เค้กเนยสด

มาแล้วค่ะ ในที่สุดก็ได้เวลาอวดโฉม เค้กวันเกิดของคุณป๋าซะทีนึง

เค้กเนยสดสูตรนี้เป็นสูตรเค้กที่เราเป็นชิ้นแรกสุดเลย จำได้ว่าทำครั้งแรกคือตอนอายุ 12 ผ่านมาก็เกือบ 20 ปีแล้วสิ อ๊า รู้สึกว่าแก่เลยเรา

ในบรรดาเค้กทั้งหมดเราชอบกินเค้กเนยมาเป็นอันดับ 1 เลยล่ะ จากที่ลองทำมาแล้วหลายๆสูตร เราก็สรุปว่าเราชอบสูตรนี้ที่สุดเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นสูตรแรกที่เราได้ทำหรือเปล่านะ

ที่เราทำนี่เป็นครึ่งสูตรนะคะ ทำเต็มสูตรก็กลัวว่าจะกินไม่หมด ดูขั้นตอนเยอะยุ่งยาก แต่จริงๆแล้วทำไม่ยุ่งยากเลย เราถ่ายรูปให้มันเยอะเองแหล่ะ หุหุ

อ่า ร้างการทำเค้กมาถึง 4 ปี ทำแล้วจะออกมาเป็นเยี่ยงไรน้อ

จากการที่สนิทชิดเชื้อกับคุณพ่อมาตั้งกะเกิด จึงทำให้เราได้รู้ว่า พ่อเราเค้าก็ชอบกินเค้กเนยสดที่สุดเช่นกันล่ะล่ะ เค้าเคยพูดว่าเค้กที่อร่อยที่สุดคือเค้กเนยสดล่ะ ( แต่ไม่มีแต่งหน้าครีมให้หรอก เดี๋ยวพ่อจะอ้วนไปกว่านี้ )

พ่อเราเค้าแก่แล้ว เราก็เป็นลูกที่ดีไม่อยากให้เค้ากินอะไรมันเยอะๆเนอะ เค้กเนยนี่ก็นะ เพิ่มไขมันเยอะแล้วล่ะ (จริงๆแล้วเราไม่ชอบกินครีมเองแหล่ะ 555 เกลียดของมันๆเลี่ยนๆ แต่พ่อน่ะอย่างชอบเลยรู้มั๊ย )

เลยออกมาเป็นเยี่ยงนี้ล่ะค่ะ ( วันนี้ง่วง ไม่โม้มากแล้วกัน เข้าเรื่องเลย )

ส่วนผสม
แป้งพัดโบก 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
เนย 1/2 ถ้วยตวง
นมสด 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 3 ฟอง
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
เกลือ 1/8 ช้อนชา
วานิลลา 1/2 ช้อนชา
พิมพ์ขนาด 3 ปอนด์ ( เคยใช้ 2 ปอนด์ละมันล้นอ่ะ )

จริงๆเราว่าถ้าใช้นมสดจะอร่อยกว่านี้นะเนี่ย แต่ถ้าใช้นมสดมันจะเหลือแล้วเรากินไม่ได้ไง กินแล้วท้องเจี๋ย เลยใช้นมข้นจืดแทน สัดส่วนคือ นมข้นจืด 1/4 ถ้วยตวง+น้ำเปล่า1/4 ถ้วยตวง


มีตัวเลขเป็นข้อๆนะ จะได้ไม่ลายตา ทำให้ดูเหมือนขั้นตอนเยอะเล่นไปงั้นๆแหล่ะ แต่เวลาทำจริงๆ แป๊บๆเสร็จ

1. เริ่มแรกตั้งเตาไว้ก่อนที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮน์
ทายกันหน่อยซิ เตาอบเครื่องนี้อายุเท่าไหร่แล้ววว

เฉลยนะ 30 กว่าปีแล้ว ยังใช้ได้ดีอยู่เลย เพียงแต่หน้าปัดตรงตั้งอุณหภูมิมันหายไปล่ะ ขัดถูบ่อยก็งี้ เตาไฟฟ้ากับเตาแก๊สด้านบนยังใช้ได้ดีเลยขอบอก แถมยังมีแท่งเหล็กยาวๆที่ไว้เสียบไก่ทั้งตัวแล้วก็นำไปเสียบตรงกลางเตาแล้วมันจะหมุนๆด้วยนะ ยังใช้ได้ดีเลย อบอะไรก็ออกมาไม่เคยผิดหวังเลย
ไม่เพียงแค่เตาอบนะ ไอ้เครื่องตีเค้กของเราอ่ะ ก็อายุมากกว่าเตาอบซะอีกแน่ะ O_o แก่สุดๆเลย อายุมากกว่าเราทั้งคู่ แต่ทั้งคู่ก็ต้องอาศัยเครื่องแปรงไฟ เพราะสมัยก่อนพ่อแม่เราเค้าขนมาจากอเมริกาล่ะ แต่หัวผสมขนมปัง+ปั่นน้ำผลไม้+บดเนื้อ เราไม่เคยลองใช้เลย ใช้แต่หัวตีเค้กอ่ะ ตัวเชื่อมสำหรับทำน้ำปั่น+บดเนื้อเจอนะ แต่ต่อไม่เป็น เหมือนตัวที่ไว้เชื่อมมันไม่ครบเลย ส่วนหัวผสมแป้งขนมปังหายโลดง๊าบ

2. ต่อมาก็ร่อนแป้งซะ ร่อนลงบนกระดาษไขนี่ล่ะดี เวลาแป้งเหลือเราจะเทกลับถุงได้ง่ายๆไง
3. ตวงแป้งซะแล้วปาดถ้วยตวงให้เรียบร้อย
4. แล้วก็จับแป้งที่ตวงแล้วไปร่อนให้เรียบร้อย
5. ระหว่างร่อนแป้งก็เทผงฟู+เกลือลงไปร่อนซะด้วยเลย แล้วก็พักไว้ก่อน


นอกรอบซะหน่อย เก็บแป้งที่เหลือใส่ถุงอย่างนี้ง่ายใช่มั๊ยล่ะ ไม่หกเลอะเทอะด้วย ส่วนกระดาษไขนั่นเราก็จับมาทำที่รองเค้กซะ ประโยชน์ 2 ต่อ เชียวนะ


6. แล้วมาต่อกันที่เนยสด
7. สับๆซะหน่อยจะได้ตีได้ง่ายขึ้น ลดภาระของเครื่องตีหน่อย
8. ตีเนยให้ขึ้นฟู ปรับเครื่องตีไว้ที่ระดับกลางนะ
9. ค่อยๆเทน้ำตาลลงไปทีละนิด ตีให้ขึ้นฟู แต่อย่าตีไปจนเหลวล่ะ เค้กจะอบออกมาได้ไม่สวย


10. แยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากัน
11. ตีไข่แดงซะหน่อย
12. ตีจนไข่แดงขึ้นฟู ( จริงๆแล้วเราว่าไม่ตีไข่แดงให้ขึ้นฟูก็ได้อ่ะ เทไข่แดงลงไปในเนยเลยก็ได้แล้วก็ใช้ความแรงระดับกลางตีสักครู่ ผลออกมาก็เหมือนกันนี่นา แต่งวดนี้เราทำตามสูตรให้ดุก่อนล่ะกัน )
13. เทไข่แดงที่ฟูแล้วลงไปในเนย คนให้เข้ากัน


14. ตีไข่แดงให้เข้ากับส่วนผสมของเนยซะนะ
15. หยอดวานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน
16. เทแป้งลงไปสักหน่อย ( พูดง่ายๆคือ ใส่แป้งสลับกับนมนั่นแหล่ะ )
17. คนให้เข้ากันอย่างเบามือ ใช้ความแรงระดับต่ำก็ได้นะ แต่หากตีแรงและนานไป เค้กที่ได้จะเนื้อหนักเหนียว


18. คราวนี้ก็ถึงตาเทนมลงไปบ้างล่ะ
19. คน ค้น คน จนเจอ เอ้ยคนจนเข้ากัน
20. สลับแป้งกับนมจนหมด เป็นไง เนื้อเริ่มเนียนชิมิล่ะ หืม สาดแฟลตกับไม่สาดแฟลตนี่คนละสีเชียว แล้วก็พักไว้


21. มาต่อกันที่ไข่ขาวกันบ้าง
22. เริ่มตีด้วยความเร็วสูงกันล่ะ
23. เริ่มเป็นเมอแรงแล้ววว อย่าตีให้นานมากนักนะ ไข่มันจะแห้งเกินไปแล้วเค้กเนื้อจะไม่ค่อยเนียน
24. ไข่ขาวตั้งยอดเชียว อย่างนี้โอเคใช้ได้


25. เทไข่ขาวที่เป็นเมอแรงใส่ลงในส่วนผสมของเนย
26. คนให้เข้ากัน ที่จริงเค้าให้ใช้พายยาง คนตลบขึ้นลงนะ แต่เราถนัดใช้ตะกร้อมือมากกว่าอ่ะ
27. เข้ากันแล้ว เอ๊ะ ไหง๋เนื้อไม่เนียนซะงั้น สงสัยตีไข่ขาวไม่ดีแฮะ งวดนี้
28. จับเทใส่พิมพ์ที่ทาเนยขาว และรองก้นพิมพ์ด้วยกระดาไขเรียบร้อย จริงๆแล้วเค้กเนยจะไม่ทำก็ได้นะ เพราะเค้าจะหลุดง่าย แต่เราอยากให้หลุดไวๆน่ะ


29. ไล่อากาศซะหน่อย ใช้ส้อมก็ได้ แต่เราใช้วิธียกขึ้นมาแล้วปล่อยลง ทำหลายๆรอบให้อากาศออกมา อูววว เนื้อดูไม่เนียนเลยอ่ะ


30. ไล่อากาศเรียบร้อยก็จับเข้าเตาอบซะเลยย ตั้งเวลาไว้ 45-50 นาที แล้วระหว่างนั้นจะไป หลั่นล้า ที่ไหนก็ไปเล้ยยย


31. 50 นาทีผ่านปายยย
แง่ะ ไหง๋ดูหน้าเกรียมๆล่ะเนี่ย สงสัยสัก 45 นาที กำลังดี นานๆทำทีออกมาไม่ดีเหมือนช่วงที่ทำขายเลยวุ๊ย


32. เอามันออกจากเตา ออกจากเตา ออกจากเตา
33. ตรวจดูว่าเค้กสุกไม่สุกแบบง่ายๆก็ใช้นิ้วนี่ล่ะจิ้มลงไป หากเนื้อเค้กสปริงตัวขึ้นมาเป็นอันว่าสุก แต่ให้ดูชัดๆว่าสุกหรือไม่โดยการจิ้มไม้จิ้มฟันลงปายยย
34. เห็นมะ ไม่มีเนื้อเค้กแฉะๆ ติดขึ้นมา สุกแล้วเจงๆ ( หน้าเกรียมขนาดนี้ไม่สุกได้ไงล่ะเพ่
35. พักไว้ 5 นาที ให้ขอบเค้กร่อนออกซะก่อน แล้วเอาตะแกรงวางซะ


36. คว่ำมันเล้ยยย
37. กระดาษไขนี้ก็ลอกมันออกซะนะ อย่ากินเข้าไปล่ะ ไม่ดีๆๆ
38. ลอกออกมาก็เป็นเยี่ยงนี้แล
39. จับคว่ำอีกรอบซะ


40. จะได้หน้าตาราวๆนี้ล่ะ ที่เหลือก็รอให้เย็นลงซะหน่อย


41. นี่เลย ของดีจากโดโซะ
42. ลายคุณหมี สุขสันต์วันเกิด
43. วางโชะบนเค้กซะ แต่เอ กระดาษมันเด้งๆแฮะ
44. วางส้อมตรงส่วนที่เด้งซะหน่อย แล้วก็โรยน้ำตาลไอซิ่งลงปายยย


นี่เลย พอยกกระดาษออกมาก็จะได้ภาพนี้ น่ารักมิล่ะ


อันที่จริงกะจะถ่ายรูปตอนผ่าแจกด้วยนะ แต่ว่าพอถึงเวลา แต่ละคนปุ๊บปั๊บ คว้าหมับ เข้าปากอ้ำๆ หมดไปโดยไม่ทันถ่ายรูปซะงั้น

ไว้วันหน้าฟ้าใหม่จะมาทำให้ดูอีกรอบ และจะผ่าแจกแจกให้ดูภายในเลยทีเดียว แต่คราวหน้าจะอบด้วยไมโครเวฟล่ะ เพื่อความไว โฮะๆ

ปล. ต่อไปคงไม่ทำไปถ่ายภาพไปแล้วล่ะ เพราะถ่ายภาพไปด้วยทีไร เนื้อเค้กออกมาเสียทุกทีเลย -*-

เริ่มกันด้วยภาพนี้ ก็ขอจบกันด้วยภาพนี้นาคะ ฝันดีค่ะ ทุกๆท่าน

Create Date : 26 มิถุนายน 2552 Last Update : 2 มิถุนายน 2554 16:14:34 น. Counter : 3439 Pageviews.		16 comments
Share Tweet