Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

1,864 โค้ง สู่เมืองสามหมอก

25 พ.ย. 2550

ขับรถมุ่งหน้าสู่เมืองสามหมอก ด้วยเส้นทาง ดอยอินทนนท์ แม่แจ่ม ขุมยวม แวะเที่ยวดอยแม่อูคอ กว่าจะถึงแม่ฮ่องสอนได้ต้องผ่านเส้นทางที่ถูกกล่าวขานว่าอันตรายลำดับต้นๆของเมืองไทย แต่เราก็ทำได้ถึงแม้เบรคจะเหม็นไหม้ รถจะเสียงดังแปลกๆ แต่เราก็ภูมิใจที่ครั้งนึงได้มาเยือน



เส้นทางจะเป็นโค้งหักศอกหลายโค้ง ยิ่งทางแม่แจ่มด้วยแล้วแย่มากๆ เลยแถมแคบด้วย



และนี่คือความภาคภูมิใจที่ได้มา หายเหนื่อยเลยล่ะ ไปรับที่หอการค้า จ.แม่ฮ่องสอนมาค่ะ



ก่อนถึงแม่ฮ่องสอนเราแวะเข้าไปเที่ยวดอยแม่อูคอ เพื่อดูดอกบัวตอง เหลืองอร่ามไปทั้งดอย





เย้ยยย หน้าบานแข่งกับดอกบัวตอง ดีนะไม่ใช่ดอกทานตะวันไม่ง้านคงเท่ากาละมัง







บางคนก็มากางเต้นท์นอนด้วย พี่ต้นเดินเข้าไปถามบอกว่า 500 บาท แต่เรา 2 คนขอบาย เพราะไม่ชอบนอนเต้นท์เนื่องจากลำบากเรื่องเข้าห้องน้ำน่ะ



ใกล้จะมืดแล้ว เพราะตอนนั้นประมาณ 5 โมงกว่าๆ ได้



ดอกไม้สวยๆ ระหว่างแวะพักเข้าห้องน้ำ



ไปดูบอลลูนกันดีกว่า เสียค่าบริการคนละ 100 บาทและได้กาแฟร้อน 1 ถ้วย ขึ้นไปชมความงามของดอกบัวตองและหุบเขา คนละประมาณ 20 นาที แต่บอลลูนขึ้นไม่สูงมากนักสู้ที่สิงคโปร์ไม่ได้







เหลือระยะทางอีก 90 กว่าโลจึงจะถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แต่ทางก็ยังคดเคี้ยวอีกเหมือนเดิม โค้งจนเฮือกสุดท้าย ใครหนอช่างจับเอาจังหวัดนี้มาไว้ในหุบเขา การคมนาคมสุดๆ ไปเลย แทบจะไม่อยากออกจากเมืองไปไหนทั้งนั้น ถนนหนทางปราบเซียนจริงๆ อิอิ เซียนหรือเสี้ยนวะเรา

แล้วเราก็มาถึง อิมพีเรียลธารา โรงแรมที่หรูสุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้วล่ะ จริงแล้วอยากพัก The dai แต่จองไม่ทัน เพราะราคาไม่แพงเว่อร์จนเกินไป
อิมพีเรียลธารา ราคาคืนละ 2,798 เป็นโรงแรม 4 ดาว ความสวยงามก็งั้นๆ การบริการไม่ได้เรื่องเลย เราไปถึงขณะที่ไฟช้อตสายไฟพอดี จึงแค่ check in ก่อนยังไม่เอากระเป๋าลง แล้วรีบไปหาข้าวทาน เนื่องจากหิวมากแล้ว

ร้านนี้เลยค่ะ เป็นร้านอาหารแนะนำของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเค้าล่ะ



คนเยอะพอสมควร และมีเพลงเพราะๆให้ฟังด้วย



อาหารที่สั่งก็มี อ๊อบไก่เมือง เป็นอาหารพื้นเมืองของไทยใหญ่



น้ำพริกลงเรือ กับผักจานใหญ่



แกงส้มแป๊ะซะ อยากกินมาหลายวันแล้ว



อาหาร 3 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน และน้ำดื่ม 1 ขวด คิดเงินเราไป 300 กว่าบาท

อิ่มแล้วไปเดินถนนคนเดิน มีของขายหลายอย่าง แต่ไมใหญ่เหมือนเชียงใหม่ แต่ก็เป็นร้านน่ารักๆ มาวางปูเสื่อขายกัน ใกล้กันนั้นมีวัดจองคำจองกลาง มามะไปดูกันสักหน่อย





เป็นสถาปัตยกรรมของไทยใหญ่ กลางคืนก็สวยงามไปอีกแบบ แต่ไม่กล้าเดินเข้าไปชม ก็มืดตึดตื๊อแบบนั้น ไว้มาใหม่ตอนกลางวันดีฟ่า ก่อนเดินออกมาเห็นศาลาอยู่กลางน้ำแบบนี้ด้วย แต่กล้วอะ



พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาเหลือจะแวะมาอีกทีนะจ้ะ



ออกมาที่ถนนคนเดินอีกนิด ได้ตุ๊กตากระเหรี่ยง 5 ตัวร้อยกลับมา เดินกลับมาที่รถ อ้าว เราจอดรถที่เขตพื้นที่การศึกษานี่เอง 555 ข้าราชการครูไปไหนมาไหนไม่พ้นต้นสังกัดเลยเฮา



อากาศก็หนาวเหมือนกันแต่ไม่มากนัก แต่เพลียมากแล้วล่ะ ขับรถมาทั้งวันกลับไปนอนดีกว่า

มาถึงที่พักไฟมาแร้นนนนน เชิญเข้าชมห้องพักของเราในคืนนี้เลยค่ะ โรงแรมอิมพีเรียลธารานะเคอะ



ขนาดห้องกว้างขวาง โรงแรมไม่ใหม่แล้วล่ะ แต่ความสะอาดยังได้มาตราฐาน
เตียงกว้างใหญ่ และใช้ที่นอนอย่างดี





การจัดตกแต่งห้องก็ธรรมดา ห้องน้ำมี Tub แต่ก็ไม่ได้หรูหราใดๆ ได้มาตรฐานโรงแรมทั่วไป





อาบน้ำออกมา ชายชราผู้นี้ก็นอนดูทีวีอย่างสบายอารมณ์ มีความสุขจริงจิ๊งงงงงงง นะพ่อคุณ



ด้วยความเพลียหลับเหมือนตายไม่ฝันอะไรเลย เย้ๆ โรงแรม 4 ดาวนอนไม่ปวดหลังเลยเชียว

ตื่นเช้ามารับอากาศสดชื่นที่ระเบียงห้อง ห้องที่เราพักตรงกับสระว่ายน้ำพอดีเลย



หันไปทางขวาพบบันไดซึ่งสามารถเดินชมสวนและเดินขึ้นไปห้องอาหารได้ค่ะ



หิวแล้วไปทานอาหารกันเถอะ ก็คงหนีไม่พ้น ABF. อีกแน่นอน



ไข่จานนี้ของคุณสามี



ข้าวต้มไก่ โหววว ไรฟร่ะ โรงแรม 4 ดาวให้ทานข้าวต้มไก่ เมื่อวานบ้านรัตนัยยังได้ทานกุ้งตั้งหลายตัว แหวะๆ



ถ้วยนี้ก็ของเรา อร่อยๆ กินเมื่อไหร่ก็อร่อยทุกที



อิ่มแระ บ๊ายบายน้องไก่กุ๊กๆ



ไปเดินเล่นกันดีกว่า เมื่อคืนมาค่ำแล้วมืดตึดตื๊อ ยังไม่ได้เดินสำรวจเลยว่างามงดแค่ไหน



โรงแรมก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย สวนก็มีไม่มากนัก ธรรมดามากๆ อะนะโรงแรมในเครืออิมพีเรียลเป็นแบบนี้นี่เอง

ไปนั่งเล่นที่ Lobby สั่งนิดนุงก่อนที่จะ Check out แล้วไปเที่ยวต่อดีกว่า



ไปแล้วนะจ๊ะอิมพีเรียลธารา บ๊าย บาย



ต่อไปเราก็ทัวร์แม่ฮ่องสอนต่อ เริ่มพระธาตุดอยกองมู แต่ระหว่างทางขึ้นเราแวะวัดนี้กันก่อน ก็เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ แต่ถ่ายรูปแค่หน้าวัดไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะดูๆ แล้วเหมือนไม่ค่อยมีอะไรให้ดู



ทางขึ้นพระธาตุดอยกองมูแคบมากๆ ต้องขับด้วยความระมัดระว้ง ขึ้นมาแล้วก็จะพบกับศิลปะของชาวไทยใหญ่ล้วนๆ ส่วนใหญ่จะเน้นสีขาวและสีเงินๆ เหมือนเอาสังกะสีมาฉลุ แต่ก็สวยไปอีกแบบ

พระพุทธรูปจะทาปากสีแดง และมีดอกไม้ประดับสีสดใส







ชมวิวทิวทัศน์กันหน่อย ยังมีหมอกจางๆให้เห็น หมอกเวลา 10 โมง หุ หุ



หูยยยย พระธาตุสีขาวสวยงามอร่ามจิต



ขอให้พระธาตุเป็นสักขีพยานในความรักของเรา ให้รักเรายืนยง กิ๊กๆ



สวยจัง สถาปัตยกรรมของชาวแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก



เรามาถึงแม่ฮ่องสอนกันจริงๆน๊า ไม่ได้หลอก นี่ไงป้ายแผนที่แม่ฮ่องสอน



ชมแผนที่กันแล้วอันนี้ของจริง วิวจากพรธาตุดอยกองมู



ไปทำบุญดีกว่า ใส่เหรียญเท่ากับอายุตนเอง + 1 คือเกินไปอีก 1 ปี สองคนรวมกันแลกเหรียญไป 71 เหรียญ โฮะๆ ยังไม่ถึง 100 วุ้ยยย



สักรูปกับป้าย ยัยนี่ทามมายชอบถ่ายกะป้ายจังวะคะ



ลงดอยมาสักครู่ พอถึงตีนดอยก็เข้าไปวัดพระนอน โอ้โห พระท่านนอนจริงๆ ด้วย องค์ใหญ่มากมาย



เรา 2 คนตัวเล็กไปถนัดตา



หลังจากทำบุญแล้ว เราเดินทางต่อ ระหว่างที่จะมุ่งหน้าเข้าเมือง ก็แวะถ่ายรูป
กับพระยาสีหนารถ เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนเป็นที่ระลึกว่าได้มาเยือนเมืองท่านแล้วนะก๊ะ



ไม่รอช้า ขับรถแซงซ้ายแซงขวา มุ่งหน้าสู่หอการค้าจังหวัดเพื่อไปรับเกียรติบัตร ผู้พิชิต 1,864 โค้ง และซื้อเสื้อมา 2 ตัว แล้วคอยดูตอนต่อไปว่าจะเห่อเสื้อใหม่กันแค่หนายยยยยยย

พระธาตุจองคำจองกลางที่มาเมื่อคืน ยังเดินไม่ทั่ว ไปกันใหม่ดีกว่าคงไม่ทำให้เสียเวลามากนักหรอก





อยู่ไหนๆ เราก็รักกั๊นรักกัน



จ๊ากกกกก นี่เที่ยงแล้วเหรอ เหวอๆ ยังไปไม่ถึงไหนกันเลย หนทางยังอีกยาวไกลยิ่งนัก ว่าแล้วก็ขับรถกลับไปกลับมาหาปั๊มน้ำมัน แว๊กๆๆๆๆๆ น้ำมันแพงมากเรยยย แก๊สโซฮอล 30 บาทลิตรหรือนี่ ตรูจะบ้า

ขับรถไปอีกไม่ไกลนักประมาณ ครึ่งชั่วโมงถึงภูโคลน ไปภูโคลนไม่ยากเพราะเป็นเส้นที่จะไปปางมะผ้า แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปทางเดียวกับที่จะไปพระตำหนักปางตอง น้ำตกผาเสื่อ ปางอุ๋ง แต่เราจะพบกับภูโคลนก่อน

ถึงแระ ภูโคลนคันทรีคลับ and สปา อิอิ



จุดประสงค์ของนักท่องเที่ยวก็จะมาพอกหน้า พอกตัว นวดตัว จิงแล้วอยากพอกหน้า เพราะเค้าบอกว่าเป็นโคลนที่มีประสิทธิภาพในการดูดสารพิษ และช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้กับผิว ทำแล้วหน้านิ่ม แต่ว่าต้องล้างหน้าเอา คสอ. ออกก่อนด้วย ไม่สะดวกเพราะว่าต้องค้นครีมล้างหน้าออกมาอีก เลยขอบาย เด่วจะซีดกันไปใหญ่หมดสวย ยิ่งสวยลากไส้อยู่ด้วย



ถ้าได้พอกหน้าก็จะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 30 นาที



เดินชมให้ทั่วๆ แบตหมดพอดีเรยยย ต้องไปขอที่ร้านค้าเสียบไว้ แล้วอุดหนุนไอติมคนละนิดละหน่อย แต่เพื่อนสนิทคู่ใจ ซื้อมาม่าคัพอีกแล้วครับทั่น

คุณชายมาม่ากับบ่อโคลน เข้ากั๊น เข้ากัน



ทีเราบ้าง ไม่ได้นวดหน้า พอกหน้า ขอซื้อกลับบ้านละกัน นี่เลย ครีมอาบน้ำจากภูโคลน และผงพอกหน้า 1 ซอง



ได้เสื้อมาอีก 1 ตัว 555 สีดำ แล้วที่นี่นี่เอง ที่เราเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อ ที่ซื้อมาจากหอการค้าเมื่อตอนขึ้นไปรับเกียรติบัตรผู้พิชิต 1864 โค้ง

แถน แถน แถ้นนนนนนนน เปลี่ยนเสื้อแล้วพวกเราก็ไปพระตำหนักปางตอง ไปดูเค้าเลี้ยงแกะ แต่หูยยยยย ทางลำบากลำบนมากๆ ชันชะมัด แถมไกลอีกต่างหาก แล้วก็ไม่มีอะไรให้ดูด้วย อยากไปปางอุ๋งแต่ว่าไม่สามารถแล้ว แค่นี้ก็สงสารรถมั่กแล้ว



แกะมีอยู่ 3-4 ตัวนี่แหละ



ไม่มีอะไรดูเล้ย เสียดายขึ้นมาตั้งไกล กลับดีกว่า หิวมากแล้วด้วยจะบ่าย 2 แล้วนี่ ขับรถประมาณ 40-50 นาทีก็มาถึงถ้าปลา แต่เราไม่รอช้ารีบหาอะไรกินกันก่อนที่จะเป็นลม



ข้าวเหนียวหมูย่าง






และนี่ชื่นใจที่ซู๊ดดดดด หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง



อิ่มแล้วก็มีแรงลุกไปถ่ายรู..ต่อ และนี่ถ้ำปลา ถึงแล้วจ้า



เซ็นชื่อเข้าชม





ระหว่างทางเดินไปถ้ำปลา ร่มรื่นมีมุมให้ถ่ายรูปหลายที่





กังหันน้ำชัยพัฒนา เอ้ย..ม่ายช่าย อิอิ เห็นกังหันน้ำที่ไหนไม่ได้เรียกกังหันน้ำชัยพัฒนาไปหมดยัยนี่ ถ้าจะบ้า



บ้านไทยใหญ่



และนี่คือปลาจำนวนมหาศาล ตัวใหญ่ด้วย ทำไมถึงมาอยู่กันแถวนี้นะ คุณสามีบอกว่าเลี้ยงไว้แน่เลย เพื่อดึงดูดคนให้มาเที่ยว แต่เราเถียงว่า คงเป็นน้ำเย็นสบาย อุณหภูมิพอเหมาะ ปลาชอบเลยขยายพันธ์อย่างรวดเร็ว



เย้....มีความสุขจังเลยได้มาเที่ยวแบบนี้ อากาศเย็นสบายและมีอะไรให้ดูอีกมากมายแถมมากับคนแนบสนิท อะจึยๆๆ



ไปต่อกันดีกว่า ขับรถไปเรื่อยๆ อยากไปถ้ำลอด ระหว่างทางแวะชมวิวทิวทัศน์กันตลอด วิวสวยๆ ทั้งนั้นเลย



จอดรถอีกแระ ลงไปยืดเส้นยืดสาย ก็แหม! ทางพี่ท่านสุดยอดหักศอก จนศอกจะหักแล้วเนี่ย เมื่อยๆๆๆๆ เส้นทางปางมะผ้า ข้าน้อยขอคารวะ



ทำเนียนๆ คุณพี่ขา คุณพี่บอกน้องว่า อ้าปากหน่อยจะให้กินถั่ว ป้อนข้าว ไม่ป้อนน้ำตลอดเส้นทาง อีน้องนางก็สองมือโยกพวงมาลัย ตรีนเหยียบคันเร่ง ไหงพอถ่ายรูปกลายเป็นคุณพี่เป็นผู้พิชิตเส้นทาง 100 โค้ง 1000 โค้งได้ล่ะคะ



นั่งพักฟังสะล้อซอซึง กันหน่อยเถอะค่ะ อึๆ อุ้ยข้างคนนี้ ชมว่าเราสวยจัง ปากหวานแบบนี้เอาไปเลยค่ะ สิบะ ค่าชม



ก่อนขึ้นรถ ขออีกสักภาพ อากาศและหมอกเวลา 4 โมงเย็น



และแล้วฝีตรีนขั้นเทพอย่างเราก็พาไปถึงจุดหมาย แต่ว่าเสียดายที่แวะเที่ยวถ้ำลอดไม่ทัน
แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อปาย นะคะ พบกันที่ปายค่ะ ปายฟ้าแค่หลับตาลงคงพบกัน




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2550
2 comments
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2553 0:20:47 น.
Counter : 3925 Pageviews.

 

รอดูรูปอีกค่า

 

โดย: เหงาจับใจ 24 ธันวาคม 2550 22:34:25 น.  

 

ใกล้แล้วกบ พี่จะรีบสัญญาว่าจะรีบ อิอิ ยังไม่ถึงปายเลย กรั่กๆ

 

โดย: p_pat_p 25 ธันวาคม 2550 2:24:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.