เมื่อฉันอยากเก็บความทรงจำ :: ดื่มดินกินแดด (จักกาย ศิริบุตร)
บนเส้นทางสายใหม่ที่ยังไม่เคยก้าวเท้าเข้าไปเยือน หรือในเส้นทางสายเก่าที่เราเหยียบย่ำอยู่ทุกวัน แทบไม่เคยมีคำถามเกิดขึ้นเลยว่าเรากำลังต้องการอะไรจากที่นั่น สถานที่แห่งนั้นเป็นแค่ทางผ่านเป็นความเคยชินหรือเป็นอะไรมากกว่านั้นที่เราต้องการค้นหา
...ประสบการณ์ใหม่ที่รอให้ถูกค้นพบ หรือความทรงจำเก่าที่เราเคยทำหล่นหาย...
เมื่อฉันได้มีโอกาสหยิบหนังสือเล่มนึงขึ้นมาอ่าน หนังสือเล่มนั้นคือ ดื่มดินกินแดดของคุณจักกาย ศิริบุตรด้วยภาษาที่เรียบง่าย บอกเล่าถึงประสบการณ์และการใช้ชีวิตในต่างแดน และภายในรูปเล่ม ประกอบด้วยภาพสีที่คุณจักกายวาดเอง เป็นภาพภาพที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองโดยแท้ สิ่งเหล่านั้นทำให้ความคิดบางอย่างลอยเข้ามาหาฉันโดยแทบไม่รู้ตัว
...ฉันอยากทำแบบนั้นบ้าง... นั่นคือความคิด ณ เสี้ยวขณะนั้น
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ฉันได้มีโอกาสอ่านหนังสือความเรียงกึ่งท่องเที่ยวมาบ้านิดหน่อยง (ซึ่งขอขีดเส้นใต้คำว่านิดหน่อย) เพราะน้อยมากจริงๆ เมื่อเทียบกับจำนวนหนังสือแนวอื่นๆ ที่วางอยู่บนตู้หนังสือ และยังไม่เคยมีหนังสือเล่มไหน จุดประกายความอยาก อยากจะออกไปเดินให้รอบๆ และหนีบกล้องติดมือไปด้วยเป็นเพื่อนคู่ใจ
ถ้าจำเป็นต้องหาเหตุผลมาอธิบาย ว่าทำไม อะไรในหนังสือเล่มนี้ ดึงดูดใจให้อยากทำแบบนั้น เหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ ก็คงเป็นเพราะ สถานที่ อาหารการกิน และสิ่งต่างๆ ที่หนังสือเล่มนี้กล่าวถึง มันคล้ายกับจุดที่ฉันยืนอยู่และกำลังใช้ชีวิตไปกับมัน นั่นก็คือ อิตาลี นี่เอง แม้จะไม่ใช่เมืองเดียวกัน และหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวก็คงไม่แตกต่างกันไปนัก
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน คือหลายปีที่ผ่านมาฉันแทบไม่ได้มองเห็นอะไรที่พิเศษออกไป นอกจากการใช้ชีวิตไปวันๆ ในเมืองๆ หนึ่ง ที่ไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของเราเท่านั้น ในขณะที่คุณจักกายมองสิ่งเหล่านั้นต่างออกไป มันมีค่า มันมีความทรงจำ
และเมื่อได้มองเห็นคุณจักกาย มองสิ่งที่อยู่รอบตัวของเขาอย่างมีคุณค่า มีความสุขและสนุกกับทุกวันที่เป็นอยู่ ก็เหมือนเป็นกระจกกลับมาสะท้อนชีวิตที่ว่างเปล่าตัวเอง
...บางที...บางทีนะ ฉันอาจจะต้องมองรอบตัวใหม่เสียแล้ว ว่าตัวเองพลาดอะไรไปบ้าง...
ขอบคุณ ดื่มดินกินแดด ที่จุดประกายความคิดดีๆ ที่ทำให้ฉันอยากบันทึกภาพและความทรงจำของตัวเองไว้บ้าง จริงอยู่ ที่ว่าความทรงจำไม่เคยหายไปไหน มันซ่อนอยู่ในหัวสมองของเรานี่แหล่ะ แต่ว่าในช่วงเวลาที่ทอดยาวไปข้างหน้า ถ้าเราหลงลืมมันไปล่ะ
...ความทรงจำที่หล่นหาย ก็คงไม่มีค่าอะไร มากไปกว่าหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า...
ปล. (แอบกระซิบหน่อย) ว่าสิ่งที่ดึงดูดใจฉันมากกว่าภาษาที่เรียบง่าย และความสนุกสนานของชีวิต คือภาพเขียนแปลกๆ ของคุณจักกายค่ะ
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2553 |
|
11 comments |
Last Update : 11 มกราคม 2555 6:25:25 น. |
Counter : 1328 Pageviews. |
|
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
เล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือใหม่ ผมยนังไม่เคยเห็นบนแผงหนังสือเลยนะครับ
จะบอกว่า ... ตอนนี้ผมกำลังคิดที่จะแต่งนวนิยายสักเรื่องครับ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าแต่งแล้วจะมีใครมาอ่านไหม?
อิอิ