BlogGang.com : : patthanid :

RATCHABURI :: ตอนที่ ๒ พระอาทิตย์ขึ้นและน้ำตกผาแดงแห่งเขากระโจม

จากตอนที่แล้วพวกเรา "ขึ้นเขากระโจม" กันมาแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลากลางคืนบนเขากระโจมแล้วค่ะ อากาศเย็นใช้ได้ไม่ต้องไปถึงเมืองเหนือเลยเหอะ ทำเอาหลายๆ คนไม่อยากจะอาบน้ำกันเลยทีเดียว แต่เชื่อเปล่าหนาวๆ แบบนี้ได้อาบน้ำเย็นเนี่ยมันสดชื่นจริงอะไรจริงอ่ะ พอตกดึกก็หิวอีกแล้วเราดีนะที่เตรียมอาหารญี่ปุ่นกันมาพร้อม พร้อมชนิดที่ว่านี่จะอยู่สักอาทิตย์ก็ได้เหอะ

ตอนนี้เต็นท์ข้างๆ ก็ได้เวลาเมากันสนุกสนานดีนะที่พวกเค้าย้ายไปจากพวกเราเสียก่อนไม่งั้นมีหวังนอนไม่หลับแน่ๆ พอพวกเราทานกันเสร็จก็เดินขึ้นไปบนเขาเพื่อถ่ายรูปและย่อยอาหารที่เพื่อฟาดกันเข้าไปเมื่อกี้เหอะ ตอนนี้อากาศก็เย็นสบายค่ะเหมือนติดแอร์ทั้งเขาเลยอ่ะ

ที่นี่เค้ามีปล่อยโคมลอยด้วยอ่ะ จริงๆ จขบ.ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการปล่อยโคมลอยเสียเท่าไหร่ เพราะโคมลอยเนี่ยมันสวยก็จริง แต่ถ้ามันไปตกบนบ้านคนหรือไร่ทางการเกษตรเนี่ย มันก็ดูไม่สวยเท่าไหร่เลยนะ ขณะที่จุดๆ กันอยู่เนี่ยปรากฏว่ามันขึ้นไม่พ้นไปลงตรงหญ้าก็วิ่งดับกันให้วุ่นเหอะ แต่ถ้ามันลอยไปฝั่งตรงข้ามก็ประเทศพม่าเหอะ ยิ่งดึกที่นี่ก็เริ่มหนาวอุณหภูมิก็ลดลง แต่โชคดีที่จุดกางเต็นท์ของพวกเรามีเขาบัง ดังนั้นจึงนอนสบายมาก พวกเราก็นั่งเม้าส์มอยสอยปลาทูกันระยะหนึ่ง ตอนแรกก็นั่งๆ อยู่ดีๆ อ่ะ หลังเริ่มนอนคุยกันดีกว่า นอนไปนอนมาง่วงอ่ะเกือบหลับแระ ไม่ไหวๆ หนาวเหอะ

ฃ

สลายโต๋เต๊นท์ใครเต๊นท์มันดีฟ่า แหม..โชคดีที่มีอุปกรณ์มาพร้อมภายในเต็นท์พี่ไทเค้ามีเบาะรองนอนให้ด้วยอ่ะ เรียกว่าเป็นการมานอนเต็นท์ที่แสนจะสบายมาก คุณนายแม่เนี่ยหลับสนิทคร๊อกฟี่เลยเชียว เออ..แม่บอกว่าอยู่บ้านนอนสบายๆ ไม่ชอบชอบมาลำบากนอนดินซะงั้นอ่ะ จขบ.ก็บอกว่าเอาน่าครั้งหนึ่งในชีวิตนะคุณนาย .. บายๆ ราตรีสวัสดิ์ค๊า

เช้าวันใหม่ .. เสียงอะไรฟ่ะดังจังอ่ะ จขบ.งัวเงียตื่นขึ้นมาแม่เจ้าคนมหาศาลข้างบนเนี่ยมาจากไหนกันฟ่ะ เมื่อคืนยังไม่ค่อยมีคนเลยไมตื่นเช้ามาข้างบนเขาเนี่ยแน่นถนัดตาเชียวอ่ะ .. ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่นอนอยู่ที่สวนผึ้งเนี่ยแหละ แล้วก็ตื่นตอนเช้ามาคอยดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเขากระโจมแห่งนี้

เวย์นี้บอกได้คำเดียวว่าหมดสภาพ เนื่องจากห้องน้ำอยู่อีกฟากของจุดกางเต็นท์ ตื่นมาก็หน้าอึนมาเลยเหอะ แถมผู้คนเยอะปานนี้ต้องรีบหน่อยเดี๋ยวไม่มีที่ยืนถ่ายรูป คนอื่นเค้ามาหน้าเด้งเชียวตรูเนี่ยมาหน้าเยินมากกอ่ะ

ป้าด.. รูปนี้คุณนายแม่เหมือนแอสกีโมเลยอ่ะ ทำอะไรเนี่ยคุณนาย จะบอกอะไรชาวโลกเหรอ นางบอกว่าตื่นเต้นไม่เคยมานอนกลางดินกินกลางทรายแบบนี้ เหอๆ ง่ายๆ ไม่เคยลำบากว่างั้น จัดมาเต็มเชียวนะ รับรองว่าไม่หนาวเลยเหอะ อากาศกำลังดีเลยอ่ะแต่ถ้าถอดเสื้อหนาวก็ไม่ไหวจะเคลียนะ หนาวเกิ๊น

เสียดายที่วันนี้เราไม่เห็นทะเลหมอก มันหายไปไหนฟ่ะ แอบถามพี่ๆ เค้าบอกว่าทะเลหมอกต้องมาดูตอนหน้าฝนแหละ อ้าว.. แล้วกันนี่มาดูพระอาทิตย์ขึ้นเรอะ พอพระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว เหล่าบรรดามหาชนก็ทยอยเดินทางกลับชนิดที่ว่าเต็มๆ เมื่อกี้นี้หายวับไปกับตาเลยทีเดียว

ระหว่างที่ลูกๆ กำลังถ่ายรูปพระอาทิตย์กันอยู่นั้น เอ่อ..คุณนายแม่หายไปไหนฟ่ะ ป้าด..มาต้มข้าวนี่เองสงสัยท่าจะหิวจัดนึ่งข้าวเหนียวซะงั้นอ่ะ แม่บอกว่า เวลาหิวต้องกินเลยไม่งั้นเดี๋ยวขาสั่น เหอๆๆ ใช่ไหมเนี่ยแม่ตรู พอทานข้าวเช้ากันเสร็จพวกเราก็เตรียมตัวเดินทางกลับค๊า

แต่ก่อนไปก็แอบแว่บไปช็อปกันก่อน เลยได้เสื้อยืดเขากระโจมมาคนละตัว งานนี้ไม่มีใครยอมใครจัดเต็มเหอะ ใส่เลยเดี๋ยวไม่รู้ว่ามาเขากระโจม ว่าแต่คุณนายแม่ไปไหนฟ่ะ น่านๆ เห็นทหารเป็นไม่ได้ มานี่มาถ่ายรูปแม่กับอาทหารหน่อย เอาจริงอ่ะ

เวลานางอยากได้อะไรเนี่ย นางจัดหนักตลอดนอกจากใช้พี่ทหารคนนี้แล้ว ยังชวนคนอื่นมาถ่ายรูปกะเค้าอีก ไม่ได้ถามเล้ยว่าเค้าอยากถ่ายเปล่า เอากะเค้าหน่อย จขบ.เลยบอกนางว่าเก็บเงิน 20 บาทเลยดิค่าถ่าย "เออวะไอเดียดีนะลูกสาว" เฮ้อ.. ไม่ใช่ประชดเหอะ

ป้ายเนี่ย .. ถือเป็นป้ายยอดฮิตที่เรียกว่าใครมาก็ต้องถ่ายไว้เหอะ และพวกเราก็ไม่พลาดเช่นกัน ถ่ายแล้วถ่ายอีกจนรู้สึกว่าร้อนแระ ไปเหอะ น้ำก็ไม่ได้อาบเหอะดีนะที่อากาศเย็นรู้สึกสบายตัวไม่งั้นเหนียวไปแล้ววว

จากรูปเขาลูกที่เห็นเนี่ยเป็นฝั่งพม่าเหอะ ส่วนเส้นทางดินแดงที่เห็นถัดลงมาเป็นฐานหน่วยตะเวนชายเดินของประเทศไทยล่ะ ด้านบนเป็นพม่า ด้านล่างเป็นประเทศไทย นี่คืออาณาเขตที่เมื่อก่อนพม่าจะมาบุกยืดพื้นที่เราล่ะ สุดท้ายก็มาได้แค่หัวเขาอย่างที่เห็น พี่ทหารที่แม่ถ่ายรูปด้วยเล่าให้ฟังว่า ทหารพม่าเป็นอยู่อย่างลำบากเสบียงก็ไม่มาส่งบางทีต้องขอเสบียงจากฝั่งเราไปล่ะ ต้องยกความดีให้พี่ทหารเนอะไม่มีเค้าพวกเราก็โดนยึดที่แน่ๆ อ่ะ

แล้วก็ได้เวลาอำลาเขากระโจมแล้วล่ะ เป็นทริปลุยที่ชิวมากอ่ะ ไว้หน้าฝนว่างๆ จะมาลุยใหม่ บริเวณนี้เค้าบอกว่าหน้าฝนจะเห็นทะเลหมอกสวยเชียวล่ะ แต่ฟ้าต้องเปิดด้วยนะ ถึงจะได้รูปสวยๆ อ่ะ เอาล่ะไปแล้วค๊าไว้จะมาใหม่นะ ราชบุรีใกล้ๆ ก็หนาวได้

จากนั้นพวกเราก็ลุยน้ำกันอีกครั้ง แต่ขากลับเนี่ยน้ำเยอะเชียวระดับน้ำเนี่ยกระโปรงรถเลยเหอะ ตื่นเต้นดีอ่ะโปรแกรมต่อไปพี่ไทจะพาพวกเราไปแวะน้ำตกผาแดงค่ะ เป็นโปรแกรมที่ต้องมาของเขากระโจมเลยล่ะ พอถึงทางไปน้ำตกผาแดง พี่ไทก็ขับรถมาเอียงจอดไว้แบบนี้อ่ะ สังเกตุว่ารถใหม่เอี่ยมเพราะเพิ่งลุยน้ำมา

จากทางเข้าเค้าเขียนว่าเดินไปอีก 200 ม. ไม่แน่ใจว่าเข้าเขียนผิดเปล่า จขบ. ว่าสัก 500 เมตรมากกว่านะเพราะเข้าไปลึกอยู่เหมือนกัน เดินไปเรื่อยๆ รู้สึกถึงบรรยากาศชื้นๆ แบบใกล้น้ำแล้วอ่ะ พอเดินไปก็เจอน้ำตก แต่ต้องเดินเกาะราวเชือกเพื่อเดินไปดูด้านล่างค่ะ

น้ำตกผาแดงก็เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากนัก เรามาช่วงนี้น้ำน้อยแล้วล่ะ ผาแดงเนี่ยก็เดาว่าน่าจะมาจากหินเป็นสีแดงล่ะ เลยเรียกว่าผาแดง พวกเราถ่ายรูปกันสักพักก็กลับดีกว่า เพราะเริ่มจะเหนื่อยล้าๆ กันแล้ว จากนั้นพี่ไทก็พาพวกเรากลับไปยังจุดที่รับมา โดยก่อนกลับพาไปแวะร้านกาแฟของนักเขียนแนวสารคดีชื่อดัง "บุหลันรันตี" ค่ะ

พี่เค้าก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนรักษ์เขากระโจม ที่ช่วยกันดูแลปกป้องผืนป่าบริเวณแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีค่ายอาสารักษ์น้ำรักษ์ป่าด้วยค่ะ โดยให้น้องๆ มาเข้าค่ายอาสารู้จักที่มาของน้ำและป่ากันอย่างเจาะลึก เพื่อที่น้องๆ เข้าใจก็จะได้ช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าให้คงอยู่กับเราตลอดไปค่ะ ก็เป็นอันจบทริปนี้ไม่น่าเชื่อว่าราชบุรีก็หนาวได้ แถมเส้นทางมันส์ได้ใจด้วยค่ะ ใครว่างๆ อยากลุยๆ ก็เชิญได้ที่เขากระโจม แห่งเมืองโอ่งมังกรได้ค๊า ...

Photo and Story By
Patthanid C.