The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
รักร้ายๆ..ลูกชายมาเฟีย 2

ผมเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าที่เคย มาตามทางเดินที่ทอดยาวจากลานจอดรถ ผ่านสวนดอกไม้ที่ปลูกไว้อย่างสวยงาม คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางหมู่มวลไม้ดอกไม้ใบน้อยใหญ่ อาณาจักรของตระกูลธรรมมลมีบริเวณกว้างขวางคาดว่าเพียงเนื้อที่ที่เป็นตัวอาคารต่างๆไม่น่าจะต่ำกว่า10ไร่

วันนี้ผมตั้งใจจะเข้ามารายงานเรื่องที่ได้รับจากสายข่าวให้นายหัวทราบ เรื่องที่ผมอดเป็นห่วงอยู่ลึกๆไม่ได้ ผมเร่งฝีเท้าด้วยความร้อนใจ แต่เมื่อกำลังจะก้าวเท้าเข้าสู่ภายในตึกใหญ่...ผมก็ต้องเปลี่ยนใจ

....Funny how I feel more myself with you
Than anybody else that I ever knew
I hear it in your voice, see it in your face
You've become the memory I can't erase

You could have been anyone at all
A stranger falling out of the blue
I'm so glad it was you

It wasn't in the plan, not that I could see
Suddenly a miracle came to me
Safe within your arms I can say what's true
Nothing in the world I would keep from you

You could have been anyone at all
An old friend falling out of the blue
I'm so glad it was you

Words can hurt you if you let them
People say them and forget them
Words can promise
Words can lie.
But your words make me feel like I can fly

You could have been anyone at all
A net that catches me when I fall
I'm so glad it was you

You could have been anyone at all
An old friend calling out of the blue
I'm so glad it was you

Anyone at all You could have been anyone at all
Anyone at all I'm so glad it was you



เสียงหวานที่แว่วลอยมา ฉุดดึงให้ผมเดินตามหาต้นเสียง เพลงไพเราะที่ครั้งหนึ่งเคยประทับอยู่ในความทรงจำของผมมานาน Anyone at all ที่กำลังบรรเลงด้วยเปียโนตัวใหญ่จากฝีมือผู้บรรเลงที่เก่งไม่เบา เสียงนั้นดังมาจากห้องในเรือนหลังเล็กที่เยื้องค่อนไปทางด้านหลังของตึกใหญ่ เรือนไม้สีขาวที่ปกคลุมไปด้วยเถาไอวี่


ผมเคยได้ยินมาบ้างที่มีคนพูดว่าดอก ไอวี่ สื่อความหมายถึง ความจงรักภักดี ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และมั่นคงในรัก นายหัวปัญญาคงรักภรรยามาก เพราะเท่าที่พ่อเล่าให้ฟัง ท่านไม่เคยมีเด็กๆในปกครองแบบที่พวกเจ้าพ่อหรือมหาเศรษฐีชอบทำกัน แม้กระทั่งเมื่อคุณฟ้าจากไป


ภายในห้องโถงกว้างปลูกประดับไปด้วยดอกกุหลาบมากมายหลากหลายพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมอ่อนเย็น ผมยืนเงียบๆอยู่ที่ประตู คนบรรเลงเพลงไพเราะยังคงวนเวียนเล่นเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะท่อนที่บอกว่า...


“...Words can hurt you if you let them .People say them and forget them .Words can promise .Words can lie.
But your words make me feel like I can fly.”


“ถ้อยคำอาจทำร้ายเราได้เสมอ...หากเรายินยอม ...ผู้คนมักเอ่ยถ้อยคำแล้วหลงลืมมันไป... ถ้อยคำเป็นได้ทั้งคำมั่นสัญญาและก็เป็นวาจาที่ลวงหลอกได้เช่นกัน... แต่ถ้อยคำของเธอนั้น...คล้ายจะทำให้ฉัน..ล่องลอย...”


ใบหน้าด้านข้างของคนที่กำลังกรีดนิ้วเรียวสวยไปบนคีย์บอร์ดดูสงบเยือกเย็นและสง่างาม... ผมใจกระตุก... คนที่กำลังเล่นเปียโนและกำลังร้องเพลงนี้คือน้องครับ....

ผมรู้ว่าภายใต้ท่าทางที่ดูก๋ากั่นและอวดดีนั้น แท้จริงแล้วฟลุ๊คเป็นคนละเอียดอ่อน อ่อนไหว ออกจะเศร้าและเหงาในบ้างครั้งด้วยซ้ำไป แต่ปากจิ้มลิ้มที่คอยต่อล้อต่อเถียงผมได้เป็นคุ้งเป็นแคว เถียงคำไม่ตกฟากนั้นก็เพราะแค่ว่าไม่อยากยอมแพ้ผมง่ายๆ จะเรียกว่ากลัวเสียฟอร์มก็ว่าได้ ส่วนหนึ่งอาจเพราะความเป็นคุณหนูที่แม่เสียตั้งแต่เด็กทำให้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจและมีคนคอยประคบประหงมดูแลมาตลอดนั่นเอง


ผมยอมรับนะครับว่าผมชอบน้องไอซ์มาก และทุกครั้งที่น้องไอซ์ปฏิเสธการชวนไปเดทของผม ผมแทบสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยทีเดียว คนอย่างผมก็เป็นหนึ่งมาตลอดเหมือนกัน และผมก็ไม่อยากยอมแพ้อะไรง่ายๆ ผมเฝ้าเพียรพยายามนัดเดทน้องไอซ์บ่อยขึ้นและก็...เหมือนเดิม...

...แต่...ระยะหลังผมเริ่มไม่เสียใจกับการถูกปฏิเสธเลยแม้สักครั้งเพราะผมรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วผมต้องได้เจอใคร ก็น่าแปลกนะครับจากความไม่ชอบหน้า รำคาญคนพูดมากในตอนแรก และเบื่อกับการต้องมาคอยเป็นคนเลี้ยงเด็กกลายๆ กลับเป็นว่าผมพยายามสรรหาบางเรื่องบางอย่างทำร่วมกับไอ้เด็กอวดดีคนนี้ไปได้


ทุกวันเสาร์บ่ายโมงผมจะยืนรอคอยเด็กน้อยคนหนึ่งที่หน้าร้านแมคโดนัลล์ มันน่าตลกนะครับ ทั้งๆที่ช่วงแรกๆผมอยากเจอคนพี่ แต่ผมกลับกระวนกระวายใจทุกครั้งเมื่อคนน้องมาสายกว่าเวลาที่นัดไว้และผมชอบสีหน้าที่แสดงว่าร้อนรนของคนที่เพิ่งกระหืดกระหอบวิ่งเข้ามาในห้างหลังจากแอบหลบคนขับรถส่วนตัวที่บุพการีจัดหาให้เป็นผู้ดูแลจนมาตามนัดได้ทันเวลา


ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าทำไม ผมถึงอยากยั่วไอ้เด็กหน้าหวานคนนี้เล่น ไม่ใช่อยากจะเอาชนะทุกครั้งไปแต่แค่อยากให้เรามีเรื่องได้พูดกันมากกว่าการที่นั่งดูหนังหรือทานข้าวกลางวันกันเงียบๆเป็นไหนๆ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เสียงเอะอะโวยวายและท่าทางยียวนกวนอวัยวะเบื้องต่ำของไอ้เด็กหน้าหวานมันรบกวนหัวใจผม และผมอยากเห็นลูกกะตากลมโตมีประกายวาววับเวลาโกรธมากกว่าฉายแววเศร้าๆนี่นา


ผมได้ประจำการครั้งแรกก็ที่ต่างจังหวัด น้องไอซ์ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ส่วนฟลุ๊คเข้ามหาวิทยาลัยที่สอนทางด้านการบริหารธุรกิจเป็นหลัก พวกเราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันเลยจนผมเกือบจะลืมหน้าไอ้เด็กเอาแต่ใจคนนี้ไปแล้วสิ ผมกำลังสนุกกับการทำตามความฝัน การเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

การทำงานในฝ่ายปราบปรามทำให้ผมมีผลงานมากมายจนได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายผมก็ต้องยุติชีวิตข้าราชการมาทำงานที่พ่อต้องการ เป็นบอดี้การ์ดของนักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ที่ถูกจับตามองลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจพันล้านเจ้าของสัมปทานรังนกรายใหญ่ของเมืองไทย


เป็นวงการที่มีการแข่งขันกันมากมาย การต่อสู้เมื่อไม่ได้ต่อหน้า เรื่องลอบกัดลับหลังก็แทบจะเป็นเรื่องธรรมดา แล้วคนหน้าหวานที่วันๆเอาแต่เล่นดนตรี ฟังเพลง เรียนรู้ชีวิตมาน้อยเหลือเกินนั้นจะไปต่อกรอะไรกับพวกเจนจัดได้ ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

“เลิกเล่น ....ไปแต่งตัวได้แล้ว”


ผมวางมือไปบนคีย์บอร์ดอย่างไม่เบานักจนคนที่กำลังจะพรมนิ้วบรรเลงเพลงใหม่ชักสีหน้า หันมาตวัดสายตาให้ทันที


“เอ๊ะ!...จะไปไหน..วันนี้ฟลุ๊คไม่มีงานที่ไหนนี่”


“แต่มีที่หนึ่งที่คุณควรไป..คุณฟลุ๊ค..อย่าช้า...ผมให้เวลา15นาที ถ้าผมไม่เห็นคุณที่ห้องโถงเราได้เจอดีแน่”


“นี่นายมาเป็นบอดี้การ์ดหรือฉันเป็นทาสกันแน่หึ....ไอ้พี่โอ..ไอ้พี่บ้า!”


“ผ่านไป30วินาทีแล้ว”


ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นแล้วชี้ให้คนที่กำลังทำตาวาวๆดูพร้อมกับส่งเสียงเรียบเย็นและตาดุๆไป


“ฮื่ย!!!......ไอ้บ้าไอ้คนชอบบังคับไอ้พี่เฮงซวย....อยากเปลี่ยนบอดี้การ์ดแล้ว”


สุดท้ายคนที่นั่งอยู่ก็รีบลุกขึ้นกระทืบเท้าปังๆไปยังตึกใหญ่พร้อมกับเสียงที่โวยวายดังลั่น


“Your words make me feel like I will die .I hate you!”


“ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะคะพี่โอ…เฮ้อ..แต่ก็นะเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่ ..ไม่เบื่อกันบ้างหรือไง”


ผมยิ้มให้น้องไอซ์ที่กำลังเลือกแบบชุดแต่งงานอยู่ที่ห้องโถง ก่อนจะขอตัวไปหานายหัว หึๆ ถึงแม้จะดื้อและขี้โวยวายไปบ้างแต่พี่ก็รู้วิธีกำราบคนดื้อคนนี้อยู่หรอกครับน้องไอซ์


“นี่คือ CZ 2075 RAMI ขนาด 9 ม.ม. เก็บไว้ใช้”

ผมวางปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติลงบนโต๊ะในห้องแต่งตัวสำหรับผู้มาซ้อมยิงปืนในสนามยิงปืนของกองปราบปราม ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อให้ข้าราชการตำรวจทั้งในและนอกสังกัดกองปราบปรามใช้ประโยชน์ในการฝึกฝนการใช้อาวุธประกอบการปฏิบัติหน้าที่ราชการ

และส่วนหนึ่งก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ใช้ในการทดสอบการใช้อาวุธปืนประจำปีของกรมตำรวจ นอกจากนี้ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการในสนามยิงปืน โดยเก็บค่าธรรมเนียมและจำหน่ายกระสุนสำหรับซ้อม เพื่อนำรายได้มาใช้บำรุงสนามและเป็นค่าสวัสดิการในการจัดฝึกการใช้อาวุธปืนของข้าราชการตำรวจกองปราบปรามอีกส่วนหนึ่งด้วย.

สีหน้าของคนที่ไม่เคยสัมผัสกับอาวุธมาก่อนนั้นถึงกับซีดเผือด ผมรู้ว่าน้องไม่ชอบเรื่องการใช้กำลัง แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเกิดมาเป็นลูกชายนายหัวและขณะนี้น้องตกเป็นเป้าหมายจากหลายฝ่ายที่ดำเนินการในทางลับแล้วด้วย การเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญแม้ว่าผมจะมั่นใจในฝีมือตัวเองอยู่พอควร แต่สัมพันธภาพระหว่างผมกับวีไอพีของผมที่มันลุ่มๆดอนๆนี้อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ และผมก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นด้วย


“วันนี้เราจะเรียนรู้เรื่องอาวุธปืนอย่างคร่าวๆก่อน ปืนชนิดนี้เรียกว่าแบบ semi-automatic หรือชาวบ้านทั่วไปชอบเรียกว่าแบบแม็กกาซีน เพราะมีแม็กกาซีนไว้เก็บลูก หลายคนอาจเรียกปืนออโต้ แต่ความจริงมันคือเซมิออโต้ เพราะถ้าออโต้คือกดทีเดียวค้างเอาไว้แล้วลูกปืนออกมาโดยติดต่อกันไปเรื่อยๆ เช่นปืนกล m-16 แต่เซมิออโต้คือยิงนัดหนึ่งแล้วปืนสลัดปลอกกระสุนและป้อนลูกกระสุนนัดใหม่มารอไว้ ต้องเหนี่ยวไกอีกครั้งจึงจะลั่นนัดต่อไปได้”


“ทำไมฟลุ๊คต้องเรียนยิงปืนด้วย”


เสียงที่ต่อว่าผมอยู่แปร๋นๆเมื่อตอนเลี้ยวรถเข้าสู่สนามยิงปืนกลับกลายเป็นเสียงเรียบเครือ เกือบจะใจอ่อนพาไอ้เด็กดื้อกลับบ้านเสียแล้วครับ ถ้าผมไม่ล่วงรู้ถึงแผนการที่คนร้ายจ้องจะทำอะไรต่อน้องและครอบครัวผมก็คงทำอย่างนั้น..แต่ผมยังคงพูดต่อไป


“ปืนแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะรูปร่างสวยงามทันสมัย บรรจุกระสุนได้มาก และเร็ว ส่วนของรังเพลิงกับลำกล้องเป็นส่วนเดียวกัน ไม่มีแก๊สรั่วจึงได้ความเร็วกระสุนเต็มที่ ระบบความปลอดภัยก็ดีกว่าปืนลูกโม่ รูปแบบปืนเรียบเนียนกว่า พกสะดวก และที่สำคัญ ยิงซ้ำได้รวดเร็วกว่า แต่ข้อเสียก็คือมันมีกลไกที่ซับซ้อน ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนมากๆจึงจะใช้ได้ดี”


ผมถอดส่วนประกอบของปืนวางลงบนโต๊ะที่ปูผ้าสะอาดไว้เรียบร้อยพูดรายละเอียดถึงส่วนต่างๆของปืนไปพร้อมกับประกอบปืนขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว


“..ฟลุ๊คมีพี่อยู่ด้วยก็ปลอดภัยดีแล้วนี่ฮะ”


ผมหยุดพูดหันไปจ้องตากลมโตใสแจ๋วนั้นอยู่นานกว่าจะถอนหายใจหนักๆแล้วเอ่ยออกมา


“คิดจะฝากชีวิตไว้ในมือของคนอื่นตลอดไปอย่างนั้นหรือ”



“ผมต้องดูแล ทั้งคุณทั้งครอบครัวคุณ งานนี้มันหนักเกินกว่ากำลังของผมคนเดียวแล้ว และผมคงอยู่กับคุณตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ การรู้จักใช้อาวุธไว้ป้องกันตัวเองก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ”


“พี่โอ”


“ไม่ต้องพูด...ลุกขึ้นแล้วตามมานี่”


ฉุดข้อมือคนที่นั่งเชิดหน้าเม้มปากแน่นมองผมด้วยดวงตาวาววับนั้นให้ตามมา น้องสะบัดมือจากการเกาะกุมของผมอย่างแรงแต่ก็ไม่พูดอะไร ผมจึงเดินนำหน้ามาด้วยอารมณ์ที่ถูกกดดันไม่ต่างกัน ผมรู้ว่าผมคงกำลังบีบบังคับจิตใจน้องอย่างหนัก การต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบทำให้น้องเกิดอาการต่อต้าน ใบหน้าของคนที่เดินตามผมมานั้นเป็นไปด้วยความเครียดและกังวล ลึกๆแล้วผมรู้ว่าน้องกลัวแต่ผมต้องใจแข็ง อดทนมาได้จนถึงตอนนี้แล้วนี่นา ถ้าหากผ่านด่านนี้ไปได้น้องก็จะเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นอีกมาก ซึ่งผมจะได้วางใจได้ในระดับหนึ่ง


“ถนัดขวาใช่ไหม ให้จับปืนด้วยมือข้างที่ถนัดให้ด้านหลังของด้ามปืนอยู่ตรงกลางของง่ามมือ ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ และให้ชิดกับแง่บนของด้ามปืนให้มากที่สุด ใช้นิ้วกลางและนิ้วก้อยรัดด้านหน้าของด้ามปืน โดยให้นิ้วกลางอยู่ชิดกับโกร่งไก ทอดนิ้วหัวแม่มือขนานไปกับแนวลำกล้องปืน โดยให้โคนนิ้วหัวแม่มือบีบกระชับและมีส่วนในการจับปืน นิ้วชี้ทอดขนานไปกับแนวปืน และจะนำเข้าโกร่งไกเมื่อต้องการจะเหนี่ยวไกเท่านั้น..อาจจะใช้อีกมือช่วยประคองปืนไว้โดยนิ้วโป้งวางคู่ขนานกันที่เหลือโอบรอบด้ามไว้อย่างนี้ อ่ะลองจับดูสิ”


น้องรับปืนไปอย่างว่าง่าย ภายใต้ท่าทางที่สงบปากสงบคำนี้ ผมรู้ว่าภายในใจคนหน้าหวานกำลังเดือดดาลกับการกระทำของผม


“ นี่ยืนให้มันดีๆหน่อย... ตัวตรงๆหันหน้าเข้าเป้า แยกเท้าทั้งสองห่างกันพอประมาณ ทิ้งน้ำหนักตัวให้อยู่บนเท้าทั้งสองเท่าๆกัน ศีรษะตั้งตรง ยกปืนขึ้นให้ได้ระดับกับสายตาชี้ตรงไปยังเป้า ค่อยๆหมุนตัวไปทางซ้ายเล็กน้อย...ดีมาก ให้ปลายเท้าขวาหันตรงไปทางเป้า อย่าเกร็ง”


“สังเกตเห็นศูนย์เล็งที่บนสันปืนไหม เล็งให้ยอดศูนย์หน้าอยู่กึ่งกลางบากศูนย์หลัง และเสมอเป็นแนวเดียวกัน ให้กึ่งกลางส่วนล่างของที่หมายตั้งอยู่บนยอดศูนย์หน้า ใช้ส่วนข้อแรกของนิ้วชี้สัมผัสกับหน้าของไกปืน ออกแรงเหนี่ยวไกปืนไปข้างหลังช้าๆ ตามแนวแกนของลำกล้องปืน เมื่อเล็งได้แล้ว..ยิง!”

“กริ๊ก!”

“อ่ะ”

คนหน้าหวานใบหน้าซีดเผือด มือที่ถือปืนไว้ยังค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ไม่มีกระสุน..พี่โอแกล้งฟลุ๊ค”


“ก็บอกแล้วว่าวันนี้เรียนรู้คร่าวๆ การจับปืนทุกครั้งต้องมีสติ วันนี้พี่ว่าเรากลับกันก่อนเถอะ”


ผมรวบปืนออกจากมือเรียวใบหน้าชื้นเหงื่อนั้นมีแววโกรธขึ้ง และถ้าผมตาไม่ฝาดผมเห็นแวววาวๆที่ปลายตานั้น


“ฟลุ๊คจะไปห้องน้ำ”


น้องรีบวิ่งออกไปจากห้องฝึกซ้อมยิงปืนทันที ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น.. พยายามรวบรวมกำลังใจ ...สงสารน้องเหลือเกิน แต่ผมจะอ่อนแอไม่ได้ความเป็นความตายของน้องและครอบครัวอยู่ในมือผม ผมอยากให้น้องช่วยเหลือตัวเองได้..ผมทำถูกแล้วใช่ไหม


ผมรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก ถ้ายังฝืนอยู่ในห้องซ้อมนั้นต่อไป ความปั่นป่วนในท้องเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และเหมือนตัวเองใกล้จะเป็นลมเต็มทีใจมันหวิวไหวอย่างไรชอบกล..แต่ไม่.. ผมไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าคนใจร้ายใจกระด้างคนนั้น ผมรีบขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ แต่กว่าจะหาทางไปห้องน้ำได้ก็วนอยู่หลายรอบ ผมเกือบจะทรุดลงตรงหน้าห้องน้ำเสียแล้วถ้าไม่บังเอิญชนกับใครคนหนึ่งเข้า

“อ่ะ! ขอโทษครับ”

กล่าวขอโทษแล้วรีบถลาเข้าไปผมอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง ก่อนจะเดินออกมาที่อ่างล้างหน้าเปิดน้ำแล้วสาดเข้าหน้าเร็วๆหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้นนานกว่าความรู้สึกกระอักกระอ่วนจะหายไป


“สีหน้าน้องไม่ดีเลยนะครับ..ไม่สบายหรือเปล่า”


เสียงทุ้มนุ่มที่ไม่คุ้นหูดังอยู่ข้างหลัง ผมตกใจผงะถอยห่างออกไปหลายก้าว แต่แล้วก็เห็นชัดว่าเป็นคนที่ไม่น่าจะเป็นอันตราย เครื่องแบบครึ่งท่อนกับตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าอยู่ในแวดวงคนมีสี เขายิ้มกว้างและยื่นกระดาษเนื้อนุ่มให้ ผมกล่าวขอบคุณเบาๆก่อนรับมาซับใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำนั้น


“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ เอ้อ ผม พ.ท. อิทธิพล จากกองปฏิบัติการพิเศษ ฉ.ก.90 มีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับ”


“เอ้อ..ไม่มีครับ..ขอบคุณมากนะครับ”


ผมค้อมศีรษะให้นิดก่อนจะถอยออกมา เมื่อก้าวพ้นห้องน้ำ บอดี้การ์ดของผมก็อยู่ตรงหน้า นี่ถ้าผมถูกฆ่าก็คงหาศพไม่เจอแล้วล่ะ ชิส์..กว่าจะตามมาได้…ตกลงผมคงต้องดูแลตัวเองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปใช่ไหม


“เป็นไงบ้าง”


ไอ้พี่โอเอ่ยถาม..ก็คงตามมารยาท ผมส่ายหน้าไม่อยากต่อว่าอะไรมาก เพราะยังมีสายตาอีกคู่จับจ้องดูเราอยู่


“โอใช่ไหม..ไม่เจอกันตั้งนานนะ”


“อ้าวพี่พล..ไปไงมาไงครับ”


และผมก็ได้รู้ว่าพี่โอกับพี่พลรู้จักกันตั้งแต่สมัยที่พี่โอยังรับราชการอยู่และได้มีโอกาสเข้าฝึกกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่พี่พลเป็นผู้อำนวยการ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฉ.ก.90 นั้น เป็นหน่วยพิเศษของกองทัพบกที่มีภารกิจหลักในการต่อต้านการก่อการร้ายสากล จากการฝึกที่เข้มข้นเพื่อให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามระดับก่อการร้ายข้ามชาติและประสบการณ์จากการทำงานจริง ทำให้หน่วยนี้มีความชำนาญในการใช้อาวุธจนกลายเป็นหน่วยที่มีภารกิจเสริมในการที่จะสอนและฝึกการใช้อาวุธให้กับหน่วยงานของรัฐหน่วยอื่นเช่น หน่วยปราบปรามยาเสพติด ตำรวจ และทหารในหน่วยอื่น มาตลอด


“ถ้าจะฝึกจริงๆพี่แนะนำว่าให้ไปที่หน่วยพี่ ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ พี่และทีมได้กลั่นกรองประสบการณ์และจำลองสถานการณ์จัดเป็นหลักสูตรปืนพกต่อสู้ที่เหมาะสมกับประชาชนทั่วไปจะใช้ป้องกันตัวในยามจำเป็น แล้วเปิดสอนให้กับประชาชนทั่วไป หลักสูตรนี้ใช้เวลาฝึกกันเต็มๆ 2 วัน จะลองมาฝึกดูไหมครับน้องฟลุ๊ค”


ท้ายประโยคพี่พลหันมาทางผมที่นั่งเงียบ ค่อยจิบโซดามะนาวช้าๆให้ชื่นใจ หลังจากที่เราแวะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อทานอาหารค่ำด้วยกัน


“เอ่อ..คือฟลุ๊ค”


“ตกลงครับพี่พล แล้วจะเริ่มฝึกกันเมื่อไหร่ครับ”


“เสาร์นี้..เร็วไปไหมหรือจะรอรุ่นหน้าก็ได้นะครับ”


“ครับ...เสาร์นี้เจอกัน”



ผมได้แต่เม้มปากนิ่ง ไม่พูดอะไรออกมาเลยระหว่างทางกลับบ้าน ทุกการตัดสินใจของผมถูกคนๆนี้จัดการไปแล้วทั้งหมดทั้งสิ้น ตั้งแต่พี่เข้ามาเป็นบอดี้การ์ดและออกจะหนักข้อมากขึ้นทุกวันหลังจากพี่รู้ข่าวว่าพี่ไอซ์จะแต่งงาน ...อดเจ็บแปลบในอกไม่ได้..นี่ผมเป็นอะไรไป...ผมคงจะกลายเป็นโรคหัวใจในเร็วๆนี้ เหตุเพราะผมถูกทำร้ายจิตใจมากเหลือเกิน…พี่ไม่อยากอยู่ใกล้ผมมากขนาดนี้เชียวหรือ


เช้าวันเสาร์ผมถูกพี่ปลุกให้ตื่นตั้งแต่ตี5เพื่อที่จะไป ที่สนามยิงปืนฉ.ก.90 ลพบุรี ให้ทันเวลา8นาฬิกา การฝึกเริ่มต้นจากการบรรยายสั้นๆของพี่พล เน้นย้ำสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งแรกของการใช้อาวุธปืนนั่นก็คือความปลอดภัย จากนั้นก็เป็นการปรับพื้นฐานในการยิงปืน แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ก็สอดแทรกไว้ด้วยเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการยิงปืนแบบต่อสู้ ผมได้ประโยชน์จากการบรรยายช่วงสั้นๆนี้มากมาย


และแล้วก็ถึงเวลาออกฝึกกลางแจ้ง พี่โอดึงแว่นกันแดดจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ผม ความจริงผมก็เตรียมของผมมาแล้วแต่พี่บอกว่าแว่นอย่างที่ผมใช้ไม่เหมาะกับการใส่ฝึกผมเลยจำใจต้องรับแว่นของพี่มาใช้ อดจะเบ้ปากให้สักครั้งไม่ได้ หมั่นไส้เหลือเกินกับท่าทางเข้มงวดดุดันนั้น ...ชิส์!เกลียดจริงๆเลยเชียว


การฝึกช่วงแรกเป็นการฝึกโดยที่ยังไม่ใช้กระสุนจริง เพราะปืนเซมิออโต้เป็นปืนที่มีกลไกซับซ้อนต้องทำความเข้าใจให้ดีและฝึกฝนให้คล่องจึงจะใช้ได้คล่องแคล่วและปลอดภัย ฝึกซ้อมซ้ำไปมาจนคล่องและแน่ใจว่าทุกคนทำได้อย่างปลอดภัยแล้วจริงๆ จากนั้นพี่พลและครูฝึกก็ช่วยปรับเรื่องของท่าทางและขั้นตอนการยิงพื้นฐาน โดยครูจะเน้นย้ำอยู่เสมอถึงจุดมุ่งหมายของการฝึกฝนท่ายิงปืนที่จะเน้นที่ความคล่องตัวเพื่อใช้ในชีวิตจริง และการแก้ไขข้อขัดข้องของปืนแบบต่างๆ การเปลี่ยนซองกระสุน ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจและฝึกฝนให้คล่องซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการที่จะทำให้อาวุธของเราพร้อมใช้งานได้ในนาทีคับขันทั้งสิ้น



การฝึกวันแรกผ่านไปด้วยความสนุกสนาน ผมรู้สึกผ่อนคลายและคุ้นเคยกับอาวุธที่เคยกลัวแสนกลัวได้อย่างน่าประหลาดอาจเพราะระหว่างที่ฝึก ครูฝึกทุกคนพูดกับนักเรียนด้วยถ้อยคำสุภาพ และใส่ใจกับนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กที่เพิ่งหัดใหม่ทุกอย่างอย่างผม


“สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำคืออย่างนี้ครับ ....”


เป็นประโยคที่ผมได้ยินตลอดทั้งวัน ไม่มีการดุหรือว่ากล่าวใดๆให้ตกใจหรือสูญเสียความมั่นใจเลย ทำให้ผมมีความนับถือและทัศนคติที่ดีต่อสุภาพบุรุษจากกองทัพบกหน่วยนี้เป็นอย่างมาก


“เป็นยังไงบ้างวันแรกหนักไปไหมครับ”


พี่พลเอ่ยถามขณะเดินตามมาส่งที่รถ โดยมีบอดี้การ์ดของผมยืนทำหน้าตูดหมึกพิงรถรออยู่ ผมยิ้มและบอกว่าสนุกมาก หยุดคุยกับพี่พลอีกครู่ใหญ่ก่อนจะ กล่าวลาเมื่อรู้สึกว่าคนที่รอเริ่มส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจที่ผมคุยกับพี่เขานานเกินไป..นานหรือ...ไม่เห็นรู้สึกเลยสักนิด...ชิส์...


“พรุ่งนี้รับรองว่าสนุกกว่านี้มากครับ พักผ่อนเยอะๆแล้วเจอกันนะครับน้องฟลุ๊ค”


“ครับพี่พล สวัสดีครับ”


ผมยกมือไหว้แล้วโบกมือให้กับสุภาพบุรุษที่แสนใจดีของผม พอประตูรถปิดสนิท พี่ก็กระชากคันเร่งพาผมออกมาทันที


“จะบ้าเหรอขับรถเร็วขนาดนี้เนี่ย...นี่ค่ำแล้วนะระวังหน่อยสิฮะ...ฟลุ๊คกลัวกลับไม่ถึงบ้านนะ..ชิส์”


ปรับเบาะรถให้เอนราบเตรียมนอน ผมเหนื่อยแม้ว่าจะสนุกแต่การฝึกแบบนี้ใช้พลังมากเหลือเกิน แดดก็แรงมากด้วย เฮ้อ..สงสัยผมคงต้องออกกำลังให้มากกว่านี้แล้วสิ รู้สึกง่วงขึ้นมาทุกขณะ แล้วผมก็เข้าสู่ภวังค์อย่างง่ายดาย ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นผ่านตาที่หรี่ปรือเหมือนพี่จอดรถและหยิบผ้าห่มผืนนุ่มคลุมตัวให้ผม สัมผัสนุ่มเบาที่หน้าผากกับเพลง Anyone at all เพลงโปรดของผมกำลังบรรเลงแผ่วๆ.... อืม..ใช่หรือคนใจกระด้างแบบนี้จะทำจริงๆหรือ...นี่ผมคงฝันไปมากกว่า


ถึงบ้านเกือบสามทุ่มพี่ปลุกผมให้ลุกไปอาบน้ำแล้วลงมาทานอาหารค่ำ ทุกคนในบ้านทานกันหมดแล้วพี่ไอซ์กับป๊าดูทีวีกันอยู่ในห้องโถงผมกับพี่จึงทานกันแค่สองคนในห้องอาหาร ผมเขี่ยข้าวในจานไปมา ใจลอยไปไกลคิดอะไรเรื่อยเปื่อย


“วันนี้ท่าจะสนุกมากสิ...ไม่เห็นจะเป็นลมเป็นแล้งเหมือนตอนที่พี่สอนเลย”
พี่โอเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมต้องรวบช้อนทันที ทานอะไรไม่ลงแล้วฮะ ไม่เคยคิดจะบ่นเลยกับปากคอจัดจ้านเราะร้าย ...แต่มันชักจะมากไปแล้ว


“..ใช่ฮะ...สนุกมาก พี่พลใจดีมากพูดก็เพราะสุภาพด้วย..ไม่ป่าเถื่อนดุเอาด่าเอาเหมือนบางคนหรอก”


“พี่ก็สอนตามแบบของพี่...พี่ไม่ใช่คนพูดเพราะ”


“พี่แกล้งฟลุ๊ค..พี่จงใจจะให้ฟลุ๊คกลัว...พี่เกลียดฟลุ๊ค...เบื่อที่จะต้องดูแลฟลุ๊คใช่ไหมล่ะ...ก็ได้..ถ้าฟลุ๊คดูแลตัวเองได้แล้ว...ต่อไปคงไม่ต้องลำบากพี่”


“ถ้าคิดว่าที่พี่ทำไม่ดีพอ..พี่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว...พี่เคารพการตัดสินใจของเรานะ”


พี่ลุกออกจากโต๊ะไปพร้อมๆกับหัวใจผมถูกกระชาก ผมเหลือบตาขึ้นบน ..ไม่ ..จะไม่มีใครได้เห็นผมอ่อนแอ ผมรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้อง ผมเหนื่อยมากเหลือเกิน ..ไม่คิดเลยว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่มันช่างลำบากมากมายอย่างนี้ ผมอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจังเป็นเด็กจะได้ไม่รู้จักกับบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้น...ผมต้องรีบลบมันออกไป..ก่อนที่หัวใจผมจะเจ็บมากไปกว่านี้


“รีบปรับความเข้าใจกับพี่เขาเสียนะ พี่ไม่อยากให้ฟลุ๊คไม่มีสมาธิ การใช้อาวุธสำคัญที่อารมณ์ของผู้ใช้นะครับ”


ไม่ต้องปรับหรอกฮะพี่พล... การปรับมันยากเกินไป...ตอนนี้ ฟลุ๊ครู้แล้วว่าฟลุ๊คควรทำอย่างไร


++++tbc++++
ขอขอบคุณบทความดีๆและข้อมูลการฝึกอบรมการยิงปืนจาก //www.thailandoutdoor.com/Gun/TF90Training.html





Create Date : 19 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 3:14:18 น. 12 comments
Counter : 849 Pageviews.

 
หวัดดีครับ..................................


โดย: maramba1 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:12:00:28 น.  

 
ขอบคุณน้องดานะคะที่มาต่อฟิคให้แบบรวดเร็ว
ทันใจไม่ต้องรอนาน....
กะไว้แล้วเชียวว่าพี่น้องคู่นี้เค้าแอบมีใจให้กัน
แบบไม่รู้ตัว...แต่พอมีอะไรมากระตุ้นความรู้สึก
ที่ดีๆก็เริ่มเผยออกมา...แต่อิพี่โอแกร..จะเข้มไปไหนเนี่ย
อ่อนลงมานิดใจดีมาซักหน่อยหนุ่มหน้าหวาน
ก็จะได้เผยใจออกมาไง....
สนุก...น่ารัก..น่าลุ้นจังค่ะ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ


โดย: พี่นิด IP: 58.9.44.116 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:15:19:50 น.  

 
วะ วะ วะ ว้าวววววว ^O^
เนื้อเรื่องน่าติดตามจริงๆ....
เค้าอยากอ่านต่อแล้วอ่ะ...
มาต่อไวๆนะจ๊ะ..พี่สาว ^^


โดย: apple IP: 118.173.227.107 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:16:18:36 น.  

 
วันนี้กลับมาบ้านเหนือยๆ เปิดคอมพ์มาเห็นตอนที่สองแล้วดีใจมากก ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: หนูมาลี IP: 183.88.242.219 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:20:42:45 น.  

 
สนุกมากกกกกกกกๆๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
เปนกำลังใจให้นะค๊าา


โดย: lovePK IP: 223.205.35.133 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:22:08:41 น.  

 
ได้ทั้งเกร็ดความรู้..
และได้ทั้งความกดดันดีแท้
..ชอบอ่ะ^^


โดย: miyukik IP: 110.49.244.186, 141.0.8.111 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:22:28:06 น.  

 
ตอนต่อไปอ่านตรงอะคะ


โดย: BeN IP: 171.7.195.154 วันที่: 20 ธันวาคม 2554 เวลา:19:42:43 น.  

 
โอยๆๆๆๆ ประชดกันไปมา จะได้เรื่องไหมนั่น

มีอะไรพูดกันไปตรงๆเลย จะอมพะนำกันไปไหน

ปากไม่ตรงกับใจกันทั้งคู่เลยวุ้ย


โดย: beemanufan IP: 223.206.105.202 วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:0:30:23 น.  

 
สนุกมากค่ะแม่ดา น่าติดตามมากๆๆ

กดดันๆๆ ดราม่าๆๆ ชอบค่ะ (55 เหมือนจะจิต)

รอติดตามตอนต่อไปอยู่ค่ะ
จุ๊ฟๆๆ คิดถึงแม่ดา


โดย: someone IP: 192.168.248.120, 202.44.4.106 วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:10:32:36 น.  

 
น่ารักจริงๆ

อ่านแล้วเจ็บจี้ด...สงสารทั้งคู่เลย

อยากให้ยอมรับความรู้สึกกันเร็วๆ...รักกันๆนะ


โดย: lunarcry25 IP: 115.87.200.211 วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:12:03:11 น.  

 
แค่ตอนสอง ก็มันส์หยด เลยนะคะ writer มันต้องยังงี้สิ มือโปรต้นฉบับ อิๆๆ ^____^:.


โดย: lek^lek IP: 223.205.132.206 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:0:09:25 น.  

 


แอบเจ้านายมาอ่านได้ตอน 2 แล้วพรุ่งนี้แอบใหม่ 555555555

พี่ภัทรไม่เบื่อที่ชื่นชมน้องฟลุ๊คอยู่ห่างๆๆๆๆๆอย่างห่วงๆๆๆๆ น่ะ


โดย: ภัทร IP: 124.120.42.221 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:51:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

womam in love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




...อยากให้รัก...หมุนรอบตัวฉันและเธอ...ตลอดไป..
http://i485.photobucket.com/albums/rr213/yamiejung16/ui20.gif
New Comments
Friends' blogs
[Add womam in love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.