Group Blog
 
 
มกราคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 มกราคม 2558
 
All Blogs
 

Chapter 10: Time flies time to say good bye








และแล้วก็มาถึงวันที่เราต้องไปจริงๆ ...
ก่อนการเดินทางหนึ่งวัน คืนนั้นเราได้ทำการเก็บของลงกระเป๋า เอาเสื้อผ้าไปซักไปอบเสร็จเกือบสี่ทุ่มจากนั้นของทุกอย่างก็ถูกทยอยลงกระเป๋าเหลือไว้แค่เสื้อผ้าชุดที่ต้องใช้ 

กระเป๋าที่ตอนขามาเราเอามาแค่หนึ่งใบตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอภินันทนาการจากโฮสต์ผู้ใจดี ทุกอย่างที่ต้องเดินทางไปกับเราในวันถัดไปพากันไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบเป็นที่เรียบร้อยในคืนนั้น

เช้าวันที่เราต้องออกเดินทางพี่คนไทยที่รู้จักกันชวนเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่บ้านพี่สาวของสามีเค้า (พี่คนไทยคนนี้เรารู้จักเค้าตอนไปซื้อของกับโฮสต์แดด พี่เค้าทำงานอยู่ที่ร้านนั้น) ซึ่งหลังจากรู้จักกันเราไปรบกวนเค้าบ่อยมาก บ้านเค้าคือแหล่งอาหารชั้นเลิศของเรา) 

เราออกจากบ้านไปหาพี่เค้าตั้งแต่เช้าตรู่ นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยใจที่เบาหวิวเมื่อคิดว่าพรุ่งนี้เราจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ได้เจอทุกคนที่นี่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกำลังจะกลายเป็นอดีต ตลอดเวลาที่นั่งคุยกัน พวกเราพยามยามหาแต่เรื่องสนุกๆ มาคุย แต่ทำไมมันถึงไม่รู้สึกว่าเรื่องที่กำลังคุยอยู่มันสนุกก็ไม่รู้ 

หลังดูพระอาทิตย์ขึ้นพี่สาวสามีเพื่อนสอนเราขี่ม้ากินอาหารเช้ากันแล้วก็พากันกลับมาที่บ้านของพี่คนไทยคนนั้น 

พอถึงบ้านเค้าเราก็ต้องขอตัวไปอีกที่ เพราะมีเพื่อนออแพร์อีกคนที่เราต้องไปเจอก่อนเครื่องออก ก่อนไปเราเดินเข้าไปกอดพี่เค้าแล้วน้ำตาพี่เค้าก็ไหล บอกเราว่าไม่อยากมีเพื่อนเป็นออแพร์อีกแล้วเค้าบอกเค้าเหมือนคนมีกรรมพอเจอเพื่อนที่ถูกใจทีไรก็มีอันต้องจากกันตลอด (ปัญหานี้แก้ได้ค่ะพี่หาสามีชาวเมกันใกล้บ้านให้หนูสักคนสิคะ...ใช่เวลามาตลกมะตอนนี้?เพลียกับตัวเองจริงๆ)  เอาจริงตอนนั้นขำไม่ออกหรอกค่ะน้ำตาเราเริ่มซึมแล้วนะสามีแกเดินเข้ามากอดอีกแล้วบอกกับเราว่าเค้าเห็นเราเป็นน้องสาวเค้าคนนึงนะ ไหลเลยค่ะน้ำตาไม่ได้แค่ซึมอย่างเดียว

พอแยกกับพี่คนไทยเราก็ไปหาเพื่อนออแพร์คนไทยอีกคนก็ไปล่ำลากันนั่นแหละ นางบอกนางอยากขับรถไปส่งที่สนามบิน แต่เราบอกว่าโฮสต์จะไปส่งเพื่อนคนนี้เลยขับรถตามมาส่งที่บ้าน  

เดินเข้าบ้านเจอกับเด็ก ๆที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนพอดี เด็กทั้งสองคนกรูเข้ามาหามากอดเรา แล้วถามว่าเราไปไหนมาวันนี้ไม่เห็นเราทั้งวันเลย(เราออกจากบ้านไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่น้องยังไม่ตื่น) 

ตอนที่เด็ก ๆ พูดแบบนั้น น้ำตาเราแทบไหลเลยนะที่เราไม่อยากอยู่บ้านก่อนเดินทางเพราะเรารู้ว่าต้องร้องไห้แน่ ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ความทรงจำที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนี้เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่แอดดิปากแตกเพราะตกลงมาจากเตาผิงไฟ, เอฟวี่นอนขดอยู่ในอ้อมแขนเราตอนที่นั่งดูหนังด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น แอดดิเดินมาบีบแก้มเรา+จุ๊บปากแล้วบอกว่าชอบเราต่อหน้าโฮสต์ 

เอฟวี่วิ่งเข้าห้องนอนเราแอบเอากล้องถ่ายรูปไปเล่น แอบเอาของเราที่ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าเดินทางไปซ่อนนางคงเข้าใจว่าถ้านางฉกสิ่งใดสิ่งหนึ่งของเราเก็บไว้ มันจะทำให้เราไม่ต้องไป จนโฮสต์มัมต้องปราม


สุดท้ายไม่ว่าเด็กสองคนจะคอยป่วนการขนย้ายกระเป๋าของเราเแค่ไหนสิ่งที่กำหนดไว้ยังไงมันก็ต้องเกิด โฮสต์แดดกับโฮสต์มัมช่วยกันยัดกระเป๋าเดินทางของเราเข้าท้ายรถได้สำเร็จ เรากอดล่ำลาเพื่อนออแพร์ที่มาส่งเราอีกครั้ง


ก่อนขึ้นเครื่องเค้าพาเราไปกินอาหารอิตาเลี่ยนเค้าบอกไม่พาไปร้านอาหารไทยหรอก เดี๋ยวยูกลับประเทศยูไปก็มีให้กินเยอะแยะ เราเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน พอกินเสร็จเค้าก็พาเราไปที่สนามบิน Sky harbor สนามบินของเมือง Phoenix 

ระหว่างการเดินทางเรามองสองข้างทางไปด้วยร้องเพลงเต้นกับเด็กไปด้วย เพราะไม่อยากให้บรรยากาศมันเศร้าเกินไป เราแอบสังเกตเห็นโฮสต์มัมทำตาแดงตั้งแต่ตอนกินข้าวที่ร้านแล้วค่ะ บอกตรง ๆ เรารู้สึกประหลาดใจมากเลยนะไม่คิดว่าเค้าจะร้องไห้ด้วย ส่วนโฮสต์แดดไม่ร้องหรอกค่ะ(ผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่ร้องไห้กับเหตุการณ์แบบนี้)


พอไปถึงสนามบินก็ทำการลำเลียงกระเป๋าเข้าสายพาน (เราไม่ต้องไปเช็คอินหน้าเคาท์เตอร์เพราะโฮสต์มัมเช็คอินออนไลน์ให้เราแล้วค่ะ) น้ำหนักกระเป๋า 25 กิโลกรัมทั้งสองใบตามน้ำหนักที่สายการบินระบุไว้เป๊ะ (โฮสต์แดดบอกมืออาชีพมาก) เราก็บอกเค้าว่าเราชั่งตั้งไม่รู้กี่รอบ ไอทำหน้าปัดที่ชั่งน้ำหนักเมียยูแตกไปละไม่รู้อ่ะดิ

เสร็จแล้วก็ล่ำลากันอยู่ตรงนั้น เราบอกกับโฮสต์ว่าที่ผ่านมาขอบคุณมากขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง โฮสต์ไม่ได้เข้าไปในตัวอาคารกับเราด้วยไม่ได้ไปส่งที่หน้าประตูทางเข้า (เราไม่ให้ไปเองแหล่ะ เพราะเราไม่อยากให้เค้าเห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้น) ก็กอดกันบอกลา อวยพรขอให้โชคดี โอสต์มัมตาแดงยิ่งกว่าเดิม เรากอดเด็กแน่นมาก จุ๊บปากหอมแก้ม แล้วก็เดินเข้าไปในตัวอาคารพร้อมกับอาการใจหาย 

แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้เราวิ่งกลับมาโบกมือให้เค้าอีกครั้ง โฮสต์ก็ยังไม่ไปไหนเค้ายังยืนอยู่ตรงนั้นโบกมือตอบกลับมา 

พอหันหลังให้โฮสต์เท่านั้นแหละค่ะ น้ำตาเราไหลเลย อั้นไว้ไม่ไหวแล้ว


ผ่านประตูทางเข้ามารอขึ้นเครื่องไปซานฟรานน้ำตาเราก็ยังไม่หยุดไหล คนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ มารอขึ้นเครื่องเค้าก็มองนะ คิดว่าคงสงสัยเหมือนกันแต่เค้าก็มีมารยาทพอที่จะไม่ถาม เราหยุดร้องได้พักนึงตอนเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่องพอเครื่อง take off น้ำตาที่แห้งไปกลับมาอีกละ (ดราม่าหนักฮะงานนี้)ยิ่งมองลงไปข้างล่าง มันก็ยิ่งดูห่างออกไปเรื่อย ๆ เหมือนตอกย้ำให้เรารู้ว่าชีวิตออแพร์ในอเมริกาหนึ่งปีของเรามันจบลงแล้วจริง ๆ



เป็นไงบ้างคะชีวิตออแพร์ของเรา อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง อยากไปเป็นออแพร์หรือถอยดีกว่าไม่อาวววว ดีกว่า (เพลงที่ใช้ประกอบช่างบ่งบอกถึงอายุผู้เล่ายิ่งนัก)



*ปล. หลังจากที่เรากลับมาเมืองไทยเรากับโฮสต์ก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อย ๆ โดยใช้วิธีเมล์หากัน โฮสต์มัมเล่าให้เราฟังว่าวันหนึ่งเค้านั่งดูข่าวในทีวีกันเป็นข่าวเกี่ยวกับประเทศไทยแอดดินั่งดูด้วยแล้วนางก็ถามโฮสต์มัมตามประสาซื่อแบบเด็ก ๆ ว่านางจะได้เห็นเราในทีวีหรือเปล่า โฮสต์มัมบอกไม่เห็นหรอก


หลังจากนั้นไม่นาน เว็บไซด์ face book ก็เป็นที่นิยมเรากับโฮสต์เลยแอดกันเป็นเพื่อน เราเห็นพัฒนาการของเด็ก ๆ ผ่าน face book แอดดิที่ตอนเด็กมีลักษณะคล้ายทอมบอย เมื่อโตขึ้นนางกลายเป็นหนึ่งในทีมเชียร์ลีดเดอร์ดูเรียบร้อย สวย หวาน ส่วนเอฟวี่ตอนเด็กดูสาวมากรักสวยรักงาม ชอบทาสีเล็บ ชอบแต่งหน้า พอโตขึ้นเป็นกลายนักกีฬาซะงั้น


ด้านคุณย่าผู้ใจดีเพิ่งมาเล่น face book ช่วงหลังไม่แน่ใจว่าเพราะอยากติดต่อชาวโลกหรือมีไว้เพื่อเล่นเกมส์ เพราะตั้งแต่แอดกันเป็นเพื่อน นางก็ส่งลิงค์เกมส์มาให้ตลอด (มีอวยพรวันเกิดให้กันบ้าง) ซึ่งเราเดาเอาว่านั่นคือการบอกกล่าวทางอ้อมว่าเค้าสบายดี




- The End - 




 

Create Date : 28 มกราคม 2558
4 comments
Last Update : 28 มิถุนายน 2560 10:31:26 น.
Counter : 1006 Pageviews.

 

เล่าเรื่องราวได้สนุกมาก เป็นนักเขียนได้เลย

 

โดย: จิน IP: 49.230.148.138 29 มกราคม 2558 16:49:00 น.  

 

ขอบคุณมากนะค๊าคุณจิน

 

โดย: Pilkyo_Oilly IP: 49.49.18.90 30 มกราคม 2558 22:36:17 น.  

 

ดีใจมากที่ได้มาเจอบล็อคของพี่
เรากำลังวางแผนจะไปเป็นออแพร์ปีหน้า
พี่เขียนได้ดีและละเอียดมากเลยค่า

 

โดย: เจอกันหลังไมค์ 13 มีนาคม 2558 18:43:30 น.  

 

ยินดีค่าคุณเจอกันหลังไมค์
ยินดีต้อนรับนะคะออแพร์รุ่นน้อง

 

โดย: Pilkyo_Oilly 16 มีนาคม 2558 19:46:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Pilkyo_Oilly
Location :
ลำพูน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Pilkyo_Oilly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.