ต้องเลิกกินกาแฟจริงๆหรอเนี่ยยยยยยยย.....
เนื่องจาก มีอาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ด้านซ้าย แทบจะ 3 เวลา ก่อนและหลังอาหาร มาประมาณ...เดือนนึงแล้วมั้งก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคงเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ!!!และข้อปฏิบัติตนของผู้เป็นโรคนี้ มัดังนี้... 1. กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ปล่อยให้ท้องว่าง หรือหิว ถ้าหิวก่อนเวลาให้ดื่มนม หรือน้ำเต้าหู้ น้ำข้าว น้ำผลไม่ได้ 2. หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด จากน้ำสมสายชู 3. งดดื่มเหล้า เบียร์ น้ำชา กาแฟ ยาดอง 4. งดการสูบบุหรี่ 5. หลีกเลี่ยงการกินยาแก้ปวด แก้ไข ที่มีแอสไพริน หรือยาชุดต่างๆ รวมทั้งยาแก้ปวดกระดูก และยาสเตียรอยด์ ยาลูกกลอน ยาหม้อต่างๆ 6. ควรพักผ่อนให้มากเพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานผ่อนคลายเครียดวิตกกังวล และไม่หงุดอารมณ์เสียง่าย 7. กินยาตามแพทย์สั่ง ถ้ากินยาแล้วอาการดีขึ้น ต้องกินยาติดต่อกันอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ ไม่ควรหยุดยาก่อน เพราะอาการปวดท้องจะกำเริบได้อีก 8. ควรออกกำลังกาย แต่ไม่ควรมากเกินไป 9. อย่าซื้อยากินเอง มีโรคอื่นควรปรึกษาแพทย์ แล้วเห็นม้ายยยย ข้อ 3 น่ะ ข้อ 3...งดกาแฟน่ะ T_Tก็กาแฟเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 หรือ 6 หรือ 7 ของเราไปแว้วอ่า (ถึงจะไม่ถึงขั้น "เสพย์ติด" ก็เหอะ) โห...เศร้าเลย คือข้อดีของการเลิกกินกาแฟน่ะ มันมีแน่นอนแหละ อย่าง .. ประหยัดตังค์ เดือนนึงก็อย่างน้อย 500 บาท (อันนี้ นับเฉพาะค่ากาแฟที่มหาลัย แก้วละ 25 บาทนะ ไม่รวมถึงกาแฟแบรนด์ไฮโซทั้งหลายที่ราคาเกินแก้วละครึ่งร้อย)หรืออย่าง ..ระดับน้ำตาลในเลือดกับห่วงยางรอบพุงก็คงลดลงไปด้วยแล้วก็แน่นอน... ต้นเหตุหลักอย่างเป็นทางการ ก็คือ ทำให้กรดในกระเพาะอาหารลดลง แต่ก็นะ เราเป็นพวกถ้าไม่มีเหตุให้ "ต้องทำ" ก็ยากที่จะยอมทำโดยสมัครใจ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วยแล้ว ... ยากอยู่นะเนี่ยยยย...การเดินทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก...เอาน่า ทำไปเถอะ คงไม่ถึงกะตายหรอกเน้ออออ