูดยาว สภาวธรรม) ผู้พูดเองก็ต้องเข้าใจความหมายของศัพท์นั้นๆด้วย สภาวะ แปลตรงตัวว่า ความเป็นเอง (มันเป็นของมันเอง) สภาวธรรม สิ่งที่เป็นเอง ตามธรรมชาติ ธรรมดาของมัน
Create Date : 20 เมษายน 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 20 เมษายน 2567 20:51:57 น. |
Counter : 107 Pageviews. |
|
|
|