BKK - PHETCHABURI :: เที่ยวพระราชวังบ้านปืนก่อนกลับแวะชิมก๋วยเตี๋ยวอร่อยเมืองเพชร
จากตอนที่แล้ว ถ้ำเขาหลวง เราเดินทางต่อมาที่ "พระรามราชนิเวศน์" หรืออีกชื่อที่เรารู้จักกันว่า "วังบ้านปืน" ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเพชรบุรี เขตรับผิดชอบของจังหวัดทหารบกเพชรบุรี ต.บ้านหม้อ สร้างเมื่อปลายราชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เนื่องจากช่วงเดือนกันยายนในพระนครมีฝนตกชุกทำให้พระองค์มักจะประชวรอยู่เสมอ จึงมีพระราชดำริที่จะหาที่ประทับนอกพระนคร ประกอบกับเมืองเพชรบุรีมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมแก่การสร้างพระราชฐานไว้เป็นที่ประทับโดยเสด็จวางศิลาพระฤกษ์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2453
Phra Ram Ratchaniwet Palace, or Ban Puen Palace as it is locally know is located on the west bank of Petchburi River. The Palace covers the ground of approximately 580,000 square metres, and is under responsiblility of Petchburi Military.
การก่อสร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโมเดิร์นสไตล์ หลังคาสีน้ำตาลเป็นกระเบื้องที่สั่งมาจากต่างประเทศ แบบเดียวกับพระราชวังของพระเจ้าวิลเฮิร์มไกเซอร์แห่งประเทศเยอรมันโดยเป็นอาคารสองชั้น มียอดสองยอดคือยอดพระตำหนักและยอดมุข ผู้เขียนแบบเป็นสถาปนิกเขียนแบบรูปพระตำหนักตามกระแสพระราชดำริ ชื่อ มิสเตอร์ คาร์ล ดอริ่ง ชาวเยอรมัน โดยมี ดร. ดวด ไบเยอร์ เป็นวิศวกร แต่การก่อสร้างยังมิทันสำเร็จพระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน
พอมาถึงรัชสมัยพระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อจนสำเร็จในปี พ.ศ. 2459 และได้พระราชทานนามว่า "พระรามราชนิเวศน์" ซึ่งใช้ระยะเวลาสร้างประมาณ 7 ปี นับเป็นพระราชวังที่มีความงดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศสยาม
มาถึงตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า เราไม่สามารถนำรูปถ่ายจากด้านในมาลงบล็อกแห่งนี้ได้ เนื่องจากภายในอาคารห้ามไม่ให้ถ่ายรูป แต่ก็นะเค้าไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าห้ามถ่ายวีดีโอ ก็เลยมีคนถ่ายวีดีโอกันเป็นแถวเลยล่ะ ด้านนอกอาคารอาจจะดูเหมือนเรียบง่าย แต่สิ่งที่เค้าเน้นก็คือความอลังการของตัวอาคารและความวิจิตรบรรของลวดลายบนบานประตู และหน้าต่าง ทิศตะวันออกเป็น "ห้องโถงกลมชั้นล่าง" จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่รูปแบบการก่อสร้างแบบเรขาคณิต เล่นสีสันของเสาแต่ละด้านกับผนังห้องให้ดูคลาสสิก
ถัดจากห้องโถงกลมชั้นล่างมี "บันไดเวียนคู่" ซึ่งมีลักษณะวนเข้าหากันเป็นรูปดอกจิก เป็นศิลปะแบบโบรอคและราวบันไดแต่ละด้านมีตุ๊กตาเคลือบเด็กหญิง-ชายวางไว้บนราวบันได "ห้องโถงกลมชั้นบน" รวบรวมศิลปะแบบนีโอคลาสสิกไว้ทั้งหมด
"ห้องรอเฝ้า" ใช้สำหรับข้าราชการและผู้รอเฝ้าคอยก่อนที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว "ห้องท้องพระโรง" เป็นห้องว่าราชการงานต่างๆ กับเหล่าข้าราชบริพาร "ห้องเสวย" เป็นห้องที่รวบรวมศิลปะแบบโมเดิรน์สไตล์ของเยอรมัน และศิลปะแบบอาร์ตนูโวของฝรั่งเศล ด้านหน้าห้องเสวยมี รูปปั้นเทพเจ้าโพไซดอน ตั้งอยู่ว่ากันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ล่ะ
ตรงกลางของวังแห่งนี้มี "สนามแบดมินตัน" เป็นสนามแห่งแรกของประเทศไทย แต่เนื่องจากว่ามีสภาพทรุดโทรม ปัจจุบันจึงได้ปรับปรุงเปลี่ยนเป็นสวนหย่อมล่ะ "ห้องทรงพระอักษร" มีลักษณะที่เห็นเด่นชัดคือมีตู้ฝั่งกับผนังห้องกระจกหน้าต่างเป็นกระจกแสตนกลาส มีการสร้างที่ลดหลั่นตรงบริเวณประตูทางออกไปนอกระเบียง "ห้องบรรทมพระราชินี" พื้นห้องและผนังเป็นไม้ มีลวดลายในไม้เป็นรูปเรขาคณิต ระเบียงสามารถมองเห็นสนามแบดมินตันด้วยล่ะ ปัจจุบันมีเพียงห้องว่างเปล่าไม่ได้จัดแสดงส่วนของเครื่องใช้ล่ะ
"ห้องบรรทมพระเจ้าอยู่หัว" เป็นห้องที่งดงามที่สุด เพราะมองเห็นทัศนียภาพของพระนครคีรีได้ชัดเจน ภายในห้องสร้างด้วยเสาที่ทำจากแผ่นทองแดงดุนลายกรุ ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ภายในห้องจะมี "ห้องสรง" ศิลปะร่วมสมัยจะเห็นได้จากสุขภัณฑ์ที่ตกแต่งไว้อำนวยความสะดวกและเป็นห้องที่มีการประดับด้วยกระจกแสตนกลาสสวยที่สุดในพระราชวัง ไม่น่าเชื่อเลยว่าสมัยนั้นจะมีอ่างน้ำด้วยล่ะ ไม่ธรรมดาตรงที่มีที่ปรับระดับน้ำหลายแบบด้วยล่ะ
ด้านหน้าวังจะเป็น "ลานหน้าพระที่นั่ง" ที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระปิยะมหาราช โดยทั้งสี่ทิศตั้งปืนใหญ่หล่อด้วยสัมฤทธิ์มีชื่ว่า รามสูรคว้างขวาน, ยมบาลจับสัตว์, ลอยชายเข้าวังและกำลังเพชรหึง
พวกเราใช้เวลาอยู่ในพระราชวังแห่งนี้พอสมควรเลยล่ะ เพราะความงดงามของแต่ละส่วนในพระราชวังแห่งนี้ รับรองว่าหากใครได้มาเยือนแล้วจะหลงไหลกับความงามในการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้ล่ะ เสียดายที่ไม่สามารถถ่ายภาพด้านในมาได้ ไม่งั้นคงมีรูปมาอวดเพื่อนๆ อีกเยอะเลยล่ะ แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปกันนะ ถ่ายกันมาพอสมควรเลยล่ะ เรียกว่ามุมไหนที่คิดว่าสวยเก็บหมด
จากนั้นพวกเราก็เดินทางเข้าตัวเมืองเพชรบุรี เพื่อไปชิมก๋วยเตี๋ยวปลาวีไอพี ที่เจ้าของพื้นที่แนะนำว่า ร้านนี้อร่อยสุดๆ เป็นร้านดังของเพชรบุรีเชียวนะ อยู่ใกล้ๆ กับเขาวังล่ะ
พอมาถึงร้านก็ประมาณบ่ายสอง โอ้โห วีไอพี คนแน่นร้านเลยล่ะ มาถึงก็สั่งก๋วยเตี๋ยวปลาวีไอพีก่อนเลย เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าก๋วยเตี๋ยวที่สั่งไว้จะเดินทางมาเสียที ก็เลยสั่งไปใหม่เบิ้ลไปสอง ปรากฏว่าพอถึงคิวพวกเราก็ลุยกันเลย ก๋วยเตี๋ยวปลาเค้ามีน้ำจิ้มเหมือนข้าวต้มปลาเลยล่ะ แต่รสชาติจะเป็นก๋วยเตี๋ยวปลา ความอร่อยอยู่ที่น้ำซุปล่ะใช้ได้เลยล่ะ เอาเป็นว่าใครผ่านไปผ่านมาเพชรบุรีอย่าลืมมาชิมดูล่ะ .. งานนี้ต้องให้เครดิตคนแนะนำ พี่อ๊อด เจ้าของร้านเพชรบุรีติวเตอร์ล่ะ ไม่งั้นไม่รู้นะเนี่ยว่ามีก๋วยเตี๋ยวอร่อยแอบอยู่หน้าเขาวัง ..
Create Date : 09 เมษายน 2552 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2556 23:16:45 น. |
|
7 comments
|
Counter : 2253 Pageviews. |
|
|
|
|