วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 June

วันนี้ วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี

วันสำคัญที่ใครหลายคนอาจมองข้ามไป

"วันสิ่งแวดล้อมโลก" นั่นเอง

ขาดไม่ได้ก็ต้องคำขวัญประจำวันเด็ก เอ้ยย..วันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้สินะ

The slogan for 2009 is "Your Planet Needs You - Unite to Combat Climate Change"

เราแปลเอาเองว่า "โลกต้องการคุณ ร่วมมือกันต้านภัย climate change"

เิรื่องสิ่งแวดล้อม อาจเคยเป็นประเด็นปัญหาเล็กๆ ที่หลายๆคนเคยมองผ่าน

ไม่เห็นความสำคัญอันควรต้องใส่ใจในอดีต เหมือนกับมันเป็นเรื่องไกลตัว


แต่มาวันนี้ ทุกคนบนโลกล้วนปฏิเสธไม่ได้

ว่าได้รับผลกระทบจากอะไรก็ไม่รู้ที่มองไม่เห็น สัมผัสได้ แต่ไม่น่าอภิรมย์

ทำไมอากาศมันร้อนขึ้น ทำไมฝนไม่ตกตามฤดูกาล

ทำไมข่าวภัยพิบัติ น้ำท่วม ไฟไหม้ป่า โรคภัยแปลกๆใหม่ๆ เกิดขึ้นทั่วโลกมากมาย

ฟังแล้วไม่ใช่เรื่องที่น่าชื่นใจเลยกับข่าวต่างๆเหล่านี้

คุ้นๆไหมกับคำว่า ลดโลกร้อน , Global warming

แล้วมันเกิดจากอะไร หลายคนคิดว่า ฉันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิดเจ้าปัญหานี้

ใครหล่ะ..เป็นคนทำ

จำได้ไหม ทฤษฏี เด็ดดอกไม้ สะเทือนไปถึงดวงดาว..

ผีเสื้อกระพือปีก ก็ทำให้เกิดพายุในประเทศจีนได้..

หากลองนึกตามเหตุผลและความเป็นไปได้แล้วนั้น

คำพูดนี้ไม่ได้เกินจริงเลย มันเกิดขึ้นได้จริงๆ

และเกิดมาหลายรอบ หลายอย่าง หลายการกระทำแล้วด้วย

เพียงแต่เราๆ คนตัวเล็กๆ บนโลกใบใหญ่สีน้ำเงินแห่งนี้

ต่างคนต่างมีติดตัวกันมา 1 ใจ 1 สมอง กับ 2 มือ 2 ขา

คิดพิจารณาดีๆแล้ว เราต่างก็มีส่วนในการร่วมกันสร้างสิ่งนี้ขึ้น "สภาวะโลกร้อน"

ต่างกันที่วาระ โอกาส สถานที่ ผลกระทบ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง

แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็ย้อนกลับเข้าตัวหมด ได้รับทุกคน

ผลของการร่วมกันก่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ในทุกๆด้าน

เอาแค่เรื่องฮิตๆ โลกร้อน ก็ตกเป็นจำเลยร่วมกันทั้งโลกแล้ว

จำเลยที่ก็ ทั้งก่อซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วก็รับโทษ ซ้ำแล้วซ้ำอีก

หนำซ้ำยังจะย้ำๆๆๆๆ ให้มันหนักขึ้นไปอีก ทั้งที่ตั้งใจและไม่เจตนา

จริงอยู่ ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก และคนเราก็่ไม่เคยรู้แน่ชัดว่า ตายแล้วตรูจะไปไหน

จะกลับมาอยู่บนโลกใบนี้ ดาวอังคาร สวรรค์ หรือ นรก

ทำให้หลายคนอาจคิดไปได้ว่า โอ้ย กว่าจะถึงเวลาที่โลกมันจะชิบหายวายวอดกันจริงๆ ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า และไม่รู้ว่า จะอยู่ถึงวันนั้นหรือไม่

แต่อย่างน้อย ตอนนี้ก็ไม่มีใครที่ไม่บ่นว่า ทำไมมันร้อนอย่างนี้ฟระ

ตูอยู่ในที่ไม่ร้อน ยังบ่นร้อนshipหายเลย บางวัน

ยกเว้นประเภทใครจะร้อนยังไง ช่างประไร ฉันมีแอร์ย่ะ

จะเปิดตอนไหนก็เย็นกายสบายใจเมื่อนั้น

เพราะลำพัง เขาตัวเองก็ยาวอยู่แล้ว คงไม่อาจเอื้อมจะไปขัดเขาให้ชาวบ้านได้

คิดก็แต่ว่า ถ้าคนเราทุกคนมีจิตสำนึก เค้าเรียกงี้ป่าวหว่า

หรืออะไรก็ได้ ที่มัีนหยดลงบนจิตใจ ความคิด

แล้วทำให้นึกขึ้นมาเห็นถึงผลกระทบ ความรุนแรง ของปัญหาโลกร้อน

ที่หลายๆฝ่ายออกมาแหกปากโฆษณากันจนฮิตติดเทรนด์ เช่น ให้ใช้ถุงผ้า

จริงๆ ถ้ามองในมุมกลับ สำหรับคน คน คน และคน ที่ร่วมกันก่อปัญหาขึ้นมา

ถ้าคน คน คน และคน เหล่านี้ ช่วยกัน คนละไม้ คนละมือ

เพียงเริ่มจาก คิดที่จะทำ คิดที่จะลด คิดที่จะแก้ คิดที่จะสร้างขึ้นมา จิตสำนึกน่ะ

ไม่เห็่นความจำเป็นของการต้องออกเป้นมาตรการ ทำอย่างงั้น อย่างนี้ให้ยุ่งยากเลย

ถุงก๊อปแก็ป หยิบติดมือมาด้วย ใช้ซ้ำ ไม่สวยหน่อย ก็ไม่เห็นเป็นไร ใครว่าสร้างไม่ได้ ในไทยจะประหลาดกว่าชาวบ้านหน่อย ก็ไม่ได้หนักใครนิ..

แอร์ ไม่ต้องเปิด หรือ เปิดแค่พอเย็น ก็อยู่ได้ สบายตัว ไม่เห็นต้องเปิดให้เหมือนกับเป็นเพนกวินอยุ่ขั้วโลกเลย..

รถยนต์ ไม่ไกลนัก ไปรถเมล์ หรืออยู่บางกอกก็รถไฟฟ้าก็ได้นิ เร็วดีด้วย หรือจะไปก็ไปด้วยกันนะ ไปคนเดียวไม่เอาอะ..

กระดาษก่อนขยำทิ้ง อีกหน้ายังว่าง เอามาขีด มาเขียน สร้างสรรค์อะไรดีๆ มาพิมพ์อะไรอ่านอีกรอบ ก่อนลงถัง ก็ยังเหลือลุย ห่อกล้วยแขก ไข่เต่าก็ยังได้..

แง่มๆ สารพัดสารพันตัวอย่าง เหลือจะคิด วันละนิด วันละหน่อย อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยล่ะวะ..

ว่าแล้วก็ลองอ่าน Idea can do จากเวปซาหนุกดอทคอมมา แหม ก็ได้ใจอยู่ ไอเดียอนุรักษ์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมดี เอามาลงเก๋ๆดีกว่า ข้อไหนที่ทำง่ายและได้ผลเยอะที่สุดหว่า

1. เปลี่ยนอาหารให้เป็นเชื้อเพลิง
2. เปลี่ยนหลอดไฟใหม่เป็นแบบประหยัด
3. จัดระเบียบการซักผ้าใหม่ ผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันอุตสาหกรรมการผลิต มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ค้นพบว่าขั้นตอนการซักผ้าและอบผ้าให้แห้ง กินพลังงานถึง 60% ของการผลิตเสื้อผ้าทั้งหมด และเสื้อยืดธรรมดาๆตัวหนึ่ง ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกือบ 4 กิโลกรัม!! คงไม่ถึงกับขอร้องคุณๆให้หยุดการซักผ้ารีดผ้าหรอกนะคะ!! แต่ถ้าอยากช่วยพิทักษ์โลกสีเขียวก็สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการจัดระเบียบการซัก ผ้ารีดผ้าใหม่ เช่น เปลี่ยนจากการซักผ้าด้วยน้ำอุ่นเป็นน้ำเย็น หรือไม่ก็รวบรวมเสื้อผ้าให้ได้กองโตพอสมควรก่อน ค่อยนำไปซักทีเดียว อย่างบ้านเรา แดดเปรี้ยงแรงดีอยู่แล้ว แค่นำเสื้อผ้าตากแดดตากลมให้แห้งตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าให้กินไฟและทำลายสิ่งแวดล้อม
4. จัดบ้านใหม่ให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ เช่น ปรับข้าวของไม่ให้ขวางทิศทางลม
5. ใส่เสื้อผ้ามือสองพิทักษ์โลก ในนิตยสารไทม์ฉบับล่าสุด ระบุไว้ว่า เสื้อผ้ามือสองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเสื้อผ้าใหม่ เพราะการซื้อเสื้อผ้ามือสองช่วยหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง จากการผลิต และขนส่ง อันเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ยิ่งยุคนี้วินเทจ ลุคเป็นที่นิยมอยู่ด้วย ช่วยกันคนละนิดนะคะ ทั้งอินเทรนด์ แถมยังลดวิกฤติโลกร้อน!!
6. การจัด สรรให้พนักงานทำงานใกล้บ้านที่สุด ฟาสต์ฟู้ดใหญ่ๆทั่ว อเมริกานำวิธีนี้มาใช้อย่างได้ผล!!
7. จ่ายบิลค่าใช้จ่ายทางอินเตอร์เน็ต ประหยัดค่าเดินทางด้วย
8. เปิดหน้าต่างรับลมแทนการเปิดแอร์
9. ปิดคอมพิวเตอร์ทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้
10. ปิดไฟทุกครั้งที่เสร็จงาน
11.เลิกบริโภคเนื้อสเต็ก จากรายงานของนิตยสารไทม์ ระบุว่า อุตสาหกรรมผลิตเนื้อทั่วโลกก่อให้เกิดการแพร่กระจายก๊าซกรีนเฮาส์ ในชั้นบรรยากาศมากถึง 18%
12. ปฏิเสธถุงพลาสติกลูกเดียว!! ใน แต่ละปีมีถุงพลาสติกถูกผลิตออกสู่ตลาดมากกว่า 50,000 ล้านถุง และมีเพียง 3% ของถุงพลาสติกที่นำไปรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยถุงพลาสติกแต่ละใบต้องใช้เวลาถึงพันปีกว่าจะย่อยสลายหมดไปจากโลก!! ทางที่ดีช่วยกันรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกจะดีกว่า แล้วหันมาพกถุงผ้าส่วนตัวไปช็อปปิ้งตามซุปเปอร์มาร์เกตแทน!!
13.ปลดเนกไท-ถอดสูททิ้ง บริษัทใหญ่ๆใน ญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มการประหยัดพลังงานแนวใหม่ ด้วยการไฟเขียวอนุญาตให้พนักงานใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆ โดยไม่ต้องสวมสูทและผูกเนกไทมาทำงานในช่วงฤดูร้อนตับแตก เพื่อประหยัดค่าแอร์!!

บ่นๆ ไป ให้ได้เข้ากับเทศกาลพอดี..

นึกคำพูดใครขึ้นมาได้ว่า ก่อนจะบอกคนอื่น บอกตัวเองซะก่อนเถอะ ม_ง

แล้วก็ย้อนกลับมาขัดเขาตัวเองต่อดีกว่า..

แต่อย่างน้อย ก็ภูมิใจในความรู้สึกล่ะวะ

ว่าตูทำแล้วเฟร้ย อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อินเทรนด์ๆ

แต่ก็ยังไม่ดีพอ อืมมมมม จะหาทางลดโลกร้อนที่ตัวเองใหม่ งึ่กๆ งั่กๆ

สงสัยจะติดเพลง จังซี่..มันต้องถอนมาซะแล้วสิตรู

Create Date : 05 มิถุนายน 2552 Last Update : 30 มิถุนายน 2553 15:23:09 น. Counter : 1097 Pageviews.		5 comments
Share Tweet