<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
17 มีนาคม 2553

โรคร้าย.....บทที่ 3 (ความหล่อที่ไม่มีผู้ใดคาดเดา)





ผมวิ่งลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยครู่หนึ่ง ก็ไม่พบวี่แววว่าตำรวจพวกนั้นจะตามมา แน่ล่ะ.. ยุคนี้ตำรวจไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกันมากเท่าไร

เมืองทั้งเมืองดูเงียบอย่างน่าประหลาด คงเป็นผลมาจากโรคแพ้ความสวยที่ระบาดขึ้นมาไม่นานนี่เอง เลยทำให้สถานการณ์ทางสังคมวิกฤติถึงขั้นเลวร้าย มองผ่านกระจกเข้าไปยังห้องอาหารแห่งหนึ่ง แทนที่จะมีคนนั่งดื่มกินกันตามปกติ ร้านทั้งร้านกลับเงียบและปราศจากผู้คน หลังจากยืนคิดครู่หนึ่งก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้ ก่อนหน้าโรคแพ้ความสวยจะระบาด ที่นี่คงปกติ แต่อย่าลืมว่าส่วนใหญ่ร้านอาหารจะเลือกเด็กบริการหน้าตาสวยน่ารัก แบบนี้จะเหลืออะไร.. พอโรคระบาด ตูม…. ผู้ชายไม่หล่อทั้งหลายกระเจิดกระเจิงไม่คิดชีวิต ร้านปิดโดยปริยาย คนขายหลบจากเมืองไปไถนาทำมาหากินบ้านนอก

กำลังหิวลองผลักประตูกระจกดู อืมม์..เปิดได้แฮะ ผมผิวปากหวือ มองเห็นอาหารลอยไปมาอยู่ตรงหน้า

มุมห้องยังมีทีวีเปิดทิ้งเอาไว้ กำลังเป็นละครสร้างสรรค์ผลงานดีมีคุณภาพอีกอย่างแน่นอน ซึ่งละครแนวนี้กำลังได้รับความนิยมสูงสุด เพราะเห็นนางร้ายกำลังปากอ้าตาเหลือกยืนด่านางเอกอยู่ฉอดๆ ในขณะที่นางเอกได้แต่ยืนบีบน้ำมะนาวลงในแก้ว โดยมีพระเอกยืนกอดอก ทำหน้าโง่อยู่ข้างๆ แต่ไม่ยักจะช่วยอะไรมากมาย แบบนี้ทำให้ทายได้ง่ายว่าใครเป็นพระเอก นางเอกนางร้าย

โอ…หน้าตาสวยๆหล่อๆกันทั้งนั้น ทำไมยังเอามาฉายออกอากาศอีก หรือว่าโรคร้ายยังไม่ระบาดไปถึงสถานีโทรทัศน์ ความจริงน่าจะเอาพระเอกนางเอกหน้าตาขี้เหร่มาแสดงมากกว่า

แต่ทันใดนั่นเอง ความคิดอะไรบางอย่างก็พุ่งวาบเข้ามาในสมอง แม่นักฆ่าคนสวยคนนั้นเคยอธิบายเกี่ยวกับโรคร้ายนี้ มันไม่ใช้เชื้อโรค มันมากับอะไรบางอย่างซึ่งเดินทางรวดเร็ว แล้วเจ้าคลื่นวิทยุคลื่นโทรทัศน์นี่เองเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งเดินทางเร็วเหลือแสน สมมุติว่ามีใครสักคน สร้างคลื่นชนิดที่กระตุ้นให้สมองและร่างกายเกิดปฏิกิริยาทางลบอย่างรุนแรง ผสมมากับคลื่นพวกนี้

ดังนั้นผู้คนที่เสพความหล่อความสวยเต็มหูเต็มตาจากโทรทัศน์ก็จะติดโรคได้ง่ายเหลือเกิน ติดแบบไม่รู้ตัว และอาการก็กำเริบรวดเร็วตามแรงกระตุ้นทางจิตใต้สำนึก

มันเป็นเพียงความคิดที่เลื่อนลอย แต่ยิ่งคิดยิ่งมีทางเป็นไปได้ ปัญหาคือพวกมันทำไปเพื่ออะไรกัน

ความตื่นเต้นและอยากรู้พลันประทุจนใจเต้นแบบนี้ต้อง หาทางตรวจวัดว่าสถานีไหนบ้างส่งคลื่นแปลกปลอมปนมากับคลื่นโทรทัศน์ ถ้าตีวงคลำเป้าหมายให้แคบลง คงไม่ยากนักในการจะตรวจพบได้ ผมมีเพื่อนเก่งทางอิเล็กทรอนิคส์อยู่หลายคน คงพอดึงตัวมาช่วยงาน

ยังดีว่าผมได้รับวัคซินและยาป้องกันความหล่อความสวยไว้แล้ว จึงดูภาพคนหล่อคนสวยผ่านทีวีได้เป็นปกติ แม้กระนั้นเวลาดูหน้าอกหน้าใจของนางร้ายที่ใส่เสื้อตัวจิ๋วจนอะไรต่อมิอะไรจะล้นจอ ก็ทำเอา “ใจสั่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ “อาการข้างเคียงของโรคแพ้ความสวย” หรือ “โรคทะลึ่ง” กันแน่

สถานีโทรทัศน์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปไม่กี่สิบกิโลเมตร ผมควรจะเริ่มต้นที่นั่นก่อน ไวเท่าความคิด ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังนอกเมืองตรงจุดจอดจักรยานยนต์ทิ้งเอาไว้ เรื่องการตามล่าคนหล่อคนสวยเอาไว้ทีหลัง

++++

สถานีโทรทรรศน์แห่งนั้นเมื่อไปถึพบว่ามีงผู้คนน้อยกว่าปกติ เจ้าหน้าที่หรือยามรักษาการณ์ก็มีจำนวนไม่มาก แต่ละคนหน้าตาไม่หล่อไม่สวยทั้งนั้น ผมแอบเห็นบางคนใส่หน้ากากอุลตร้าแมนหรือหน้ากากกาโม่เดินตรวจอยู่ไปมา พวกนี้มันต้องใส่หน้าการกลบเกลื่อนความหล่ออย่างแน่นอน ชักมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว ความคิดนั้นยิ่งทำให้อยากเข้าไปสำรวจดูจนตัวสั่น

สถานีโทรทัศน์ช่อง 13 แห่งนี้ประกอบด้วยอาคารสามชั้น ขนาดไม่ไหญ่ไม่โตอย่างที่คาดคิดเอาไว้ คงจะเนื่องมาจากสภาพทางการเงินขาดความคล่องตัว จนทำให้ต้องเฉือนอาคารบางส่วนออกไปขายทอดตลาดหาเงินทุนหมุนเวียน

ผมซ่อนจักรยานยนต์ไว้มุมตึกใกล้กับทางเข้า หลังจากด้อมๆ มองๆ พักหนึ่ง ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปดื้อๆ

ยามรักษาการณ์สองคนปรี่เข้าหาทันที แต่ละคนหน้าตาเหมือนโจรไม่มีผิด

“จะไปไหน”

ยามคนหนึ่งถามห้วนๆ มือข้างหนึ่งแตะอยู่ด้ามปืนซึ่งพกหราอยู่อย่างไม่เกรงใจใครซึ่งผิดวิสัยของยามรักษาการณ์ทั่วไป

“สวัสดีครับพี่”
ผมยกมือไหว้ยามทั้งสองอย่างสุภาพเรียบร้อย แต่ไม่ดูดีเกินกว่าเหตุ
“ผมว่างๆ ก็มาเดินดูเขาถ่ายละครทีวีครับ แหม..หน้าตาอย่างพวกพี่น่าจะไปเป็นพระเอกนะครับ ไม่หล่อและสุดจะอุบาทว์ขนาดนี้ รับรองดังแน่ๆ”

ทั้งสองยิ้มแก้มปริทันที เมื่อโดนคำหวาน คนหนึ่งหัวเราะอย่างถูกใจ ตบบ่าผมแรงๆ พลางพูดว่า

“ของมันไม่แน่ ไอ้น้องชาย... ไว้ให้ทุกอย่างเรียบร้อยเสียก่อน พวกเราจะเป็นพระเอกให้ดู แหม..พวกพระเอกในหนังเก่าๆ หล่อจนน่าคลื่นไส้ ”

“เห็นแล้วจะอ้วกแตกด้วยความหล่อ”
ยามอีกคนเห็นด้วย ผมมองหน้ายามทั้งสองแล้วยิ้ม ก่อนทำเป็นเอียงคอเข้าหากระซิบกระซาบด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกำความลับของโลกเอาไว้

“นี่ๆ...ผมมีของดีๆ จะให้พวกพี่รับรอง”

“อะไรวะ”

ทั้งสองตาโตด้วยความสงสัย คนแบบนี้จัดการได้ไม่ยาก ผมนึกใจใจ ในขณะดึงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

มันเป็นมรดกซึ่งเพื่อนคนหนึ่งให้มาหลายปีแล้ว แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานแล้ว แต่ยังดีมีคุณภาพคับกระเป๋า

พอยามสองคนก้มหน้าลงมองด้วยความสนใจผมก็เอาสิ่งนั้นให้พวกเขาดูใกล้ๆ แบบเต็มหน้าเต็มตา

....

ทันทีเมื่อมองเห็น ยามทั้งสองก็แผดร้องโหยหวนผงะหงายกลับไปพร้อมกับอาการสั่นกระตุกอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อที่ไม่อาจควบคุมได้ ร่างหมุนคว้างราวกังหันต้องลม ยามคนหนึ่งหัวทิ่มลงตะถางดอกไม้ก่อนชักกระตุกไม่ขาดระยะ อีกคนหันหลังวิ่งโซเซไปสามสี่ก้าวก่อนเข่าอ่อนทรุดลงอาเจียนออกมาไม่หยุดยิ้ง

พวกเขาเป็นโรคแพ้ความสวย สิ่งที่ผมให้ดูคือหนังสือโป้ !

นางแบบแต่ละคนวางท่าสุดยั่วยวนกวนใจสุดสยิว เรือนร่างขาวเนียนนวลราบรื่นปราศจากอาภรณ์พัวพันกายแม้แต่ชิ้นเดียว เน้นส่วนโค้งส่วนเว้าตวัดเส้นสายสวยงามเย้ายวนราวการสะบัดปลายพู่กันของจิตรกรมือหนึ่ง หน้าตาระดับนางเอกสัญลักษณ์แห่งพลังการขับเคลื่อนทางเพศ แบบนี้จะเหลืออะไร....

ยามสองคนนั่นเห็นเต็มตาขนาดนั้น ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะงานนี้

สื่อลามกพวกนี้ในบ้านในเมืองผมหาซื้อได้ง่ายมาก แค่เดินไปตามแหล่งขายหนังสือหรือศูนย์รวมคอมพิวเตอร์ไม่นานก็จะมีพ่อค้าดักหน้าดักหลัง “พี่ๆๆ โป้ไหมพี่ อายุ 12 เอง เอาป่ะ เล่มละ 20 แผ่นละ 100 ชอบแบบไหนบอกมา เดี๋ยวน้องจัดให้” อะไรประมาณนี้

ฉะนั้นอย่าท่านมาอยู่บ้านเมืองผม มีคนบอกว่าจะปราบปรามสื่อลามกให้สาบสูญ จะถูกมองเป็นเรื่องตลกสภาโจ๊ก หัวเราะกันจนบ้าไปข้างหนึ่งเลย ถ้าบอกว่าลิงออกลูกเป็นควาย ยังจะมีคนเชื่อมากกว่า

ผมวิ่งเข้าไปตามทางเดินมุ่งหน้าสู่ตึกด้านใน เสียงร้องเอะอะดังตามหลังมา ผมยิ้มในใจในขณะมือฉีกหนังสือโป้ทีละหน้าก่อนทิ้งในภาพเหล่านั้นกระจัดกระจายรายเรียงปลิวว่อนไปตามทางเดิน

ได้ผลเกินคาด มีเสียงแผดร้องเจ็บปวดทรมานระงม พวกที่วิ่งตามมาคงจะคว้ากระดาษจากหนังสือโป้เหล่านั้นดูอย่างบังเอิญ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สมน้ำหน้าพวกมัน!.... คงพากันน้ำลายฟูมปากตาตั้งกันเป็นแถว ทำให้การมุ่งหน้าไปสู่ด้านในของตัวตึกเป็นไปอย่างง่ายดายเพราะหนังสือโป้เล่มเดียวแท้ๆ

ในขณะเผ่นขึ้นไปชั้นที่สองซึ่งคาดว่าอาจเป็นที่ตั้งของห้องส่งคลื่นโทรทัศน์ เจ้าหน้าที่ของสถานีหลายคนพยายามเข้ามาขวางทาง แต่พอภาพหน้าปกหนังสือโป้ที่ยกโชว์กราดให้ดูแบบจะๆ คนพวกนั้นก็เผ่นไปคนละทิศละทางแบบคนสติแตก บางคนหนีไม่ทันก็ตาเหลือกตาค้างน้ำลายฟูมปากดิ้นชักกระตุกอยู่กับพื้น บางคนยอมพุ่งตัวทะลุกระจกลงไปด้านล่างแบบลืมตาย

“เอ้ย...มีไอ้บ้าบุกเข้ามาในสถานี พวกเราหยุดมันเอาไว้ ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอย้ำ...ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธร้ายแรง”

เสียงประกาศดังก้องไปทั่วหมู่ตึก พวกมันรู้ตัวแล้ว

เสียงวิ่งมาตามทางเดินด้านหน้าและด้านหลัง บางคนถือปืนมาด้วย แต่ที่ยังไม่กล้ายิงคงเป็นเพราะเกรงว่ากระสุนจะไปโดนพวกเดียวกัน บางคนวิ่งพลางปิดตาพลางเพราะความเกรงกลัวอาวุธร้ายแรง ห้องข้างๆ เปิดประตูแง้มอยู่ ผมไม่รีรอในการเปิดประตูกระโจนเข้าไปและจัดการล็อคประตูเรียบร้อย ไม่ลืมทิ้งโปสเตอร์ภาพโป้ไว้หน้าห้องสองสามแผ่น เท่านี้ก็คงหยุดคนภายนอกได้ระยะหนึ่ง

เจ้าหน้าวัยกลางคนซึ่งกำลงง่วนอยู่กับอุปกรณ์พวกแผงไฟส่องเวทีหรืออะไรสักอย่างหันมามองอย่างตกใจที่เห็นคนแปลกหน้าโผล่พรวดพรวดเข้ามาแบบกะทันหัน เขาทำท่าจะวิ่งหนีแต่ผมกระโดดกระชากแขนบิดไพล่หลังไว้อย่างรวดเร็ว

“ห้องควบคุมการส่งอยู่ที่ไหน”

ผมตะคอกข้างหู ขณะเหวี่ยงร่างของเจ้าหน้าที่ดวงซวยคว่ำลงกับพื้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นท่าล็อคขาซึ่งจำมาจากรายการมวยปล้ำทางทีวี

“อ๊าก.......ผมไม่รู้...”

ร้องปฏิเสธเสียงลั่น พยายามตะเกียกตะกายหนีไปจับเชือก แต่ไม่มีทางรอด และแถวนี้ไม่มีเชือกและกรรมการมาบอกแยก

“ปากแข็งใช่ไหม งั้นเจอนี่.....”

จัดการลากตัวออกมากลางห้อง พลิกตัวเปลี่ยนเป็นทางล็อคแบบ แองเกิ้ล ล็อค

“อ๊าก.......ผมไม่รู้...”

ไอ้หมอนี่ปากแข็งเกินไปเสียแล้ว เขาทนต่อท่าไม้ตายของยอดนักมวยปล้ำระดับโลกได้ขนาดนี้ ช่างมีวิญญาณและสามัญสำนึกต่อหน้าที่จริงๆ แบบนี้ต้องเจอไม้ตายสุภาพโหด

“ถ้าไม่บอก ผมจะเอาภาพโป้ ทากาวแห้งเร็ว แล้วแปะติดหน้าผากคุณ”

ขู่พลางแกว่งภาพโป้ไปมาตรงหน้า เท่านั้นเอง เจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายก็ร้องสุดเสียงจนก้องไปทั่วตึกตาเหลือกตาค้างละล่ำละลักบอก

“โอ้ย...อย่า..ยอมแล้วยอมแล้ว คุณเดินขึ้นทางเดินด้านข้างจะขึ้นไปชั้นสามแล้วมีตาก็มองหาเอง โอ้ย........อยากดูแต่ดูไม่ได้..อ๊ากซซซซซ์....”

“หึหึ...เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง”

ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายซึ่งตอนนี้หมดสภาพไปชั่วคราว หันไปมองทางเดินเล็กๆ แต่ก็ชะงักเมื่อมองเห็นกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งอยู่แถวๆ ทางขึ้น ผมยิ้มในใจอย่างเหี้ยมเกรียม ทำเป็นเดินไม่รู้ไม่ชี้จนเข้าไปใกล้ และเอาภาพหน้าปกแผ่หรา กางเต็มหน้ากล้อง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพนั้นจะถูกส่งกระจายไปทั่วตึกและสร้างความโกลาหลอลหม่านเพียงใด ไอ้พวกที่กำลังติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ป่านนี้คงชักตาตั้งน้ำลายฟูมปากกันไปแล้ว เพราะสองหูยังได้ยินเสียงร้องระงมดังแว่วมาให้ได้ยิน

พอขึ้นไปถึงชั้นที่สาม ร่างทะมึนของใครคนหนึ่งก็โผล่วูบมาขวางหน้าราวกับวิญญาณร้าย ด้วยสัญชาติญาณผมตวัดมือวูบหนึ่ง ภาพโป้หน้าแรกก็พุ่งวูบไปอย่างรวดเร็วดุดัน

แคว่กๆๆๆ!!

เสียงเสียดประสาทดังขึ้นถี่ยิบ กระดาษหนังสือโป้พลันกระจัดกระจายออกเป็นชิ้น ๆเวียนว่อน ระหว่างใบหน้าอวบอูมซึ่งกำลังแสยะยิ้มอยู่ด้านหลัง ผมใจหายวาบ

นั่นเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงร่างอ้วนใหญ่ อาวุธร้ายแรงไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย

ใช่แล้ว เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ.... ภาพสาวสวยวาบหวามบนกระดาษมันน่าจะมีผลรุนแรงกับเพศตรงข้ามเท่านั้น ถ้าโรคนี้มีผลต่อเพศเดียวกันสถานการณ์คงย่ำแย่ไปกว่านี้มากมาย

มือใหญ่กางคว้ามาราวกับจะตะครุบคอหอยและบีบให้ละเอียด ผมพลิกตัวหลบอย่างหวุดหวิด รู้สึกลมพัดผ่านใบหูไปในระยะหวุดหวิดหวาดเสียวที่สุด

ผมพลิกตัวหันขวับ ยื่นหน้าไป ทำหน้าหล่อใสหนึ่งที

แต่ไม้ตายที่เคยจัดการยามด้านนอกได้กลับไร้สมรรถภาพอย่างสิ้นเชิงกับหญิงร่างยักษ์คนนี้ กระทั่งหนังตายังไม่กระพริบ แถมยังเดินทื่อเข้ามาราวปีศาจร้าย ผมถอยหลังกรูด พยายามทำหน้าหล่อถี่ยิบราวปืนกลเข้าใส่หล่อนอย่างไม่คิดชีวิต

กำปั้นใหญ่เหวี่ยงโค้งมาจากด้านข้าง ผมเลิกทำหน้าหล่อ ก่อนจะไม่มีหน้าให้ทำหล่อ ก้มหลบกำปั้นมหากาฬก่อนที่มันจะถล่มเข้าใส่ใบหน้า

ตูม!!!

ผนังด้านข้างถูกชกแตกทลายกระจายเป็นช่องโหว่ขนาดพอจะให้มนุษย์คนหนึ่งตะกายเข้าไปได้ หินปูนเศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว นี่ไม่ใช่คนแล้ว แรงเยอะขนาดนี้ เศษเนื้อหนังบางส่วนห้อยรุ่งริ่งให้เห็น แต่ใบหน้ากลับไร้ความเจ็บปวดแม้สักนิด และไม่มีเลือดไหลแม้สักหยดเดียว

แบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ เธอเป็นหุ่นยนต์รักษาการณ์ หุ่นยนต์ย่อมไม่หวั่นไหวหรือสนใจว่าใครจะหล่อจะสวยขนาดไหน พวกมันทำตามโปรแกรมที่ตั้งไว้เท่านั้น นั่นคือกำจัดผู้บุกรุก

“คิดว่าจะสุ้ฉันได้เหรอ...”

เจ้าหน้าที่หญิงร่างอ้วนยักษ์หัวเราะในลำคออย่างน่าสยดสยอง ขณะย่างสามขุมเข้ามาอย่างช้าๆ และหมายมั่นปั้นมือ

“แกคงจะเข้ามาทำลายงานของพวกเราล่ะสิ....จะมาทำตัวเป็นผู้ปลดปล่อยพวกหล่อพวกสวยให้เป็นอิสระหรือ ไม่มีทาง ฉันยอมไม่ได้ ที่จะปล่อยให้คนหล่อลอยนวล”

“อย่าเข้ามานะ...ไม่งั้น..”

ผมตวาดเสียงดัง หากถอยหลังกรูดไปเรื่อย เธอคนนี้ทั้งอ้วนทั้งใหญ่เหลือจะรับมือไหว

“ไม่งั้นจะทำไม”

“เจอหน้าหล่อ”

พูดจบผมก็เอียงคอไปมอง ทำหน้าหล่อใส่หนึ่งทีรวดเร็วราวประกายไฟ ถ้าเป็นสำนวนจีนคงจะเรียกว่า “วิชาหน้าหล่อไร้เงา” แต่หล่อนหัวเราะก๊ากพลางบอกว่า

“หน้าหล่อระดับกระจอกๆ แบบนี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ยังเร็วไปสิบปีพ่อหนุ่มเอ๋ย จะเล่นงานฉันได้ มันต้องหล่อระดับซุปเปอร์สตาร์ดาราระดับโลกเท่านั้น”

ยุ่งล่ะสิ ... แม่คนนี้หน้าด้านหน้าทนต่อความหล่อเสียด้วย ผมยังไม่ละความพยายามถอยหลังไปสามก้าวแล้วทำหน้าหล่อถี่ยิบไม่ขาดสายราวพายุ แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผล ผมจึงเปลี่ยนวิธีการใหม่โดยการถอยหลังไปอีกสามก้าวแล้วหยุดวางท่าทำหน้าหล่อแบบเดียวกับที่พวกนายแบบทำ ตอนเดินโชว์ในงานเดินแบบ

ถ้าใครมาเห็นตอนนี้คงจะงงเป็นบ้า เพราะสิ่งที่ปรากฏคือ หญิงร่างอ้วนใหญ่คนหนึ่งกำลังย่างสามขุมเข้าหาผู้ชายที่น่าเวทนาคนหนึ่ง ซึ่งถอยไปแล้วหยุดโพสต์ท่าทำเท่ไปสลับกันไปมาอยู่เช่นนั้น ดูอย่างไรก็ไม่ห่างจากคนบ้าดีๆ นี่เอง

นี่ขนาดทำหล่อทั้งหน้าทั้งท่าทางยังหยุดหล่อนไม่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นท่าหันหลังให้แล้วเอียงคอหันมามองแบบเดียวกับโฆษณากางเกงในยี่ห้อหนึ่ง หรือท่าเมือท้าวคางวางศอกบนเข่ายิ้มน้อยๆที่มุมปาก ก็ไร้ผล

เพราะความที่หยุดวางท่าเป็นระยะๆ นี่เอง ทำให้ผมหนีเธอไม่รอด มือใหญ่คว้าใส่คอเสื้อแล้วยกขึ้นจนเท้าพ้นจากพื้นด้วยพละกำลังมหาศาล

“เสร็จฉันล่ะคราวนี้....”

สาวสยองหัวเราะชอบใจ มองดูชายหนุ่มตาดำๆ ที่น่าสงสารดิ้นกระแด่วๆ อยู่ในอุ้งมือมารอย่างพอใจด้วยสีหน้าท่าทางหื่นกาม

“จะทำอะไรฉัน”

ผมดิ้นพลางถามพลาง เหงื่อแตกเต็มแผ่นหลัง ลางสังหรณ์อัปมงคลบางอย่างเต้นเร่าๆ เข้ามาในความคิด

“อยากทำท่าหล่อดีนัก เดี๋ยวจะปล้ำซะให้เข็ด”

“เฮ้ย......”

ผมร้องเสียงหลง ใจหายวาบ ขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง นั่นเป็นสิ่งสยดสยองเหลือรับประทานจริงๆ ผมกำลังจะถูกหยามย่ำทำลายความเป็นลูกผู้ชายที่แหนหวงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย โลกทั้งโลกหนักอึ้งทันทีทันใด

ทำท่าหล่อใส่ก็แล้ว ทำหน้าหล่อใส่ก็แล้ว ทำตัวหล่อใส่ก็แล้ว แม่คนนี้ช่างมีภูมิคุ้มกันความหล่อมากจนน่ากลัว ความคิดของเจ้าหล่อนก็อุบาทว์สุดแสน

ทันใดนั้น ผมนึกถึงไม้ตายขั้นสุดยอดขึ้นมาได้ จึงใช้พลังที่เหลือดิ้นตะกายไปพูดข้างหูเธอดังๆแต่น้ำเสียงนุ่มนวลจนผิดปกติวิสัย

“เอ้อซ์.......กรุณาปล่อยผมลงเถิดนะครับ คุณผู้หญิง”

ได้ผล หล่อนชะงัก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นตะลึงพรึงเพริดเหมือนเครื่องยนต์หมดเชื้อกะทันหัน ผมแสยะยิ้มอย่างไร้ความปรานี รีบกรอกเสียงทุ่มนุ่มนวลต่อไปอย่างเหี้ยมเกรียม

“เอ้อซ์..ถูกต้องแล้วครับ คุณผู้หญิง คุณต้องปล่อยผมลงไปเดี๋ยวนี้นะครับคุณผู้หญิง”

ทันใดนั้นเองทางเดินแคบๆ ก็กึกก้องไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน ร่างของสาวเจ้าเนื้อหมุนคว้างไปสองตะลบ ปล่อยคนซึ่งกำลังแบกอยู่ให้หัวทิ่มหัวตำลงไปกับพื้นแบบไม่เกรงใจใคร ศีรษะของหล่อนสะบัดไปด้านหลังอย่างน่ากลัวคอหัก ตาเหลือกกลับขึ้นด้านบนเห็นแต่ตาขาว ก่อนล้มฟาดลงกับพื้นชักดิ้นชักงอไม่หยุดยั้ง ก่อนจะมีประกายไฟระเบิดไปมาตามร่างกายแล้วหยุดนิ่งไป

หล่อนโดนวิชา “เสียงหล่อ” เข้าไปเต็มๆ

เคราะห์ดีที่ผมชอบดูรายการตลก และจดจำการทำเสียงหล่อของนักแสดงตลกคนหนึ่งไว้อย่างครบถ้วน รู้สึกว่าจะชื่อ อาฉี่ เสียงหล่อ หรืออะไรแถวๆ นี้ล่ะครับ แต่อย่างน้อยก็ช่วยผมเอาไว้ได้ในวินาทีวิกฤตและหุ่นนี้ไม่ได้ใส่โปรแกรมป้องกันเสียงหล่อ ก็ใครจะไปคิดล่ะครับว่าเรื่องแบบนี้ยังมีในโลก

ผมพยุงกายขึ้นอย่างลำบาก เพราะใช้ความหล่อไปจนเกินพิกัด ยิ่งมีน้อยๆ อยู่ด้วย

ทำลาย.... ต้องทำลาย สถานีส่งโทรทัศน์แห่งนี้ให้ได้ ไม่รู้ว่าจะทำลายไปทำไม... แต่เนื่องจากเห็นว่าหนังดังๆ พระเอกบุกเข้าไปในรังของพวกผู้ร้าย ถ้าไม่ระเบิดก็เผาทิ้งแทบทุกเรื่อง และเผาแบบง่ายๆ ขนาดโยนก้านไม้ขีดติดไฟลงพื้น หมุนกลางอากาศไม่รู้กี่รอบ ไฟก็ไม่ยอมดับยิ่งกว่าโกหก เลยกลายเป็นมาตรฐานให้ผมเลียนแบบดาราบ้าง ส่วนระเบิดไม่มีก็หาเอาเองข้างหน้าไม่เป็นปัญหา เดี่ยวก็มีมาเอง ตัวอย่างในภาพยนตร์มีให้ดูมากมาย

นั่นไง...ห้องควบคุมการส่งคลื่นโทรทํศน์ ติดป้ายติดไฟสว่างโร่หน้าห้องยังกับจัดนิทรรศการ หาได้ง่ายๆ ไม่ต้องวิ่งวนหาให้เหนื่อยเพราะเรื่องชักจะยาวเกินไปแล้ว

ประตูก็เปิดอ้าซ่า เชิญชวนให้เข้าไปจนตัวสั่
แต่พอโผล่หัวเข้าไปยังไม่ทันมองอะไรชัดเจนอะไรบางอย่างก็ฟาดเข้าเต็มหน้าจนผมกระเด็นไปติดผนังห้องด้านข้าง

เท้าผู้หญิงครับท่าน ที่รู้ว่าเป็นผู้หญิงก็ดูจากการลากเส้นเว้าตวัดเส้นโค้งแห่งเรือนร่าง แบบนี้ไม่ใช่กระเทยหรือเพศผู้แน่นอน แม้ว่าใบหน้าจะสวมหน้ากากอมยิ้มปิดหน้าตาแท้จริงอยู่ก็ตาม

ยังไม่ทันตั้งตัวเธอก็พุ่งเข้ามาหา ผมรีบหันหน้าเข้าใส่ ทำหน้าหล่อสุดแรงเกิด

อั่ก!!!!

เท้าน้อยๆ เตะอัดเข้าเต็มท้อง ผมตัวงอเป็นหนวดกุ้ง จากลูกถีบมหากาฬ ใจหายวาบเมื่อรู้ว่าแม่เสือสาวหน้ากากอมยิ้มผู้นี้มีฝีมือร้ายกาจ แต่กัดฟันเงยหน้ามองทำเสียงหล่อออกไป

“เอ้อ......สวัสดีครับคุณผู้หญิง วันนี้อากาสสดชื่นจังเลย เอ้อซ”

คราวนี้พลังเสียงความหล่อถูกใช้ไปจนหมดสิ้นหมดเนื้อหมดตัว

เพี้ยะ!

ผลคือแข้งงามๆ ดีดมาเต็มกกหู
เธอคนนี้ไม่แพ้ความหล่อ แบบนี้คงเล่นงานยากเพราะดูเธอมีฝีมือไม่เบา ยังไม่ทันตั้งตัวเธอก็หมุนตัวเตะฉาดเข้าเต็มขาพับจนสะท้านไปทั้งร่างแทบหัวทิ่ม

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ”

ผมตวาดลั่น ในเมื่อทำหน้าดีๆ ไม่ชอบ แบบนี้มันต้องใช้หน้าเลวๆ กันบ้างล่ะ
ผมเริ่มทำหน้าลามกใส่ทันทีแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งสีหน้าท่าทางและแววตาลามกหื่นสุดขีดจนสุดจะบรรยาย หรือจนไม่กล้าบรรยายเพราะอายตัวเอง

สาวลึกลับร้องสุดร้องอย่างตื่นตะหนก ต่อให้มีภูมิคุ้มกันความหล่อ แต่ประกันว่าไม่มีภูมิคุ้มกันหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความหื่นลามกความหน้าด้านเด็ดขาด ท่าทางเหมือนลูกโป่งถูกปล่อยลมออกมาจนหมดสิ้น ระทวยทรุดลงกับพื้น


ผมฉวยโอกาสนั้น ยื่นมือไปกระชากหน้ากากอมยิ้มจนติดมากับมือ

คุณพระช่วย ! ที่แท้ก็สาวนักล่าหัวคนหล่อคนนั้นนั่นเอง เธอมาทำอะไรที่นี่ ไหนบอกว่าจะไม่ออกมาจากที่พัก

แม้ใบหน้าตื่นตะหนก แต่เธอยังดูสาวและสวย

สวย!...

น่ารัก...

สวย... ความรู้สึกตอกย้ำซ้ำเต็มราวครกกำลังตำส้มตำปูปลาร้าชั้นดี

ให้เกิดใหม่เถอะ โรบินสัน!เ ธอสวยจนมองแล้วประสาทลั่นเปรี้ยะ โลกหมุนคว้าง ลมหายใจขาดเป็นช่วง ๆ ราวเครื่องยนต์สำลักน้ำมัน นี่มันอาการแพ้ความสวยชัดๆ ยาที่กินหมดฤทธิ์แล้ว ช่วงเวลานั้นผมกลับกลายเป็นคนธรรมดาผู้อ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรงในการขัดขืนต่อต้านความสวย ผมกำลังจะตายทั้งเป็นเพราะความสวย!

พื้นใต้เท้าพลิกวูบ แล้วทุกสิ่งก็ดำมืด

+++++++




 

Create Date : 17 มีนาคม 2553
9 comments
Last Update : 17 มีนาคม 2553 15:23:03 น.
Counter : 801 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 17 มีนาคม 2553 16:14:20 น.  

 

ยังไม่ได้อ่าน ทั้ง 3 ตอนเลยครับ เด๋วว่างแล้วจะลุยลูกเดียว หมู่นี้ตาไม่ค่อยดี จ้องจอนานๆไม่ค่อยได้ สีแดงแยงลูกกะตาแสบไปหมด 55

ค่อยกลับมาวิจารณ์หลังอ่านจบนะครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 17 มีนาคม 2553 21:10:41 น.  

 

 

โดย: Setakan 17 มีนาคม 2553 21:19:30 น.  

 

อ่านจบแล้วทั้ง 3 ตอน คุณคือนักเขียนผู้มีจินตนาการสุดยอด แนวเรื่องที่อ่านมาทั้งหมด ไม่เหมือนใครเลย น่าจะเสนอตามสำนักพิมพ์ต่างๆอีกครั้ง เพื่อแจ้งเกิดในวงการน้ำหมึกครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 18 มีนาคม 2553 15:00:07 น.  

 

โอว...เจอบ๊อกนักเขียนอีกแล้ว ดีมากๆเลย

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 18 มีนาคม 2553 16:20:53 น.  

 

ใช่แล้ว แม่อ้วนคนที่สวยที่สุด ชมว่าสวยเข้าหน่อยเดียว เปลี่ยนช่องคอมเมนท์เป็นลูกสาวเสียนี่

ไม่แน่นะ ต่อไป.. คุณ..อาจจะเป็นนักเขียนรางวัลซีไรท์ ก็ได้ ใครจะไปรู้ จริงไหมครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 18 มีนาคม 2553 21:20:29 น.  

 


คุณ หาแฟนตัวเป็นเกลียว:
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย แฮ่ะๆ

----

คุณปลายแป้นพิมพ์:
ขอบคุณครับที่กรุณาชี้แนะหลายๆ เรื่องซึ่งล้วนแต่ดีและน่าคิดครับ โดยเฉพาะการเข้ามาอ่านงาน "หลุดโลก" แบบนี้
ตลาดรับยากครับ อย่าลืมมาอ่านตอนจบนะครับ
อีก 2-3 วัน
รับรองไม่ใครทายตอนจบถูก
เพราะผมเองยังทายไม่ถูกเลย ฮา



------

คุณ Setakan :
ขอบคุณครับที่เข้ามายิ้ม

----

คุณ แม่อ้วนคนสวย W
ขอบคุณที่แวะมาครับ
ยินดีๆๆ

-------

คุณปลายแป้นพิมพ์อีกครั้ง :
ลองเข้าบล็อคคุณแม่อ้วนคนสวยแล้วเหมือนกันคับ
น่ารักมาก แฮ่ะๆๆ

 

โดย: Psycho man 18 มีนาคม 2553 21:50:23 น.  

 

รอตอนจบอยู่ครับ งานเขียนประเภทที่หักมุม คนเขียนเองยังทายไม่ถูกเลยนี่ เป็นงานที่น่าติดตามนะครับ เชื่อพ้มเถอะ งานของคุณมีค่ามาก แต่ต้องเจอกับสำนักพิมพ์ที่ บก. "หลุดโลก" เหมือนกันนะ คุณถึงจะแจ้งเกิดได้ 555

มีเรื่องตินิดหนึ่ง ซึ่งคุณอาจจะไม่ให้ความสนใจมากนัก คือ เรื่องคำผิด คำเกิน (มีเยอะ) นี่ผมบอกคุณเลยนะ ถ้าให้คนเชี่ยวชาญภาษาระดับ บก.นิตยสารอย่าง "นักล่าน้ำตก" มาอ่าน คุณโดนสวดแน่ ผมยังเคยโดนเธอ "เหน็บ" มาแล้ว

ขานั้นภาษาเขาสวยมาก เดี๋ยวผมจะแนะนำให้เธออ่านผลงานของคุณนะครับ รับรองว่าเธอต้องมีคำแนะนำดีๆให้คุณแน่ คุณว่างก็ลองไปสัมผัสงานของเธอซิครับ แม้ว่าจะเดินคนละแนวกันก็ตาม

อย่างเรื่องหวานรักร้านขนม สนุกมาก ผมงี้เม้นท์จนน้ำลายไหลเลย (บางตอน) กร๊าก..

แต่ว่า..เธอชอบใส่เสื้อสีแดงนะ 5555

(แซวนะ ผมเองก็ช้อบ... เหลืองมั่ง แดงบ้าง กร๊าก )

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 20 มีนาคม 2553 4:38:41 น.  

 

โดนเข้าให้แล้วไง

 

โดย: มาโซคิส IP: 110.49.241.218 31 ตุลาคม 2555 9:21:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Psycho man
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add Psycho man's blog to your web]