Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
8 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
ทริปแรกแห่งปี : { chiangmai } i love this place

1-3 /01/2010

ปีใหม่ปีนี้สุขใจยิ่งนัก เราส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการเข้าวัดสวดมนต์ยาวๆแบบข้ามปีซึ่งเป็นพิธีกรรมอย่างสมบูรณ์สุดๆ เสริมมงคลและทำบุญครบทุกอย่างไม่ว่าจะ สวดมนต์ ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง อาหารสด ทำสังฆทาน ปล่อยสัตว์

2 ปีติดกันที่ปีใหม่แล้วขึ้นไปเชียงใหม่ ปีนี้ทำบุญเสร็จสายๆ ก็ขับรถไปเรื่อยๆ ไปถึงที่พักบ่าย 4 โมง เข้าที่พักก่อนเลย ที่พักในครั้งนี้ซื้อมาจากงานท่องเที่ยวไทย โดยฝากเพื่อนแอนซื้อค่ะ เราพักกันที่ Butterfly ตอนซื้อไว้ในแพคเกจระบุว่าเป็นช่วง Low แต่มาต้นปีแบบนี้แถมเป็นวันที่ 1 อีกต่างหาก เลยต้องเพิ่มเงินอีก 800 กว่าบาท



ที่พักอยู่ที่ตำบลสันผีเสือ เลยใช้ผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์และใช้ตั้งชื่อรีสอร์ทซะเลย



แปลกใจรถคันที่จอดอยู่ข้างๆ ว่าเอ ใครเหมามานะ เพราะว่ารถแบบนี้จะมีอยู่ไม่กี่จังหวัด ซึ่งเราเรียกว่ารถคอกหมู เดินไปดูใกล้ๆ อ้าว...มาจากอำเภอเดียวกับที่เราอยู่เลย 555 โลกกลมจริงๆ ถามยามที่ดูแลรถเค้าบอกว่า เจ้าของรีสอร์ทซื้อไว้รับส่งแขก อิอิ



ไป check in ก่อนดีกว่ามีน้ำส้มเย็นๆ รออยู่แล้วค่ะ



ขึ้นไปบนบ้านก่อนค่ะ เราได้บ้านหลังในสุดๆ เลย ดูห่างไกลความเจริญยังไงก็ไม่รู้ มีป้ายต้อนรับด้วย เชิญขึ้นบันไดค่ะ เราจองไว้ชั้นบน







ทางเดินไปหลังข้างๆ ค่ะ



แต่ของเราหลังนี้



เปิดประตูเข้าไป....... มีโซฟาให้นั่งพักผ่อน



บนโต๊ะมีดอกไม้ แต่ไม่มีผลไม้ไว้ต้อนรับ มีพวงกุญแจการ์ตูนที่เราวางเอาไว้เมื่อกี้



มีตู้เย็นค่ะ แต่ไม่มีอะไรให้เลย นอกจากน้ำ 2 ขวด



เตียงนอนสีทึมๆ และผ้าม่านที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเข้ากันกับสีผ้าปูที่นอน



แอบผิดหวังกับห้องพัก ทั้งที่ดูรีวิวจากคนอื่นมาบ้างแล้วก็ไม่ค่อยชอบสีผ้าปูที่นอน แต่พอมาเห็นของจริงและห้องที่เราได้ ผ้าปูที่นอนดูไม่ดีเลย





มีโต๊ะเขียนหนังสืออยู่มุมบันได



ต้องลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง บันไดชันมากๆเลย



ประตูห้องน้ำเป็นแบบโบราณต้องใช้ไม้ขัด



อ่างล้างหน้า ไม่ค่อยสะดวกเลยเราต้องมาแต่งหน้าตรงนี้ เพราะข้างบนไม่มีกระจกแถมไฟในห้องน้ำก็ไม่ค่อยสว่างอีก



แต่โถส้วมนั่งสบายค่ะ



อ่างอาบน้ำค่ะ น้ำไหลแรงและร้อนเร็วดี



เปิดประตูออกไปก็จะเป็น Open air





แต่คงไม่กล้าอาบแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยจะมิดชิดเอาซะเลย เดี๋ยวแอบโดนถ่ายเหมือนโฟว์กับมด หุหุ ถ้าเค้าเอาไปขายจะขายได้ไหมนั้น พุงกะทิ 3 ชั้นติดมันด้วย



พื้นไม้เดินแล้วสากๆเท้า ใส่รองเท้าสักหน่อย



เปิดประตูออกไปที่ระเบียงจะมีมุมให้นั่งเล่น



ร่มแดงสวยดี





นั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้อง จะใช้ไวเลสต่ออินเตอร์เน็ต แต่ก็ต่อไม่ได้ ให้พนักงานมาดู เค้าบอกว่า Username คือ I love this place พยายามต่ออย่างไรก็ไม่ได้ ต้องใช้สาย Lan เสียบไม่สะดวกเลยอะ ห้องก็มืดไม่สามารถยกไปนั่งเล่นที่ระเบียงได้ งั้นลงไปเดินเล่นข้างล่างดีกว่า



รีสอร์ทอยู่ติดน้ำปิงนะคะ



มีสนามหญ้ากว้างๆ ให้วิ่งเล่น



ชอบมุมนี้ค่ะ ชิลดี



ส่วนคุณสามีชอบมุมนี้



ประตูสวยๆ แต่คนหน้าประตูก็ทนๆ ดูกันไป



เหงาๆกับบรรยากาศริมน้ำ









ในรีสอร์ทยามเย็น ของวันปีใหม่ช่างเงียบเหงายิ่งนัก ชักสงสัยว่าไม่มีใครมาพักบ้างเลยเหรอ





เข้าไปนั่งรอที่ lobby เนื่องจาก 19.30 น. เราจะไปล่องเรือที่ริเวอร์ไซด์



ต้นคริสต์มาสเล็กๆ



รอเวลารถพร้อมค่ะ เค้ามีบริการไปส่งฟรี





แล้วรถก็ไปส่งที่ Riverside ขอบอกน้าคนขับรถใจดีมั่กๆ



เรือลำนี้ครับผม ที่เราจะไปล่องเรืองทานอาหารในค่ำคืนพิเศษๆ นี้



ลงเรือมาแล้วค่ะ บรรยากาศภายในเรือค่ะ แต่เรือลำไม่ใหญ่นะคะ มีโต๊ะนั่งประมาณ 10 โต๊ะได้



พอนั่งปุ๊ป มีน้ำมะพร้าวมาเสิรฟ์ทันที



จุดเทียนสร้างความโรแมนติก



และอาหารก็ทยอยมาค่ะ



ออเดริฟ์เมือง แหนมอร่อยมาก





พออาหารมาครบประมาณ 2 ทุ่มครึ่งเรือก็ออกค่ะ



ผ่าน goodview



ผ่านสะพานนครพิงค์



เรือแล่นไปถึงประมาณป่าตันค่ะ แล้วก็วกกลับเลยไปจนถึง The Chedi และกลับเข้ามาส่งที่ท่าเรือริเวอร์ไซด์ตามเดิม ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง



พอกลับขึ้นฝั่ง มองขึ้นไปจากพงหญ้าเห็นริเวอร์ไซด์แบบนี้ค่ะ



นัดรถไว้ให้มารับด้านหน้าค่ะ



นั่งรอตรงนี้ไม่นานรถก็มารับ มาก่อนเวลานัดด้วยซ้ำ เยี่ยมมากค่ะ



ถึงบัตเตอร์ฟายด์แล้วจ้า



รีบตื่นแต่เช้า อากาศเย็นๆ ไม่อยากจะอาบน้ำเลย แต่ต้องรีบไปทานอาหารเช้าเพราะวันนี้เราจะขึ้นดอยไปดูนางพญาเสือโคร่งกัน




บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร



Mr.egg ชอบกินจั๊งไข่ต้ม



อาหารเช้าที่นี่ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะคะ มีให้เลือกเป็นชุด มีอเมริกัน และข้าวต้ม



อิ่มแล้วเดินสูดอากาศยามเช้า สดชื่นที่ซู๊ดดดดดดดดดเลย







มีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ เล็กๆ แต่เช้าๆแบบนี้ไม่มีใครมาว่ายหรอกค่ะ





ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวค่ำๆ ค่อยกลับมาใหม่



จุดมุ่งหมายของเราคือ พระตำหนักภูพิงค์ค่ะ แต่ว่าไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมพระตำหนักนะคะ จะไปจอดรถแถวนั้นแล้วนั่งรถต่อไปที่ขุนช่างเคี่ยนค่ะ เนื่องจากทางแคบค่ะ ไม่อยากเสี่ยงขับไปเอง





ขุขช่างเคี่ยนเค้าขึ้นไปทำไมกันหนอ เราจะไปดูดอกซากุระเมืองไทยค่ะ 1 ปีจะบานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หาดูยากด้วยล่ะโชคดีที่มาแล้วบานพอดี





มีชาวเขาแบกของมาขายด้วยค่ะ









ดอกสวยมากมาย สีชมพูอ่อนๆ ชอบจังค่ะ ไม่ต้องไปญี่ปุ่นเลย เมืองไทยก็มีนะซิบอกไห่



ท้องฟ้าเวลาเที่ยงวันร้อนได้ใจ แต่ก็สวยซะเหลือเกิน

















บนขุนช่างเคียนนี่ไม่มีอะไรค่ะ นอกจากมาดูดอกนางพญาเสือโคร่ง มาถ่ายรูปกันอย่างเดียวจริงๆ ฝุ่นก็เยอะนะคะ เดินไปเดินมาเริ่มร้อน คุณสามีก็หิวอีกด้วย เลยไปที่ร้านกาแฟเล็กๆ แล้วได้มาม่ามากินคนละถ้วยค่ะ





พักหายเหนื่อยหายร้อนก็ไปเดินกันต่อ





ชอบรูปนี้มากๆ เลยได้บรรยากาศเหงาๆ เหมือนในหนังเกาหลียังไงก็ไม่รู้ ประมาณว่า อึนโซเดินตามอุนโซในเรื่องรักนี้ชั่วนิรันดร์ เว่อร์อีกแล้วเรา





ไม่รู้จะบรรยายยังไง ดูไปเรื่อยๆละกันนะคะ









และลุงหมานคนที่ขับรถพาเราขึ้นมา ตอนแรกลุงแกคิดจะให้เราเหมา 1500 บาท แต่เราบอกว่าแพงไป รอคืนอื่นมาแชร์ก่อน ไปๆ มาๆ ได้มาทั้งหมด 11 คนลุงแกเลยคิดคนละ 100 บาท ขอบอกว่าลุงใจดีมาก ตลกดีด้วย แต่ทำไมคนทีคิวรถถึงเรียกลุงแกว่า หมานหมาว้อ ทำให้เราสงสัย เพราะหมาว้อแปลว่าหมาบ้า จนกระทั่งลุงแกขับรถขึ้นบนขุนช่างเคี่ยนเท่านั้น ทำให้เราถึงบางอ้อ เพราะว่าลุงแกด่ารถแทบจะทุกคันที่สวนมา แล้วก็ขับรถซิ่งมากๆ แต่หนูชอบลุงนะคะ ลุงฮาดีค่ะ



ขากลับลุงหมานก็จอดให้ลงที่หน้าพระตำหนักภูพิงค์เราก็ไปเอารถ รถติดช่วงดอยสุเทพนานเกือบ ชั่วโมงเมื่อยขาสุดๆ นี่ขนาดเกียร์ออโต้นะ ถ้าไม่ใช่เกียร์ออโต้คงสติแตกไปแล้วรถติดบนดอยนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ

ตั้งใจจะไปกินอาหารที่ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง แต่พอขับรถไปแล้วร้านอาหารเปิด 5 โมงเย็นซึ่งขณะนั้นเพิ่งจะบ่าย 3 ก็เลยขับกลับมาที่หลังมอ มากินเย็นตาโฟศรีพิงค์ แล้วไปกินขนมกันที่ mood mellow





ร้านนี้อยู่ศิริมังคลาจารย์ซอยอะไรชักจะหลงๆลืมๆ แต่อยู่เกือบสุดซอยเลยค่ะ เป็นร้านที่แนะนำไว้ในหนังสือเลยมาตามลายแทงค่ะ



สั่งขนมก่อนค่ะ



ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ค่ะแต่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มี 2 ชั้นนะคะ เราขึ้นไปข้างบนดีกว่า มีแอร์เปิดไว้ให้เย็นๆ







ขึ้นมาแล้วต้องมาทักทายเจ้าตัวนี้ก่อนค่ะ









ขนมมาแล้วค่ะ



มาดูกันใกล้ๆดีกว่า ว่าน่ากินแค่ไหน



รสชาติโอเคเลยนะคะ แต่หวานไปนิดค่ะ



นั่งกินขนมอร่อยๆอ่านหนังสือที่ชอบอยู่กับคนที่เรารัก แค่นี้ก็มีความสุขมากๆแล้ว

อิ่มแล้วก็จ่ายค่าเสียหายค่ะประมาณ 200 บาทค่ะ



จากนั้นก็ไปช้อปปิ้งที่ central airport



เดินอยู่จนถึง 6 โมงเย็นก็นั่งรถแดงไปเดินเล่นถนนคนเดินที่ถนนวัวลายค่ะ เหตุที่ไม่ขับรถไปเองเพราะว่าหาที่จอดรถยากค่ะ

ส่วนใหญ่มาเดินถนนคนเดินมักจะไม่ค่อยได้อะไรคราวนี้ได้กระเป๋ามาใบเดียว แต่ว่าเดินกินตลอดทาง เริ่มเมื่อยจึงชวนกันกลับแล้วไปทานข้าวที่ร้านบ้านสวนค่ะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารหรูหราค่ะ บรรายากาศดีแต่ตอนที่เราไปดึกไปหน่อย เลยไม่ค่อยมีคนแล้วค่ะ







ร้านนี้อยู่สันผีเสื้อนะคะ ไม่ไกลจาก Butterfly



อยู่ติดน้ำปิงด้วยค่ะ







โคมไฟสวยๆ



ถ้ามาตอนเย็นๆจะสวยมาก เพราะที่นี่ตกแต่งสวยหรูหราเลยทีเดียวค่ะ



ร้านอาหารปิด 4 ทุ่ม ตอนเราไปใกล้จะปิดเต็มที เหลืออยู่แค่ 2 โต๊ะ อากาศก็หนาวด้วย เพราะติดแม่น้ำ

สั่งอาหารไปแค่ 2 อย่าง ข้าวสวย 2 จาน ข้อเสียของการไปไหนมาไหน 2 คน จะสั่งหลายอย่างก็กินไม่หมด





แกงส้มอร่อยจนแทบลืมหายใจ ไม่ได้กินแกงส้มอร่อยๆ แบบนี้มานานแล้ว
ส่วนกุ้งฝอยก็ทอดจนกรอบและอร่อย ประทับใจอาหารมากค่ะ



แต่ราคาอาหารสูงอยู่นะคะ มื่้อนี้เราหมดไป 300 กว่าบาท อาหาร 2 อย่างแต่ก็ประทับใจในความอร่อยค่ะ

กลับถึง Butterfly เซ็งมากค่ะกับความเงียบ ที่ Lobby ไม่มีพนักงานเหลือแล้วค่ะ เราต้องไปหากุญแจเข้าห้องพักเอง เงียบมากค่ะ เงียบจนน่ากลัว ยิ่งขึ้นไปบนห้องพักก็ยิ่งเงียบไปใหญ่ ทีวีก็ไม่มีดู แถมยังเบื่อกับการลงไปเข้าห้องน้ำ ยุงชุมมาก แมวดำก็มี เป็นที่พักที่น่ากลัวสำหรับเรานะ เพราะบรรยากาศภายในห้องก็ทะมึนอยู่แล้ว ยิ่งสีผ้าปูที่นอนก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย เฮ้อ....ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ลองเอามุ้งลงดูให้มันวิเวกวิวังเวงสุดๆ ไปเลยดีกว่า ยุงจะได้ไม่กัดด้วย นี่ขนาดบอกว่ามาครบรอบแต่งงาน ไม่มีอะไรพิเศษให้เลยแม้แต่น้อย ผลไม้ต้อนรับก็ไม่มี ตอนเราบอกว่ามาครบรอบแต่งงาน มีการบอกว่า ขออุบไว้ก่อนนะคะ อุบจริงๆ ไม่มีอะไรพิเศษให้แม้แต่น้อย ไม่ประทับใจอย่างแรงสำหรับบริการและความสะดวกสบายที่ได้รับ



อีกสักรูปค่ะ หลอนดีมั๊ย



เช้ามาตื่นสายได้ค่ะ ไม่ได้รีบไปไหน ตื่นมาทานข้าวสายหน่อยวันนี้





เหมือนๆ ทุกครั้งค่ะ ที่ทานอาหารเสร็จแล้วเราจะเดินชมวิวทิวทัศน์ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ที่นี่เค้าก็มีอะไรๆ น่ารักอยู่บ้างนะคะ ประตูสวยดีค่ะ





บนห้องอาหารยังมีข้างบนให้เดินเล่นนะคะ ซึ่งจะเชื่อมไปอีกหลังนึง มีที่นั่งเล่นค่ะ มานั่งๆ นอนๆอ่านหนังสือ ได้เลย



ที่ Butterfly บริเวณด้านนอกจัดได้ดี มีมุมให้พักผ่อนเยอะ แต่ในห้องน่ะมืดมาก



อยู่ข้างบนมองลงไปด้านล่างแล้วเป็นแบบนี้ค่ะ



















ที่ระเบียงข้างห้องอีกสักรูป



นั่งๆ นอนๆ รอเวลาให้หิ้ว เพราะว่าจะเช็คเอาท์แล้วไปกินบุฟเฟ่ต์ต่อที่ Le Meridien



แล้วก็ขออำลา ขำๆ กับมุ้งกันยุงของที่นี่นะคะ



ตอนเช็คเอาท์ พนักงานคิดเงินผิดจะบวกเพิ่มแบบไม่ยอมลดราคาโปรโมชั่นจากบัตรเครดิต HSBC จะบวกทบไปอีกจึงต้องเรียกเจ้าของมาเจรจา สรุปก็คือน้องพนักงานเข้าใจผิดเกี่ยวกับโปรตอนที่ซื้อมาจากงานท่องเที่ยวไทย

สำหรับ Butterfly ถึงจะไม่สร้างความประทับใจให้กับเราเท่าไหร่ แต่ที่พักก็อยู่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ มีความน่ารักอยู่พอสมควร แต่ควรปรับปรุงห้องพักด่วน ในเรื่องเดินลงไปเข้าห้องน้ำ และแสงสว่างในห้อง แก้ไขปัญหายุงชุม และมีทีวีเถอะค่ะ อย่าตัดจากโลกภายนอกด้วยวิธีนี้เลยทำให้เหงามากกว่าค่ะ

ก่อนกลับแวะเค้กร้านอร่อยอีกแล้วค่ะ เพราะหัวใจมันร่ำร้อง







ถ้วยนี้แหละที่อร่อยจนน้ำตาจะไหล อุ่นๆ ร้อนๆ อร่อยที่สุดในโลก





ร้านนี้แหละค่ะ ที่ชอบทำให้เราเสียเงิน มาเชียงใหม่ทุกครั้งก็ต้องแวะมาแทบทุกที



และที่ลืมไม่ได้คือไปซื้อหมูยอสุจินต์ให้อั่งเปาลูกรัก แล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน ก่อนถึงลำปางแวะอีกแล้วค่ะ กินอีกแล้วร้านนี้







อร่อยดีนะคะ ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ก่อนจะขับรถยาวถึงบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งทริปสำหรับวันดีๆที่น่าจดจำในเชียงใหม่ ซึ่งเป็นทริปแรกของปีนี้ค่ะ

ขอลาด้วยภาพนี้ค่ะ




Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 22:54:24 น. 6 comments
Counter : 1705 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:47:03 น.  

 
ไปเที่ยวเพิ่งจะกลับมาค่ะ อากาศยังหนาวๆอยู่เลย


โดย: ami (ami1982 ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:07:53 น.  

 
แวะมาทักทายครับไม่รู้ดึกไปหรือเปล่า ที่พักน่าพักครับเห็นแล้วอยากไปพักบ้าง อาหารแต่ละอย่างน่าทานทั้งของคาวของหวานแอบอิจฉาได้ล่องเรือทานอาหารด้วยโรแมนติกนะครับ

อีกอย่างได้ไปชมดอกซากุระด้วยตอนผมไปไม่ทันซะแล้วเลยอดขึ้นไปชมเลยไปถึงแค่หมู่บ้านม้งเองครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:07:04 น.  

 
ที่พักแต่ละที่น่าพักทั้งนั้นเลยนะครับ
ที่พักที่ทำด้วยไม้ให้อารมณ์เย็นสดชื่นดีจริงๆ
ดอกซากุระ งามได้ใจมากกกกก
ทริปนี้ภาพจุใจไปเลยครับ แจ่ม


โดย: นายหัวเด่น วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:43:31 น.  

 
น่าไปจังค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:52:25 น.  

 
"ขออุบไว้ก่อนนะคะ" 55+


โดย: นายแว่น IP: 112.142.173.47 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:06:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.