มุมพักผ่อนของคนอยากเขียน
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
22 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
เพียงเปิดใจ 3.1


บทที่ 3




ไม่คาดคิด


    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้พีร์ธาดาค่อนข้างคัดงานเป็นพิเศษโดยเน้นเฉพาะนางแบบหรือไม่ก็ที่เป็นดาราเท่านั้น และอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ก็ถึงเวลาที่เธอต้องเข้าพิธีดูตัวที่รับปากกับผู้มีพระคุณทั้งสอง นั่นทำให้เธออดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ เพราะห่างหายจากการทำอะไรเช่นนี้มานาน ทั้งผู้ปกครองทั้งสองยังให้ความสำคัญกับงานนี้มากจนเธออดแปลกใจขึ้นมาอีกครั้ง



   วันก่อนพีร์ธาดาต้องไปเข้าคอร์สขัดผิวกับคุณหญิงปวริศรา หลังจากนั้นก็ต้องเข้าคอร์สควบคุมน้ำหนัก นวดหน้า และอีกสารพัดคอร์สเพิ่มความสวยตามเข้ามา ถึงแม้จะเหนื่อยแต่พีร์ธาดากลับรู้สึกสดชื่นไม่น้อยที่ได้ปะทินโฉมครั้งใหญ่แบบนี้


แหม ของฟรีราคาแพงแถมพ่วงความสวยแบบนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหนกันละ


    พอถึงวันงานจากสาวเซอร์สุดมั่นก็เปลี่ยนโฉมเป็นพญาหงส์สุดเซ็กซี่อีกครา ด้วยผมซอยสั้นของเธอถูกตกแต่งโดยช่างมืออาชีพอย่างเก๋ไก๋ แต่งหน้าไม่หนา แต่ก็ไม่เรียบจนเกินไปโดยเฉพาะดวงตาที่ถูกแต่งอย่างสวยงามเป็นพิเศษ สาเหตุจากเพราะ 'พี่กุ๊กไก่' ช่างแต่งหน้าชอบดวงตาของเจ้าหล่อนนั่นเอง พร้อมชุดเดรสสีเลือดนกเรียบเข้ารูปตัดเฉียงเผยสัดส่วนตามชุดให้รับรู้ หน้าอกพอดีตัว เอวบางเว้า สะโพกสวย เรียวขาขาวยาวภายใต้ชุดที่ข้างหนึ่งยาวเหนือเข่า ส่วนปลายอีกข้างยาวเลยมาไม่มากนัก แต่แฝงความเซ็กซี่ด้วยสายสปาเก็ตตี้สองเส้นเผยหัวไหล่เนียนขึง และแผงหลังขาวเรียบสวยของเจ้าหล่อนอย่างพองาม เมื่อมีเครื่องประดับทับทิมเล็กเข้าสีกับชุดพ่วงเข้าไปด้วยนั่นทำให้พีร์ธาดาดูสวยและสง่าขึ้นเข้าไปอีก


    "แกสวยจริงๆ พีช ผู้ชายไม่เหลียวหลังมองมาเตะก้านคอฉันได้เลย" อินทิราชมเพื่อนจากใจจริง


    "แกมั่นใจเหรออิน ว่านี่คือการดูตัวไม่ใช่จับผู้ชาย ทำไมมันดูเปรี้ยวแบบนี้ล่ะ" พูดจบก็พลางหมุนตัวอีกสักรอบ


    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน หม้าเป็นคนเลือกชุดนี้ให้แกเอง บอกฉันว่าอยากให้เป็นตัวแกที่สุด ฉันไม่ได้เห็นแกแต่งแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะพีช"


    อินทิรารำลึกความหลังครั้งก่อนโน้นที่พีร์ธาดาชอบแต่งตัวเข้าสังคมเซเล็บกับเธอเพราะความสนุกเป็นประจำเสมอ โดยพีร์ธาดาจะแต่งตัวเปรี้ยวแนวเซ็กซี่ ส่วนอินทิราจะแต่งหวานแอบเซ็กซี่ แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องอดีตงานหมั้นขึ้นมา พีร์ธาดาก็เนรเทศตัวเองออกจากสังคมนั้นไปเลย ไม่ใช่เพราะอายที่ถูกนินทาหรอก เพียงแต่เจ้าหล่อนไม่อยากหาเรื่องตบตีใครเข้าให้เป็นข่าว


    "ฉันว่ามันดูไม่สุภาพนะอิน ฉันเห็นป๊ากับหม้าให้ความสำคัญกับงานนี้มาก แล้วฉันแต่งแบบนี้ฝ่ายนู้นจะไม่หาว่าฉันไปอ่อยลูกชายเขาเหรอ" ไอ้ชอบมันก็ชอบอยู่หรอก แต่แบบนี้มันไม่มากไปหน่อยเหรอ


    "ก็ดีสิ แกจะได้เจอผู้ชายคนใหม่ซะที ถ้าหน้าตาดีก็ตีหัวรวบหางพาไปจดทะเบียนซะเลย"


    "บ้าเหรอแก พูดเป็นเล่นไป ฉันคิดจริงนะ" ขอบใจนะไอ้อิน



    ห้องรับประทานอาหารส่วนตัวห้องหนึ่งของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงซึ่งถูกตั้งเป็นสถานที่ดูตัวในครั้งนี้ถูกประดับอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ฝ่ายชายตามคำบอกเล่าของเจ้าสัวนพชัย โทนขาวผสมน้ำตาลดูเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ตามที่พีร์ธาดาคิดผู้ชายคนนี้รสนิยมไม่เลว ตรงตามความชอบส่วนตัวของเธอ


    ฝ่ายพีร์ธาดามาถึงก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย ตัวเธอนั้นหยุดความประหม่าได้ตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้ได้แล้ว แม้จะเจอสายตาที่จ้องมองมานับไม่ถ้วนก็เถอะ แต่ทำไมผู้ใหญ่ทั้งสองของเธอกลับดูนั่งไม่ติดยังไงชอบกล


    "ป๊า เขาจะมากันรึยัง หม้าตื่นเต้นจะแย่แล้ว" พูดไปก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองสาวที่วันนี้สวยเป็นพิเศษข้างกายด้วยแววตาสำนึกผิดบวกความไม่แน่ใจ


    "สำรวมอาการหน่อยคุณ" เจ้าสัวนพชัยหันไปเอ็ดภรรยาอย่างไม่จริงจังพร้อมกุมมือทั้งสองข้างเอาเพื่อลดอาการเกร็งของคุณหญิงปวริศรา


    "มาแล้วป๊า" คุณหญิงปวริศราบอกเสียงตื่นเมื่อหันไปเห็นประตูเลื่อนออกพร้อมการมาของฝ่ายชาย


    "สวัสดีคะคุณหญิง สวัสดีคะเจ้าสัว ขอบคุณนะค่ะที่รักษาสัญญา... สวัสดีจ๊ะหนูพีช"


    เสียงคุ้นหูของหญิงนิรนามที่ลอยเข้ามาปะทะหู พีร์ธาดาอดไม่ได้ที่จะหันไปดูที่มาของเสียงดังกล่าว แต่กลับต้องตกใจตาโตเมื่อเห็นว่าผู้ชายที่มาดูตัวในวันนี้เป็นใคร ก่อนพึมพัมเสียงออกจากลำคอ


    "ป้านิศา พี่ก้อง ! ... สะ สวัสดีคะ" เฮ้ย แล้วทำไมถึงมาดูตัวลูกป้านิศาได้ล่ะนี่


    "สวัสดีครับคุณหญิงป้า สวัสดีครับลุงเจ้าสัว สวัสดีครับน้องพีช" ก้องภพโค้งหัวทักทายเล็กน้อยให้กับหญิงสาวที่ตอนนี้ตกใจจนลืมสวยไปแล้ว


    "หม้าขอโทษที่ไม่ได้บอกพีชนะ หม้ากลัวหนูไม่มา" คุณหญิงปวริศราหันสีหน้าที่สำนึกผิดพร้อมเอ่ยเสียงเบากับลูกสาวต่างสายเลือด พีร์ธาดาคิดว่าแม่ลูกคู่นี้น่าจะได้รางวัลออสก้าร์พร้อมลูกโลกทองคำไปครอง จริงใจกันเหลือเกิน


    ก้องภพยื่นมือออกไปเพื่อแสดงการทักทาย แต่ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มอดขำไม่ได้เมื่อพญาหงส์ได้กลายร่างเป็นลูกเป็ดตัวน้อยตกใจตาโต แถมปากยังอ้าอย่างไม่เกรงใจนั่นอีก ก้องภพอยากเอื้อมมือไปหยิกแก้มนั้นแทนการยื่นมือทักทาย พร้อมนึกถ้าเพราะเพื่อนตัวดีไม่ทำไว้แซบ ถ้าเพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนผิดหวัง และถ้าเพราะเขากล้ามากกว่านี้ เขาอาจได้ครอบครองสาวในชุดเพลิงยั่วเย้าสายตาแล้วก็เป็นได้ แต่อนาคตย่อมไม่มีใครล่วงรู้ ถึงวันนี้จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ก็คงยังไม่สายเกินไป ผิดแค่ว่าเจ้าตัวจะกล้าพูดออกมาให้สาวในใจรู้เมื่อไหร่...


    พีร์ธาดาจำต้องยื่นมือไปสัมผัสกับผู้ชายตรงหน้า พร้อมคิดกลับไปจะเอามือแช่แอลกอฮอล์สักสองชั่วโมงฆ่าเชื้อโรค


    "สวัสดีค่ะคุณก้องภพ ไม่คิดนะคะว่าจะเป็นคุณ" เพราะถ้ารู้ฉันคงไม่มาหรอก


    "ดีใจนะครับที่พบกัน วันนี้พีชสวยมาก ผมแทบจำไม่ได้แหนะ" ก้องภพชมจากใจจริงหากแต่สีหน้ายังคงสร้างความหงุดหงิดให้หญิงสาวอยู่ดี "ผมก็กลัวน้องพีชลืมไปแล้วซะอีก" เรื่องเลี้ยงข้าวนะ จำได้ไหม


    "แหม ใครจะไปลืมผู้มีพระคุณอย่างคุณก้องได้ลงล่ะคะ" ชาตินี้ฉันจะไม่ติดหนี้บุญคุณนายอีกเด็ดขาด


    "ดีครับ เพราะผู้หญิงสาวและสวยอย่างพีชคงไม่ขี้หลงขี้ลืมง่ายหรอกใช่ไหมครับ" ปากมันเคยชิน กัดนิดกัดหน่อยไม่เป็นไรหรอกเนอะ ก้องภพยิ้มให้จนตาหยี


    อีตานี่หลอกด่าว่าฉันแก่เหรอ ยอมได้ที่ไหน ไว้ก่อนเถอะแม่จะเล่นให้วิ่งหนีห่างจุกตูดกลับบ้านไปเลย


    ก่อนที่ทุกอย่างจะไปได้สวยจนเกินไป นิศามารดาของก้องภพจำต้องหยุดการสนทนาของทั้งคู่ไว้ชั่วคราว


    "ตาก้อง พอแล้ว" เพราะรู้ว่าลูกชายตัวดีชอบแกล้งหญิงสาวมาก แม้บทสนทนาจะดูธรรมดาสำหรับคนภายนอก หากแต่คนภายในย่อมรู้ดีว่านี่คือสงคราม "ป้าเห็นด้วยกับตาก้อง หนูพีชสวยมากจ๊ะ ป้าชอบที่หนูเป็นตัวเองแบบนี้" นิศาบอกเสียงนุ่มหวานผสมกับรอยยิ้มแกมเอ็นดูส่งให้สาวที่ถูกชม


    พีร์ธาดาอดเขินไม่ได้กับคำชมของหญิงสูงวัยกว่าตรงหน้า เธอชอบป้านิศาของเธอตั้งแต่แรกพบ ผู้หญิงที่มีใบหน้าที่อ่อนโยน ตาหวาน ใบหน้ารูปไข่ โดยเฉพาะเวลายิ้มนั่นยิ่งทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยมีเรื่องทุกข์ใจอยู่บ้างไหม เพราะแววตาที่ยิ้มไปด้วยมันช่างทำให้โลกนี้ดูสดใสเสียเหลือเกิน และเป็นข้อที่เธอไม่อยากยอมรับเลยว่าก้องภพได้ส่วนนี้จากแม่ของเขามาเต็มๆ ใบหน้ายาวรูปไข่ กับตาหวาน พร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์


    "ขอบคุณค่ะ แต่พีชก็สวยเป็นปกตินะค่ะเนี่ย" แหม พูดไปก็เขินไป แต่เรื่องจริงเป็นสิ่งไม่ตาย "ป้านิศาก็สวยเหมือนเดิมคะ ดูใบหน้าจะอ่อนวัยขึ้นอีกยิ่งพอมากับคุณก้องแล้วนึกว่าเป็นน้องสาวนะค่ะ"


    นั่นเรียกเสียงหัวเราะและผ่อนคลายให้กับทุกคนได้ ยกเว้นแต่ชายหนุ่มที่ถูกพาดพิงถึง ชมมารดาเขาหน้าเด็กไม่ว่า แต่มาว่าเขาเป็นพี่ของแม่นี่มันเข้าข่ายหน้าแก่มันรับไม่ได้


    "แล้วสนใจอยากมาเป็นป้าสะใภ้แม่ผมมั้ยหละพีช" จบประโยคแทรกของหนุ่มโสดคนเดียว ทำให้ทั้งวงต่างฮา... กริบ


    "ตาก้อง พูดอะไรแบบนั้น ลามปามใหญ่แล้วเรา" นิศาส่งค้อนวงใหญ่ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่นั่นอย่าหวังจะทำให้ลูกชายกลัวเชียว เพราะไอ้ค้อนแบบนี้แหละ คนที่อยู่กับแม่มาตลอดย่อมรู้ดีว่าเป็น 'ค้อนถูกใจ' แล้วมีหรือที่คนอย่างพีร์ธาดาที่คลุกคลีกับครอบครัวนี้มาเกือบครึ่งชีวิตจะไม่รู้เชียวว่าเป็นค้อนแบบไหน


    "ไม่ได้นะตาก้อง ป้าไม่ยอมให้มีการเร่งรัดเด็ดขาด ยัยพีชก็ลูกป้าคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้ายัยพีชไม่ตกลงหรือยังเรียนรู้กันไม่ดีพอ ป้าไม่ยอมยกลูกสาวป้าให้เด็ดขาด ที่เรียกดูตัววันนี้เพราะอยากให้ก้องรู้ว่าป้าไม่ว่าอะไรหากเราจะเข้าตามตรอกออกตามประตู... ไม่ว่าอะไรนะนิศา หากฉันต้องการแบบนี้" คุณหญิงปวริศราต้องออกตัวก่อนเพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย


    "นิศาเข้าใจค่ะคุณหญิง นิศาไม่เร่งรัดอะไรแน่นอน ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเด็กๆ เขา พวกเราก็ทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ ... ว่าแต่ทำไมหนูพีชเรียกพี่เขาว่าคุณล่ะจ๊ะ"


    "ไม่เป็นไรแม่ ผมไม่ถือ" หากแต่สายตาที่ส่งกลับไปให้มารดา มีแววของความขี้เล่นอยู่ไม่น้อยเหมือนบอกเป็นนัยว่า 'อีกไม่นานจะทำให้พีชเรียกเขาแบบเดิมเอง'


    "เดี๋ยวคะ เดี๋ยว พีชงงไปหมดแล้ว อะไรกันค่ะ พีชงงตั้งแต่รู้ว่าคู่ดูตัวเป็น 'คุณก้อง' แล้ว ยังมาเร่งรัดเรื่องอะไรนี่อีก ใครช่วยอธิบายให้พีชเข้าใจหน่อยได้มั้ย พีชกับ... คุณก้องนี่นะ หึ๋ย" ต้องเน้นสรรพนามให้ทราบถึงความต้องการที่จะไม่เปลี่ยนแปลง และถึงตรงนี้พีร์ธาดากลับรู้สึกไม่สนุกด้วยแล้ว อยู่ดีๆ เธอต้องมานั่งดูตัวกับคู่อริตลอดกาล แถมทุกคนดูเหมือนจะรู้แล้วอีกว่าคนในวันนี้จะเป็นก้องภพกับเธอ ไม่ใช่กับอินทิราบุตรีตัวจริงของผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง แต่หากใช่ไอ้อินจริงทำไมเธอกลับรู้สึกเหวงในช่องท้อยด้วยก็ไม่รู้


    เมื่อจบคำประกาศิตของสาวเจ้าต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอ้ำอึ้ง ครั้นจะบอกว่ารู้ทุกเรื่องก็พูดไม่ออก ประกอบกับทั้งไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มตัวตั้งตัวตีคิดยังไงกันแน่ก็ไม่ทราบแน่ชัดจึงเกิดอาการน้ำท่วมปากกันเป็นแถบ สายตาทุกคู่ต่างเริ่มทยอยหันไปมองหนุ่มที่ว่ากันที่ละคู่เพื่อหวังให้พูดอะไรออกมาบ้าง เมื่อเห็นอาการนิ่งหน้าเหรอหราแทนก็ฟันธงได้ว่าหนุ่มคนนี้ย่อมเกิดอาการไม่กล้า หรือคิดหาคำพูดเหมาะๆ ไม่ทันแน่นอน ชายอาวุโสสุดในกลุ่มจำต้องหาทางออกให้แทน


    "ป๊าว่าถึงตรงนี้ลูกน่าจะรู้อะไรบ้างแล้ว ถ้าลึกลงกว่านี้พวกเราคนแก่คงให้คำตอบแทนไม่ได้ ลูกต้องไปถามก้องเอาเองแล้วกัน แต่ป๊าว่ามันไม่มีอะไรเสียหายหรอกถ้าเราสองคนจะคุยกัน อย่างน้อยก็เห็นกันมาตั้งนมนาน ป๊าให้ความเห็นได้เพียงเท่านี้แหละ มาอาหารก็พร้อมแล้วมันจะชืดหมด กินกันดีกว่า" เจ้าสัวนพชัยอธิบายพร้อมตัดบทเสร็จสรรพ


    "ขอบคุณสำหรับคำตอบคะป๊า" ชัดเจนมากคะป๊า อดไม่ได้ที่จะประชดพ่อบุญธรรม และแอบไม่ได้ที่จะส่งสายตาอาฆาตให้หนุ่มอีกคนซึ่งกำลังมองมาพอดี แต่สิ่งตอบแทนคือรอยยิ้มตาหยีที่มีอานุภาพทำลายล้างสายตาอาฆาตได้บัดดล อ๊ากกก ฉันรักรอยยิ้มของป้านิศา แต่ทำไมมาอยู่บนหน้าอีตานี่มันดูกวนประสาทจริง เกลียด เกลียด... จริงเหรอ 


    การรับประทานอาหารเป็นไปอย่างเงียบราบรื่นหากแต่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาได้เสมอ เมื่อบริกรเปิดอาหารทั้งหมดบนโต๊ะก็ได้ยินเสียงอุทานออกจากปากสวยตั้งแต่


    "โห สวรรค์กุ้ง"


    "พีชต้องขออโหสิกรรมก่อนจะกินล็อบสเตอร์ตัวนี้มั้ย เดี๋ยวมันมาเอาชีวิตพีชไปทำไงดีล่ะ"


    "ประชากรกุ้งจะสูญลงเพราะพีชหรือเปล่า"


    แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่ควรพูดคุณเธอก็สามารถพูดออกมาได้ไม่อายปากไม่เกรงใจผู้ใหญ่กลางวงอาหาร "วันนี้พีชจะถ่ายออกมาเป็นรูปกุ้งมั้ยคะ" พร้อมส่งสายตาที่แสดงความสงสัยสุดๆ


    เมื่อของคาวเสร็จก็ต่อด้วยของหวานตามของชอบของตัวเอง นั่นยิ่งตอกย้ำให้พีร์ธาดารู้ว่าทุกคนต้องรู้แน่ชัดว่าเธอจะเป็นคู่ตัววันนี้ เพราะของหวานของเธอคือลอดช่องน้ำกะทิของหวานถ้วยโปรดซึ่งมันวางอยู่ตรงหน้าเธอแล้วตอนนี้


    "ผมขอยืมตัวพีชไว้ต่อได้มั้ยครับคุณหญิงป้า ลุงเจ้าสัว" ก้องภพถามขึ้นเมื่อถึงเวลาของหวาน


    "ตามสบายเลยจ๊ะ แต่ห้ามทำอะไรเกินเลยนะ ป้าไม่ยอมแน่"


    แต่สีหน้ากับคำพูดมันต่างกันมาเลยนะค่ะ คุณหญิงป้า นั่นก็ได้แค่พูดในใจเหมือนเดิม "โอ้ย ไม่เอาอ่ะ พีชง่วงแล้วอยากกลับไปนอน หม้าพีชกลับด้วยนะ"


    "รถเต็ม ต้องไปส่งนิศาอีก ไปกับก้องนั่นแหละ ให้ก้องไปส่ง” เจ้าสัวนพชัยต้องออกโรงเองอีกครา


    "เต็มได้ไง รถคันตั้งใหญ่ เอ้า ถ้าเต็มจริงพีชเสียสละนั่งตักป๊าก็ได้ หรือป๊าจะนั่งตักพีชแทนก็ได้นะ พีชไม่ถือ"


    "แกไม่ถือแต่ฉันถือไอ้พีช มีอย่างที่ไหนจะมานั่งตักสามีฉัน ไปไป๊ กลับกับตาก้องนั่นแหละ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกันต่อในรถ เด็กก็ส่วนเด็ก" คุณหญิงปวริศราเริ่มอัพเลเวลเข้าโหมดเอาแต่ใจไปเรียบร้อย ต่อให้เจ้าสัวก็ไม่สามารถหยุดได้ "แล้วไม่ต้องนั่งแท็กซี่เลยนะ หม้าไม่อยากได้ลูกเขยแบบนั้น"


    "แต่พีช... "


    "ไม่มีตงมีแต่อะไรทั้งนั้น นี่เพิ่งจะสามทุ่มกว่า ปกติกว่าเราจะนอนก็กี่ยามแล้วก็ไม่รู้ ไปคุยกับพี่เขาเถอะ อยากรู้อะไรเผื่อได้รู้ไง ไม่เอาแล้วหม้าจะกลับไปดูละคร ไปป๊า ไปนิศากลับกันเถอะ"


    "ป่าป๊าอ๊ะ หม่าหม้าอ๊ะ โกรธแล้ว งอนแล้ว" ตอนนี้พีร์ธาดาทำได้เพียงแต่ส่งค้อน ส่งเสียงงอนให้กับผู้ปกครองทั้งสอง เพราะรู้ว่าทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนั่นเอง


    "ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลพีชเป็นอย่างดี" ก้องภพพูดขึ้นมาเมื่อได้รับความยินยอมแกมบังคับจากญาติผู้ใหญ่ของอีกฝ่าย


    "ตาก้องดูแลน้องดีๆ นะ อย่ากวนน้องมากนัก ป้าไปก่อนนะคะหนูพีช"


    พีร์ธาดาลุกขึ้นเดินตามไปส่งเหล่าผู้ใหญ่ขึ้นรถล่ำๆ เกือบจะก้าวขึ้นรถตามไปด้วย แต่ต้องหยุดสเตปตัวเองเมื่อเจอรังสีพิฆาตจากแม่เพื่อนสนิท พีร์ธาดาอยากจะตะโกนออกไปถามว่าปล่อยให้เธอต้องผจญกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'ก้องภพ' อยู่แบบนี้ได้เยี่ยงไร


    "ไปครับ รถผมอยู่ทางนู้น" แต่คำตอบที่ได้รับคือการสะบัดหน้าหนี แถมยังทำปากยื่นให้เขาดูอีกทีแหนะ





Create Date : 22 กันยายน 2553
Last Update : 22 กันยายน 2553 17:46:54 น. 0 comments
Counter : 629 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตุยเหมี่ย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"ดากร" ... ณ ตอนนี้ขอเปลี่ยนนามปากกาเป็นชื่อนี้แล้วนะคะ

นามปากกานี้เป็นการดึงชื่อจริงของตัวเองออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (ว่าเข้าไปนั่น)

เหตุที่เปลี่ยนก็เพราะว่า รู้สึกแปลกเล็กน้อยที่เอานางเอกของเรื่องมาทำเป็นนามปากกา มันเขินบวกรู้สึกชาที่หน้าแบบบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้

ดากร ... จำไม่ยากหรอกค่ะ ดากร
< /embed>

Friends' blogs
[Add ตุยเหมี่ย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.