พฤษภาคม 2553

 
 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
22
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
รักขาดสติให้อะไรกับชีวิต...
สวัสดีตอนเช้า ...

กรุว่าเหมือนหมด max แล้ว แต่ยังว่ะ เหมือนคนขรี้ไม่สุดยังไงยังงั้น

กลับไปนอนคิดเหมือนขาดหายอะไรไปอย่าง มันยังไม่เต็มที่

ซวยเลย นอนก็ดึก เสือกตื่นเช้า ฝนแมร่งก็ตกอีกตะหาก กรุว่า หวัดได้แดกกรุแน่เลยภายในวีคนี้...

แต่เอาวะ กรุนอนต่อไม่ได้ ต้องมาขีด มาเขียนต่อให้เสด...

เพราะคำถามในใจยังค้างคากรุว่ะ ที่ผ่านมา รักไร้สติให้ไรกรุวะ

แยกได้เป็น 2 ด้านแฮะ

1. ปัจจัยภายนอก

- กรุได้เห็นบทบาทของกัลยาณมิตรว่ะ ไม่ใช่ธรรมกายนะ พุทธพาณิชย์เดินคนละเส้นทางกันอยู่แล้ว แต่เพราะปกติ กรุเพื่อนไม่ได้มากมายว่ะ คนรุ้จักเยอะ แต่ๆๆ เรียกเพื่อนเต็มปากได้ไม่ถึง 5 กระนั้นก็คัดคุณภาพแล้วว่า มึงมีความหมายต่อกรุจริงๆ

อยู่ดีๆ กรุก็นึกถึงเพื่อนคนนึงขึ้นมาและอดจะเอ่ยถึงเขาไม่ได้ เมทเก่ากรุเองที่สถาบันฯ สมัยเรียนโท คนนี้ คือ คนที่รับรู้ทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบ คอยเช็ดน้ำตาให้กรุ ปลอบกรุ มันจะธรรมดา ถ้ามีแค่นั้น แต่คงเพราะมันเก็บสะสมหนังสือธรรมะที่สอนโดยตรงเกี่ยวกับมุมมองเรื่องความรัก แล้วกำชับกรุนักหนาว่า เมิงอ่านให้จบนะ อ่านให้หมดที่กรุให้ไป เล่มนึงเล่มเล็กๆ หนังสือพิมพ์แจกด้วยซ้ำ แต่ค่าส่ง 150 มันก็ยังส่งมาให้กรุ อ่านแล้วโห เหมือนขุดกรุขึ้นจากหลุมดำเลย มุมมองที่มีต่อความรัก มันเปลี่ยนไป กรุไม่โทษตัวเอง ไม่โทษเจ้าตัว...มอง กรุเห็นความเปลี่ยนแปลงว่ะ เข้าใจในเหตุและผลของการกระทำที่เกิดขึ้นมากขึ้น กรุลดความฟูมฟาย อยากไขว่ อยากคว้า อยากไปยึดเขาไว้น้อยลง..ปล่อยวางเขาออกจากความคิดตัวเองได้มากขึ้น ก็ลดความทุกข์ ก็สงบขึ้นได้บ้าง จริงๆ กรุคิดได้มากกว่านี้นะ แต่ก็ลืมบ้าง มันหลุดช่วงอารมณ์นั้นมาแล้ว กรุก็ไม่ได้จะไปจำได้ทั้งหมดล่ะว่ะ..แหง่ม นึกได้เลย กรุยังไม่ได้ดูซีดีที่มึงให้มาเลยว่ะ ฮ่วยจริงกรุ...

แล้วเมิงชอบจะบอกกรุว่า เอาน่าขำๆ ประจำล่ะเหอะ เด่วก็ผ่านไปได้ คุณเมิง..เด่วมึงก็จะหันกลับมามองแล้วมองเห็นเขาไม่ได้มีความหมายกับชีวิตมึงอีกต่อไป เหอๆๆ เมิง กรุก็ไม่นึกหรอกว่ะ ว่า วันนี้ กรุเห็นได้อย่างนั้นแล้ว..สงสัย กรุคงหมดเวรกับเขาล่ะว่ะ น่าแปลก ก็ทั้งๆ ที่ทุกอย่างอยู่ที่ใจ แต่ทำไมกรุไม่คิดได้ก่อนหน้านี้วะ ปล่อยความรู้สึกแบบนี้กัดกร่อนใจมาตั้งนาน เพื่อไรวะกรุ...

หลังพายุในคราวนั้น เมิงเอ๋ย เพราะมึงคนนึงล่ะ กรุฟื้นตัวได้ดีขึ้น ก็ยังรู้สึกขอบคุณจริงๆ วันนึงกรุคงได้ตอบแทนเิมิงบ้างล่ะว่ะ และกรุก็ขอบคุณโชคชะตาจริงๆ ที่วันหาเมทนั้น กรุเลือกชวนมึง ช่วงเวลาที่ได้รู้จัก ใช้ชีวิตกับมึง สร้างสาระให้ชีวิตกรุนัก...

- กรุรุ้จักธรรมะ เข้าสนใจพุทธศาสนาจริงจังก็เพราะทุกข์จากรักนี่แหละวะ จริงอยู่ คนดึงกรุเข้าปฏิบัติคือ พ่อ แต่คนที่เป็นแรงกระตุ้นอีกคนคือ มึง ที่กรุเคยรักนี่แหละ...

การที่ชาตินี้ กรุได้พบศาสนานี้ และได้ศึกษาตรรกะ ทำให้ชีวิตกรุอธิบาย เหตุและผล ที่มาที่ไปได้ดีขึ้น เข้าใจและให้อภัย ทั้งตัวเองและคนอื่นมากขึ้น ขณะเดวกัน ก็ทำให้กรุต้องดิ้นรนขวนขวาย พัฒนาจิตใจตัวเองมากยิ่งขึ้นด้วย ใจก็เย็นลงหน่อย ไม่ใช่จะสงบลงได้ซะทีเดว แต่ก็หยุดคิดได้บ้าง ก่อนจะถลาไปแบบเก่า แอบหวังอีกว่า กรุจะยังคงใฝ่ใจจะพัฒนาตัวเองและมุมมองในการใช้ชีวิตอย่างนี้ต่อๆไป...ถ้ากรุไม่จับจด แล่นไปหาเรื่องอื่นมากมายอีกอะนะ...แต่อย่างน้อยก็เป็นบุญของกรุว่ะ ที่ได้รู้จักพุทธศาสนาในครรลองแบบนี้...

วิธีปฏิบัติ ฝึกลมหายใจและฝึกจิตเข้าจดจ่อกับปัจจุบันขณะ อันนี้ชีวิตฆราวาสมันยากจังว่ะ...ยังถวิลหาโอกาสจะได้ไปสำรวมดูใจตัวเองอย่างนั้นอีกจัง แต่ตั้งแต่มานี่ ไม่มีโอกาสเลย มีแต่จะทรงๆ จิตใจตัวเอง เฮ้อ บุญเดวที่กรุสร้างได้ แค่รักษาศีลเอง อยากตักบาตร อยากทำบุญ อยากพิมพ์หนังสือ ไม่ได้เลย..

2. ปัจจัยภายใน

อันนี้สำคัญ เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากภายในจิตใจตัวเองนี่ล่ะ

จะว่าไป เพราะเขานะ สอนกรุในหลายอย่างอยู่

สอนให้เข้าใจและเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งเหมือนก่อน คงเพราะที่ผ่านมา อยากได้อะไร ไม่เคยไม่ได้มั้ง กรุเลยชินกับการเป็นฝ่ายได้รับมาโดยตลอด ไม่เคยผิดหวังอย่างจริงจัง ยกเว้นเรื่องเรียน...

เขาสอนให้กรุรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นมากขึ้น ขี้สงสารขึ้น กรุดูหนังแล้วอินง่ายขึ้นแฮะ ซึ้งง่่ายด้วย บทเห็นเขาร้อง บางทีมันไม่หนักแน่นพอ กรุก็ร้องตามด้วยเฉยเลย แล้วเป็นบ้าห่าเหวไรก็ไม่รุ หนังแอ็คชั่น ก็เสือกไม่ชอบ ไปดู Transformer 3..ไหมหว่า หนังหุ่นยนต์ กับพี่ๆ อีกออฟฟิศยังเสียดายเบี้ยเลย ไม่เห็นสาระอะไร นอกจากรบๆ และเกินจริง หรือเพราะกรุดูไม่รุเรื่องวะ, หนัง Comedy ก็ไม่เอาเลย มันเบาไป ไร้สาระ ตลกฝืดยังไงไม่รุ, หนังรัก Romantic กูก็อินนะ แต่แมร่งก็เหมือนล่องลอยอยู่กับความฝัน แบบลอยเป็นฟองสบู่โดนมือแตะ เมื่อตื่นมาเจอความจริงว่า เฮ้ย กรุต้องเดินหน้าสู้ความจริงต่อสิวะ, หนังชีวิต กรุชอบนะ สอนใจดี แต่มักต้องมีความเศร้าเข้ามาแจมทุกทีสิน่า...

แต่หมู่นี้ไม่ได้แลเลยหนังใดๆ ใจไม่ใฝ่ ขี้เกียจจะไปร้องเพราะเรื่องคนอื่นแล้ว มันหมองใจไปด้วย ลำพังชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอด.. แล้วเพราะมันจะอินง่ายด้วย ไม่อยากจมอารมณ์หนังไประยะนึง ด้วยกรอบข้อจำกัดในงาน ตรงนี้ต้อง 1st priority.. เรียนจบ กรุคงได้ดูมากกว่านี้ มีหลายเรื่องค้างคารอดูอยู่เลย...ลำพังดูข่าวการเมือง อ่านกระทู้ ก็ทำกรุเศร้าร้องไปมากมายและกับเรื่องคนอื่น...

พูดถึงเรื่องหนัง กรุล่ะนึกถึงเพื่อนอีกคน ช่วงสนิทกันสุดๆ จะจัดการ์ตูนมาให้กรุคลายเครียดเรื่อยเลย กรุก็ดูนะ แต่มันไม่ใช่ตัวกรุว่ะ กรุปิดกล่องความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับการ์ตูนไปแล้วตั้งแต่ป.ตรีปี 3 เธอให้มา เราก็ไม่ได้ติดตามต่อเนื่องหรอก แล้วโลกส่วนตัวของกรุก็ไม่ใช่โลกอนิเมะด้วยว่ะ...

ขี้เกียจนึกถึงละ คุยกันเกือบทุกวันอยู่และ...

สิ่งเดวที่ยังเสียดาย เสียใจสูงสุด ค้างอยู่ในใจกรุจากการรักถล่มทลายครั้งนั้น คือ เรื่องพ่อว่ะ ถ้ากรุไม่มัวแต่หลง อยากจะอยู่ใกล้เมิงจนลืมพ่อขนาดนั้น กรุคงแจ้นกลับบ้านตั้งแต่รู้ว่า พ่ออาการแย่ แต่ยังพูดได้แล้วว่ะ กูคงได้บอกพ่อ ได้ใช้ช่วงสุดท้ายกับเขาเต็มที่กว่านี้ กรุล่ะ ค้างใจกับเรื่องนี้จริงๆ เพียงเพราะอยากรอให้ถึงวันเกิดเมิง จะได้อวยพรวันเกิดให้เมิง ได้คอยรับใช้เมิง โง่จริงๆ เลยกรุ นึกยังไงก็เสียใจ กรุเห็นแก่ความสุขตัวเอง จนลืมพ่อ ฮ่วยเอ้ย ทำไมกรุมันแย่งี้วะ...

ถ้าพ่อกรุรุ้แต่แรกว่ามันกลวงเช่นนั้น พ่อคงไม่ปล่อยให้กรุจมต่อไปแน่ แต่จะทำไงได้ กรุมันฟังใครที่ไหน ดื้อจะตาย ถ้าไม่เจ็บเอง กรุไม่ซึ้ง ไม่เลิกง่ายหรอก ถึงพ่อพูด กรุก็คงไม่ฟังหรอก กรุว่างั้น ...

ฮ่วย ทำเอาคิดถึงพ่อขึ้นมาดื้อๆ ไม่เอาง่ะ กรุไม่อยากขุดกล่องความทรงจำอันนั้นขึ้นมา มันจมไปนานก็ดีอยู่แล้วล่ะว่ะ...ละครบ้านทรายทอง จบแต่เพียงเท่านั้นเถิด...

พี่คนนึงที่ไปทริปด้วยกัน ฟังเรื่องเล่าแล้ว เขาบอกว่า กรุน่าจะไปพิมพ์พ็อคเก็ตบุคได้ ฮาดี เหมือนมีสาระ.. กรุอยากจะขำ แต่ขำไม่ออก เพราะมันคือชีวิตจริงของกรุ กรุยังไม่อยากประจารตัวเองขนาดนั้นว่ะ นี่ยังไม่รวมเรื่องราวบ้านทรายทองของกรุทีหรอกนะ ถ้าเกิดกรุบ้าบอ คิดตรรกะ เก็บสาระ ความคิดจากวังวนบ้านทรายทอง สงสัยหนังสือกรุคงชื่อ ชีวิตครบรสล่ะว่ะ...ไหงกรุถึงได้มีมันทุกรสชาติเลยวะ...

ถ้าชีวิตกรุเป็นหนังสือ คงยากจะอ่่านทั้งเล่มว่ะ เพราะกรุไม่ได้ตกผลึกกับทุกเรื่องที่เข้ามา ถ้าวันไหน กรุตกผลึกกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต กรุว่า วันนั้นกรุคงต้องละทางโลกแล้วว่ะ ลำพังแค่ตอนนี้ ความคิดกรุก็สับสน จะตีกันตายไปข้างและ...

อีกอย่าง ชีวิตกรุก็ไม่ได้น่าสนใจ หรือจะให้ประโยชน์อะไรกับใครๆ ซักเท่าไหร่หรอก ชีวิตใครก็ชีวิตมัน แต่ละคนก็มีมุมมอง มีภาระต้องแบกกันอยู่แล้ว กรุก็แค่เก็บประสบการณ์ สอนใจเอง ถ้าวันไหนน้องหมูกรุเกิดเดินถลำอย่างที่กรุเดินมา มันจะไม่ควรต้องมาเจ็บซ้ำแบบกรุ ชีวิตมันควรเดินไปตามทางที่สดใส..กรุหวังงั้น เพราะถ้าชีวิตเหมือนละคร หนังรัก คงเป็นเรื่องนึงมั้งที่มันหาตัวแสดงแทนไม่ได้ รักจริง เจ็บจริง กันไปเลย...ฮ่วย กรุล่ะอยากเป็นพระเอก นางเอก ที่แต่งหน้าดูดี ออกเฉพาะบทเด่นๆ บทเจ็บตัวมีสตั๊นท์จริงๆ +55 ขำๆ หน้าอย่างกรุเป็นได้แค่ตัวอิจฉากับก้อนหินว่ะ...

ทำไมวันนี้อารมณ์มันอึมครึมนักวะ เป็นไปตามฝนฟ้าอีกละ...

ต่ออีกนิดละกัน...

หลังจากกรุตัดตัวละครนี้ออกจากชีวิตและ ก็ยังเก็บเกี่ยวอะไรๆได้อยู่นะ

สอนให้ตรูเป็นเหมือนเต่าไง ยืดคอออกมาดูโลก ดูสีสันอะไรบ้างบางคราว แต่แล้วก็หดกลับไปอยู่ใต้กระดองที่ปลอดภัยเหมือนเดิม...

เต่าจะิเดิน ต้องชูคอดูทาง กรุเลยเป็นเต่าอยู่กับที่ ไม่ได้เดินต่อ เพราะกรุไม่หาญพอทีว่ะ...

เท่านี้ดีกว่า แค่นี้ก็ซ้ำซาก วกวนและ...

พูดถึงเดินทาง มี้กะหมูตะลอนทัวร์ภาคกลาง ได้รูปสวย สะดุดตามาภาพนึงว่ะ กรุล่ะปลื้ม แม่กรู ถ่ายรูปสวยถึงเพียงนี้เลยหรือนี่ องค์ประกอบภาพดูดี..แต่มันคือที่ไหนวะ ไม่เคยจำเลยกรุ



ส่งท้าย จริงๆ นึกถึงเพลงนี้ตั้งแต่แรก อยากใช้ตั้งแต่ Entry ต้นเรื่องและ แต่กระแส ลาก่อนคนรัก มาแรงกว่า ณ ช่วงจิตนั้น เลยเอามาแปะตรงนี้แทนละกัน... หายอยากไป



ถึงคนไกล หวังว่าคงรอนแรม อยู่สุขสบายดี...



Create Date : 24 พฤษภาคม 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 16:26:23 น.
Counter : 770 Pageviews.

2 comments
  
อ่านบล็อกแล้ว...ก่อนหน้านี้จะอ่านแล้วรู้สึกอยากเขียนตอบ...
แต่พอหลังๆเนี่ย ออกแนว ฮาร์ดไปทางด่าๆมากขึ้น...เลย
ทำให้รู้สึกแปลกๆ...แต่ก็คงห้ามกันไม่ได่นี่นะ คงจะชอบและถนัด
เขียนแนวนี้...เอาเป็นว่าจะพยายามมองข้ามความไม่สุภาพไปละกัน

ปกติชอบคนพูดจาดี คิดดี ทำดี...แต่นี่คิดดีนะ และมีรูปแบบ
เรียบเรียงความคิดดีเหมือนกัน...แต่แสดงออกแข็งๆไปนิด
ไม่ได้ว่านะ...แค่รู้สึกอย่างนั้นเฉยๆ...คงจะชินกับคนพูดเพราะๆ
มากกว่า...ก็อย่างที่บอก ไม่ค่อยได้อ่านบล็อกที่เด็กเขียน...
ส่วนมากเด็กเขียนบล็อกจะบ่นๆ ด่าๆ โวยวาย ไม่พอใจ...
อะไรแบบนี้...

รักไร้สติ มักจะเกิดกับคนคาดหวังกับคนรักมากๆ
คาดหวังมากก็ทุ่มเทมาก...และมักจะอยากให้ความรักมีรูปแบบ
อย่างที่ตัวเองต้องการ...เมื่อไม่ได้อย่างที่เป็น ก็เลยทำให้
เสียใจ...เวลาเลิกกันแล้ว ก็จะยังเจ็บใจอยู่เรื่อยๆ...

เมื่อก่อนก็เป้นนะ ที่รักใครซักคนมากๆ...แต่จะไม่ได้รักแบบ
ไม่มองความเป้นจริง...เห็นว่าเข้ากันไม่ได้ ก็คุยกันตกลงกัน
เวลาเลิกกันก็เลยไม่เคยฟูมฟาย อาจจะแค่เสียใจ...แต่ไม่เคยเจ็บใจ
ความรักจริงๆมันงดงามนะ...เพียงแต่เราเลือกรักแบบไหน

เรื่องหนัง...ดู Transformer แล้วชอบมากๆ แสดงว่าคงไม่ชอบ
จริงๆ...จริงๆหนังแต่ละเรื่องมันคงมีจุดขายของมันแล้วแต่นะ
ถ้าคนชอบดูหนังอย่างเรา...เราจะสามารถแยกอะไรออกได้เป็นฉากๆ
เท่าที่ดู ท่าจะชอบหนังแนวเศร้า

เรื่องพ่อ...อืม...เข้าใจแล้วว่ารักไร้สติเป็นภาพยังไง...

โอเค...หมดละ...อ่านสามรอบ แล้วอ่านอีกรอบแล้วค่อยเขียนคอมเมนท์
อย่างยาว...ต่อไปก็ลืมๆมันไปบ้างเถอะเรื่องที่ทำให้แย่ๆ...
มั่งทำหน้าที่ตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง...และทำให้ตัวเองดีขึ้นกว่าเมื่อวานดีกว่า...
อะไรที่มันแล้วไปแล้วก็...จะฝากไปทิ้งที่ดาวพลูโตด้วยก็ได้นะ...
โดย: greenvases วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:27:31 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่เมนต์อย่างใส่ใจมากๆเลยน่ะ..

มุมมองความรัก.. จริงค่ะ เห็นด้วยว่า ความรักแท้จริงมันงดงาม เราทุกข์เพราะเอาตัวเราไปยึด ไปคาดหวัง นะหนูว่า...

เรื่องหนัง..เก่งจังค่ะ หนูห่างหายหนังไปนานแล้ว เลยไม่ค่อยรู้น่ะ..
หนังเศร้า หนังชีวิต ชอบค่ะ

มุมมองชีวิต..กำลังตกผลึกอะไรหลายๆอย่างอยู่ค่ะ ชีวิตที่ผ่านมาแล้ว มันแก้ไม่ได้ บางอย่างต้องรับผลการกระทำอยู่ จึงวนอยู่กับทุกข์อยู่บ้าง แต่กำลังทำตัวให้ชีวิตดีขึ้นอยู่ สะท้อนออกมาในรูปการเขียนได้ก็เพราะมี possitive inspiration น่ะล่ะค่ะ ;)

อ้อ หนูฝากไปทิ้งที่ดาวพลูโตไม่ได้ค่ะ เพราะผูกเอง ต้องแก้เองน่ะ :P
โดย: เลื้อย วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:41:26 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เลื้อย
Location :
Seoul,  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดี ชาวโลก...ออนไลน์

ขอบคุณที่แวะเข้ามาแล้วเยี่ยมชมค่ะ

นานๆ จึงจะได้มาอัพซักกะครั้งแหละ...
ตามแต่ใจจะพาไป

หากเข้ามาอัพบ่อย ตายแน่เลย
งานท่วมหัว เอาตัวไม่รอด..

จะทักทาย ติชม ประการใด ตามสบายละกัน ^^'

ไว้คุยกันค่ะ ;)

ปล. ชักงงๆนิดหน่อย ตรูแปะไว้คราวก่อน
แล้วไฉนจึงหายไปได้ละเนี่ย...งึ่มๆ