PHUKET :: ทริปภูเก็ตวันฝนตก ตอนที่ 6 หาดราไวย์ไปกินอาหารทะเลอำลาภูเก็ต
ตอนที่แล้วพาไปเล่นน้ำ หาดกะตะ กันมาแล้ว ตอนนี้ก็เป็นตอนสุดท้ายแล้วเพราะเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางทริปกินอยู่อย่างราชาของ จขบ.ค๊า และเมื่อทริปนี้เป็นทริปแห่งการพักผ่อนก็นอนตื่นมันสายสุดๆ ไปเลยประชดฝนตกดีนัก จะตกอะไรนักหนาคนจะมาเที่ยวทำให้อดไปดำน้ำเกาะราชาเลย ได้มากินอยู่อย่างราชาแทน เช้านี้ก็ต้องเช็คเอ้าท์กันแล้วนี่ก็สิบโมงกว่าแระ ยังไม่อยากกลับไปสู่โลกแห่งความจริง (โต๊ะทำงาน) เล้ย
พอวันจะกลับล่ะฟ้าใสมาเชียวนะ เห็นแล้วเซ็งเลยอยู่ต่อดีไหมเนี่ย ฟ้าวันนี้เหมาะแก่การไปดำน้ำจัง เฮ้อ..อดเลยสงสัยภูเก็ตคงอยากให้เรากลับมาใหม่มั้งเนี่ย สำหรับที่พักของเราสองวันหลังเนี่ยถือว่าโอเคเลยห้องสวยและเดินทางสะดวกดี ก่อนกลับเลยขอถ่ายรูปซะหน่อย ระหว่างที่ถ่ายอยู่นั้นก็มีฝรั่งมาเข้าฉากถ่ายด้วย งงเลยตรูอยู่ๆ ก็เดินมาชูสองนิ้วซะงั้น ประหนึ่งเป็นเพื่อนกันเลยเหอะ จากนั้นพวกเราก็เดินไปที่จอดรถด้านหน้าแล้วก็ขับมาอย่างไร้จุดหมายเช่นเดิม ทริปนี้ไม่มีแผนของจริงเลยอ่ะ ไปไหนอ่ะไปเริ่มต้นที่หาดกะตะหน่อยแระกัน ไปแอบดูฝรั่งใส่ทูพีชก่อนกลับบ้านดีกว่าเนอะ
แหม..ฝรั่งใส่ทูพิชเดินสวนสนามกันเลยทีเดียว จขบ.ว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการมาทะเลเลยอ่ะ คือถ้าเป็นคนไทยก็ตีโป่งอ่ะแต่ฝรั่งเนี่ยชิวมากเพราะบ้านเค้าก็ใส่กันงี้เหอะ วันนี้ด้วยความที่แดดจ้าฟ้าใสฝรั่งก็มาเล่นเซิรฟ์บอร์ดกันในทะเลยลีลาแต่ละคนจัดเต็มเห็นแล้วอยากเล่นมั้งเลย นี่ถ้าวันนี้เป็นเมื่อวานนะ จะไปเช่าเซิรฟ์บอร์ดมานอนไถ่กะเค้ามั้งเหอะ คลื่่นวันนี้สูงมากด้วยทำเอายืนดูฝรั่งเพลินเชียว .. จะว่าไปหาดกะตะเนี่ยมองไปสะอาดดีจัง น่าจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวมีระเบียบด้วยล่ะ เพราะ จขบ.แอบสังเกตุเห็นที่นี่มีบริการถังขยะแยกประเภทเขียนป้ายไว้ชัดเจนด้วย ดีจังหาดสวยก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะๆ เศรษฐกิจบ้านเราก็คึกคักตามมา
จากนั้นพวกเราก็ขับรถต่อไปยังหาดกะรนเพื่อไปดูจุดชมวิว พอลงรถปรากฏว่ารถบุบ เฮ้ย .. รถเราก็ไม่ได้ชนที่ไหนนี่หว่าแล้วมันบุบได้ไงฟ่ะ (นี่ล่ะจุดสำคัญที่ จขบ.บอกว่าตอนรับรถเช่าควรถ่ายรูปและสำรวจรถให้เรียบร้อย) พวกเราก็มองหน้ากันด้วยความงุนงงเอาไงดีอ่ะเรา เพื่อนตี๋บอกว่าโทรไปแจ้ง Call Center เค้าก่อนแล้วกันยังไงเราก็ซื้อประกันอุบัติเหตุไว้ (มันดีตรงนี้แหละ) จากนั้น จขบ.ก็ไล่ย้อนดูรูปรถ เอ้ย ..มันไม่ได้ชนวันนี้นี่หว่ามันบุบมาก่อนแล้ว แล้วก็ย้อนไปดูรูปวันที่เรารับรถก็เหมือนมีรอยบุบมาก่อนหน้าแล้ว แต่ก็แจ้ง Call Center รถเช่าไปแระเพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย ทำเอาหมดอารมณ์ถ่ายรูปจุดชมวิวเลยอ่ะ
พอลงจากจุดชมวิวไปไหนต่อดีล่ะ หิวข้าวก็หิวตั้งแต่ขับมาเนี่ยยังไม่เจอร้านอาหารชาวบ้านเลยอ่ะ มาปักษ์ใต้ทั้งทีอยากกินแกงใต้อ่ะ ก็ขับมันเรื่อยๆ จนมาถึงหาดราไวย์เนี่ยแหละ ดูเหมือนหาดนี้จะเป็นหาดสำหรับจอดเรือประมงนะเนี่ย ไม่น่าจะเป็นหาดสำหรับเล่นน้ำ จากการเดินสำรวจเดาว่าที่นี่ต้องมีอาหารทะเลราคาถูกขายยามเช้าแน่นอนโดยต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านชาวประมงอ่ะ
จากนั้นพวกเราก็ขับรถมุ่งหน้ามาจอดตรงท่าเทียบเรือหาดราไวย์ แวะถ่ายรูปกับสะพานเสียหน่อย ฟ้าใสกำลังสวยเลยพอถ่ายรูปเสร็จตอนแรกจะแวะกินข้าวแกง ข้าวดันหมดซะงั้นแล้วจะกินไงฟ่ะเนี่ย ไม่เป็นไรไว้ค่อยแวะมาใหม่เหมือนโชคชะตาจะทำให้เราได้เมาเจอร้านอาหารทะเลซะงั้นอ่ะ โชคดีมากที่น้องเอมอยากไปดูของที่ระลึกตรงซอยข้างๆ ท่าเทียบเรือหาดราไวย์ซึ่งที่นี่ทำให้เราได้เจอกับอาหารทะเลราคาถูกกุ้งมังกรโลละ 1,000 อ่ะ กั้งตัวเท่าแขนเลยโลละ 1,200 จขบ.เห็นกั้งแล้วรู้สึกโชคดีจังที่สมัยก่อน จขบ.อยู่จังหวัดสุราษฏร์ธานี แต่ก่อนเนี่ยคนไม่รู้จักกั้งก็ไม่กินกันชาวประมงพอกั้งติดอวนเค้าก็แกะทิ้ง จนมีคนนำมาทำอาหารแล้วก็เอามาขายในตลาดสดกิโลละ 30 บาท จขบ.จำได้เลย แม่ตัวอะไรอ่ะจะกุ้งก็ไม่กุ้ง ด้วยความที่ที่บ้านเป็นบ้านแห่งการชอบลองของแปลก แม่เลยซื้อมานึ่งกินกับน้ำปลาลอยนะ อร่อยที่สุดเลยล่ะเพราะเนื้อกั้งสดๆ เนี่ยหวานอย่างบอกใครเชียว ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะกลายมาเป็นสินค้าราคาแพงยังกะกุ้งมังกรเลย ดีนะที่ตอนเด็ก จขบ.กินตุนมาเยอะ อิอิ
ระหว่างที่เดินดูอาหารทะเลอยู่นั้น ก็หันไปเห็น "ร้านคุณภาราไวย์บาบีคิว" ร้านนี้มันเป็นร้านที่อ่านในรีวิวนี่หว่าว่าเป็นร้านรับทำอาหารรสชาติใช้ได้ พวกเรามองหน้ากันจัดเต็มอีกมื้อไหมล่ะก่อนอำลาภูเก็ต ไม่ต้องไปเที่ยวมันแระกินดีกว่า (ตอนแรกจะไปสะพานรักสารสิน) สมาชิกทุกคนเห็นด้วยจัดเลย เหมือนมองตาก็รู้ใจอย่าได้พลาดอะไรประมาณนั้น ซื้อกันกระจายอย่าได้แคร์ว่ามาแค่สามคนเหอะ
ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมถุงละ 100 กุ้งกิโลละ 450 เป็นกุ้งทะเลด้วยไม่ใช่กุ้งเลี้ยง ปลาหมึกโลละ 180 หอยแครงโลละ 100 หอยหลอดโลละ 200 เอามาครึ่งโลโหเยอะมากเลยอ่ะ พอจ่ายเงินแม่ค้าที่ขายของสดเสร็จก็เดินเข้าร้านคุณภาราไวย์เลยกุ้งก็เอามาเผา ปลาหมึกแบ่งทำเป็นปลาหมึกย่างกับปลาหมึกผัดผงกระหรี่ ส่วนหอยหลอดเนี่ยผัดแล้วกัน หอยนารมก็ซื้อเครืองเคียงเค้า หอยแครงก็แบ่งเป็นลวกครึ่งเผาครึ่ง ตอนสั่งก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่พอตอนของมานี่ดิเต็มโต๊ะถึงกับไม่มีทีวางกันเลยทีเดียว หมดเนี่ยค่าของประมาณเจ็ดร้อยกว่า ค่าทำ 380 บาท เบ็ดเสร็จพันกว่าบาทเบาๆ ทำเอาเลี่ยนอาหารทะเลกันไปเลย
พวกเราออกจากหาดราไวย์ก็สามโมงครึ่ง งานงอกแระกินกันเพลินไปหน่อย ตอนแรกว่าจะเข้าในเมืองไปหาเพื่อนก่อนแล้วค่อยไปสนามบินดูเวลาแล้วตอนนี้ไปสนามบินยังลุ้นเลยเหอะ จากหาดราไวย์มาถึงสนามบินเนี่ยเป็นชั่วโมงอยู่เหมือนกันเพราะรถติดใช้ได้เลย พวกเราต้องไปถึงเกตสี่โมงครึ่งด้วย ก่อนเข้าสนามบินก็ต้องแวะปั้มเติมน้ำมันให้เต็มถังอีกด้วย จะว่าไปบริโอ้เนี่ยก็ประหยัดน้ำมันดีเหมือนกัน ขับมา 3 วันเนี่ยค่าน้ำมันยังไม่ถึงพันเลยอ่ะ พอหาปั้มเติมน้ำมันเสร็จพวกเราก็มุ่งหน้าสู่สนามบินเลย
มาถึงก็คืนรถก่อนเลยเจ้าหน้าที่ก็มาดูรถเพราะพวกเราโทรไปแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ เค้าก็ตรวจสอบรถพวกเราก็บอกเค้าว่าย้อนกล้องดูมันน่าจะบุบตั้งแต่ตอนรับรถแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูน่าจะมีการบุบมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เพื่อความชัวร์เค้าให้พวกเราเซ็นต์เอกสารประกันไว้ก่อน เอาวะไหนๆ ก็จ่ายค่าประกันไปแล้วเซ็นไปแล้วกัน พอเคลียกันเสร็จเรียบร้อยก็ไปจ่ายเงินค่าส่วนเกินจากคูปองรถเช่าก็เป็นอันเรียบร้อย เข้าเช็คอินเดินสวยๆ ได้แระ
ไฟท์กลับของพวกเราเป็น FD 3018 ระหว่างที่เดินจะไปขึ้นเครื่อง จขบ.กะลังถ่ายรูปอยู่นั้น เอ้ย..น้องๆ ออฟฟิตเก่านี่หว่า โห..โลกจะกลมไปไหนมาทริปเดียวกันกับพวกเราเลย แต่น้องๆ เค้าได้ไปดำน้ำ พวกเราสิดำในสระน้ำแทนซะงั้นอ่ะ ทริปนี้ก็เป็นอีกทริปประทับใจของ จขบ. เพราะนานๆ จะได้มาพักผ่อนนอนชิวๆ ตื่นสายๆ ไปไหนก็ไม่มีแผนก็สนุกไปอีกแบบ ก็ต้องขอบคุณเจ้าของทริปคู่เลิฟหมูอ้วนที่ให้ จขบ.มาเป็น กขค อิอิ ..
จากนั้นพวกเราก็ทยานขึ้นฟ้าอำลาภูเก็ตด้วยน้องหางแดงใช้เวลาบินจากภูเก็ตมากรุงเทพฯ ก็สองชั่วโมงแต่เหมือนถึงก่อนกำหนดบินแค่ชั่วโมงครึ่งเอง ก็มาถึงกรุงเทพกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ .. ทริปนี้หมดไปห้าพันกว่าบาทรวมทุกสิ่งอย่างแล้วพร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับ ก็โอเคเลยไว้โอกาสหน้าจะมาซ่อมใหม่นะ ภูเก็ต ... แล้วพบกันใหม่ในรีวิวสวัสดีปีนังค๊า
Create Date : 25 มิถุนายน 2556 |
|
4 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2556 0:34:52 น. |
Counter : 2845 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะคะ