เรื่องเล่าวันอาทิตย์ Manga Mania
วันอาทิตย์นี้ฉันมีกิจกรรมหลายอย่างจนอดเอามาเล่าขึ้น blog ไม่ได้ (ใครจะอ่านก็ตามสบาย)
เรื่องที่ 1 Managa Mania by FM88.5 ณ Central World Plaza
งานนี้ไม่ได้ตั้งใจไป เลยไม่มีรูปมาฝาก แต่เดิมนั้นวางแผนไว้ว่า จะไปเซนทรัลพระราม 3 เพื่อกิน Mr.Bun ขนมยอดฮิตแล้วทำธุระอีกนิดหน่อย แต่เมื่อได้ยินว่าจะมีงาน Manga Mania ที่ Central World วันที่ 19 มี.ค. 49 นี้ เห็นว่าคุณ Es จะไป Cos เป็น Mello เสียด้วย ก็เลยว่า แวะไปดูสักหน่อย ไหนๆ ก็อยู่ในเส้นทางเดินทางกลับบ้านได้
ไปถึงเกือบๆ บ่าย 2 โมงแล้วล่ะ Central World ที่ตอนนี้แปลงสภาพไปเหมือนป้อมปราการลึกลับ เต็มไปด้วยมหัศจรรย์เขาวงกต เดินไม่ดีอาจจะหลงทางจนแก่ตายอยู่ในห้างได้ (จะประชดประชันไปถึงไหนนี่ฉัน ?)
ไม่มีป้ายบอกงาน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เอ๊ย... งานอยู่ที่ไหน ? หลังจากถามยามไป 3 คน วิ่งขึ้นลงทั่วห้าง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา Cosplay ที่ถ้างานใหญ่คุณจะเห็นเดินกันเป็นกลุ่มๆ อย่างน้อยก็เดินหาห้องน้ำแต่งตัว หรือเดินหาของกิน ฉันหลงทางระทึกอยู่ในห้าง มีอยู่หนหนึ่ง ยามบอกให้ลงไปถึงชั้นจอดรถใต้ดิน แล้วขึ้นมาชั้น P เนื่องจากระหว่างรอลิฟต์นานมาก ประหยัดพลังงานช่วงชาติ และเห็นว่าชั้น P น่าจะอยู่ถัดจากชั้นใต้ดินไปสัก 1 ชั้น ก็เลยตัดสินในเดินขึ้นบันได แต่พอเดินขึ้นไป กลับเจอชั้น G เอาวะ เดี๋ยวชั้นต่อไปก็ชั้น P เอง .... เดินต่อ ... เฮ้ย....ทำไมมันเป็นชั้น 1 ? เอาน่า เดี๋ยวก็ชั้น P วิ่งขึ้นไปต่อ... จนถึงชั้น 3 ... ชั้น P อยู่ไหน ????!!! มันน่ากลัวมากเลยนะ ตึกมันเงียบจัด และบันไดก็ร้างมาก เหมือนในหนังผี The Shutter เลย วิ่งวนอยู่ที่เดิม
จนในที่สุด ต้องกลับมาตั้งต้นที่ชั้น G ใหม่ ถามยามแล้วประกอบกับเดินตามน้องๆ (มั้ง ?) กลุ่มหนึ่งที่มาถามยามทางไปงาน Manga Mania เหมือนกัน (คาดว่าวันนี้ยามคงตอบคำถามนี้หลายเที่ยว) ถึงได้ไปถูก คือ ลานหน้าตึกฝั่งพระราม 1 นั่นเอง
พบว่า บริเวณงานหนาแน่นและคับคั่งไปด้วยเหล่า Cosplay และทีมงาน ด้านนอกหนาแน่นไปด้วยทั้ง Cosplay และบูธหนังสือ Model และเกมส์ อ๊ะ... อย่านึกว่าคลาคล่ำราวกับงาน Animation ที่ศูนย์สิริกิติ์ เนื่องจากบริเวณแคบมาก อุณหภูมิสำหรับทำเนื้อแดดเดียวหรือกล้วยตาก คือ ร้อนแล่บ เกรียม เมื่อมองไปทางเวที พบกลุ่ม AF2 กำลังเล่นกับพิธีกรที่มากพอๆ ตั้งทีมบาส full team แข่งได้ กิจกรรมบทเวทีพยายามลากให้เกี่ยวกับการ์ตูน แต่ดูเหมือนแขกรับเชิญไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ทำไงได้ คนเค้าไม่ได้เป็นผู้นิยมการ์ตูนนี่นะ สรุปแล้ว กิจกรรมบนเวทีไม่ค่อยเกี่ยวกับการ์ตูนสักเท่าไหร่ นอกจากโปรโมตนักร้อง แต่ใครจะสนล่ะ ? ในเมื่อ ณ ที่นี้เหล่า Cosplayers ต่างเบียดเสียดยัดเยียดกันเยอะกว่าคนมาดูงานเสียด้วยซ้ำ
เนื่องจากบริเวณงานร้อนสาด และไม่มีที่ให้นั่งชมเวที (ยืนลูกเดียว) เหล่า Cosplayers ส่วนใหญ่จึงหลบร้อนไปอยู่ในอาคารที่มีแอร์มากกว่า
ก็นับว่าผิดจากความคาดหมาย จากที่ไม่ค่อยอยากไปงานนี้สักเท่าไหร่เพราะ ไม่ได้ยินประชาสัมพันธ์งาน ไม่รู้คอนเซปท์งาน ไม่มีโปรแกรมงาน ไม่มีโดจินชิออกใหม่ เท่าที่คิดไว้คือ น่าจะไปเจอพวก Cos นารุโตะหรือพวกโดราเอมอนของเด็กๆ มากกว่า ช่วงนี้ยิ่งโปรโมตหนักอยู่ด้วย ก็เลยตั้งเป้าไว้คือ Just to take a look เฉยๆ
ตอนไปไม่เจอโดจินชิแล้ว ได้ยินมากว่า มีมาออกด้วยเหมือนกัน Y เสียเป็นส่วนใหญ่ (ใจกล้ามากนะ หัวเราะ) แต่น้อยมาก ไปช้าอด (ขายดีเหมือนเดิม ?)
ที่ Cos ส่วนใหญ่ก็เป็น Final Fantasy, Tsubasa Reservoir Chronicle, Naruto นอกนั้นก็เป็นส่วนน้อย ที่แอบประทับใจ มีคน Cos จากเรื่อง ซามูไรพเนจร ด้วย จำชื่อตัวละครไม่ได้ แต่ก็ตัวร้ายที่มีผ้าพันแผลเต็มตัว
ส่วน Death Note ที่ตั้งใจมาดู ก็มีน้อยประปราย ส่วนใหญ่ก็เป็นมิสะ กว่าจะเจอกลุ่มของคุณ Es ก็เดินวนอยู่นาน คุณ Es เป็น Mello ที่อรชรอ้อนแอ้นมาก (คุ.... Mello Uke จงเจริญ!) ส่วนน้องที่คอสเป็นเนียร์ตัวเล็กๆ น่ารักมาก ถ่ายรูปออกมาแล้วขึ้นกล้องมาก น่ารักๆๆๆ หวังว่ารูปที่ฉันช่วยเขาถ่ายคงไม่เสียนะ ยิ่งเป็นพวกแพ้กล้อง Digital เสียด้วย (ไปถ่ายงานไหนเบลอตลอด ยกเว้นไปถ่ายงาน J-Rock Winterภาพใสปิ๊งเชียว ไสยศาสตร์มีจริง!) หลังจากเกะกะคุณ Es อยู่พักหนึ่ง ก็ขอตัวออกมาเพราะอาการ Over Heat ชักกำเริบ รู้สึกกระเพาะตัวเองเหมือนลูกโป่งเพราะดื่มน้ำมาก เดินทีได้ยินน้ำในกระเพาะเขย่ากรอกแกร๊ก (อัด Mr. Bun ไป 4 ชิ้น Moolate 1 แก้ว ชาเขียว 1 ขวด.... กินเกลี้ยงไม่เหลือซาก) ก่อนที่จะคายของเก่า เลยกลับบ้านดีกว่า เพราะไม่มีที่นั่งดู Cosplay ที่ยังร้อนแล่บ แถมโปรแกรมขึ้นเวทีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ด้วย ไม่อยากรอโดยไร้ความหมาย แต่หลังจากนั้นได้ข่าวว่า กว่าจะได้อัญเชิญกันขึ้นเวทีก็เย็นย่ำมากแล้ว และประกาศผล 2 ทุ่มครึ่งนู่น Cosplayers หนีกลับบ้านก่อนไปหลายทีม
ส่วนผลการประกวดคอสเพลย์ติดตามจาก ห้องการ์ตูน เฉลิมไทย
=================================
เรื่องที่ 2 Fullmetal Alchemist จบซะแหล่ว
จบแบบที่ว่า เอ๋.... จบแล้วเหรอ ?! แต่คิดดูอีกที ดีใจที่จบ ชีวิตจะได้หมดห่วงหมดบ่วงเสียที จะว่าไปแล้ว หลังๆ มานี่ ดูแบบฝืนๆ ให้มันจบไปซะทีมากกว่า เพราะเนื้อเรื่องมันเข้าใกล้สุสานหิ่งห้อยของ Miyazaki ไปทุกทีแร้วว์ อะไรจะโศกสลด รันทด พลัดพราก พรากพี่พรากน้อง พรากญาติติโกโหติกาขนาดน้านนนน.... ไม่ขอวิจารณ์มากกว่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการรุมประชาทัณฑ์ ความจริงแล้ว เรื่องมันอาจจะสนุกมากจริงๆ ก็ได้ ไม่งั้นคงไม่ดังระเบิดที่อเมริกาและคว้ารางวัลในญี่ปุ่นมาเยอะแยะ ให้ฉันสันนิษฐานเหตุที่ไม่ประทับใจ FMA ภาค anime เลย คงเป็นเพราะ ITV หั่นแหลก ห้วนๆ ไร้รสนิยม หั่นเสียจนไม่เหลือความละเอียดอ่อนของเนื้อเรื่อง เรื่องมันเลยกลายเป็นไอ้พี่น้อง 2 ตัว กระเสือกกระสนเอาแขนขาและร่างกายกลับคืนมา โดยไม่สนใจหน้าอินหน้าพรหมบิดามารดาที่ไหน เดือดร้อนกันถ้วนหน้า ??!! สรุปแล้ว อยากดูแบบครบถ้วน ควรไปหาฉบับดูใช่ไหม ? เสียเงินอีกล่ะสิ ? จริงๆ น้า ... ไม่มีอะไรฟรีในโลก เอ๊ย... ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไรไป
แต่ข้อดีของมันยังมีอยู่ .... คือ .... Y กระจาย ช่าง Y แบบไม่เกรงใจคนเล้ย..... กร๊าก !!! .... เพราะงี้แหละถึงได้ตามดูทุกเสาร์-อาทิตย์
ยกตัวอย่างที่ชวนอึ้ง ตอนที่สการ์พร่ำเพร้อถึงความรักของพี่น้อง ไม่ว่าจะฟังยังไง มันแฝงด้วย Passion เต็มเหนี่ยวเกินพี่น้องชอบกล อืมม์.... incest ของแท้ ??! หรือ รอย มัสแตงที่ไล่ล่าพี่น้องเอริค แต่พอจับตัวได้ สิ่งที่รอยตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ดคือ ทำไมถึงไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากฉัน ? โห..... ลงทุนมากจริงๆ หรือ ตอนที่ 51 ระหว่างที่ Envy แปลงร่างเป็นคนที่เอ็ดรู้จัก แต่เอ็ดยังต่อย Envy อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นบิดา มารดาหรือผู้มีพระคุณ แต่พอกลายเป็นรอย... เอ็ดชะงักไปกึกหนึ่ง ก่อนที่จะต่อยต่อ.... วิ้ววววววว.....
นี่ยังได้ยินมาว่าภาค Movie Y กระจายมากกว่านี้อีก นี่ก็โหลดมาตั้งแต่ต้นปี ยังไม่ได้เปิดดูเลย.... แต่ท่าทางจะ incest กระจาย เอ่อ... กลับเข้าสาระสำคัญดีกว่า ถ้าอยากรู้เฉลยของเรื่องทั้งหมด ต้องเสียเงินดู Movie นะจ้ะ .... แหม๊ ... ทีม Production ฉลาดเป็นลิงเชียว....
นี่ก็ได้ยินมาว่าจะมี OVA (Original Video animation ? จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ <3 <3) ออกมาให้ชมกัน ดูแล้วเหมือนจะไม่เกี่ยวกับภาค moive เสียด้วย ความจริง เอาภาค manga มาสร้างต่อคงจะไม่เลว เป็นโลกคู่ขนานไปอีกโลกหนึ่งไปเลย (ไหนๆ ก็กู่กันไม่กลับแล้ว) อยากเห็นพวกตัวละครจากประเทศชิน
ก็หวั่นๆ อยู่ว่า ภาค manga จะจบแบบเดียวกับ anime เหมือนทฤษฎีอนาคตเดียวกัน แม้จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก็ตาม สุดท้ายแล้วเอ็ดกับอัลก็ต้องเร่ร่อนหัวซุกหัวซุนไปเรื่อยๆ อีกครั้ง ?! (แต่เรายังมีกันและกัน ต่อให้เป็นดาวอังคารก็มีความสุข ?!)
หวังว่า manga คงจะจบสวยโดยไม่ต้องบูชายัญใครอีก ?
================================= เรื่องที่ 3 ขนมยอดฮิต
ไม่น่าเชื่อว่าขนมจากมาเลเซียจะทำให้คนไทยมีความอดทนมากขนาดนั้น ? ได้ข่าวว่ากว่าจะได้กินกัน ต่อแถวกันเป็นชั่วโมงก็ยอม อันนี้เห็นมากับตาทั้งที่สาขาสีลมและสยาม ร้าน Rotti Boy คนต่อแถวกันยาวเป็นงูเชียว เห็นว่ามันกินลำบากนัก ก็เลี่ยงไปกิน Mr.Bun ก็ได้ เห็นว่ามันก็หน้าตาและรสชาติเดียวกัน
ไปถึงเซนทรัลพระราม 3 ร้านกำลังคนว่าง เลยซื้อมา 8 ชิ้น กินกันไป 4 ชิ้น ก็.... อร่อยนะ แต่ไม่ได้อร่อยมากจนถึงขั้นยอมขาแข็งเป็นชั่วโมงเพื่อจะกินให้ได้ กินร้อนๆ อร่อยมาก เพราะอีก 4 ชิ้นที่เหลือไปอุ่นด้วยไมโครเวฟแล้วกิน ไม่เอาอ่าวเลย แม้ว่ารสชาติไม่เปลี่ยน แต่ความกรอบที่เป็นเสน่ห์มันหายไปหมด
แต่ถ้าให้เทียบแล้ว ฉันว่าขนมปังราดด้วยชอคโกแล็ตจนโชกของ Yamazaki อร่อยกว่า อร่อยเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้รักชอคโกแลต ขนมปังจะนุ่มเหนียว ราดด้วยชอคโกแลตหนาประมาณ 0.5 mm ออกมันๆ ขมๆ ไม่หวานมาก อร่อยที่ซู้ดดดดดดด ของโปรดของฉันเลยล่ะ เสียดายที่ไม่มีขายทุกสาขา จะกินต้องถ่อไปเซนทรัลลาดพร้าว ... แต่นึกดูอีกทีก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้ากินมากๆ ฉันก็อ้วนเป็นตุ่มพอดี แค่นี้ก็พุงกลมแล้ว
=================================
เรื่องสุดท้าย .... ทำไมฉันถึงทำอะไรไม่เคยทันเวลาสักที ?
ตั้งแต่ทางต่างประเทศเข้มงวดการตรวจสินค้าเกษตร งานฉันก็พรวดพราดเพิ่มพูนอย่างคาดไม่ถึง ยังมีเจ้าหน้าที่จาก FDA จากอเมริกาและแคนาดา แถมผู้เชี่ยวชาญจาก EU มามะรุมมะตุ้มที่ทำงานอีกด้วย เหนื่อยอ่ะ ประกอบกับช่วงการเมืองก็เครียดด้วย ทำให้อ่อนล้าอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเมลโลไม่ตาย ฉันคงมีกำลังแจ่มใสกว่านี้ ตอนนี้ดีขึ้นมาก แต่ก่อนหน้านั้นเครียดมากๆ (เฮ้อ...)
วันอาทิตย์ที่แล้วหลังจากโหด มัน ฮา พาผู้เชี่ยวชาญจาก EU ไป shopping ที่ตลาดนัดซันเดย์ที่จัตุจักรอีก ฝรั่งทนได้ดีเกินคาด แต่คนไทยอย่างฉันร้อนตับแตก กว่าจะได้กลับ ฉันเกิดอาการ Over heat คือ กระหายน้ำตลอดเวลาเหมือนอูฐ แต่เหงื่อแตกพลั่ก สุดท้ายก็ปวดหัว ตกวันจันทร์ก็ต้องไปต่างจังหวัด กลับมาเกือบเที่ยงคืน ก็เลยล้าๆ ช่วงนี้จะล้ามาก
Fanart Death Note ก็ไม่ได้ทำต่อ เรื่องก็(ลือกันว่า)จะอวสานแล้ว พอๆ กับ Fanart Fullmetal Alchemist ที่ Anime แซงจบไปก่อนที่ฉันจะทำอะไรกับ FanArt ของตัวเองเสียอีก คิดๆ ไปตัวเองนี่ไม่สามารถทำอะไร on time ได้เลยนะ นี่ก็เลยเป็น blog แรกที่ไม่มีภาพประกอบ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตอนนี้โดยไม่เบื่อไปเสียก่อน
Create Date : 22 มีนาคม 2549 |
|
2 comments |
Last Update : 22 มีนาคม 2549 12:33:10 น. |
Counter : 866 Pageviews. |
|
|
|
แต่อย่าท้อกะเมลโลบ่อยนักจิ รออ่านตอนต่อ deathnote นะคับ สู้ๆ