ตอนสั่งอาหารมีความสนุกสนานมากเพราะเรากับเพื่อนกดกริ่งตั้งหลายครั้ง แต่ไม่เห็นบริกรมารับรายการอาหารสักทีจนโต๊ะที่เข้ามาทีหลังได้ออเดอร์ก่อน เราเลยสงสัยทำไมเค้ามาทีหลังแล้วได้ก่อน ปรากฏว่าเรากดกริ่งไม่แรงพอไฟไม่ติดบริกรเลยไม่มา (แป่ววววว) สรุปมื้อนั้นได้กินอยู่นะ พออาหารที่สั่งมาถึง โรยพริกในพาสต้ากันใหญ่มีความโหยหาความเผ็ดร้อน อืม...ดีกว่าราเม็งรสเผ็ดเยอะเลย
เสร็จจากตรงนี้ก็พากันไปชอปปิ้งของฝากกันซื้อเยอะมั๊ย? ไม่รู้ รู้แค่ต้องนั่งแท็กซี่กลับ เพราะแบกของเองไม่ไหว (ฮ่า ๆ) อันที่จริงฝนตกด้วยแหละ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆสองคนกับของ 4 ถุงใหญ่ในวันฝนพรำ เราว่าเลือกเดินทางด้วยแท็กซี่มันก็สมเหตุสมผลแล้วล่ะ(หาข้ออ้างให้ตัวเองสุดฤทธิ์)
วันถัดมาวันเดินทางกลับไทยตื่นมาก็แพ็คของลงประเป๋าเลยเพราะมั่นใจว่าคงไม่ซื้ออะไรอีกแล้ว แต่ถึงซื้อเพิ่มก็เล็งไว้แล้วแหละว่าจะขยับพื้นที่ส่วนไหนได้บ้างพอจัดของเสร็จ สักประมาณ 10 โมงเช้านิด ๆ เราก็ออกจากที่พัก โดยไม่ลืมที่จะแวะศาลเจ้าใกล้บ้านก่อนแล้วไปตลาดคุโรมง เพื่อกินอาหารเช้า
ศาลเจ้าใกล้ที่พักสวยนะคะร่มรื่นดี ต้นไม้เยอะ ชอบบบบ
ระหว่างเดินไปตลาดคุโรมงเจอดอกไม้สวยอีกละ
ที่ตลาดคุโมงเพื่อนเราเลือกกินซูชิกุ้งเด้งเราก็กินซูชิเหมือนกันแต่เป็นซุชิแซลม่อนที่สุก 50% กับเนื้อย่างตอนแรกกะไม่กินเพราะมันแพง แต่เพื่อนบอกกินไปเถอะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว เราก็เลยจัดมาหนึ่งแพ็คแล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ เพราะมันนุ่มมาก นุ่มยังกะเนื้อหมู
เหลือ 4ชิ้นสุดท้าย เกือบไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับรสชาติเนื้อวัวประเภทไหนเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ เพราะมันไม่มีภาษาอังกฤษรู้แค่ว่ามันอร่อย
จากนั้นก็กลับไป Dotonburi กันต่อ เราได้เสื้อลดราคาของ H&M มา 1 ตัวถ้วนได้มาแค่นั้นแหละ เพื่อนเราได้ของเพิ่มมาเพราะนางมีจุดประสงค์ในการมาเสร็จแล้วก็กลับไปที่พัก เพราะนัดสมาชิกที่เหลือว่าจะออกเดินทางกันตอน 5 โมงเย็น
ขากลับเรานั่ง shuttle bus กลับค่ะ ค่าบริการคนละ 1,550 เยนเราว่าสะดวกดีนะ เพราะแต่ละคนสมบัติค่อนข้างเยอะ ถ้าไปรถไฟคงวุ่นวายน่าดู รถ shuttle bus มีบริการตามโรงแรมนะคะ ลองเช็คดูว่าบริเวณที่พักของเราใกล้กับโรงแรมไหน ของเราขึ้นที่ Sheraton Miyako นั่งแท๊กซี่จากที่พักไปนิดหน่อย แท็กซี่ก็ใจดีแต่ละคนสมบัติเยอะนางก็ไม่บ่นอะไร ช่วยจนสุดความสามารถ
การซื้อตั๋ว Shuttle bus ไม่จำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าก็ได้นะคะ กลับวันไหนก็ซื้อวันนั้นเลย ไปก่อนเวลานิดนึงก็ดีค่ะ
ถึงเวลาที่ต้องกลับไทยแลนด์แดนสยามสักทีขากลับบรรยากาศหม่นหมอง ฝนทำท่าจะตกด้วย
10 วันของเราในคันไซ ประเทศญี่ปุ่นถือว่าสนุกสนานและประทับใจมากค่ะ ญี่ปุ่นสำหรับเราเป็นประเทศที่ไม่อันตรายเดินทางสะดวก สามารถเที่ยวคนเดียวได้สบายเลย
อันที่จริงในโลกนี้ไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยและอันตรายที่สุดหรอกค่ะอยู่ที่เราต้องระมัดระวังตัวเองมากกว่าในกรณีของเราถ้าออกไปเที่ยวนอกเมืองคนเดียวก็ไม่กลับค่ำมาก ยังไงก่อน 3 ทุ่มต้องถึงที่พัก หรืออยู่ใกล้ที่พักให้มากที่สุด
ถ้ามีโอกาสคงได้กลับมาอีก
それでは、また会いましょう