ความเข้าใจสับสนเกี่ยวกับการให้ผลของกรรม ขอให้มาดูและแก้ไขกัน ตั้งแต่ต้นแต่ข้อความแสดงหลักทีเดียว คำกล่าวที่ชาวไทยนิยมพูดว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนั้น มาจากพุทธศาสนสุภาษิตว่า ดังนี้
ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ
กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ
แปลว่า หว่านพืชเช่นใด ได้ผลเช่นนั้น (ผู้) ทำดี ได้ดี (ผู้) ทำชั่ว ได้ชั่ว
คาถานี้ เป็นพุทธพจน์ในรูปของอิสิภาษิต (คำกล่าวของฤๅษี) และโพธิสัตว์ภาษิต ซึ่งพระพุทธเจ้านำมาตรัสเล่า ท่านรวบรวมไว้ในพระไตรปิฎก นับว่าเป็นข้อความที่แสดงหลักกรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างกะทัดรัดชัดเจน
พึงสังเกตว่า ความท่อนแรกที่เป็นอุปมานั้น ท่านนำเอาพืชนิยามมาเป็นเครื่องเปรียบเทียบ เพียงแต่พิจารณาข้ออุปมานี้ให้ดี ก็จะแยกความสับสนระหว่างกรรมนิยาม กับ สมมตินิยาม ได้ทันที กล่าวคือ ข้อความว่า หว่านพืชเช่นใด ได้ผลเช่นนั้น แสดงกฎธรรมชาติฝ่ายพืชพันธุ์ ว่าปลูกมะขามได้มะขาม ปลูกองุ่นได้องุ่น ปลูกผักกาดได้ผักกาด เป็นต้น ไม่ได้แสดงผลในทางสมมตินิยามแต่ประการใด ว่าปลูกมะขามแล้วจะได้เงิน หรือปลูกผักแล้วจะรวย เป็นต้น ซึ่งเป็นคนละขั้นตอนกัน
ทั้งหมด
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=09-11-2023&group=88&gblog=92
ทั้งชาวพุทธชาวไม่พุทธจะเอ๊ะทำนอง นี้
ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เป็นเรื่องจริง หรือว่านิทานหลอกเด็ก
https://pantip.com/topic/42650303
มีเวลาศึกษาทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นก็จะดี
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=08-11-2023&group=88&gblog=82
Create Date : 18 เมษายน 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 19 เมษายน 2567 6:53:56 น. |
Counter : 107 Pageviews. |
|
|
|