Group Blog
 
 
มกราคม 2560
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
Part 04: Day 3 Soul Tower, Subway Shopping and Korean tradition food



วันนี้พี่สาวต้องไปทำธุระ ช่วงเช้าเราเลยไม่ได้ทำอะไรมาก แต่เพื่อนของพี่สาวจะพาไปเที่ยว Soul Tower ในช่วงเย็นหลังจากที่เค้าเลิกงานแล้ว โดยนางจะส่งสามีนางมาดูแลก่อน เราก็เลยเดินแกร่วรอสามีนางแถว ๆ สถานที่นัดพบ ช่วงที่เราไปเจอฝนด้วยค่ะ อากาศหนาวเย็นจับใจ เรามีความรู้สึกว่ามันหนาวกว่าแคนาดาอีกนะ ลมนี่แรงจริงจัง อากาศเย็น+ลมแรงนี่เป็นอะไรที่หนาวสุดใจไปเลยเน้อ 

พวกเราเดินทางไปหาสามีเพื่อนพี่สาวโดยรถไฟใต้ดิน คุณจะพบว่าการเดินทางที่เกาหลีนี่สะดวกสบายมาก เมื่อที่พักของคุณอยู่ใกล้กับขนส่งมวลชน (แหงสิยะ ที่ไหนก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ) รถไฟใต้ดินที่เกาหลีมีร้านขายของด้วยนะคะ มีร้านค้าเยอะมากลงไปชั้นไหนมีทุกชั้น ยิ่งแถวที่เราพักนี่มีทุกอย่าง Etude, Nature republic etc.

เอาเป็นว่าเครื่องสำอางมีทุกแบรนด์ตั้งแต่ถูกยันแพง ร้านเสื้อผ้า, อาหาร, รองเท้า, กระเป๋า มันคือห้างสรรพสินค้าย่อม ๆ นี่เอง (ไปดงแทมุนไม่เสียตังค์ แต่มาเสียตังค์แถวย๊อกใกล้ ๆ โรงแรม ฮ่า ๆ) ที่นี่สถานีรถไฟใต้ดินเรียกว่า “ย๊อก” ค่ะ มุดหัวเข้าไปปุ๊บเสียตังค์ปั๊บสูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วกับคำ ๆ นี้ อุปกรณ์กันหนาว รองเท้าบูท, เสื้อโอเว่อร์โคท, เครื่องสำอาง ขนมนมเนย ทั้งหลายแหล่


ตู้กดขนมก็มีนะ



พวกเราไปถึงที่นัดพบก่อนเวลา เลยต้องหาที่นั่งรอสามีเพื่อนพี่สาวที่คาเฟ่ใกล้ ๆ นี่คือรูปร่างหน้าตาขนมในคาเฟ่ที่เราไปรอเพื่อนพี่สาว หน้าตาดีนะคะ รสชาติอเมริกันมากเลยค่ะ



ถามว่าทำไมไม่ยืนรอข้างนอกเอา จะได้ไม่เสียตังค์ค่าขนมกับเครื่องดื่ม คำตอบคือ อากาศที่หนาวสัดรัสเซีย ทำให้ไม่สามารถยืนรอด้านนอกได้เลย ฝนตกพรำ ๆ อีกต่างหาก ต้องหาที่อุ่น ๆ ซุกหัวอยู่ ไม่เช่นนั้นมีแข็งทื่อกันล่ะค่างานนี้

พอพี่สาวทำธุระเสร็จ ก็ใกล้เวลาเลิกงานของเพื่อนของเค้าพอดี เพื่อนเค้าจะนั่งรถไฟใต้ดินมาเจอเราในสถานีใกล้ ๆ จากนั้นค่อยเคลื่อนขบวนไป Soul Tower กัน ภาพข้างล่างคือบรรยากาศของ Soul Tower ที่เราเก็บมาได้นะคะ ด้วยความสามารถของกล้องมือถือในสมัยนั้น ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ ประกอบกับวันที่ไปฝนตกและเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว บรรยากาศช่วงขมุกขมัวซะเหลือเกิน เดินขึ้นไปก็ได้หอบกันเหมือนกัน แต่ก็สนุกดีเมื่อมองลงมาเห็นว่าเราขึ้นมาสูงเท่าไหร่แล้ว








พอเสร็จจาก Soul Tower สามีเพื่อนพี่สาวเค้าพาไปหาอะไรกิน คุณภรรยาอยากกินอีกอย่างแต่คุณสามีอยากกินอีกอย่าง แต่ร้านที่คุณภรรยาอยากกินมันจอดรถยาก สรุปเลยมาลงตัวที่ร้านนี้ที่คุณภรรยาไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยวัยรุ่น(พ่อแม่) ฮาราบอจี, ฮัลบอจี เต็มไปหมด ดูจากรูปอาหารก็เดาได้ไม่ยากใช่มั๊ยคะว่าเพราะอะไร วัยรุ่นเด็กน้อยที่ไหนเค้าจะกินของแบบนี้กัน





จำไม่ได้เหมือนกันว่าเมนูนี้เค้าเรียกว่าอะไร แต่เราชอบ อร่อยดี รสชาติมันกลมกล่อมเย็น ๆ ไม่เผ็ด หัวไชเท้านุ่มดี ละลายในปาก สามีเพื่อนพี่สาวสั่งมาสองแบบ แบบแรกเป็นไส้ปลา แบบที่สองเป็นเนื้อปลา จากที่กินดูเราเดาว่าทั้งเนื้อปลาและไส้ปลาเค้าเอาไปตากแห้งก่อน แล้วค่อยเอามาทำแกง เพราะมันไม่มีกลิ่นคาว เนื้อปลามันไม่ใช่ปลาสด

ตอนเค้าเอามาเสิร์ฟ สามีเพื่อนพี่สาวหันมาบอกเราว่าให้ลองดู this is Korean tradition dish ไม่รู้เพราะหิวหรือเพราะอะไรเรากินอาหารมื้อนี้ได้ค่อนข้างเยอะ เพื่อนพี่สาวมองด้วยสายตาแบบยายคนนี้ลิ้นจระเข้ พาไปกินอะไรก็อร่อยไปหมด มีการพูดเหน็บแนมเราเบา ๆ ว่ากินของแบบนี้ได้อยู่เกาหลีได้สบายเลย แต่สายตาคุณสามีนี่ชื่นชม เหมือนดีใจที่มีเพื่อนกิน เพราะพี่สาวเรากับเพื่อนพี่สาวกินแต่ข้าวไม่มีใครแตะแกงเลย (เราอยากจะบอกว่า นอกจากเราจะมีลิ้นเป็นจระเข้แล้วตัวเป็นจิ้งจกอีกต่างหากปรับสีได้ตามสถานการณ์ ฮ่า ๆ)


พอมื้ออาหารค่ำจบลง เพื่อนพี่สาวและสามีก็ไปส่งเราที่รถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด แต่เรากับพี่สาวไม่ได้ดิ่งตรงกลับโรงแรมเลยนะคะ นางพาเราไปร้านไดโซะที่เกาหลีต่อ ราคาของเท่ากับบ้านเราเลยค่ะ แต่มีของเยอะกว่า พวกเราก็จัดกันมาซะหลายอย่าง เชื่อมั๊ยคะว่าซื้อของกันเยอะมาก ไม่สามารถขนกลับมาได้หมด อะไรก็น่าซื้อไปหมด จนสุดท้ายต้องส่งมาทางไปรษณีย์...โฮะ ๆ

หลังจากเพลิดเพลินอยู่ในร้านไดโซะอยู่พักหนึ่งจนพนักงานขายประกาศว่าใกล้เวลาปิดร้านแล้ว เราทั้งสองก็พากันออกมา ใกล้ ๆ กับร้านนั้นก็มีขนมขายอยู่ไม่แน่ใจว่ากี่วอน แต่หลักพันนี่แหละ กินตอนร้อน ๆ อร่อยดีค่ะ เข้ากับอากาศหนาวพอดิบพอดี เราซื้อมาชิมสองแบบ แบบมีถั่วกับไม่มีถั่ว เราชอบแบบมีถั่วมากกว่า









Create Date : 14 มกราคม 2560
Last Update : 28 มิถุนายน 2560 10:36:38 น. 0 comments
Counter : 365 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pilkyo_Oilly
Location :
ลำพูน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Pilkyo_Oilly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.