The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

รักร้ายๆ..ลูกชายมาเฟีย 16



16.

พี่ไอซ์จัดให้เราดินเนอร์กันในห้องอาหารส่วนตัว ที่อยู่ทางด้านหลังห้องจัดเลี้ยงติดกับสวนสวย ผนังห้องกรุกระจกใสเปิดให้เห็นสวนโดยรอบ สวนของเราสวยติดอันดับหนึ่งในห้าสวนสวยกลางเมืองมาหลายปีแล้ว บรรยากาศยามค่ำมีแสงจากเทียนหอมในแก้วใสที่ใช้แขวนประดับตามชายไม้ส่องแสงสว่างวับแวม ทำให้ภาพตรงหน้าสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม



นภัทรโทรหาผมเมื่อมาถึงแล้วแต่ยังหาห้องอาหารไม่เจอ ผมเลยเดินออกไปรับที่ล๊อบบี้ ภาพที่ผมเห็นคือหนุ่มรูปร่างสันทัด ในเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงินสลับขาว กับกางเกงยีนส์สีดำ ดูแปลกตาจากเมื่อปีก่อนมากอาจเพราะเสื้อผ้าที่ดูสบายๆกว่าในวันงานสถาปนาก็เป็นได้ รอยยิ้มที่สดใสทำให้ใบหน้าหล่อคมของหนุ่มผิวเข้มกระจ่างขึ้นทันที


“พี่ฟลุ๊ค...สวัสดีครับ”


“สวัสดีครับ...เชิญทางนี้เลย ...เอ่อพอดีว่าเพื่อนพี่แวะมาทานอาหารด้วย... อืม...ไม่เป็นไรนะครับเพราะยังไงแล้วก็คงต้องได้ร่วมงานกันในเร็วๆนี้อยู่ดี”



“ครับ”


ผมรู้สึกว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารไม่เครียดเท่าเมื่อบ่ายที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจางหายไปซะทีเดียว อาจเพราะมีนภัทรนั่งเป็นบุคคลที่สี่อยู่ด้วยก็เป็นได้ รุ่นน้องอารมณ์ดีที่มีรอยยิ้มสวยและแววตาหวานเป็นประกายสดใสทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยผมก็หายใจคล่อง ไม่อึดอัดมากกับสายตาของพี่และกัส


รายการอาหารวันนี้เป็นอาหารที่พี่โอชอบเกือบทั้งนั้น พี่ไอซ์ช่างจะจดจำรายละเอียดได้เสมอว่าพี่โอชอบอะไร อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารไทยที่รสไม่จัดเกินไปนัก เพราะพี่เกรียนขอผมทานเผ็ดไม่เก่งเลย กุ้งราดซอสมะขามนั่นก็จานโปรดของพี่เลยทีเดียวฮะ มะระตุ๋นยาจีนก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่พี่มักให้ป้าพิศทำให้ทานอยู่บ่อยๆ


“กุ้งนี่อร่อยดีนะครับ ฟุกกี้ทานเยอะๆนะ หมู่นี้ตัวบางไปโขเลยรู้ไหมครับ”


อ่ะ!


นั่นไง..ผมว่าแล้ว



พอกุ้งแม่น้ำตัวโตราดซ๊อสมะขามฉ่ำเยิ้มวางแหมะลงบนจานผม พร้อมกับสีหน้าและรอยยิ้มของคุณครูขี้เล่นที่ลุ้นๆให้ผมตักมันเข้าปากโดยเร็ว คนที่นั่งติดกับผมทางด้านขวาถึงกับปล่อยลมหายใจพรูแรง ก่อนปลากะพงทอดน้ำปลาชิ้นเขื่องจะถูกตักวางในจานผมอีกเหมือนกัน



“ฟลุ๊คทานปลาดีกว่านะ...ไขมันน้อยและดีต่อสุขภาพด้วย”


พี่ยิ้มหวานให้ผมก่อนจะหันไป...เหยียดยิ้ม....ให้คนที่นั่งตรงข้ามอย่างใจเย็น กัสก็ส่งยิ้มให้พี่เหมือนกัน...แม้ยิ้มนั้นจะกว้างจนลักยิ้มที่มุมปากบุ๋มลึก แต่ผมรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มนี้ มันมากกว่าการยิ้มตอบธรรมดาทั่วไป


“...ทอดมันนี่ก็น่าทานนะกำลังร้อนๆเลยเชียว...อ่ะนี่ครับ”


“หึ..ผัดผักรวมมิตรดีกว่านะพี่ว่า”


“อืม..ม..แกงส้มปลากระบอกรสจัดจ้านดีจัง ฟลุ๊คชอบไม่ใช่เหรอครับ”


บรรยากาศมาคุเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง คล้ายมีประกายไฟแล่นเปรี๊ยะๆจากสายตาของคนทั้งคู่ที่กำลังจ้องกันเขม็ง อดขนลุกไม่ได้ ผมทำหน้าไม่ถูก รู้สึกปั่นป่วนในท้องขึ้นมาเฉยๆ ความไม่อยากอาหารทวีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ได้แต่ก้มหน้าและเขี่ยอาหารกองมหึมาในจานเล่น


ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอาหารทั้งห้อง เมื่อสงครามล่าอาณานิคมกับข้าวยุติลงเพราะเชลยถูกยกมาอยู่ในจานผมเกือบหมดโต๊ะแล้ว มีเพียงเสียงถอนหายใจของผมและเสียงช้อนเงินกระทบกับจานกระเบื้องพอร์ซเลนเนื้อดีดังกุกกิก


“เอ่อ...คือ...พอจะมีใครตักแกงส้มให้ผมบ้างไหมครับ”


เสียงร้องขอเบาๆทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลงได้อย่างดี


“อ่ะ...ครับ”


ผมรีบหยิบถ้วยเล็กที่อยู่ตรงหน้าแล้วตักแกงส้มส่งให้นภัทรทันที พร้อมด้วยข้าวอบสับปะรดหอมกรุ่นอีกหนึ่งทัพพี น้องรับไปแล้วยิ้มกว้างคงจะนึกสงสัยกับบรรยากาศบนโต๊ะอาหารนี้อยู่บ้าง แต่นภัทรก็มีมารยาทพอที่จะไม่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้ น้องชวนผมคุยเรื่อยเปื่อยเพื่อให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดีขึ้น



“พี่ฟลุ๊คจำพี่นัท รุ่นIMFได้ไหมครับ วันก่อนผมเจอพี่เค้าด้วยนะที่....”


เมื่อทุกคนทานอาหารอิ่มแล้ว ผมให้บริกรเสิร์ฟรังนกตุ๋นเก๋ากี้เป็นอาหารหวานล้างปาก สูตรนี้ผมเพิ่งค้นคว้ามาได้จากตำรายาจีน เป็นสูตรที่พิเศษสุดๆ ความจริงเก๋ากี้ก็คือผลโกจิเบอรี่ที่เราได้ยินโฆษณากันบ่อยๆในช่วงนี้ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งในตระกูลเบอรี่ที่มีสรรพคุณมากมายจริงๆ เพราะเก๋ากี้ถือเป็นยาอายุวัฒนะ


และความที่พี่โอชอบเก๋ากี้มากๆนี้เองทำให้ผมค้นคว้าและหาสูตรการปรุงอาหารจากเก๋ากี้และรังนกรวมกันได้อย่างน่าทึ่ง นั่นก็คือการใช้รังนกในอัตราส่วนรังนกต่อเก๋ากี้ 1 ต่อ 2 ส่วนโดยให้ต้มรังนกก่อนแล้วจึงจะนำมานึ่งรวมกับเก๋ากี้ แล้วเติมน้ำตาลกรวดแต่งรสเล็กน้อยพอให้หวานปะแล่ม ใช้ดื่มถ้วยเล็กๆวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น สูตรนี้ยังถือเป็นยาได้ด้วย รวมทั้งเป็นสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะอย่างยิ่งกับคนป่วยโรคปอดในระยะพักฟื้น แต่ก็สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย

เวลาอาหารจบลงอย่างรวดเร็วโดยที่เรายังไม่ได้คุยธุระกันเลย ผมจึงถือโอกาสขอตัวคุยเรื่องงานกับนภัทรอย่างจริงจัง ผมเล่าถึงโครงการศูนย์อภิบาลลูกนกแอ่นของผมให้น้องฟัง นภัทรสนอกสนใจกับโครงการนี้อยู่มาก นั่งฟังอย่างตั้งใจ สีหน้าและแววตาที่มองกลับมีประกายระริกด้วยตื่นเต้นที่จะได้ทำงานที่ต่างไปจากเดิม ฉายออกมาอย่างปิดไม่มิด



“พี่คิดว่าเราจะลงไปตรังกันในอีก 2 เดือนข้างหน้า นภัทรเตรียมตัวทันไหมครับ”



“ครับได้เสมอครับ ..อืมพี่ฟลุ๊คครับ..ผมอยากจะได้ผู้ช่วยที่พอจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติของนกแอ่นมากสักหน่อย พอจะหาได้ไหมครับ”



“อับดุลหมาด เป็นคนดูแลศูนย์เดิมซึ่งพี่คิดว่าคงจะช่วยได้มากเพราะเป็นคนพื้นถิ่นด้วยและเติบโตมาพร้อมๆกับเกาะรังนก”



ผมมอบรายละเอียดโครงการให้นภัทรไปศึกษาและนัดวันเวลาที่จะเดินทางไปตรังพร้อมกัน แล้วก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ ขณะนี้สี่ทุ่มครึ่ง ในห้องอาหารตรงมุมประตูด้านซ้ายใกล้ทางออก กัสยังนั่งฟังเพลงเงียบๆอยู่ตรงบาร์เล็กๆนั้น ผมเหลียวหาแต่ก็ไม่เห็นพี่แล้ว...อืม..บอดี้การ์ดสุดหล่อของผมหายไปไหนแล้วเนี่ย...


“เอกสารในซองนี้มีทั้งรูปภาพเกาะและศูนย์เดิมรวมทั้งรายงานการดูแลศูนย์ที่อับดุลหมาดได้จัดทำไว้ให้ ถ้า นภัทรมีปัญหาหรือต้องการอุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมสำหรับใช้ในศูนย์แจ้งผ่านมาทางเลขาของพี่ได้เลยนะครับ ช่วงนี้พี่คงจะยุ่งกับการเคลียร์งานต่างๆทางนี้ให้แล้วเสร็จก่อนไปตรัง”




“อ้อ..แต่ถ้าหากจะปรับรูปแบบศูนย์ ในเรื่องของอาคารสถานที่พี่ไม่อนุญาตให้จัดสร้างอาคารถาวรที่อาจรบกวนทัศนียภาพและความเป็นอยู่เดิมของเกาะนะครับ ยังไงไว้ปรึกษากับกัสอีกครั้งแล้วกันเพราะกัสจะเป็นคนดูแลเรื่องการออกแบบทั้งหมดให้พี่”



“ครับ”



ผมลุกเดินออกมาพร้อมกับนภัทร กัสที่มองผมกับน้องคุยกันอยู่นานแล้วรีบวางเฮดโฟนลงบนเคาว์เตอร์บาร์แล้วลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นผมกับน้องเดินเข้ามาใกล้ ผมยิ้มให้กับคนที่เป็นคุณครู ก่อนเอ่ยถามนภัทรเบาๆ




“ไม่ได้เอารถมาใช่ไหม เดี๋ยวพี่ให้นิกกี้ไปส่งนะครับ”



ผมหันไปหาบอดี้การ์ดร่างท้วมที่อยู่ไม่ไกลนัก เห็นนิกกี้ยืนหน้านิ่งรักษาการอยู่ที่หน้าห้องอาหารก็ทำให้รับรู้ว่า...คนเก่งของผมคงมีปัญหาแล้วจริงๆ ...แต่นภัทรรีบปฏิเสธ หนุ่มคมเข้มยิ้มกว้างพูดเจือหัวเราะออกมา



“โอ๊ะ!..ไม่รบกวนหรอกครับพี่ฟลุ๊ค ผมกลับแท็กซี่ได้...อย่ากังวลเลย”



“แต่นี่ก็ดึกมากแล้วนะ..พี่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย”


“โห...ผมเป็นผู้ชายนะครับไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกน่า”



“แต่..”



“เอาเป็นว่าให้ผมไปส่งละกัน...ตกลงตามนี้นะครับ”


คุณครูของผมตัดบทโดยอาสาไปส่งน้องให้และเมื่อเห็นว่านภัทรไม่ได้ปฏิเสธอะไรผมก็เบาใจ ...ตอนนี้ผมกังวลกับบอดี้การ์ดของผมที่แอบหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นั่นมากกว่า เฮ้อ…พี่โอละก็งอนอะไรไม่เข้าเรื่อง



เดินตามกันออกมาที่ลานจอดรถ โดยไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย เมื่อถึงลานกว้างแลนโลเวอร์สีฟ้าคันเก่งจอดสงบนิ่งอยู่ตรงหน้าเจ้าของปลดล็อคให้ นภัทรก้าวขึ้นไปนั่งในรถ ก่อนจะเปิดประตูด้านคนขับเข้าไปกัสหันกลับมาพูดกับผมที่เดินตามมาห่างๆ



“...กลับก่อนนะครับ”



“อื้ม...ฟลุ๊คครับ..เพลงนั้น...ผมทำดนตรีเสร็จแล้วนะครับ ไว้ใส่เสียงร้องเรียบร้อยเมื่อไหร่ จะเอามาให้ฟังนะ”



“อยากเล่นดนตรีกับคุณอีกจังเลย”


ฝ่ามืออุ่นแตะที่บ่าผมอย่างตั้งใจ ตารีเรียวคู่นั้นจับจ้องใบหน้าของผมอย่างไม่วางตา แววตาที่ผมสัมผัสได้ว่ากัสห่วงใยผมจริงๆ ผมมองตอบกัสพร้อมกับเอื้อมแตะเบาๆที่หลังมืออุ่นที่กำลังบีบไหล่ผมอยู่ตอนนี้ ส่งยิ้มจางๆ ผมไม่มีกำลังใจจะคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย หากว่ามือคู่นี้ยังคงเล่นดนตรีเพื่อความสุขส่วนตัว ผมคงไม่อาจทำให้ธรรมมล กรุ๊ป ก้าวหน้าไปได้ ยิ่งตอนนี้ธุรกิจรังนกปรุงสำเร็จมีผู้แข่งขันในตลาดเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ในหัวของผมจึงมีแต่เรื่องที่ว่าผมจะทำอย่างไรให้บริษัทของเราก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคงภายใต้การดำเนินการของผม ชีวิตคนงานกว่าห้าพันคนรวมทั้งธุรกิจในเครือธรรมมลกรุ๊ปทั้งหมดอยู่ในมือของผมคนเดียวเท่านั้น

ผมคงเห็นแก่ความสุขของตัวเองเพียงคนเดียวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว


“ขอบคุณมากนะกัส...ผมรอฟังเสียงคุณอยู่นะครับ”


ออกแรงบีบที่มืออีกครั้งบอกว่าผมไม่เป็นไร ยิ้มจางๆที่ส่งไปให้คงทำให้กัสไม่ค่อยสบายใจนัก มือที่วางบนบ่าจึงไม่แค่วางอยู่อย่างนั้นวงแขนอีกข้างรวบดึงผมเข้าสู่อ้อมกอดจนได้ ตกใจอยู่บ้างแต่ระหว่างผมกับกัสก็เคยทำแบบนี้ ผมยืนนิ่งอยู่ครู่ก่อนจะตบเบาๆที่หลังอุ่นๆให้คุณครูคลายกอดออก เพราะสายตาของนิกกี้และนภัทรที่กำลังมองอยู่ วงแขนนั้นกระชับแน่นขึ้นอีกพร้อมเสียงนุ่มกระซิบเบาที่ข้างหู


“อย่านอนดึกนักล่ะ..ผมเป็นห่วงนะ..รู้ไหมครับ”


แลนด์โลเวอร์สีฟ้าเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถของไอลดาพาราไดซ์เรียบร้อยแล้ว ผมเดินช้าๆ ผ่านล๊อบบี้ที่ยังมีนักท่องเที่ยว 3-4 คนนั่งคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ผมเหนื่อยเหลือเกิน ง่วงและเพลียมากด้วย ตาผมเกือบจะปิดอยู่แล้วจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติคู่หนึ่งเพิ่งก้าวออกจากลิฟต์ ผมเกือบชนเขาเสียแล้ว ดีที่นิกกี้คว้าแขนผมไว้ได้ทัน


“ Oh! Excuse me. Sir”


“Don’t worry, boy.”


ผมรีบขอโทษแขกทั้งสองคนนั้น เห็นสายตาของทั้งคู่ที่ส่งยิ้มอย่างเอ็นดูมาให้ผมก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆกลับไป อ่ะ!!ผมอายุ 23 ปี แล้วนะไม่ใช่เด็กชายแล้ว นิกกี้เองก็พยายามกลั้นหัวเราะไว้ขณะที่ผมกระแอมกระไอเป็นเชิงปรามบอดี้การ์ดหนุ่มร่างท้วม..ฮื่ย!!ที่จริงก็เพื่อแก้เก้อ สภาพผมนอกเวลาทำงานคงเหมือนเด็กมัธยมอย่างที่ใครเขาว่ากัน จริงๆ..เฮ้อ...



กดตัวเลขไปที่ชั้น9 ชั้นที่เป็นส่วนห้องพักของเรา


นิกกี้โค้งให้ผมอย่างสวยงามเมื่อส่งผมถึงหน้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกผมก็ถูกรวบไว้ด้วยแขนแข็งแรงจากคนที่คุณก็รู้ใช่ไหมฮะว่าคือใคร พี่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดอะไรเลย ปากบางปิดปากผมจนสนิท แม้สักหนึ่งวลีก็ไม่อาจรอดพ้นออกมาได้


... รสขมปร่านี้...คืออะไร...


อ่ะ!..พี่ให้ผมดื่ม…

...อะไร...


เสื้อเชิ้ตสีแชมเปญที่สวมอยู่ถูกปลดกระดุมจนหมดในเวลาอันรวดเร็วและกำลังตกลงจากลาดไหล่ พี่ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าจริงๆ สองมือใหญ่ยังคงทำหน้าที่อย่างคล่องแคล่ว สอดเข้าไปบีบบั้นเอวและควานเข้าเคล้นคลึง คลอเคล้าสะโพกภายใต้กางเกงยีนส์ตัวเก่งของผมอย่างปลุกเร้า



ผมคงเมาไปกับเตกีร่าจากลิ้นร้อนๆที่กอดรัดกับลิ้นเรียวของผมอยู่ในขณะนี้เป็นแน่ ถึงทำให้ไม่ต่อต้านหรือคัดค้านพี่เลย พี่กำลังจะพาผมเดินไปที่เตียงนุ่มในห้องนอนใหญ่โดยที่เรายังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม


...แม้จะเป็นจูบที่ดูรุกรานไปบ้าง...


....แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่ผมสัมผัสได้มาตลอด....


...จูบที่แสนเร้าใจ...และทำให้กายผมร้อนขึ้นทุกขณะ


“อ่ะ!..ตุ๊บ!


เหมือนระยะทางไปที่เตียงมันใกล้เกินไปหรือเปล่า


พอหลังแตะพื้นนุ่มผมก็ลืมตาขึ้น ...ตอนนี้ผมอยู่ที่โซฟาสีครีมตัวใหญ่กลางห้องรับแขกต่างหาก... พี่ปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ เสียงหัวเราะเบาทำให้ผมรู้ว่าพี่พอใจกับผลงานตัวเองไม่น้อย ผมรู้สึกได้ว่าปากผมบวมเจ่อและคงแดงช้ำแน่ๆ ผมต้องรีบโกยอากาศเข้าปอดอีกครั้ง เมื่อใบหน้าหล่อคมโน้มลงมาใกล้ พร้อมกับปากอิ่มของผมที่ทำได้แค่จูบตอบพี่ไปอย่างเต็มใจ...แค่นั้น



...อ้อยอิ่งอยู่นานสองนาน... ก่อนที่ปากบางจะผละออกจากปากอิ่มของผมอย่างเชื่องช้า พี่หันไปสนใจซอกคอขาวที่หอมกรุ่น Bvlgari Aqua กระจายอยู่รอบตัวเราทั้งคู่ กลิ่นหอมนี้สำหรับเราสองคน รอยรักรอยเดิมถูกประทับให้ชัดขึ้นอีก และทุกตารางนิ้วบนเนื้อตัวผมคงมีรอยสีกุหลาบนี้กระจายไปทุกที่ ที่ปากบางๆของพี่เคลื่อนผ่าน



พี่ตั้งใจแกล้งหยอกเย้าแค่สัมผัสเพียงแผ่วที่ยอดอกก็ ทำให้ผมแทบจะลอยขึ้นได้แล้ว แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นมือเรียวรีบไขว่คว้าหาหลักยึดไว้ เป็นแผ่นหลังกว้างของคนที่กำลังทำรัก พอลิ้นร้อนแตะต้องและโลมเลียลงไปที่ยอดอกตรงๆผมก็เผลอครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน รู้ว่าตัวเองเผลอจิกเล็บสั้นลงไปบนหลังนั้นด้วยแต่เพราะเสื้อเชิ๊ตตัวนิ่มที่พี่สวมอยู่มันคงไม่ทำให้พี่เจ็บ


“ฮ่ะ..อา... พี่ฮะ พี่... อื๊ม.ม..”


เมื่อริมฝีปากลากผ่านจากอกขาวลงสู่หน้าท้องแบนราบ คนหน้าคมหยุดหยอกเย้ากับร่องสะดือสวย..ผมก็แทบคลั่ง ผมบิดตัวเกร็งร่าง ตื่นเต้นกับสัมผัสของพี่เสมอ สัมผัสที่เร่าร้อนแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนเสมอ...แม้จะเคยร่วมรักกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมก็ยังไม่อาจชินกับสัมผัสเหล่านี้ได้ สะท้านไหวกับทุกอย่างที่พี่มอบให้ เหมือนหัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ


“..ฮ่ะ!!พี่ฮะ..พี่....พี่..อ..อ.โอ..”


ผมแทบคลั่ง...เมื่อร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นจูบตอบผมอย่างไม่เขินอายและไม่ได้มีทีท่าว่าจะต่อต้านการรุกเร้าของผมเลยแม้แต่น้อย รับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดของผมสั่นไหวกับทุกสัมผัสที่ผมมอบให้ ปฏิกิริยาที่แสดงออกมาเป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ผมพอใจ ตาสวยหรี่ปรือด้วยอาการเสียวซ่านจากสัมผัสที่ผมตั้งใจมอบให้น้อง ปากอิ่มเผยอน้อยๆดูเหมือนจะยั่วเย้าแต่แล้วก็เม้มนิดๆอย่างพยายามกลั้นเสียงครางกระเส่าที่แสนไพเราะนั้นไว้เป็นระยะๆทุกขณะที่ผมพรมจูบไปทั่วแผ่นอกขาว


แต่แล้วน้องก็ละมือจากการเกาะจิกแผ่นหลังของผมไว้แน่นอยู่เมื่อครู่ คนหน้าหวานตั้งใจลากนิ้วเรียวยาวผ่านอกแกร่งมือนุ่มวนเล่นอยู่นานสองนานกับยอดอกผมผ่านเนื้อผ้า ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มของผมออกอย่างช้าๆ เมื่อเสื้อผ้าเนื้อดีตกลงไปตามใจคนถอดแล้วแขนเรียวก็โน้มดึงให้ผมก้มลงมาใกล้ ยิ้มนิดๆในหน้าแบบนี้มันช่างยั่วยวนสายตาเหลือเกิน ใจเต้นแรงขึ้นอีกแล้ว แม้จะแนบชิดกันมานานแต่วันนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร น้องดูสวยหวานและยวนใจมากเหลือเกิน



เบียดกายกระชับร่างแกร่งเข้ากับร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอด ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวกายที่อุ่นชื้น ปากบางประกบปากอิ่มจูบร้อนแรงถูกถ่ายทอดให้แก่กันและกันอย่างไม่รู้เบื่อ ลิ้นร้อนพัวพันกอดรัดกันแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว บดเบียดริมฝีปากอิ่มดูดดึงริมฝีปากล่างอย่างมัวเมาไปกับความยวนเย้าและหอมหวาน



จูบซ้ำๆย้ำอยู่เนิ่นนานก่อนจะผละจาก ลากลิ้นร้อนจากปลายคาง ผ่านซอกคอขาว ลาดไหล่ จูบที่ปุ่มไหปลาร้าที่โค้งสวยงามเหลือเกินนั้นอย่างหลงใหล ปากบางครอบครองตุ่มไตสีกุหลาบสวยดูดดุนขบเม้ม แลบเลียและหยอกล้อ เรียกเสียงครางหวานจากคนใต้ร่างได้มากเหลือเกิน ร่างบางบิดน้อยๆเมื่อกางเกงยีนส์ตัวเก่งถูกปลดออกไปเหลือเพียงกางเกงในสีขาวตัวบางปกปิดส่วนอ่อนไหวไว้อย่างหมื่นเหม่



“ฟลุ๊คครับ...ช่วยหน่อยสิครับ”


ผมเอื้อมจับข้อมือเรียวให้ปลดกระดุมกางเกงของผมบ้าง แม้น้องนั้นจะอายแต่อาจเพราะเตกีร่าที่ผมป้อนเข้าไปเมื่อครู่ ทำให้มือเรียวค่อยเคลื่อนมาปลดกระดุมกางเกงให้อย่างเงอะเงิ่นและถือโอกาสรูดมันลงไปติดไว้แค่ที่สะโพก น้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อสัมผัสส่วนร้อนผ่าวของผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขินอายจนต้องแกล้งทำเมินมองไปทางอื่นแต่ แก้มใสก็แดงระเรื่อจนปิดไม่มิด



ต้นขาเรียวสั่นระริกเมื่อกางเกงในสีขาวตัวบางถูกผมดึงออกไปแล้ว ใจผมเต้นแรง ร่างขาวสะอาดต้องแสงโคมสีนวลกระจ่างอยู่ตรงหน้า กระตุ้นความปรารถนาของผมให้มากขึ้นตามลำดับด้วย ผมรีบแทรกตัวเข้ามาอยู่ระหว่างขาเรียวนั้นในทันที ฟันคมงับเบาหยอกเอินที่ต้นขาและซอกขาขาว ก่อนจะลามเลียและเล็มมายังส่วนที่กำลังตื่นตัวอยู่ขณะนี้ น้องหอบกระเส่าในหัวขาวโพลนพร่ามึนไปหมดด้วยการถูกปลุกเร้า เมื่อมือและปากของผมจัดการโลมเล้าส่วนอ่อนไหวที่สุดของน้องอย่างอ่อนโยน ปากอิ่มเม้มแน่นมือเรียวยกขึ้นปิดปากพยายามกลั้นเสียงครางหวานไว้แต่ก็ไม่อาจทำได้



“อืม..ม...ม...อา..ฮ่ะ!!”


ปรนเปรอด้วยปากและลิ้นอย่างเต็มใจ อากัปกิริยาที่แสดงออกของคนรักทำให้ผมพอใจ โพรงปากร้อนชื้นยังคงกลืนรับไปจนสุด ดูดเม้มขบเย้ากระตุ้นปลายประสาทย้ำไปย้ำมาจนแข็งขืนและชุ่มฉ่ำ เร่งเร้าปรนเปรอทั้งมือและปากจนคนใต้ร่างบิดเร่าแผ่นหลังบางหยัดขึ้น น้องร้องดังด้วยความเสียวซ่านก่อนทำนบที่ขวางกั้นจะพังทลายปลอดปล่อยน้ำรักออกมาจนท่วมท้น ผมกลืนกินหยาดหยดหวานลิ้นนั้นไปจนหมดสิ้น



“อ๊า!..พี่ฮะ”


ร่างบางทอดกายลงนอนอย่างอ่อนล้า ใบหน้าสวยหวานหลับตาพริ้ม ปากอิ่มเผยอหอบเหนื่อย อกขาวกระเพื่อมไหว ด้วยการหายใจยังไม่ปกตินัก ร่างทั้งร่างชื้นไปด้วยเหงื่อ แต่แล้วคนที่เกือบจะหมดสติไปเพราะความเพลีย ก็ต้องร้องครางอีกครั้ง เมื่ออีกคนไม่ยอมให้ได้พัก


“อื้มมมม...พะพี่....พี่ฮะ”



“ครับคนดีของพี่”


เมื่อคนทำรักยังไม่ได้รับการปลดปล่อย ร่างของน้องจึงถูกผมขยับยกสะโพกมนให้ลอยขึ้น เอื้อมจับขายาวสวยให้เกี่ยวไว้ที่สะโพกผมแล้วโน้มตัวลงมาใกล้ แขนเรียวของน้องเกาะเกี่ยวลำคอแกร่งอย่างรู้งาน ไม่อาจรุกราญหักหาญในทีเดียว...ผมต้องกลั้นใจไว้อย่างมาก...ค่อยกดสอดอย่างช้าๆ ถอดถอนและเคลื่อนเข้าใหม่อย่างใจเย็น ค่อยให้ร่างบางเริ่มชินกับสัมผัสที่กำลังล่วงล้ำนี้ ....



....แม้จะต้องใช้ความพยายามอย่างมากกับการระงับอารมณ์ปรารถนาที่กำลังคุโชน ทั้งๆที่อยากจะกลืนกินร่างหอมหวานตรงหน้านี้เสียเหลือเกิน...เพราะผมรู้ดีว่ามันแสนจะเย้ายวนใจและคุ้มค่าแค่ไหนกับสิ่งที่จะตามมา...


“อืออ...ฮ่ะ..อา...”


แรกทีเดียวผมเกร็งจนรู้สึกเจ็บ ทั้งๆที่เตรียมใจและเต็มใจรับสัมผัสนั้นอยู่แล้ว จนพี่ต้องจูบปลอบใจอยู่นาน แก่นกายร้อนผ่าวค่อยเคลื่อนลึกจมดิ่งเข้ามาช้าๆจนสุด รู้สึกจุกแน่นจากการสอดใส่อยู่บ้าง แต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็แปรเป็นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆแล่นแปลบปราบไปทั่วร่าง ค่อยซึมซับสัมผัสนุ่มละมุนระหว่างกันอย่างช้าๆ พี่ไม่หักหาญรุกราญแต่ค่อยเป็นค่อยไปนั่นทำให้ผมพอใจมาก



.... นาน...กว่าพี่จะขยับปรับเร่งจังหวะจากเนิบช้านี้ขึ้นทีละนิดๆ ทุกครั้งที่พี่ขยับ ความเสียวซ่านและสุขสมก็บังเกิด จนอารมณ์รักของผมเพลิดไปไหนต่อไหน ทั่วทั้งร่างร้อนรุ่มด้วยเพลิงรักที่รุกโชน หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายทั่วร่าง โซฟานุ่มตัวใหญ่ไม่เป็นอุปสรรคกับการร่วมรักของเราเลย



...ท่ามกลางความเงียบของยามดึกสงัด... การบรรเลงบทเพลงแห่งรักที่แสนจะอ่อนหวาน ถูกต้องด้วยท่วงทำนองที่กลั่นกรองจากนักดนตรีฝีมือเอกยังคงดำเนินต่อไป การหายใจหนักแรงดังประสานสอดแทรก สลับกับเสียงลั่นเอี๊ยดของโซฟาชั้นดี ช่างไพเราะเพราะพริ้ง หาได้หยาบโลนแม้แต่น้อย



ผนังร้อนชื้นสร้างความรัญจวนได้อย่างไม่สิ้นสุด ยิ่งพี่เพิ่มแรงกดลงมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งบีบรัดมากเท่านั้น พี่ขยับจังหวะขึ้นเต็มที่เมื่ออารมณ์รักของเราใกล้จะถึงฝั่ง มือใหญ่เลื่อนกดไหล่บางให้สวนแรงประสานการรวมเป็นหนึ่งเดียว ส่วนบีบรัดเกร็งเป็นจังหวะถี่กระชั้นมากขึ้น จนผมคิดว่าหัวใจตัวเองจะวายลงได้ทุกเมื่อ พี่สวนกายหนักๆพร้อมทั้งกดรั้งบั้นท้ายของผมให้แนบชิด คนหน้าคมขบกรามแน่นก่อนจะกระตุกเกร็งร่างสองสามครั้งเพื่อปลอดปล่อยสายธารอุ่นไว้ภายในตัวผม



ในหัวขณะนี้อื้ออึง พร่าพรายเหมือนดั่งแสงพลุขาวแตกกระจายอยู่บนฟากฟ้า อาการแล่นแปลบปราบของกระแสไฟจากท้องน้อยไปจนสุดปลายร่างทำให้ผมกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงที่สุด ร่างทั้งร่างเกร็งกระตุกมิอาจกลั้นไว้ได้อีกต่อไปผมปลดปล่อยหยาดหยดอีกครั้งจนเปรอะเลอะหน้าท้องและอกของทั้งผมเองและพี่ด้วย คนทำรักจูบปลุกปลอบซับหยาดน้ำใสที่เอ่อออกมาที่ปลายตาของผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นั้นออกไปอย่างอ่อนโยนที่สุด ก่อนจะเอนซบร่างลงกับอกของผม อ้อมแขนแข็งแรงรั้งร่างของผมไว้แนบแน่น เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายทั่วร่างของเราทั้งคู่



การหายใจหอบลึกค่อยคลายลงเมื่อเราทั้งคู่ไม่ขยับกายออกจากการกอดเกี่ยวกันมาชั่วระยะหนึ่ง ผมมอบจูบเบาๆที่ขมับให้กับคนที่ยังหายใจรวยรินอยู่ใต้ร่าง ใบหน้าสวยยิ้มจางๆ พร้อมกับส่งแววตาเป็นประกายระริกไหวมาให้ ไม่รับรู้ใดๆอีกแล้ว รู้เพียงว่าผมถูกครอบงำด้วยร่างหอมละมุนนี้เสียแล้ว


“พี่โอ...”


เสียงหวานกระซิบแผ่วที่ริมหู พร้อมกับปากอิ่มขบที่ปลายติ่งหูนิ่มของผมเบาๆ อาจเพราะใบหูที่แดงกร่ำของผมที่เขินอย่างมากกับใบหน้าสวยที่ยิ้มยั่วอยู่ใต้ร่างนี้ จนน้องอดหยอกล้อผมไม่ได้


“คะ...ครับ..”


“ฟลุ๊ครักพี่นะฮะ”


ปากผมก็ไวเท่าความคิดจูบมอบรางวัลคนปากดีไปทันที


“หือ..อืม.ม..ม.พะ..พี่..อืมม”


คนถูกจูบพยายามพูดอีกครั้ง..ผมคิดว่าน้องคงคิดว่าผมโกรธเรื่องเมื่อเย็น..และคงอยากอธิบาย...แต่ผมลืมมันไปแล้ว ระหว่างเราผมไม่อยากให้มีเรื่องหมางใจมารบกวนอีก ผมรู้ว่าที่ลานจอดรถกัสทำอะไรน้องบ้าง ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาบอดี้การ์ดมือดีอย่างผมไปได้หรอก ถึงจะดูขวางตากับการกระทำของกัสอยู่บ้าง...แต่ตอนนี้น้องก็อยู่กับผม ผมอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าในเมื่อผมได้ทั้งตัวและหัวใจคนๆนี้มาแล้ว ผมยังจะต้องกลัวอะไรอีก..ต่อจากนี้ต่างหากที่ผมควรจะรักษาความรักของเราไว้ให้ยาวนานที่สุด


“หึๆ..รู้ครับรู้”


“พี่...”


“หือ..”


“ฟลุ๊คร้อนแล้วล่ะฮะเหนียวตัวจัง”


“อืม..งั้นไปอาบน้ำนะครับคนดี..ป่ะพี่อุ้ม”


“อ่ะ!พี่โอ..ไม่อ่ะไม่อุ้ม..เดี๋ยวตก”


ผมแกล้งช้อนตัวน้องขึ้นแต่แล้วคนตัวนิ่มก็ดิ้นหลุดลงมายืนจนได้ ผมว่าน้องไม่ได้กลัวตก แต่คงกลัวว่าผมจะหนักและกลัวผมจะเจ็บแผลมากกว่า ผมโอบเอวคนหน้าหวานที่น่ารักที่สุดมาใกล้แนบชิดร่างนุ่มนิ่มไว้ในอ้อมกอด เชยคางมนให้รับจูบจากผมอีกครั้ง น้องจูบตอบผมอย่างเต็มใจ..เป็นจูบที่แสนหวานและดูดดื่มอย่างเหลือเกิน


…เหมือนรอบตัวของเราถูกโอบล้อมไว้ด้วยกลีบกุหลาบหอมกรุ่น อืมม..ผมว่ากลิ่นหอมนี้มันกระจายมาจากคนในอ้อมกอดของผมนี้มากกว่า..หอมหวานไปทั้งตัวอย่างนี้...สุดท้ายเพลงรักก็ถูกบรรเลงในห้องน้ำอีกครั้ง ก่อนจะออกมาจบลงที่เตียงกว้างและหลับสนิทไปในอ้อมกอดของกันและกัน เมื่อเวลาล่วงผ่านเข้าเช้าวันใหม่มาเกือบ3ชั่วโมงแล้ว



ผมอยู่ใน Mercedes-Benz E500 Coupe สีขาวคันเก่ง โดยมีคนขับรถที่หล่อที่สุดขับด้วยความเร็วไม่มากนัก เพื่อให้ผมได้นั่งเอนหลังสบาย ๆและให้ผมได้มีโอกาสชมทิวทัศน์ข้างทางได้อย่างชัดเจน ผมมองดูบ้านไม้เก่าๆ ชั้นเดียวบ้าง สองชั้นบ้าง บ้านตึกครึ่งไม้ครึ่งปูน บ้านตึกทั้งหลัง โรงเรียนและสถานที่ราชการที่สร้างด้วยไม้ ซึ่งคาดว่าสร้างมานานเกือบร้อยปีตลอดสองข้างทางอย่างชื่นชอบ ที่นี่มีบ้านไม้เก่ารูปแบบเรียบง่าย และตึกโบราณที่มีหน้าต่างเป็นบานเกล็ดไม้ระแนง เหนือขอบหน้าต่างมีปูนปั้นลวดลายเก๋ๆ เรียบง่ายแต่สวยงาม ที่ช่างสมัยก่อนบรรจงสร้าง ...ตึกชิโน โปตุเกส มีให้เห็น ได้เกือบตลอดทางที่ขับผ่าน บ้านเก่าๆ เหล่านั้น..สวยงามไม่สร่าง...แม้แต่กาลเวลาก็มิอาจทำลายได้ กลับยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ชวนมอง เมื่อเทียบกับตึกแถวสร้างใหม่สไตล์หยาบ…



ผมอดคิดถึงบ้านของเราที่ภูเก็ตไม่ได้ บ้านที่ป๊าบอกว่าแม่เป็นคนดูแลเรื่องการออกแบบและตกแต่งเองเกือบทั้งหมด บ้านสไตล์ชิโนโปรตุเกสหลังใหญ่ทาสีเขียวอ่อน ลวดลายปูนปั้นและเสาระเบียงทาสีขาวสะอาดตา ส่วนกระเบื้องหลังคานั้นเป็นกระเบื้องดินเผาชั้นดีสีส้มอิฐที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงให้สีสันที่สดใสได้ตลอด ภาพบ้านของแม่ตั้งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวสดและมีสวนป่ารกชัฏเป็นฉากหลังกระจ่างอยู่ในความคิด


ผมคิดถึงสวนดอกไม้สวยงามที่แม่รักแสนรัก ป่านนี้ Cecile Brunner กุหลาบที่แม่รักจะผลิบานอวดดอกสวยงามแค่ไหนกันนะ Cecile Brunner สีชมพูอ่อน ช่อดอกเล็ก คล้ายกุหลาบหนู ต้นนี้ดอกดกมาก ถึงดอกจะเล็กกะทัดรัด แต่สวยถึงขั้น World Federation of Rose Societies Old Rose บรรจุลงใน Hall of Fame กุหลาบพันธ์นี้มีทั้งพันธุ์เลื้อยและพุ่ม ความที่เลี้ยงง่าย ทนโรคได้ดี ทำให้สามารถเห็นได้ง่ายตามชนบททั่วไป จะว่าไปกุหลาบชนิดนี้น่ารักมากนะฮะ เพราะอีกชื่อของเค้าคือ The Sweetheart Rose


..อืม..ม..ผมอยากเก็บ Cecile Brunner มาสักช่อใหญ่ๆจัดผูกทำเป็นช่อถือให้ใครบางคนใกล้ๆนี่ซะแล้วสิ...หึๆหนุ่มหน้าคมมาดเข้มกับกุหลาบสีชมพูใสๆ มันก็น่ามองดีเหมือนกันนะฮะ



“ฟลุ๊คครับ...ถึงแล้วครับ..”


เสียงนุ่มทุ้มพร้อมกับมือหนาที่แสนอบอุ่นแตะที่ต้นแขนซ้าย ผมก้าวจากรถหรูที่พี่เปิดประตูรออยู่แล้วลงมายืนอยู่หน้าบ้านสีขาวสไตล์ชิโนโปรตุเกสหลังไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ดูดี บ้านตั้งอยู่บนเนินเตี้ยที่รอบๆมีสวนป่าโปร่งให้ร่มเงาแต่ไม่รกทึบและสนามหญ้ากว้าง ผมเห็นเรือนกระจกหลังย่อมตั้งอยู่ด้านขวาของตัวบ้านด้วย


เมื่อหันหลังกลับไปมองอีกด้าน ทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตาถูกกั้นไว้ด้วยรั้วไม้สีขาวเตี้ยๆแบบรั้วบ้านในชนบทแถบชานเมืองของต่างประเทศ ที่รั้วนั้น Cecile Brunner สีชมพูอ่อน เกาะเกี่ยวพันกันเป็นแนวยาวไปตลอดอย่างสวยงาม แสงระยิบระยับจากการที่ดวงอาทิตย์สาดต้องผิวน้ำดูพร่าพรายจนผมแสบตา น้ำใสๆเอ่อท้นออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ลมเย็นพัดแผ่วมาปะทะใบหน้า ผมยิ้มกว้างออกมาได้ หันไปยิ้มขอบคุณพี่โอคนที่รู้ใจผมมากที่สุด พี่เลือกบ้านหลังนี้ไม่ใช่เพราะว่าเหตุผลอะไรที่พี่ยกมาอ้าง...แต่ทั้งหมดทุกสิ่งอย่างที่เป็นเหตุให้พี่เลือกก็เพราะผม


“ขอบคุณมากนะฮะพี่โอ”


พี่ไม่ได้เอ่ยอะไร มือใหญ่ปาดหยดน้ำใสที่กลิ้งจากตาคู่สวยของผมออกอย่างเบามือ ความพร่าพรายเลือนหายไป พร้อมกับรอยยิ้มกว้างและเขี้ยวแหลมๆนั้นกระจ่างอยู่ตรงหน้า


+++TBC+++




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2555
28 comments
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 10:39:36 น.
Counter : 4040 Pageviews.

 

ขอบคุณคะ ตามมาเก็บความหวาน พีโอน้องฟุคจัดหนักเลย แอร๊ยยยยย เป็นกำลังใจให้คะ รอฉากสวีทนอกสถานทีคะ

 

โดย: ducky IP: 118.174.90.113 12 พฤษภาคม 2555 20:56:39 น.  

 

คิดถึง เปิดมาเจอดีใจมาก ยิ่งอ่านไปมีรอยทั้งหอมทั้งหวานแบบนี้ เฮ้อ อบอุน เป็นกำลังใจให้แม่ดานะคะ แหมไม่รู้จะรู้ใจกันไปถึงไหน

 

โดย: JI IP: 124.121.91.192 12 พฤษภาคม 2555 21:53:14 น.  

 

service กันน่าดู^^

 

โดย: sngg IP: 27.130.36.197 12 พฤษภาคม 2555 21:59:05 น.  

 

ดีใจมากเลยค่ะเปิดมาเจอตอนใหม่แล้วคิดถึงเรื่องนี้มากๆ คิดถึงแม่ดาด้วยนะคะ
ยังหวานเหมือนเดิม
เป็นกำลังใจให้แม่ดานะคะ

 

โดย: mooyok IP: 58.8.122.217 13 พฤษภาคม 2555 3:30:56 น.  

 

น่ารักมากก คะ รอมาต่อนะคะ

 

โดย: mind's eye IP: 110.168.16.135 13 พฤษภาคม 2555 3:39:20 น.  

 

อร๊ายยย!!ทั้งหวานทั้งซึ้ง^^
ไม่รักไม่ได้แล้ว...

 

โดย: miyukik IP: 110.49.252.52, 141.0.9.26 13 พฤษภาคม 2555 8:04:13 น.  

 

สนุกมากค่ะแม่ดา รอตอนต่อไปเช่นกันค่ะ ^^

 

โดย: kumiko yui 13 พฤษภาคม 2555 21:30:05 น.  

 

จัดหนักกันขนาดนี้!!!!!!
เลือดวายไหลหมดตัว...เดินหมดแรงออกจากบล็อค
กันเลยทีเดียว...ฮิ้วววววว!!!!!

 

โดย: พี่นิด IP: 171.98.42.62 14 พฤษภาคม 2555 8:11:55 น.  

 

เป็น fic ที่อ่านแล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจทุกครั้ง ไม่เคยผิดหวังเลยที่เข้ามาอ่านค่ะ

 

โดย: wonder IP: 110.171.7.213 14 พฤษภาคม 2555 19:06:29 น.  

 

จัดหนัก ตามคำขอจริงๆค่ะ writer เลือดวายไหลหมดตัว สลบเหมือดไปกับคนบางคนเลยทีเดียว อิๆๆ !!!! ฮิ๊วๆๆ มันเขิน มันซาบซึ้ง ผสมหื่นเล็กๆ ยังไงก็ไม่รู้ นั่งยิ้มเป็นผีบ้าอยู่หน้าคอม นี่ช้านนนนเป็นอะไรเนี่ยยยยยย ^________^".

 

โดย: lek^lek IP: 223.205.238.208 19 พฤษภาคม 2555 19:33:54 น.  

 

คุณดายังรักษาความน่ารัก ความหวาน ของพี่โอกับน้องฟลุ๊คไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ชอบที่คุณดาสื่อให้คนอ่านเข้าใจถึงความขี้งอนของพี่โอ(ก็ธรรมดารักมาก ก็ต้องหวงมาก)แล้วความเป็นห่วงความรู้สึกของฟลุ๊คที่มีต่อพี่โอเมื่อเห็นพี่โอหายไป การดูแลเอาใจใส่กันตลอดเวลาให้ความรู้สึกที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณดามากนะคะ

 

โดย: TUM IP: 27.55.4.1 21 พฤษภาคม 2555 20:04:31 น.  

 

คุณดายังรักษาความน่ารัก ความหวาน ของพี่โอกับน้องฟลุ๊คไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ชอบที่คุณดาสื่อให้คนอ่านเข้าใจถึงความขี้งอนของพี่โอ(ก็ธรรมดารักมาก ก็ต้องหวงมาก)แล้วความเป็นห่วงความรู้สึกของฟลุ๊คที่มีต่อพี่โอเมื่อเห็นพี่โอหายไป การดูแลเอาใจใส่กันตลอดเวลาให้ความรู้สึกที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณดามากนะคะ

 

โดย: TUM IP: 27.55.4.1 21 พฤษภาคม 2555 20:04:31 น.  

 

ขอบคุณสำหรับฟิคแสนหวาน ^ ^

 

โดย: ระแนงไม้ IP: 110.168.186.143 25 พฤษภาคม 2555 7:31:03 น.  

 

แอร๊ยยยย....หวานร้อนมว๊ากกกก

แอบฮาตอนพี่โอกะนายกัสจังเล่นเกมไซโคกันอ่ะค่ะ นึกภาพตามแล้วหนักใจแทนพะชอนน้อย ฮ่าๆๆๆ

แล้วนายกันณภัทรเนี่ย จะมาเป็นมือที่สามระหว่างเค้าสองคนอีกป่าวอ่ะ...ไม่น๊าาา...ดูท่าทางแล้วน้องกันจะเป็นคนดีคนซื่อ...พี่ดาโปรดเอ็นดูปราณีน้องกันเถอะนะค๊าาา ...

ขอบคุณพี่ดาที่แต่่งฟิคหวานๆให้อ่านค่ะ ^^

 

โดย: hunny (hunnylovelaruku ) 28 พฤษภาคม 2555 23:37:35 น.  

 

จบตอนแล้วหรอเนี่ยโห่!กำลังอิน5555สนุกมากค่ะพี่ดา เก่งจริงจริงเลยค่ะกับFICนี้เห็นภาพทุกช็อตรออ่านตอนต่อไปค่ะ

 

โดย: มะลื IP: 182.52.128.85 12 มิถุนายน 2555 11:18:40 น.  

 

จบเหรอ. แม่ดาหายไป.

 

โดย: Ji IP: 110.49.250.157 15 มิถุนายน 2555 8:26:19 น.  

 

จบเหรอ. แม่ดาหายไป.

 

โดย: Ji IP: 110.49.250.157 15 มิถุนายน 2555 8:29:57 น.  

 

ไรเตอร์คับ เริ่มคิดถึง Bodyguard หนุ่ม & Vip หน้ามน แร้วละซิ อย่าหายไปนานนักนะเพราะเค้าคิดถึงอ่ะ..

 

โดย: Wonder IP: 110.171.7.213 16 มิถุนายน 2555 10:45:16 น.  

 

คิดถึงจังเลยค่ะ writer ^____^".

 

โดย: lek^lek IP: 49.48.108.91 1 สิงหาคม 2555 2:05:42 น.  

 

""" ^____^". """ ยังยืนยันคำเดิมค่ะ .....

 

โดย: lek^lek IP: 223.204.11.131 14 สิงหาคม 2555 0:27:12 น.  

 

Writer พ่ีดาสุดสวยคะ คิดถึงจังเลยคะ
มาต่อพ่ีโอสุดหล่อกับน้องฟลุคสุดสวยไวๆนะคะ
นู๋ตั้งตารอเลยคะ^^
ขอบคุณพ่ีดามากๆนะคะ
ท่ีแต่งฟิคออกมาได้
สมบูรณ์สุดยอดท่ีสุด
พ่ีดาเก่งมากๆเลยคะ

 

โดย: Lookpear IP: 27.55.0.228 19 สิงหาคม 2555 10:17:06 น.  

 

Where writer ???
I miss your fic so much very much naka...
@__@

 

โดย: wonder IP: 110.171.7.213 20 สิงหาคม 2555 20:14:05 น.  

 

" รู้มั๊ยว่า คิดถึงจังเลย " ^__^".

 

โดย: lek^lek IP: 171.5.66.51 5 กันยายน 2555 0:47:26 น.  

 

บอดี้การ์ดหายไป...คิดถึงน้องกัส...น้องฟลุคไฮโซที่
สุด

 

โดย: มะลิ IP: 171.4.146.56 14 กันยายน 2555 20:32:25 น.  

 

ยังมึนต่อ เพื่อจะบอกว่า " คิดถึ๊ง คิดถึง " อย่าหายไปนานนักนะคะ writer ^___^".

 

โดย: lek^lek IP: 223.205.13.253 17 กันยายน 2555 1:06:13 น.  

 

เข้ามาลงชื่อว่ายังคิดถึง Body guard & VP. อีกคนนะคะ..

 

โดย: Wonder IP: 125.27.75.239 19 กันยายน 2555 22:04:20 น.  

 

อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

รอตอนต่อไปครับ กำลังสนุกเลย

 

โดย: เสือ IP: 202.44.4.106 2 พฤศจิกายน 2555 11:53:33 น.  

 

เอ่อ ที่โซฟาสีครีมโอ๊ยไปไม่เป็นเลยขอแบบนี้อีกนะ

 

โดย: เดือน IP: 125.26.139.89 22 ธันวาคม 2555 3:44:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


womam in love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




...อยากให้รัก...หมุนรอบตัวฉันและเธอ...ตลอดไป..
http://i485.photobucket.com/albums/rr213/yamiejung16/ui20.gif
New Comments
Friends' blogs
[Add womam in love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.