Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
25 กันยายน 2554
 
All Blogs
 

คลั่ง..กับเรื่องเล็กน้อยไปไย..

คลั่ง..กับเรื่องเล็กน้อยไปไย..

ศิลปะแห่งสติปัญญา ก็คือศิลปะแห่งความเข้าใจ ว่าควรจะผ่อนปรนต่อสิ่งใด


พอตื่นเช้ามา ภรรยาก็รู้สึกว่าสีหน้าของสามีไม่ดีเอาเสียเลย

“อีกประเดี๋ยวฉันจะกลับไปบ้านแม่ในเมืองเพื่อทำธุระเสียหน่อยนะคะ” ภรรยาบอก แต่ฝ่ายสามี
เอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ด้วยหน้าตาบูดบึ้ง ไม่ตอบอะไร
“คุณขับรถไปส่งฉันได้ไหมคะ” ภรรยาถามอีก
ฝ่ายสามีบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เธอก็นั่งรถเมล์ไปเองสิ”
“คุณเป็นอะไรไปคะ อารมณ์เสียหรือ” ภรรยาลองหยั่งเชิง
ฝ่ายสามีเปรียบดังลูกระเบิดก็ไม่ปาน โพล่งออกมาว่า “เมื่อวานเธอซื้อเสื้อไหมพรมตัวใหม่อีกแล้วใช่ไหม”
“ที่แท้คุณก็โมโหเรื่องนี้นี่เอง” ภรรยาไม่ใส่ใจ ยังคงจัดของลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้าน
ขณะที่สามีเริ่มบ่นเป็นชุด

“เรายังต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ลูกก็จะเข้าเรียนแล้ว เธอก็รับปากกับฉันแล้วนี่ ว่าจะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
แต่เธอกลับ...”
“เช้านี้มีรถเมล์แค่เที่ยวเดียวเสียด้วย ถ้าฉันไม่ไปตอนนี้ ก็คงไม่ทันเสียแล้ว รอฉันกลับมาค่อยคุยแล้วกันนะคะ”
ฝ่ายภรรยาทิ้งท้ายไว้เช่นนี้แล้วก็ออกจากบ้านไป ปล่อยให้สามีโกรธกรุ่นอยู่กับบ้านคนเดียว

ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็ได้ยินเสียงเอะอะลอดมากจากนอกหน้าต่าง เขาได้ยินเสียงเพื่อนบ้านร้องตะโกน
“แย่แล้ว สะพานเข้าเมืองขาดลงเสียแล้ว มีรถเมล์คันหนึ่งตกลงไปด้วย

ชายหนุ่มเด้งตัวจากเก้าอี้ เร่งรุดไปยังริมแม่น้ำ บรรยากาศริมน้ำดังนรกบนดิน รถเมล์บนท้องน้ำแหลกลาญจนแทบเป็นเพียงเศษเหล็ก
สัมภาระของผู้โดยสารลอยกระจัดกระจายอยู่บนผืนน้ำ หน่วยกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว พวกเขาหามร่างผู้เสียชีวิตออกมาทีละศพ
ส่วนผู้รอดชีวิตซึ่งร่างกายโชกเลือดได้รับการประคองขึ้นฝั่ง

“มีใครเห็นภรรยาผมบ้าง มีใครเห็นภรรยาผมบ้าง” ชายหนุ่มคว้าใครได้ก็ถามอย่างคลุ้มคลั่ง แต่ทุกคนก็ได้แต่ส่ายหน้า
เขาจึงรออยู่ที่ริมฝั่งจนกระทั่งดึก
หน่วยกู้ภัยคนหนึ่งโน้มน้าวเขาว่า “ผู้เสียชีวิตหลายรายถูกซัดไหลไปที่ปลายน้ำแล้ว คุณรอต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก
กรุณาหักห้ามใจด้วยเถอะนะครับ”
ชายหนุ่มเดินกลับบ้านอย่างคนที่ไร้จิตวิญญาณ พึมพำกับตัวเองไม่หยุดว่า “ถ้าฉันขับรถไปส่งเธอที่บ้านแม่ก็คงจะดี”

คาดไม่ถึงว่า เมื่อเขาผลักประตูหน้าบ้านเข้าไปกลับพบภรรยานั่งหลังตรงอยู่ในห้องรับแขก
“คุณไปไหนมาคะ” ภรรยาพูดยังไม่ทันขาดคำก็ถูกสามีซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาโอบกอดเอาไว้ เธอซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่พูดต่อไปว่า
“คุณร้องไห้ทำไมกันคะ วันนี้ฉันอยากไปคืนเสื้อไหมพรมที่ร้าน แต่ทางร้านไม่ยอมรับคืนสินค้า ฉันเลยไม่ทันได้ขึ้นรถเมล์”



แง่คิดสะกิดใจ

ชายหนุ่มในเรื่องต้องตกอกตกใจเก้อเสียเปล่า ๆ แต่ถ้าหากว่าภรรยาต้องจากไปด้วยเหตุนี้จริง ๆ เขาคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิตว่า
เหตุใดต้องทะเลาะกับภรรยาเพราะเสื้อไหมพรมเพียงตัวเดียวด้วย
เมื่อเราอยู่ในอารมณ์โกรธก็เหมือนกับเอาแว่นขยายมาส่องดูโลก เรื่องที่เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเล็กดังเมล็ดงา เรากลับคิดไปได้ว่ามันหนักหนาสาหัส
อย่างกับฟ้าจะถล่มทลาย แบบนี้ไม่เพียงแต่จะโกรธจนเป็นผลเสียต่อตนเองเท่านั้น ยังทำให้คนรอบข้างไม่สบายใจอีกด้วย

คนเราเกิดมาบนโลกแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่ฤดูร้อนหนาวเท่านั้น เรามิอาจกำหนดอายุขัยของเราได้ แต่สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ชีวิตเต็มไปด้วย
“ความโกรธ” หรือจะให้ “ความสุข” อยู่คู่กับทุกวันของชีวิตเรา คราวหน้าหากคนที่คุณรักทำให้คุณโกรธเพราะเรื่องเล็กน้อย ลองยิ้มรับแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ










 

Create Date : 25 กันยายน 2554
2 comments
Last Update : 10 ตุลาคม 2554 17:21:24 น.
Counter : 667 Pageviews.

 


อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลยค่า

 

โดย: ผู้หญิงจากดาวพฤหัส 25 กันยายน 2554 21:02:41 น.  

 

นั่นสิคะ พยายามอยู่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

 

โดย: สัญญาลมปาก 25 กันยายน 2554 21:30:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตดั่ง เรือน้อย ล่องลอยอยู่
ต้องต่อสู้ แรงลม ประสมคลื่น
ต้องอดทน หวานสู้อม ขมสู้กลืน
ต้องทนฝืน ยิ้มได้ เมื่อภัยมา.
Friends' blogs
[Add ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.