"คุณพีชพร้อมแล้วนะคร้าบ" กลวัฒน์ชายหนุ่มเจ้าของหนังสือที่พีร์ธาดามาถ่ายรูปให้วันนี้เอ่ยขึ้นหลังเห็นพีร์ธาดานั่งลงจัดการกับกล้อง
"คะ คุณหนึ่ง ถ้านางแบบมาแล้วก็เรียกพีชได้เลยค่ะ"
"เอ่อ นายแบบครับไม่ใช่นางแบบ ผมคิดว่าคุณพีชรู้แล้วเสียอีก ไม่มีคนแจ้งไปเหรอครับ สะเพร่าจริงไอ้พวกนี้... พอดีเรามีปัญหากับนางแบบคนก่อน เลยจำเป็นต้องหานายแบบมาแทน ... ตัดปัญหาจุกจิกนะครับคุณพีช"
แล้วทำไมไอ้หมอนี่ต้องยักคิ้วให้ฉันด้วยเนี่ย "แหม อีกหน่อยคุณหนึ่งคงหาช่างภาพที่เป็นผู้ชายสิคะแบบนี้"
"มิได้ครับ ผมทำงานกับผู้หญิงอย่างคุณพีชสบายใจกว่า คุณพีชนิสัยดี ไม่เรื่องมาก ทั้งสวยแถมคุยง่ายอีก ถูกคอดีครับ ผมชอบ"
เหออออออ เจ้อยากตาย "คุณหนึ่งคะ ขอพีชนั่งทำสมาธิสักครู่นะค่ะ"
พีธ์ธาดาไม่ชินกับการถูกกลวัฒน์หลีแม้จะทำงานกับเขาหลายครั้งก็ตาม และหลายครั้งต้องตัดบทเพราะกลัวเผยนิสัยอีกด้านกับคนจ่ายเงิน พีร์ธาดาไม่อยากมีปัญหาตามมา และที่สำคัญกลัวชวดเงินก่อนทำงานเสร็จ
"คุณพีชครับ นายแบบมาแล้วครับ"
"ค่าาาาาา จะไปเดี๋ยวนี้คะ ... เออ แค่นี้ก่อนนะแก ฉันไปทำงานก่อน จะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่อย่าลืมบอกด้วย บาย" พีร์ธาดาวางสายเพื่อนก่อนจะออกไปทำงาน หากไม่เหมือนเคยตรงที่นายแบบกลายเป็นคนที่เธออยากลืมมากที่สุดในชีวิต
"พี่ปิง... " เธออุทานออกมาเบาๆ อย่างไม่คาดคิด
"พีช... "
กรกฏตกใจไม่แพ้กันที่มาเจอหญิงสาวอดีตคู่หมั้นของเขาก่อนพยายามหันหาเพื่อนตัวดีที่ไม่รู้ตอนนี้มันหายไปไหนแล้ว และคาดว่ามันต้องรู้เรื่องแน่นอน
"อ้าว รู้จักกันมาก่อนเหรอครับนี่ ดีครับดี จะได้ทำงานกันง่ายขึ้น เริ่มงานเลยดีมั้ยครับ จะได้ไม่เสร็จค่ำ เกรงใจภรรยาคุณปิงด้วย กำลังท้องกำลังไส้ห่างจากคุณปิงนานๆ คงคิดถึงแย่ ท้องสองแล้วใช่ไหมครับนี่... จะเป็นการถ่ายหนุ่มหล่อแฟมิลี่แมน เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นะครับแทนนะครับ คุณปิงไม่ต้องเกร็ง สบายๆ เลยครับ คุณพีชเขามืออาชีพ"
ผีเจาะปากมาพูดหรือไงไอ้คุณหนึ่งนี่ ไม่ได้ดูสถานการณ์ตรงหน้าเลย แล้วแบบนี้ฉันจะทำงานได้ยังไงเล่า
"เอ่อ พีชขอเข้าห้องน้ำแปปเดียวคะ แล้วเราค่อยมาเริ่มงาน"
พูดจบพีร์ธาดาก็ตรงดิ่งไปห้องน้ำทันที เพื่อไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่มันพุ่งขึ้นมาจุกคอตั้งแต่เห็นหน้านายแบบคนนั้น 'กรกฏ โชติบรรณ' อดีตคู่หมั้นของพีร์ธาดาหนุ่มขาวตี๋ ที่ซ่อนความตี่ของดวงตาไว้ในกรอบแว่นสี่เหลี่ยมผู้เงียบขรึม ดูสุขุม และอ่อนโยน ผู้ที่พาความรักมาให้พีร์ธาดาและก็เป็นคนนำความรักออกไปจากพีร์ธาดาเช่นกัน เธอและเขารู้จักกันจากการดูตัวที่เกิดขึ้นจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย พ่อแม่ของอินทิรามักพาพวกเธอเข้าดูตัวทั้งคู่ตั้งแต่บรรลุนิติภาวะ
เมื่อสาวมั่นมาเจอกับหนุ่มเงียบ กรกฏใช้เวลาไม่นานนักก็พิชิตใจพีร์ธาดาได้ด้วยเพราะความดูสุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่กว่าพีร์ธาดามากทำให้เธอรู้สึกว่าเขาเป็นที่พึ่งได้เมื่อยามเธอต้องการ เมื่อไฟมาเจอน้ำมันก็ติดโดยทันที หลังจากคบกันได้เพียงไม่กี่เดือนกรกฏก็เอ่ยปากขอหญิงสาวหมั้น หญิงสาวตอบตกลงทันทีทั้งยังดีใจสุดชีวิต แต่แล้วความฝันกลับพังทลายไม่เป็นท่า เมื่อในงานหมั้นอย่างเป็นทางการกลับมีผู้หญิงวัยไม่ต่างจากเธออุ้มท้องเข้ามาในงานเข้ามาคุยกับกรกฎ แล้วบังเอิญเจ้าหล่อนดันไปได้ยินในสิ่งที่ไม่คาดไม่ถึง
'พลอยขอให้คุณปิงมีความสุขมากๆ นะค่ะ คุณคงรักเธอมาก' สาวท่าทางเรียบร้อย แม้ใบหน้าจะไม่ได้สวยถึงต้องเหลียวมอง แต่เธอก็ถือว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง
'พลอย... ' พีร์ธาดาไม่ได้อุปมัยไปเองว่าเห็นชายคู่หมั้นแสดงสีหน้าเจ็บปวดขนาดนั้น
'พลอยมาอวยพรแค่นี้ล่ะคะ ขอตัวก่อนนะค่ะ'
'เด็กในท้อง ลูกผมใช่ไหม' ช็อค วินาทีนั้นพีร์ธาดาทำได้แค่เอามือขึ้นมาปิดปาก น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจบีบรัดจนจุกมาถึงลำคอ ความเจ็บปวดที่ไม่เคยเจอมานานตั้งแต่ตอนพ่อตายแล่นเข้ามาทุกอณูความรู้สึกทันทีในวินาทีนั้น เมีย ลูก นี่มันเรื่องอะไรกัน พี่ปิงมีลูกมีเมียแล้ว...
'... ' หญิงสาวชื่อพลอยไม่ตอบคำถามของชายหนุ่มตรงหน้า หล่อนทำเพียงหลบสายตาที่ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดไว้ใต้ดวงตาเรียวเล็ก
'ถ้ามันเป็นแบบนั้น... ' พีร์ธาดาก้าวออกมาจากกำแพง พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น แล้วสูดลมหายใจลึกเข้าปวด 'พี่ปิงต้องทำหน้าที่พ่อที่ดี และต้องเป็นสามีที่ดี พี่ปิงต้องรับผิดชอบเธอ พีชขอถอนหมั้นคะ'
เธอไม่พูดะไรต่อได้แต่จ้องหน้าคู่ตรงหน้าที่ยืนตะลึงจ้องหน้าเธอราวกับเป็นรูปปั้น สาวหม้ายขันหมากสดๆ ร้อนๆ สูดลมหายใจลึกๆ อีกทีแล้วหันหลังเดินออกไปโดยไม่รับรู้เหตุการณ์หลังจากนั้น เธอหายจากทุกคนไปเกือบสามเดือน โดยให้เหตุผลแค่ว่า 'ไปทำงาน' หลังจากเธอกลับมาก็ไม่มีกล้าพูดถึงเหตุการณ์นั้นอีกเลย นั่นก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกสบายใจ และทุกคนก็พร้อมใจกันตัดสินว่าเธอ 'เกลียดการดูตัว' ไปแล้วโดยปริยาย และแน่นอน นั่นคือเรื่องจริง
น้ำเน่าชิบ พีร์ธาดาสบทตอกย้ำใจระหว่างนั่งทำใจในห้องน้ำ สภาพจิตใจเธอดีขึ้นมากจากเมื่อก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับกรกฏอีกครั้งนับจากอดีตงานหมั้นวันนี้ มันนานจนคิดทำใจได้แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอยังรู้สึกเจ็บอกทุกครั้งเวลาเจอเขา จะถอนตัวก็ไม่ได้เสียงานเสียการหมด เฮ้อ เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นเลย... ไม่ใช่เลยจริงๆ นะ
"โอเค พีชพร้อมแล้วคะ เริ่มงานเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา"
"เยี่ยมครับ"
"ไอ้ตุ่นไฟเข้าเลย พี่แมวเช็คแสง ไอ้เค็มพร้อมนะโว้ย" เพราะการมาทำงานที่นี่บ่อยทำให้เธอคุ้นเคยกับทีมงานของนิตยาสารเล่มนี้เป็นอย่างดี "คุณปิงเชิญเลยคะ"
สรรพนามไม่คุ้นหูทำให้กรกฏชะงักเล็กน้อย ก่อนเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง กรกฏทึ่งเล็กน้อยเมื่อเห็นการทำงานระดับมืออาชีพของพีร์ธาดา ตลอดเวลาที่คบกันมาเขาไม่เคยเห็นเวลาหล่อนทำงานแม้แต่ครั้งเดียว และไม่คิดว่าหล่อนจะมีอีกด้านแบบนี้ พีร์ธาดามักร่าเริงเสมอเวลาอยู่กับเขา และไม่เคยเอาเรื่องงานมานั่งคุยกับเขาเลยสักครั้ง
"คุณปิงรบกวนยิ้มทีครับ"
กรกฏทำตามอย่างว่าง่ายเพราะคิดว่าตัวเองต้องมีแต่รูปหน้านิ่งอย่างเดียวแน่นอน โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้ใจของคนหลังเลนส์ปวดแทบชาไปพร้อมกับรอยยิ้มของเขา
การทำงานในครั้งจบอย่างสวยงามและรวดเร็ว พร้อมความรวดร้าวเข้ามาเพิ่มในใจพีร์ธาดาเข้าไปอีกหนึ่งดอก พอเสร็จงานสาวเจ้าก็ขอตัวทันทีพร้อมฝังตัวอยู่ในมุมของตัวเอง ซึ่งปกติจะไม่มีใครเข้าไปรบกว
"ลากยัยอินไปทำบุญครั้งใหญ่ด้วยดีกว่า ซวยชะมัดวันนี้ เปี๊ยกเปี๊ยกก็เกเร แถมดันมาเจอคนที่ไม่อยากเจออีก โอย ซวย โคตรซวย " พีร์ธาดาก้มหน้าก้มตาเก็บอุปกรณ์เข้ากล่องพร้อมบ่นกระปอดกระแปดเมื่อคิดว่าไม่มีบุคคลที่สามอยู่ด้วย
"ปากยังเหมือนเดิมเลยนะครับ คุณพีร์ธาดา"
พีร์ธาดาตกใจแทบสิ้นเมื่อนึกว่าคนที่มาพูดจาหาเรื่องเป็นชายหนุ่มที่เธอไม่ต้องการเจอเสียอีก แต่กลับอึ้งซ้ำสองเมื่อเจออีกหนึ่งหนุ่มที่เธอก็ไม่อยากพบพานเหมือนกัน
วินาทีที่เห็นหน้าเจ้าของเสียงพีร์ธาดาตอบตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับคนที่หายหน้าไปจากเธอสามปีกว่า จะดีใจ หรือยังคงโกรธเหมือนเดิมดี สมองกับปากจึงช่วยลงความเห็นให้พูดจาเช่นเดิมกับเขาต่อไป "... เฮ้อ" แล้วก็ขมุบขมิบปากพอให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอต้องการสื่อว่าอะไร 'ซวย'
"โหคุณ เจอหน้าผมแล้วพูดแบบนี้ผมน้อยใจแย่ อุตส่าห์เป็นเบาะรองคุณไม่ให้กลิ้งลงบนพื้น ทำคุณบูชาโทษชัดๆ"
อะไรกลิ้งหว่า หื้อออ หมอนี่เองเหรอ "อ้อ นั่นคุณหรอกเรอะ แหม ถ้าฉันเห็นว่าเป็นคุณฉันคงขอเอาคอนเวิร์สฉันลงไปสัมผัสคุณเพิ่มแน่นอน" พีร์ธาดายักไหล่คล้ายไม่สนใจว่าเพราะชายหนุ่มคนนี้นี่เองทีทำให้เธอไม่ลงไปกลิ้ง
"หยาบคายนะคุณ จำไม่ได้เหรอว่าคุณพูดอะไรไว้ ไอ้แปะโป้งอะไรนั่นผมจำได้นะคร้าบ แล้วกรุณาดูผลงานของคุณเป็นขวัญตาหน่อยเถอะครับผม" ก้องภพยกมือขวาที่ตอนนี้พันผ้าเอาไว้เพราะซ้นจากการรับตัวของ พีร์ธาดา
ก้องภพเห็นสีหน้าสลดลงเล็กน้อยของพีร์ธาดา สาบานได้ว่าเล็กน้อยจริงๆ จากนั้นเจ้าหล่อนก็เชิดเหมือนเดิมพร้อมส่งสายตาเหยียดๆ ให้เขาอีกที นั่นทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าหล่อนน่ามองขนาดไหน แต่สายตานี่สิหลุกหลิกเหมือนกลัวอะไร ซึ่งชายหนุ่มก็เดาได้ไม่ยาก
"ไอ้ปิงกลับไปแล้ว มันไม่กล้าเข้ามาคุยกับคุณหรอก แต่มัน... "
"ฉันไม่ได้อยากเจอเขาสักหน่อย" หญิงสาวหันไปตอบอย่างเอาเรื่อง แสนรู้ "ไอ้เรื่องมือคุณนะ เอาเป็นว่าถ้าคุณหายดีก็โทรมาฉันแล้วกัน แล้วฉันจะเลี้ยงข้าวตอบแทน ฉันขี้เกียจติดหนี้บุญคุณใคร โดยเฉพาะกับคนอย่างคุณ แล้วนี่เบอร์โทรของฉัน ว่างเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน และให้ดีขอให้คุณตกกะไดอีกสักทีเผื่อคุณจะได้หายช้าขึ้น ลาก่อนค่ะคุณก้องภพ" พูดเสร็จก็สะบัดหันหน้าเดินหนีทันที ทำไมไอ้พี่ก้องถึงหล่อมากขึ้นขนาดนี้ ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังใจสั่นแน่เลยเรา หล่อบาดตามาก
"หนีผมไม่พ้นหรอกพีช ผมจะไม่ปล่อยพีชให้ใครอีกแล้ว" ก้องภพพึมพำกับตัวเอง
ก้องภพ นิรภาสกุล หนุ่มนักเรียนนอกร่างสูงมากกว่าหกฟุตสองนิ้ว ความสูงที่ไม่เก้งก้างรับได้ดีกับหุ่นที่ได้รับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ใบหน้ายาวเรียวยาวขึ้นเหลี่ยมตรงสันกามเล็กน้อยรับกับโหนกแก้มสูง ตาหวาน คิ้วเข้มหนา จมูกโด่งสวยงอคุ้มที่ปลายเล็กน้อย ริมฝีปากบางเฉียบถูกประดับด้วยไรหนวดเคราหนาที่เจ้าตัวตั้งใจไว้ และผมซอยสั้นไล่ระดับตามฉบับทรงผมยุคใหม่ เพิ่มเสน่ห์ดิบให้ตัวชายหนุ่มจนสาวๆ เข้ามาติดใจพัวพันได้อย่างไม่ยากเย็น มารดาของก้องภพเป็นคนรู้จักกับบุพการีของอินทิรามาเนิ่นนานทำให้เขาสนิทสนมกับอินทิรามาตั้งแต่เด็ก เขาย่อมรู้จักพีร์ธาดาเพื่อนสนิทไม่กี่คนของอินทิราอย่างแน่นอน ชายหนุ่มชอบแกล้งพีร์ธาดาเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนในคณะที่หญิงสาวเรียน แถมแกล้งเธอสารพัดแม้ว่าทุกงานของพีร์ธาดาจะออกมาเลิศขนาดไหนก็ตาม เพื่อปกปิดความรู้สึกในหัวใจ
"แกนี่มันซวยจริงๆ เลยนะพีช แต่ก็ดีสมน้ำหน้างกเงินดีนัก แล้วพี่ก้องเป็นไงบ้าง ตั้งแต่พี่เขากลับมาฉันยังไม่ค่อยได้คุยด้วยเลย"
"อ้าว แกนี่ ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ เพื่อนเจอเรื่องแย่มาทั้งทีแทนที่จะปลอบ ส่วนอีตานั่นก็... ปากหมาเหมือนเดิม"
"..."
"ดีนะ ได้มาทำบุญทั้งทีถือเป็นการล้างซวยด้วยเลยแล้วกัน เดี๋ยวไปช้อปปิ้งกันต่อนะแก"
"พีช แกยังไม่ลืมคุณปิงอีกเหรอ มันนานเกินไปแล้วนะ" อินทิราถามเพื่อนหลังให้อาหารปลาเสร็จ
"มันอาจฟังดูโง่ๆ นะอิน ฉันก็อยากทำแบบนั้นให้ได้เหมือนกัน แต่มันคงยากเกินไปสำหรับจิตใจฉัน"
"บางทีแกคงต้องหาผู้ชายคนใหม่มาดามใจแกได้แล้วหละ ไม่เอาแบบเดิมนะ แล้วปล่อยๆ เรื่องงานบ้างเถอะ"
พีร์ธาดาหันไปมองหน้าเพื่อนที่ทอดสายตาออกมองบ่อน้ำข้างหน้า รับรู้ถึงความผิดปกติของเพื่อน มันดราม่าแปลกๆ มีอะไรหรือเปล่า"ต๊าย กล้าสอนเพื่อน เอาตัวเองให้รอดเถอะแก ดีกับพี่ทินแล้วหรือไง"
"ยะ" คำตอบเรื่อยเปื่อยของอินทิราสะกิดต่อมอยากรู้ของพีร์ธาดาทันที ไอ้เพราะคำตอบเรียบๆ นี่แหละที่มันน่าสงสัย ปกติมันต้องดี๊ด๊าแรดเรียกแม่ไม่ใช่เหรอ แต่คงต้องเก็บไว้ก่อนเพราะเพื่อนตัวดีเดินหนีไปอีกทางเสียแล้ว
คงถึงเวลาที่เธอจะเริ่มต้นหัวใจใหม่ตามที่ไอ้อินบอกอย่างจริงจังได้เสียที เธอจมปักมานานแล้วโดยเอาเรื่องงานขึ้นมาบังหน้า ส่วนเรื่องเงิน ไม่เกี่ยวเลยจริงๆ นะ