เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ที่นี่มีห้องสองแบบด้วยกันคือ Superior Room ราคา 2,990 บาท และ Suites ราคา 3,990 บาท
ทำไมถึงชื่อ "อินจันทรีรีสอร์ท" ชื่อนี้เค้ามีที่มาจากต้นไม้อินจันอันเก่าแก่ที่สูงตระหง่ายเขียวชอุ่มนี้ ต้นไม้นี้เติบโตที่นี่มานานกว่า 200 ปีแล้ว ซึ่งยังคงออกดอกผลให้ได้รับประทานกัน โดยผลจะเริ่มออกในเดือนเมษายนของทุกปี ต้นอินจันเป็นต้นไม้ที่หายาในประเทศไทยมีเพียงไม่กี่ต้นที่มีลักษณะเช่นนี้ ชื่อของมันมาจากผลิตผล 2 ชนิดคือ ลูกอินและลูกจันในต้นเดียวกัน ซึ่งจะสลับกันสุกในแต่ละปี
ว่ากันว่าในอดีตนั้นต้นอินจันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงในรัก ซึ่งหญิงชายต่างมีความรักนิรันดร์มอบให้แก่กันและกัน สัญญาต่อหน้าต้นอินจันเพื่อของให้ได้พบเจอรักและสมหวังในความรักในทุกชาติภพไป เป็นไงล่ะมีเรื่องราวด้วยนะฟังแล้วคู่รักความมาที่นี่นะ มีไม่กี่ต้นในประเทศไทยนะเธอเอาล่ะไปดูห้องพักกันดีกว่า
ภายในโซนอาคารพักที่นี่เน้นความร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ล้องรอบรีสอร์ทแห่งนี้ เน้นความเขียวของต้นไม้ตัดกับตัวอาคารสีเหลือง
ที่พักเป็นอาคารสองชั้นเดินไปมาถึงกันได้ จขบ.ประเมินจากสายตาแล้วห้องพักราวๆ 20 ห้อง up
ตามมาดูห้อง Superior Room กันค่ะ
ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่ายมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
แต่ติดเรื่องขนาดห้องพักดูแคบไปนิดหนึ่งพื้นที่ใช้สอยน้อยมากเดินไปเดินมาสองคนนี่ชนกันได้เลยนะ
ห้องพักนี่ต่างกับข้างนอกมาก บริเวณภายในรีสอร์ทมีพื้นที่ส่วนกลางกว้างขวาง (มาก)
แบ่งห้องอ่านหนังสือ ห้องออกกำลังกายเป็นสัดส่วน
โซนด้านหลังอาคารที่พักก็มีสนามหญ้าร่มรื่นๆ ให้นั่งอ่านหนังสือเพลินๆ
เดินไปอีกฝั่งของอาคารก็จะเป็นโซนติดริมน้ำ มุมนี้ก็มีพื้นที่พักผ่อนกว้างขวางเช่นกัน
สระว่ายน้ำจะติดกับห้องอาหารด้านหน้าสระว่ายน้ำเป็นวิวริมน้ำ
จขบ.เคยมาดูสถานที่ที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติเสียมากกว่าที่มาพักที่นี่
ถัดไปจากสระว่ายน้ำจะเป็นมุมพักผ่อนแล้วล่ะ บริเวณนี้มีสองชั้น
สามารถเดินบันไดลงไปนั่งชั้นล่างได้มุมนี้เป็นมุมที่วิวดีสุดเพราะอยู่ติดกับโค้งน้ำ
จขบ.เดินถ่ายรูปสักพักหิวแล้วอ่ะไปหาอะไรกินกันดีกว่า
หากมาเมืองกาญจนบุรีใครที่ชอบก๋วยเตี๋ยวต้องจัด "โกเล็ก" อยู่ติดริมน้ำเช่นกันหาไม่ยาก
อยู่ตรงแถวๆ ที่ลงแพในเมืองเลยค่ะ
จขบ.ชอบก๋วยเตี๋ยวร้านนี้นะ เพราะรสชาติเข้มข้นไม่ต้องปรุงเลย
ร้านนี้ช่วงกลางวันคนจะเยอะมากก็ต้องรอโต๊ะกันสักนิดหนึ่ง หากใครทานเสร็จแล้วก็แวะทานขนมหวานเจ๊อ๋าต่อ
ร้านจะอยู่ติดกันเลยค่ะมากาญจนบุรีแล้วต้องห้ามพลาด แต่วันนี้ที่พลาดเพราะแกปิดร้านอดค่ะ
จขบ.เลยพาน้องไปแวะทานของหวานที่ Library Cafe ร้านยอดฮิตที่ต้องมาเช็คอินกินของหวานทานกาแฟ
บรรยากาศดีมากนั่งเพลินๆ อินเตอร์เน็ตแรงทำงานสะดวก เวลาทำงาน จขบ.ชอบมากันที่นี่
ไว้จะมารีวิวร้านแบบเต็มในส่วนของร้านอาหารนะจ๊ะ
เอาล่ะท้องอิ่มได้เวลากลับที่พักหลบแดดกันเสียหน่อย
หลังจากนั้นก็ไปปั่นจักรยานกันค่ะ เป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่มนุษย์อ้วนๆ อย่าง จขบ.ปั่นจักรยานคือมันร้อนไงกาญจนบุรี
ปั่นมาแป๊บเดียวก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว
มากาญจนบุรีก็ต้องสะพานข้ามแม่น้ำแควสิจ๊ะ ไฮไลท์ของเมืองนี้เค้าเลย
โชคดีมากรถไฟมาพอดีเลย
ระหว่างที่คุณเดินอยู่บนสะพานก็จะมีคนมาทำกิจกรรมให้เราได้ชมกันไม่ว่าจะเป็นสีไวโอลินหรือน้องคนนี้ที่มาเล่นกีตาร์น่าดูชม
เดินไปสุดสะพานแล้วเดินลงบันไดไปก็จะเจอกับวัดจีนติดริมน้ำบรรยากาศดีเชียวนะ
ตอนนี้ก็ใกล้เวลาพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว ปั่นจักรยานกลับที่พักกันดีกว่า
ยูอินจันทรีถือเป็นมุมที่มีวิวพระอาทิตย์ตกสวยงามที่หนึ่งจะพลาดได้อย่างไรไปกันค๊า
จขบ.ชอบที่นี่ก็วิวนี้แหละสวยงามที่สุดยืนมองพระอาทิตย์จนลับตากันเลยทีเดียว
ได้เวลาอาหารเย็นพอดีเลยอาหารแนะนำที่นี่เป็นเมนูอาหารฝรั่ง
ทั้งสามเมนู จขบ.ยกให้สเต็กแซลมอนเป็นอันดับหนึ่งตามด้วยกุ้งอบซอสและพาสต้าชีลตามลำดับ
อาหารที่นี่ราคาไม่แพงเท่าไหร่ราคาปกติตามร้านอาหารทั่วไปค่ะ
ด้วยความที่วันนี้มีทัวร์มาลงฝั่งห้องอาหารจึงมีการจัดเตรียมโต๊ะสำหรับแขกที่จะมาพัก
เมื่อทานอาหารคาวแล้วก็อาหารหวานกันต่อ
ด้วยความที่อาการร้อนและกว่าจะได้กินก็ถ่ายรูปกันจนไอศกรีมละลาย
ตามมาด้วยข้าวเหนียวมะม่วงผลไม้ตามฤดูกาลนี้
ยามค่ำคืนที่นี่ตกแต่งด้วยไฟทั่วรีสอร์ทดูคลาสสิคดีอ่ะ แปะข้อมูลไว้เผื่อใครหาข้อมูลเที่ยวค๊าา
Photo and Story By
Patthanid C.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [
อยู่ใกล้กทม.ไม่กี่ชม...น่าสนใจ
อยู่ริมน้ำ อากาศน่าเย็นสบายนะคะ