The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
5 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 

รักร้ายๆ...ลูกชายมาเฟีย 17.


17.
ถ้าพูดถึงบอดี้การ์ดแล้วหลายๆคนก็คงจะนึกถึงชายมาดเท่ห์ในชุดสูทสีดำที่คอยทำหน้าที่อารักขาติดตามผู้ว่าจ้างไปทุกหนแห่งชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นเงาของกันและกันได้เลยทีเดียว แต่นั่นมันก็ถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว การดูแลปกป้องวีไอพีของเรานั้นยังรวมไปถึงการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร การคาดการณ์ ประเมินสถานการณ์ การเตรียมการป้องกันและระวังภัยให้ด้วย


ในการทำงานของเรามีขอบเขตที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราไม่มีวันลืมและถือปฏิบัติเสมอมา แต่ในส่วนหน้าที่ของบอดี้การ์ดอย่างผม ก็มี Defence line สำหรับวีไอพีของผมอยู่เหมือนกัน และหากศัตรูสามารถฝ่าทำลาย “แนวป้องกัน”ที่ผมขีดไว้เข้ามาได้เมื่อไหร่ ผมก็พร้อมจะเปลี่ยนทั้งร่างกายและชีวิตนี้ให้เป็นเกราะป้องกันสำหรับวีไอพีของผมได้เสมอ


ผมเปิดระบบ Global Positioning System ของธรรมมลกรุ๊ปที่ได้รับการบันทึกไว้ ภาพในจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งรายรอบห้องทำงานของกลุ่ม The guardian ก็ปรากฏเส้นทางที่ทุกคนใช้งานใน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเลือกเปิดดูข้อมูลของวีไอพีที่ผมสนใจ หลายๆคนไม่มีอะไรน่าสงสัย เพราะต่างก็ดำเนินชีวิตเยี่ยงคนที่คอยรับผลประโยชน์จากการทำงานอย่างหนักของน้อง แต่มีคนหนึ่งที่ผมรู้สึกติดค้างในใจอย่างเหลือเกิน


James‘s track log ถูกผมเปิดออกดูอีกครั้ง ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ เจมส์อยู่ที่ Angel clubhouse ทุกคืน มีบ้างที่ออกไปในแหล่งสถานบันเทิงเรื่องชื่อในย่านอื่นอาจจะเพื่อหาข้อมูลปรับปรุงผับที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ ผมเปิดย้อนเส้นทางที่ผ่านมาของเจมส์ไปในช่วงต้นเดือน ก่อนหน้านี้มีอยู่หลายวันเลยที่เขาวนเวียนเข้าออกแหล่งบันเทิงแถบสีลมและโรงแรมหรูย่านสาทร ก็ไม่แปลกนักที่คนอย่าง เจมส์ เรืองยศ มหาสวัสดิ์ จะชื่นชอบการเที่ยวเตร่ในสถานที่แบบนี้


แต่ที่ไม่คาดคิดก็เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภาพถ่ายที่อยู่ในมือพร้อมข้อมูลบางอย่างที่ได้มาทำให้ผมรู้สึกหายใจติดขัด รูปของเจมส์กับใครคนหนึ่งที่ผมไม่เคยลืม แม้ว่าจะเป็นการแอบถ่ายในระยะไกลแต่คนในภาพนั้นชัดเจนในใจผมเสมอ ผมขบกรามแน่น ไม่อยากคิดว่าเรื่องที่ผมเคยกลัวมันจะมีเค้ารางของความเป็นจริงขึ้นตามลำดับ ผมเก็บซองสีน้ำตาลนั้นไว้ในตู้นิรภัย คงต้องจัดการเรื่องนี้ให้เงียบและเร็วที่สุดก่อนที่อะไรๆมันจะเกินเลยไปมากกว่านี้ และที่สำคัญ ผมจะไม่ยอมเสียคนสำคัญของผม ไปแน่ๆ

นายดิว.... คนที่ทำให้ผมเกือบเสียน้องไปอยู่ในรูปถ่ายใบนั้นกับเจมส์

“โจอี้จับตาดูทั้งคู่ต่อไป หากเขาพบกันอีก ส่งข้อมูลให้ผมทันที”

“ครับหัวหน้า”

เอนหลังกับเก้าอี้บุนวมอย่างดี ผ่อนไหล่ที่ล้ามาทั้งวันลง...อยากพักเหลือเกิน ....แต่ยามนี้แม้จะดึกมากแค่ไหนการทำงานของผมก็ไม่ควรมีเวลาพัก ผมรีบสลัดความคิดออกจากหัวโดยเร็ว แม้จะยังไม่รู้รายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่แต่การที่นายดิวเข้าใกล้คนในธรรมมลกรุ๊ปได้มากขนาดนี้ก็ไม่น่าวางใจเลย ผมต้องรอบคอบกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดอย่างครั้งก่อน ครั้งก่อนที่ผมเองเกือบต้องสูญเสียทุกอย่างไปรวมทั้งชีวิตของผมด้วย


ผมส่งนักสืบในกลุ่ม The guardianให้ติดตามความเคลื่อนไหวของนายดิวและเจมส์ อยากรู้ความสัมพันธุ์ของทั้งคู่ให้มากกว่านี้ ตอนนี้ผมรู้เพียงว่าเจมส์ เป็นบุตรบุญธรรมของนายเมฆา มหาสวัสดิ์ ที่ขอรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อ 25 ปีก่อนตอนนั้นเจมส์น่าจะอายุประมาณ 12-13ปีเพราะนายเมฆา ไม่มีลูกสืบสกุลหลังจากภรรยาเสียชีวิตลงแล้วเขาก็ไม่ได้มีใครอีกใช้ชีวิตอย่างชายโสดเรื่อยมา เจมส์เป็นคนเดียวที่ดูแลกิจการต่างๆของมหาสวัสดิ์ทั้ง Angel clubhouse และรีสอร์ทเล็กๆ2-3แห่งในจังหวัดทางภาคเหนือ


ผมยอมรับว่า เจมส์เป็นคนที่ดูดีมากทีเดียวเรียกได้ว่า หล่อ สมาร์ทสมวัย แต่มีบางอย่างที่ผมค้างคาใจ จากสายตาที่มองมายังน้องในวันที่เปิดตัวทายาทธุรกิจของธรรมมลกรุ๊ป วันรวมญาติวันนั้นทำให้ผมไม่เคยวางใจคนๆนี้ได้เลยจริงๆ ส่วนนายเมฆา มหาสวัสดิ์ หรือลุงเมฆของน้องก็ไม่น่ามีพิษภัยอะไรเพราะลุงเมฆดูเหมือนคนแก่สุขภาพไม่ค่อยดีที่ขี้หลงขี้ลืมคนหนึ่งแค่นั้นเอง ผมรู้มาว่า ลุงเมฆเคยแอบรักคุณฟ้าข้างเดียวและคุณฟ้าก็รับรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด ลุงเมฆถึงขั้นจะขอคุณฟ้าแต่งงานแต่เพราะความที่เป็นลูกพี่ลูกน้องทำให้ไม่อาจทำได้ อีกทั้งคุณฟ้าไม่ได้มีใจรักแบบชู้สาวให้พี่ชายร่วมตระกูลคนนี้เลยแม้แต่น้อยทำให้ลุงเมฆกับนายหัวผิดใจกันก็หลายต่อหลายครั้ง


ความรักของนายหัวกับคุณฟ้ามีอุปสรรคก็เพราะลุงเมฆคอยกีดกันและทำให้ทุกคนในตระกูลเกลียดนายปัญญาที่จนแสนจนแต่ดันสะเออะมารักลูกสาวตระกูลใหญ่ กว่าที่ทั้งคู่จะได้ครองรักกันนายหัวต้องสร้างฐานะและต่อสู้กับหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นทั้งถูกกดดันในด้านการค้า การถูกกลั่นแกล้งสารพัดแต่เพราะความรักที่มีต่อคุณฟ้าทำให้ปัญหาต่างๆที่หนักแสนหนักบางเบาลงไป พ่อเล่าว่าคุณฟ้ากล้าหาญและเด็ดเดี่ยวมาก เธอเลือกความรักและกล้าจะเผชิญกับความยากลำบาก ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูแสนสวยที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดีจะกลายมาเป็นนายหญิงของคนคุมเกาะรังนกได้


ตลอดระยะเวลาการสร้างฐานะของนายหัวกับคุณฟ้าต้องฝ่าฝันอุปสรรคขวากหนามมากมายอย่างเหลือเกิน แม้ว่าช่วงนั้นลุงเมฆจะแต่งงานและขอรับเจมส์มาเป็นบุตรบุญธรรมแล้วก็ตาม การครองชีวิตคู่ของลุงเมฆก็ไม่ราบรื่นเหตุเพราะหัวใจลุงเมฆอยู่ที่คุณฟ้าจนกระทั่งภรรยาของลุงเมฆตรอมใจซ้ำป่วยด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวและเสียชีวิตลงในเวลาไม่นานนัก


แม้คุณฟ้ากับนายหัวจะแต่งงานและมีน้องไอซ์แล้วก็ตามแต่ ลุงเมฆก็ไม่ยอมเลิกราที่จะคอยกลั่นแกล้งครอบครัวธรรมมล จนเมื่อน้องฟลุ๊คคลอดออกมาได้ไม่ถึงขวบดี คุณฟ้าก็ต้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตแบบกะทันหัน ลุงเมฆจึงได้เลิกราและไม่มายุ่งเกี่ยวกับตระกูลธรรมมลอีกเลย นานจนกระทั่งเจมส์ก้าวขึ้นมาดูแลธุรกิจต่างๆต่อจากลุงเมฆและต้องการเปิดธุรกิจ Angel clubhouse นายเมฆาจึงมาขอร้องให้นายหัวช่วยเรื่องขอใช้ชื่อเป็นเครือของธรรมมลกรุ๊ปเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกคู่แข่งทางการค้าบีบ ซึ่งก็ได้ผลเพราะความยิ่งใหญ่ของธรรมมลกรุ๊ปเป็นเครื่องการันตีอย่างดีในแวดวงธุรกิจของเมืองไทย


“พ่อครับ โออยากรู้เรื่องการเสียชีวิตของคุณฟ้า..”


“อืม..ม..มันก็นานมาแล้วนะ...แต่พ่อก็พอจะจำได้”


“อ้อ..พ่อครับ อย่าบอกเรื่องนี้กับน้องฟลุ๊คหรือน้องไอซ์นะครับ ผมเพียงแต่อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มขึ้นแค่นั้น”

“งั้นเดี๋ยวพ่อจะส่งไฟล์เอกสารไปให้ที่ The guardianก็แล้วกัน...โอทำอะไรก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้วพ่อรู้..มีอะไรให้พ่อช่วยก็บอกมานะ”

“ครับ ขอบคุณพ่อมาก พ่อกับนายหัวสบายดีนะครับ ทางนี้ไม่ต้องห่วงครับ โอจัดการได้ หากเหลือบ่ากว่าแรงเมื่อไหร่โอจะขอใช้ตัวช่วยเป็นบอดี้การ์ดอาวุโสนะครับ”

วางสายจากปลายทางที่สุดขอบฟ้า...อีกฝั่งหนึ่งของโลก... พ่อกับนายหัวกำลังท่องเที่ยวแถบอเมริกาใต้ ชีวิตบั้นปลายของคนที่บากบั่นมามากก็ขอแค่ได้ผ่อนคลาย อยากให้ท่านทั้งสองได้พักผ่อนหย่อนใจอย่างมีความสุขที่สุดเท่าที่คนเป็นลูกอย่างผมจะทำได้ ผมหวังว่าผมคงจะจัดการทุกสิ่งอย่างได้ด้วยมือของผมเอง และผมไม่หวังพึ่งพาตัวช่วยของผมในเร็ววันนี้หรอกครับ


ผมสั่งการกับทีมบอดี้การ์ดเรื่องการวางแผนอารักขาน้องและเพื่อน นภัทร หนุ่มรุ่นน้องที่ฟลุ๊คดึงเข้ามาช่วยงานในเรื่องการดูแลลูกนกแอ่นในส่วนนี้ผมต้องจัดการเรื่องทีมอารักขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งทีม และต้องดูแลอย่างเข้มงวดเพราะนภัทรต้องใช้ชีวิตอยู่บนเกาะกับคนคุมรังนกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และก็นานครั้งละเกือบสองเดือน ในแต่ละรอบการดูแลลูกนก ปีหนึ่งก็คงตกราวๆ3-4ครั้งตามการผสมพันธุ์ของนกแอ่น ซึ่งในจุดนี้ผมเห็นว่ายังไม่มีใครเหมาะสมที่จะรับหน้าที่นี้ได้เลย อาจจะต้องขอตัว อาคมที่ดูแลน้องไอซ์มาดูแลตรงจุดนี้เพราะว่าน้องไอซ์ก็ย้ายออกไปอยู่กับคุณต้นเป็นการถาวรแล้วบอดี้การ์ดในทีมของเดอะเบสท์ ก็หาที่ติไม่ได้อยู่แล้ว ผมคงวางใจให้น้องไอซ์อยู่ในความดูแลของคุณต้นและเดอะเบสท์แล้วจริงๆ


ช่วงนี้ นายกัสมาอยู่ที่ตรังด้วย แรกๆผมอดคิดมากไม่ได้เพราะว่าน้องให้การต้อนรับดูแลกัสเป็นอย่างดีแต่เพราะน้องบอกว่าระบบงานในส่วนที่กัสรับผิดชอบยังต้องมีการดูแลติดตามอย่างต่อเนื่องผมก็เลยต้องทำใจไม่ให้คิดมาก แม้ว่ามันจะยากมากก็ตาม

“ฟลุ๊ครู้ว่าพี่อาจจะไม่สบายใจ แต่พี่ฮะกัสกับฟลุ๊ค เราเป็นเพื่อนกัน ...เพื่อน..แค่เพื่อนเท่านั้นจริงๆฮะ”

เราเดินย่อยอาหารอยู่หน้าบ้านพักของเรา ขาที่ก้าวเดินไปตามชายหาดที่ทอดตัวยาวขาวละเอียดไปจนสุดปลายโค้งอ่าวนั้นเริ่มช้าลงเพราะเสียงที่เอ่ยออกมาเบาๆ ผมหันมองดวงหน้างดงามที่ยังมองตรงไปข้างหน้า อดกระตุกในใจไม่ได้สีหน้าของผมคงแย่มากๆน้องถึงได้หน้าเจื่อนไปเมื่อหันมาสบตาผม ปากบางเม้มแน่น ผมเอ่ยต่อว่าอะไรออกไปไม่ได้ เพราะด้วยคำว่า..เพื่อน...ที่น้องเอ่ยอ้างมันกลบลบคำที่ผมจะเอ่ยห้ามออกไปทั้งหมดนั้นแล้ว หากเพียงผมคิดจะเอ่ยมัน ออกไปอีกรังแต่จะทำให้ขุ่นข้องหมองใจกันไปมากกว่านี้ ในเวลานี้ผมจำต้องเงียบไว้สินะ...


สองเท้ายังคงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ผมขบกรามแน่น ปล่อยมือเรียวออกจากการเกาะกุมสองมือซุกลงกระเป๋ากางเกงลมเย็นใกล้ค่ำที่พระอาทิตย์กำลังจะลับหายลงทะเลไปเรียกความหนาวในใจออกมาอีกครา ผมเกรงว่ามือผมจะสั่น ผมจึงกำมันไว้แน่น จนมันเริ่มชื่นเหงื่อ ตั้งใจจะเดินต่อไปเรื่อยๆ ระยะทางจนสุดโค้งอ่าวนั่นมันไกลพอจะทำให้ใจที่กำลังพลุ่งพล่านสงบลงได้ไหมนะ

“พี่โอ”

เสียงหวานพร้อมกับมือเรียวแตะที่บ่ารั้งผมไว้ไม่ให้เดินต่อ แต่ดึงให้ผมหันกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ความเป็นจริงที่ผมจำต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา ความเป็นจริงที่ว่า ผมยังต้องมีกัสเป็นตัวก่อการร้ายในหัวใจต่อไปเรื่อยๆอย่างนั้นหรือ และแล้วคนหน้าหวานก็ประทับจูบบางๆที่แก้ม ผมเบือนหน้าหนีกับสัมผัสนั้นมือใหญ่ดันคนตัวนิ่มให้ออกห่างแล้วตัดสินใจเดินกลับบ้านพัก ล้มเลิกความคิดที่จะเดินไปให้สุดโค้งอ่าวนั้นเสีย

“พะ..พี่ฮะ..พี่โอ”

ผมทิ้งเสียงหวานๆไว้ด้านหลัง ไม่อยากคิดว่าน้องใจร้ายเหลือเกิน แค่เพียงจูบปลอบใจจะทำให้ผมหายโกรธได้อย่างนั้นหรือ ผมอาจจะดูเป็นคนงี่เง่าที่ปล่อยให้เรื่องระหว่างเราคาราคาซังอยู่แบบนี้แต่คราวนี้ผมคงต้องทำให้น้องเห็นคุณค่าในตัวผมบ้าง ผมไม่อยากเป็นของตายสำหรับใคร แม้น้องจะเคยต่อว่าผมปากร้ายใจกระด้างแต่ผมคนนี้เป็นคนที่มีหัวจิตหัวใจนะ...

ผมก็เจ็บเป็น!





ผมเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ที่หาดซึ่งมีแนวทรายขาวละเอียดทอดยาวเกือบ500เมตร ในเขตของเกาะรังนกเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเกาะที่เราได้รับสำปะทาน ส่วนอีกด้านหนึ่งของเกาะจะเป็นแนวโขดหินเรียงรายกันไปจนสุดเกาะที่นั่นเป็นที่ตั้งขนำของคนงานเฝ้าเกาะซึ่งมีอยู่หลายครอบครัวโดยส่วนใหญ่ก็เป็นเครือญาติกัน ผมกำลังเดินไปที่หออภิบาลลูกนกแอ่นหลังจากที่พี่และนิกกี้มาส่งผมแล้ว พี่กำชับอับดุลหมาดที่เอาเรือเล็กออกมารับผมตอนที่สปีทโบ๊ทจอดที่ชายฝั่งให้อยู่กับผมตลอดเวลา


อดหงุดหงิดกับอาการกังวลเกินกว่าเหตุของบอร์ดี้การ์ดสุดหล่อของผมนี้ไม่ได้ แต่ก็เข้าใจว่าพี่เป็นห่วงผมมากนั่นเอง และที่สำคัญผมยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกับพี่เลยและพี่ก็เลี่ยงที่จะไม่เอ่ยมันออกมาด้วย ผมก็จำต้องเก็บเงียบเอาไว้อีกคน ตอนนี้ผมเองก็อยากให้เรื่องงานคลี่คลายลงไปก่อน พี่บอกว่าจะออกไปลาดตระเวรตามเกาะต่างๆในเขตรัศมีสำปะทานของเรา และก็คงจะไปสอบถามเรื่องที่กำลังเป็นกังวลของผมจากคนคุมเกาะที่นั่น ความจริงผมอยากไปฟังเรื่องราวด้วยตัวเองแต่พี่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเลยให้ผมอยู่ที่นี่ ผมยังพอมีเวลาอีกหลายชั่วโมงเมื่อพี่บอกว่าจะกลับมารับผมเข้าฝั่งก่อนอาทิตย์ตกทะเล


จากรายงานที่อับดุลหมาดรวบรวมไว้ทำให้ผมถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียวเพราะในแต่ละปีมีลูกนกตกจากรังและตายอยู่ที่พื้นถ้ำมากเหลือเกินข้อมูลนี้ทำให้ผมกลับมาทบทวนว่าหากเราได้แต่เก็บรังนกโดยไม่ได้ใส่ใจกับลูกนกที่ตายอย่างมากมายนี้ นอกจากจะทำให้การจัดเก็บรังนกแต่ละปีทำได้น้อยลงเราต้องสูญเสียรายได้ไปปีละเป็นหลักหมื่นหลักพันล้านบาทเลยทีเดียวแต่นอกเหนือจากผลกำไรที่เราสูญเสียไป ทรัพยากรธรรมชาติต่างหากล่ะที่สูญเสียไปแบบประเมินค่าไม่ได้ ผมสงสารลูกนกเหล่านั้น แล้วการที่ลูกนกที่รอดชีวิตน้อยลงเรื่อยๆอาจทำให้ไม่มีกิจการเก็บรังนกแบบนี้อีกต่อไป แล้วชาวบ้านเหล่านี้ล่ะ คนที่อาศัยทำงานจากการเก็บรังนกเหล่านี้ล่ะจะทำอย่างไร


บางคนอาจเถียงว่าเดี๋ยวนี้เขาไม่มานั่งประมูลเก็บรังนกตามเกาะแบบนี้แล้ว เพราะเสี่ยงเกินไป และการเพาะเลี้ยงรังนกจากบ้านรังนกก็เริ่มมีกันอย่างแพร่หลายและทำรายได้มากมายอีกด้วย แต่ผมกลับคิดว่า อาจเป็นเพราะพวกเราหรือเปล่าจึงทำให้เกิดการย้ายถิ่นของนกเหล่านี้ ผมไม่อยากให้ธรรมชาติถูกทำลายเพราะมือของเราคนรุ่นหลังเลย คนรุ่นพ่อรุ่นป๊าดูแลเกาะรังนก ทำกิจการเหล่านี้มาด้วยความยากลำบาก ผมอยากสานต่อให้ดีที่สุด อย่างน้อยการที่ผมคิดทำศูนย์อภิบาลลูกนกแอ่นอาจมีส่วนทำให้ประชากรนกแอ่นในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้นก็ได้

“สวัสดีครับพี่ฟลุ๊คมาคนเดียวหรือครับ”

นภัทรยกมือไหว้ผมแต่ไกล หนุ่มผิวเข้มหน้าคมดูคร้ามแดดและลมทะเลมากกว่าเก่าแต่ประกายตานั้นดูสดใสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมรับไหว้แล้วส่งยิ้มไปให้แทนคำตอบสำหรับคำถามที่คิดเอาเองว่าคนถามก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะรู้มากนัก น้องยิ้มหวานแล้วเดินนำผมเข้าไปใต้ร่มไม้ชายป่าที่อยู่ตรงหน้า โดยมีอับดุลหมาดเดินรั้งท้ายทิ้งระยะห่างไว้นิดหนึ่ง เรากำลังจะเดินไปสู่ป่าทึบที่ลึกเข้าไปด้านในตัวเกาะที่เป็นที่ตั้งของหออภิบาลลูกนกของผมใช้เวลาเดินจากบริเวณหาดทรายเมื่อครู่เข้าไปราวๆ20นาที

ในการทำศูนย์อภิบาลนกแอ่นที่ผมให้กัสกับนภัทรช่วยกันดูแลนั้น ก็ใช้หลักการเดียวกับการทำบ้านนกแอ่นในหลายพื้นที่ที่ไม่ได้มีเกาะรังนก ภายนอกของตัวหออภิบาลกัสออกแบบให้มีลักษณะที่กลืนไปกับธรรมชาติของเกาะได้อย่างสวยงามและลงตัว เป็นการใช้วัสดุธรรมชาติทั้งหมดในการจัดสร้าง ตัวเรือนหรืออาจจะเรียกว่ากระโจมลักษณะนี้ เหมือน Gers หรือ Yurts ของชาวมองโกเลีย กระโจมถูกสร้างขึ้นภายใต้ร่มเงาของต้นไม้หนาทึบและอยู่ไม่ไกลจากถ้ำรังนกมากนักลักษณะเหมือนโดมโปร่งๆที่ทำให้สูงมากพอที่คนทำงานด้านใน 2-3 คนจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบายโดยศูนย์กลางของกระโจมทำจากเสาไม้ 2 อันยึดติดกับคานทรงกลม


ส่วนผนังเป็นโครงไม้วงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 8 เมตรซึ่งลักษณะการต่อเรือนใช้การเข้าเดือยเลียนแบบเครื่องเรือนไม้ของเรือนไทยแต่มีความแข็งแรงทนพายุและฝนได้เป็นอย่างดี ด้านนอกกรุด้วยผ้าใบสองชั้นให้สีกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม ผ้าใบใช้ทั้งกันน้ำและลม ปรับรักษาอุณหภูมิด้วยเครื่องปรับอากาศชั้นดีจำลองสภาพภายในให้เหมือนกับถ้ำที่นกแอ่นเคยอยู่ ดูๆไปแล้วกระโจมหลังนี้จะกลายเป็นถ้ำขนาดใหญ่ได้เลยทีเดียว


เมื่อเป็นการเลียนแบบสภาพภายในถ้ำที่นกเคยอยู่ ความมืดจึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่มีผลต่อความรู้สึกของลูกนก นกแอ่นจะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในที่มืด เพราะความมืดทำให้ศัตรูมองไม่เห็นรังที่อยู่ของเขา บ้านนกแอ่นที่ผมเองเคยศึกษามานั้นบอกไว้ว่าควรจะมีความมืดใกล้เคียงกับถ้ำ ซึ่งเรามักจะได้ยินการพูดถึงค่าความมืดเป็นหน่วย "ลักซ์" (Lux) ตำราเกี่ยวกับบ้านนกแอ่นหลายเล่มมักกล่าวถึงค่าความมืดที่บ้านนกแอ่นควรจะทำให้ได้ คือ ประมาณ 2 - 3 ลักซ์ ซึ่งในเรื่องนี้ผมสนับสนุนเครื่องมือมาให้พร้อมแล้วแต่ถ้าเราจะหาค่าง่ายๆก็คือการที่เราสามารถมองเห็นแผ่นกระดาษขาวขนาดA4ในที่มืดได้เพียงลางๆนั่นแหล่ะถือว่ามีความสว่างในระดับ2-6 ลักซ์


“เมื่อวานก่อนอับดุลหมาดพาผมไปสำรวจในถ้ำรังนกมา พบว่ามีลูกนกพลัดตกจากรังมาเกือบ50ตัว ผมกับอับดุลหมาดช่วยกันเก็บลูกนกแอ่นใส่ในกล่องขนาดเล็กที่เตรียมพร้อมไว้แล้วก่อนจะนำมาใส่รังเทียมที่คุณกัสทำไว้ให้ ดีที่ทำเตรียมไว้มากพอเพราะว่าลูกนกแอ่นจะกัดกันทำให้เกิดบาดแผลได้หากว่าเราใส่เจ้าตัวเล็กพวกนี้ไว้ในรังเดียวกัน ไม่น่าเชื่อเลยนะครับพี่ฟลุ๊คว่า รังนกเหล่านี้เราทำขึ้นมาเองเพราะมันเหมือนกับรังนกธรรมชาติมากจริงๆ คุณกัสนี่เก่งไม่ใช่เล่นเลยนะครับ”


หนุ่มน้อยหน้าคมอมยิ้มจางๆเมื่อกล่าวถึงคุณครูคนเก่งของผม ผมอดสังเกตไม่ได้ว่าประกายตาหวานซึ้งนั้นมีแววอะไรบางอย่างแต่ก็เพียงแวบเดียว ประกายนั้นก็หายไป


“ใช่ กัสเป็นคนที่เก่งรอบด้านจริงๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่นภัทรยังไม่เคยเห็นนะ เอ่อ...อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆนี่พอใช้ไหมยังไงก็ประสานกับกัสหรือผ่านไปทางคุณอำนาจฝ่ายธุรการก็ได้นะ แล้วนี่จะถึงเวลาให้อาหารลูกนกหรือยังพี่อยากดูได้ไหมครับ”


หนุ่มรุ่นน้องยิ้มกว้างก้มมองดูนาฬิกาข้อมือแล้วก็พยักหน้าชวนผมเข้าไปในถ้ำจำลองหรืออีกนัยหนึ่งก็คือศูนย์อภิบาลลูกนกแอ่นที่ได้สำเร็จออกมาเป็นรูปร่างเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง ทันทีที่เข้าไปในถ้ำผมก็ต้องทึ่งกับบรรยากาศในนี้มาก เพราะเมื่อเราเปิดประตูเข้าไปความรู้สึกแรกที่รับรู้ได้ราวกับว่าเรากำลังเดินเข้าไปในถ้ำไม่ผิดเพี้ยน มืดแต่ไม่อับเพราะการระบายอากาศทำได้อย่างยอดเยี่ยมเครื่องปรับอากาศแสนแพงทำงานได้อย่างเงียบเชียบเต็มประสิทธิภาพ


จำได้ว่าเมื่อครั้งที่ขอให้กัสช่วยเรื่องการออกแบบศูนย์ให้ หนุ่มหน้าใสอารมณ์ดีก็ใช้เวลาคิดอยู่นาน และพอการก่อสร้างเริ่มดำเนินไปเจ้าตัวก็ยังลังเลและไม่รับปากว่าจะสามารถทำได้ดีหรือไม่ แต่ผมกลับเชื่อว่ากัสต้องทำได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่สัญชาติญาณบอกผมอย่างนั้น

แต่...ตอนนี้ผมไม่เห็นอะไรเลย


“ เดี๋ยวครับพี่ฟลุ๊ค”


ผมยืนอยู่ไม่ห่างจากประตูมากนักเพราะว่าเดินต่อไม่ได้ รอบๆตัวผมมืดไปหมด ผมรีบหันกลับมาเมื่อแขนเรียวเอื้อมแตะที่ข้อศอกของผมไว้แต่


“ยืนตรงนี้ก่อนนะครับ รอให้ปรับสายตาได้ก่อนเดี๋ยวจะเดินชนนั่นนี่ไปซะ”


“อ่ะครับ”


แว่น Night Vision อุปกรณ์สำคัญราคาเรือนแสนถูกหยิบออกมาสวมให้ผมอย่างเบามือ โดยที่นภัทรสวมให้ตัวเองก่อนหน้านี้แล้ว ภาพภายในห้องที่มืดมิดเมื่อสักครู่ก็กระจ่างขึ้นมาทันที ผมเห็นสภาพภายในห้องได้อย่างชัดเจน อุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วนตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ใกล้กับทางเข้าออกมีโต๊ะขนาดกะทัดรัดสำหรับเป็นโต๊ะตรวจสุขภาพลูกนก ถัดกันไปเป็นส่วนสำหรับให้อาหาร ในกระโจมนี้มีเครื่องใช้ไม้สอยอย่างครบครัน มีรังนกจำลองวางไว้เกือบร้อยรังได้ ถัดไปเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะใช้เก็บอาหารลูกนก ผมอดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อนภัทรจูงผมไปนั่งที่ตรงนั้น ใกล้ๆกับรังนกที่มีลูกนกน้อยๆส่งเสียงร้องจิ๊กจั๊ก เด็กๆคงจะหิวกันแล้ว


“เราจะให้อาหารลูกนกแอ่นวันละ 3 เวลานะครับ โดยอาหารที่ดีที่สุดคือแมลงเม่าที่บินออกจากรังหลังฝนตก ซึ่งลูกนกแอ่นจะชอบมากเพราะขนาดพอดีคำและอุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ในเรื่องอาหารนี้อับดุลหมาดได้จ้างเด็กๆลูกชาวบ้านแถวๆนี้เก็บมาให้ทุกวันเรื่องราคาก็ต่อรองกันตามความพอใจของเด็กๆอย่างที่พี่ฟลุ๊คบอกครับ อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าเราทำเพื่อชุมชนจริงๆ แมลงเม่าที่ยังไม่ได้ใช้เป็นอาหารก็จะเก็บใส่กล่องพลาสติกแช่ตู้เย็นไว้ป้อนในมื้อต่อๆไปได้”


“พี่ฟลุ๊คจะลองป้อนดูบ้างไหมครับ ไม่ยากหรอก ลองนะครับ “


น้องหยิบอุปกรณ์เป็น Transfer forceps พลาสติกเล็กๆ ปลายไม่แหลม ขนาดพอดีมือส่งมาให้ ผมรับมาถือด้วยใจที่เต้นแรงอดตื่นเต้นไม่ได้กับประสบการณ์นี้ นภัทรเปิดกล่องอาหารออก น้องบอกว่าลูกนกแอ่นเวลาหิวจะรีบกิน ปลายแหลมของที่คีบอาจทำให้ปากของลูกนกแอ่นเป็นแผล หากลูกนกแอ่นเจ็บปากจะไม่ยอมกินอาหาร ทำให้ลูกนกแอ่นตายได้ ผมค่อยใช้ปากคีบหยิบแมลงเม่าตัวเล็กในกล่องอาหารแล้วยื่นไปตรงปากเล็กๆของลูกนกที่อ้าปากร่อนรออาหารจากมือ ผมทำตามที่นภัทรทำให้ดู ลูกนกรับอาหารแล้วขย้อนกลืนลงคอไปอย่างรวดเร็วจนอดปล่อยหัวเราะออกมาไม่ได้


“ถ้าหากไม่มีแมลงเม่า ตัวเลือกอื่นก็คือหนอนตัวเล็กๆ สำหรับเลี้ยงนก ซึ่งมีขายตามร้านขายสัตว์เลี้ยง หรือ ร้านขายนก หรือหนอนไม้ไผ่ แต่ต้องตัดตัวหนอนเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อให้ป้อนลูกนกแอ่นได้พอดีกับปากเล็กๆของลูกนก แต่เมื่อใกล้โตเต็มที่อาหารอื่นๆที่สามารถป้อนให้ลูกนกแอ่นได้ก็ คือ จิ้งหรีด แมลงวันทอง ตั๊กแตน แต่ก็ต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆอีกเหมือนกัน เพื่อให้ลูกนกแอ่นสามารถกลืนได้”

“ตามธรรมชาติลูกนกแอ่นจะสามารถบินได้ภายใน 30 ถึง 40 วัน หลังออกจากไข่ ดังนั้นช่วงเวลาที่เราต้องให้อาหารลูกนกแอ่นที่หล่นจากรังก็จะประมาณ15 - 20 วัน เพราะลูกนกแอ่นที่หล่นจากรังส่วนมากจะเริ่มมีขนเต็มตัวแล้ว แต่ขนยังอ่อนอยู่ เมื่อลูกนกแอ่นเริ่มบินได้ก็จะนำไปไว้ในส่วนด้านในตรงนั้นนะครับ”


น้องชี้มือไปที่อีกครึ่งของห้องที่กั้นไว้ด้วยผนังที่เลียนแบบผนังถ้ำที่ด้านในจะมีรังนกจำลองติดอยู่ตามฝาผนังถ้ำเป็นการเลียนแบบธรรมชาติได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

“เป็นที่สำหรับให้ลูกนกแอ่นที่กำลังฝึกบินใช้เกาะได้อย่างดีมาก”


“เมื่อลูกนกแอ่นโตเต็มที่ จะหยุดกินอาหารประมาณ 2 วัน เป็นการเตรียมตัวให้พร้อม เหมือนสัญชาติญานบอกให้ลูกนกแอ่นลดน้ำหนักตัวเองเพื่อให้บินได้คล่องแคล่ว พร้อมที่จะบินออกสู่โลกภายนอก ผมว่าจะทำการปล่อยลูกนกที่โตเต็มที่แล้วที่ปากถ้ำ เพราะว่าเมื่อเราปล่อยที่ไหนลูกนกก็จะกลับมาที่นั่น”

“ดีครับเขาจะได้กลับมาใช้ชีวิตที่นั่น ที่บ้านของเขาเอง”

“พี่ฟลุ๊คจะให้ติดตามตัวนกโดยทำเครื่องหมายที่ขาไว้ไหมครับ ไว้เป็นการศึกษาต่อไปและจะได้รู้ว่าลูกนกรอดมากน้อยแค่ไหน”

“อย่าเลยแค่เลี้ยงให้เขารอดได้มีโอกาสออกไปโบยบินในท้องฟ้ากว้าง แค่นี้พี่ก็สุขใจมากแล้ว อีกอย่างขานกก็เล็กนิดเดียวเอง สงสารเค้านะครับ”


“ครับ”

น้องรับปากเบาๆแล้วยิ้มหวานส่งมาให้ ผมดีใจที่ศูนย์อภิบาลลูกนกของผมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ ดีใจที่ผมเลือกคนมาช่วยไม่ผิด นภัทรดูมีความสุขและสนุกกับงานนี้มาก เราช่วยกันป้อนอาหารให้ลูกนกอยู่นานกินเวลาก็ชั่วโมงกว่าเพราะลูกนกแต่ละตัวจะกินอาหารตกประมาณตัวละ1-2กรัมก็เท่ากับว่าเราป้อนแมลงประมาณเกือบ30ตัวต่อลูกนกหนึ่งตัวก็ว่าได้


ออกจากถ้ำจำลองมาเดินเล่นบริเวณชายหาดอีกครั้ง เดินเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลาพี่มารับ


“จะไปนั่งพักที่เรือนผมก่อนไหมครับ “


ความจริงเรือนพักของนภัทรถูกสร้างขึ้นอยู่ไม่ไกลจากเรือนพักคนคุมเกาะมากนัก ที่นั่นมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำให้น้องได้ การที่ต้องออกมาทำงานนอกสถานที่และกลางทะเลแบบนี้ น้องอาจเหงาอยู่บ้างแต่เท่าที่ดูอาการแล้ว น้องยังสนุกกับงานชิ้นนี้ และผมก็พอใจ ผมยิ้มน้อยๆส่ายหน้าและพาน้องเดินเรียบชายหาดไปเรื่อยๆ


“พี่ฟลุ๊ค จะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่ครับ”


“อืม..ช่วงนี้คงอีกสักพักนะครับ พอดีว่ามีเรื่องต้องแก้ไขนิดหน่อย นภัทรต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ”


“เปล่าครับไม่มีอะไร...เมื่อวานก็โทรคุยกับแม่แล้วครับ”


น้องยิ้มในหน้า


“งั้นวันนี้เข้าไปทานอาหารค่ำที่บ้านพี่นะ ทางนี้ให้อับดุลหมาดดูแลก็น่าจะได้นะครับ”


ผมชวนน้องเข้าฝั่ง นภัทรก็พยักหน้ารับปากอย่างดี เราเดินเล่นอยู่ที่ชายหาด ฟังนภัทรเล่าประสบการณ์การอยู่เกาะครั้งแรกและเจอกับพายุให้ฟังอย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก สปีทโบ๊ทของพี่จอดเทียบอยู่ไม่ไกลจากฝั่งเท่าไหร่นัก พี่โอเดินลงมารับผม นภัทรยกมือไหว้พี่ พอผมบอกว่าวันนี้ชวนน้องไปทานข้าวแล้วนภัทรจะค้างที่บ้านด้วยพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเราเลยกลับเข้าฝั่งเมื่อดวงอาทิตย์ดวงโตตกทะเลพอดิบพอดี


หลังอาหารค่ำ ป้าอรเสิร์ฟชาร้อนที่เรือนกระจก กลิ่นของCecile Brunner หอมอ่อนๆทำให้การดื่มชาได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น แม้ว่าข่าวจากพี่จะทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลเพิ่มมากขึ้นไม่คิดว่าเรื่องมันจะรุนแรงถึงขั้นมีการยิงปืนขู่ด้วย เหตุเพราะเรือนักท่องเที่ยวลำนั้นไม่ยอมหยุดและตั้งใจจะเข้ามาที่เกาะให้ได้ ความจริงผมไม่อยากให้มีปัญหาใหญ่โตเกิดขึ้นเลย แต่เพราะเราต้องระมัดระวังมาก บางครั้งอาจไม่ใช่เรือนักท่องเที่ยวอาจเป็นพวกขนของหนีภาษีหรือที่แย่หนักก็คือยาเสพติดที่แอบลักลอบเข้ามา


“พี่ได้พูดคุยและเตือนให้หัวหน้าคนคุมเกาะระวังเรื่องการใช้ความรุนแรงแล้ว แต่บางครั้งอาจต้องมีบ้างเพื่อไม่เป็นการประมาทจนเกินไป”

“ฮะแล้วแต่พี่โอเถอะ อืมแล้วเรื่องอาหารการกินคนดูแลเกาะพี่จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม บางทีอาทิตย์หน้าฟลุ๊คจะขอไปเยี่ยมพวกเขาบ้างนะฮะ ตั้งแต่ฟลุ๊คมารับงานจากป๊าก็ยังไม่เคยไปเยี่ยมเค้าเหล่านั้นเลยมันจะดูไม่ดีนะฮะ”

“ได้สิถ้าฟลุ๊คอยากไป”


“ขอบคุณมากนะฮะพี่โอ”


ผมหันไปสั่งให้ป้าอรเตรียมห้องพักสำหรับนภัทรด้วย นี่ก็ดึกมากแล้ว น้องคงอยากพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้นภัทรต้องกลับเกาะแต่เช้าตรู่ ผมเดินไปส่งนภัทรที่ห้องนอนแขกซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของเรือน ส่วนห้องของผมกับพี่ ค่อนไปทางด้านหลังเล็กน้อย และยังมีประตูเชื่อมไปสู่ห้องเล็กสำหรับไว้ทำงานที่ค่อนข้างต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยผมมักจะใช้ห้องนี้บ่อยๆแทบจะทุกคืน เพื่อเช็คความเรียบร้อยและตรวจรายงานต่างๆที่ทางกรุงเทพส่งมาให้ ตลอดจนบางครั้งก็ใช้เป็นที่ประชุมย่อยโดยการใช้Web Conferencing ด้วย


ผมตรวจเช็ครายงานที่คุณอำนาจส่งมาให้เป็นรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับสภาพคล่องของธรรมมลกรุ๊ป ตรวจดูความเรียบร้อยเกี่ยวกับตัวเลขจากหลายกิจการที่อยู่ภายในการควบคุมดูแลของผมแล้วก็เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่ากิจการบางอย่างเช่น Angle clubhouse ที่พี่เจมส์ดูแลอยู่จะรายงานว่าสภาพคล่องดูจะลดลงไปบ้างแต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่เพราะความจริงป๊าก็ไม่ชอบใจที่ลุงเมฆและครอบครัวจะทำกิจการประเภทนี้อยู่แล้ว แต่ยังไงก็คงต้องควบคุมและปรามอยู่บ้างเพราะอย่างน้อยชื่อของธรรมมลกรุ๊ปก็ถูกนำไปใช้เพื่อให้กิจการนี้คงอยู่ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง


ผมบันทึกข้อมูลทุกอย่างเก็บไว้ในโน๊ตบุคเครื่องเก่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานมา เห็นพี่คุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง ผมยิ้มให้พี่ คนหน้าคมปรายตามายังผมนิดหนึ่งก่อนจะหันกลับไปสนใจกับปลายสายตามเดิม...พี่ยังโกรธผมอยู่... อดใจกระตุกไม่ได้...ผมชะงักเท้าที่ตั้งใจจะก้าวไปหานั้นไว้ ไม่อยากไปรบกวนเพราะพี่คงกำลังสั่งการทางทีมบอดี้การ์ดที่อยู่ที่กรุงเทพเกี่ยวกับการดูแลพี่ไอซ์ก็ได้ ส่วนป๊าและลุงอารักษ์สองคนนั้นบินไปเที่ยวแถบอเมริกาใต้กันเกือบครึ่งเดือนแล้ว ผมอยากให้ป๊ามีความสุขอะไรที่ผมพอจะทำได้ผมก็ไม่อยากรบกวนให้ป๊าต้องกลุ้มใจ ทุกอย่างของธรรมมลกรุ๊ปที่อยู่ในมือผม ผมจะทำมันให้ดีที่สุด


พี่เครียดมากแม้ช่วงนี้ทุกอย่างดูสงบเงียบแต่คนที่มีหน้าที่คุ้มกันอย่างพี่ก็ไม่ยอมระวางจากการงานนี้อย่างเด็ดขาด ผมอดคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พี่เคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิมมาก ผมอยากให้ไอ้พี่เกรียนคนเดิมของผมกลับมาเร็วๆจังผมจึงไม่ต้องการเคลียร์เรื่องของเราในเวลานี้ ไม่อยากทำให้พี่หนักใจมากไปกว่านี้ ช่วงนี้กัสก็หายไปเที่ยวเล่นตามเกาะต่างๆนานๆจะแวะเข้ามาที่เรือนบ้างดูเหมือนกัสก็พยายามไม่เผชิญหน้ากับพี่เท่านี้ผมก็พอใจแล้ว


ผมเดินเลี่ยงไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพราะขณะนี้เวลาก็ล่วงเข้าวันใหม่มานานแล้ว ออกจากห้องน้ำมาพี่ก็ยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงหยิบหนังสือมาอ่านเล่นเปิดดู ผ่านไปสองสามหน้า ตาก็เกือบจะปิดคิดว่าจะรอพี่โอเพื่อเข้านอนพร้อมกัน... อยากให้พี่รู้ว่าผมแคร์พี่... ฮึก...ก้อนความอ่อนแอวิ่งแข่งกันจากในอกจนมาจุกอยู่ที่ลำคอ ผมพูดอะไรไม่ออก...ได้แต่พยายามกลืนมันลงไป...นานกว่าความปวดที่จุกแน่นนั้นจะจางหาย


ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหนแต่ทันทีที่เตียงด้านหนึ่งยวบไหว กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำพร้อมสัมผัสนุ่มที่เคยคุ้น จากปากบางชื้นที่แตะต้องตามแก้มและกำลังเคลื่อนไปทั่วใบหน้าก็ทำให้ผมตื่นจากนิทราได้อย่างง่ายดาย พลิกตัวกลับมาซุกอกกว้างของคนตรงหน้าที่รวบดึงตัวผมเข้าไว้ในอ้อมกอดแทบจะทันทีเช่นกัน จมูกโด่งคมที่ดอมดมแก้มเนียนนุ่มของผมเพิ่มน้ำหนักกดแรงมากขึ้น พร้อมกับปากบางที่กำลังลามเลียปลายคางของผมอยู่ขณะนี้

“อืม..ม..ม...อา..”

ผมครางอย่างพอใจเมื่อพี่บดเบียดปากบางชื้นกับริมฝีปากของผม คลึงเน้นเม้มย้ำซ้ำอยู่อย่างนั้นจนผมอดคิดไม่ได้ว่าปากผมคงบวมเจ่อ ก่อนเรียวลิ้นจะไล้วนซอกซอนวอนขอให้ผมเปิดปากเพื่อชิมความหวานภายใน ผมตอบรับสัมผัสพลิ้วไหวจากลิ้นร้อนที่กอดรัดกับลิ้นเรียวของผมอยู่ขณะนี้อย่างเต็มใจ มันเป็นจูบที่ดูดดื่มและค่อยทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชักนำให้จังหวะการเต้นของหัวใจถี่ขึ้นได้ในทุกขณะ ผมเริ่มประท้วงเบาๆเมื่อใกล้จะขาดอากาศหายใจเต็มที พี่จึงยอมปล่อยปากผมให้เป็นอิสระก่อนจะลากกลีบปากบางมาซุกไซ้ซอกคอขาว


ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่กดย้ำสร้างรอยรักที่ซอกคอ...ใต้แนวผมยาวที่ทิ้งตัวคลอเคลียไปกับท้ายทอยนั้น ...แม้จะรู้ว่าพี่เลือกที่จะฝากรอยไว้ในที่ลับตาแล้ว แต่ด้วยแรงกดย้ำขนาดนั้นรอยคงชัดน่าดู


และไม่อาจทัดทานอะไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้...เพราะ...ผมกำลังเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสวาบหวามที่พี่มอบให้ สัมผัสที่ห่างหายมานานและทำให้ผมโหยหาอย่างเหลือเกิน ชุดนอนที่สวมใส่เมื่อครู่ถูกปลดออกไปจากร่างในที่สุด ยอดอกสีสวยถูกดูดเม้มจนเกร็งไปทั้งร่างด้วยเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับมันมากเกินกว่าจะห้ามใจไว้ได้


ผมเผลอหอบหายใจหนัก บิดตัวปล่อยเสียงครางหวานอย่างไม่อาจปิดกลั้นเมื่อมือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวกายอ่อนบาง ทุกที่ที่มือใหญ่เคลื่อนผ่านก็รุ่มร้อนขึ้นอย่างน่าประหลาด ประสาทสัมผัสตื่นตัวอย่างเต็มที่เมื่อถูกปลุกเร้าจากน้อยไปหามาก เรียวขาขาวสะอ้านถูกแยกกว้างและบทเพลงรักที่ผมโหยหาก็ถูกพี่บรรเลงขึ้น


...จากการแนบชิดที่เนิบช้าแต่หนักหน่วงและแนบแน่น ... ค่อยเพิ่มจังหวะทีละน้อย...ทีละน้อย...ด้วยอารมณ์ที่ถูกชักพาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ...เรื่อยๆตามลำดับ จำได้เลือนรางอย่างเหลือเกินว่า ตัวเองลอยละล่องอยู่บนปุยเมฆ หวิวไหวไปกับสัมผัสชวนฝันจากคนของหัวใจ...กี่ครั้ง...ต่อกี่ครั้ง แต่มั่นใจได้ว่าตลอดการบรรเลงเพลงรักที่แสนจะไพเราะและอ่อนหวานนี้ มีเสียงทุ้มนุ่มรำพันอยู่ข้างหู พร่างพรูคำหวานมาให้ได้ยินไม่ขาดปาก

“...พี่รักฟลุ๊ค...ได้ยินไหม...พี่รักฟลุ๊ค...”

“ได้ยินไหม...ได้ยินหรือยัง...ฮ่ะ..อา”

รัก...ที่แม้ไม่เอ่ยออกมาผมก็รับรู้ได้จากหัวใจ แม้ช่วงหลายวันมานี้เราจะมึนตึงต่อกันแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เรารักกันน้อยลงได้เลย ...ผมรักพี่มากยิ่งขึ้น... มากขึ้น...มากขึ้น...ความสุขจากสัมผัสแห่งรักมันมากมายอย่างเหลือเกิน...ความสุขมันล้นจนแทบจะกระอัก...ความสุขนี้ผมขอให้มันยาวนานและ...นิรันดร์...ได้ไหม

“ได้ยินฮะ...ได้ยินแล้ว...พี่ฮะ... พี่โอ..อ่ะ... ฟลุ๊คก็รักพี่โอนะฮะ...ฟลุ๊ครักพี่..”

แต่...ผมรักพี่มากแค่ไหน...พี่คงไม่รู้หรอก...พี่โอ...


+++++TBC+++++




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555
13 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2556 19:39:19 น.
Counter : 4293 Pageviews.

 

โอเย่!!!!!ได้ใจไปเลย^^

 

โดย: miyukik IP: 141.0.9.248 5 พฤศจิกายน 2555 9:57:34 น.  

 

ประโยคสุดท้ายนี่ คุ้นๆนะคะ

ชอบเวลาพี่โอทำหน้าขรึมๆ ดูเท่ห์เนอะค่ะ เเต่อย่าใจร้ายกับฟุคนะคะ สงสารฟุค

 

โดย: อช IP: 203.82.92.31 5 พฤศจิกายน 2555 13:17:30 น.  

 

อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!
ฟิคนี้ที่รอคอย และก็สมการรอคอยจริงๆค่ะ แม้ตอนต้นจนถึงกลางเรื่องพระ-นายของเราจะดูมึนตึงใส่กัน
แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความหวานละมุนละไมบนเตียง ง้อกันด้วยกายสัมผัส อิอิ
เป็นบทรักที่หวาน.....หวานจนอ่านแล้วต้องอมยิ้มตามจริงๆ
อ่านแล้วก็อยากอ่านตอนต่อไปอีก มาต่อเร็วๆนะคะพี่ดา

 

โดย: Lookwha IP: 58.8.92.43 5 พฤศจิกายน 2555 17:33:33 น.  

 

สมเเก่การรอคอย ชอบมากเลยค่ะ
ประโยคท้ายนี่ ได้อินเอนร์เต็มๆ
รอมาต่อเรื่อยๆนะคะ ^^

 

โดย: moremind IP: 124.122.5.28 5 พฤศจิกายน 2555 20:07:49 น.  

 

มันโดนก็อิประโยคสุดท้ายยยย

55555


ชอบตอนที่เค้าไม่คุยกันจังเลยค่ะ (??)

เค้าชอบดราม่าอ่ะ แบบว่าน้อยอกน้อยใจ หึงหวง

อะไรงี้ เข้าชอบ กร๊ากกก


ตอนต่อไปจะอีกนานมั้ยน้อ T T

 

โดย: ปอ IP: 49.48.31.79 5 พฤศจิกายน 2555 21:32:32 น.  

 

โอ้!!!!ทำให้ใจกระตุก ตามพระเอกนายเอกกันเลยทีเดียว เวลาหึงหวง กุ๊กกิ๊ก กิ๊กกั๊ก ไรเงี่ย แต่ในใจแอบลุ้นน้องกัส ครูฝึกคนพิเศษที่เป็นแค่เพื่อนแต่มากกว่าเพื่อน ถ้าไม่มีกัส เราก็ไม่รู้หลอกว่าพี่โอรักฟุคมากแค่ไหน แอร๊ยยย มันเป็นที่ช่างน่าติดตามดีแท้ รออ่านตอนต่อไปค่ะ

 

โดย: มะลิ IP: 171.4.178.17 5 พฤศจิกายน 2555 23:18:56 น.  

 

นิรันดร์สำหรับความรักของเรา"ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้"หรอกน้องฟลุค "ผมรักพี่แค่ไหน พี่คงไม่รู้หรอก พี่โอ" แค่ที่ฟลุครักอาจไม่เท่าที่พี่โอรักก็ได้น๊ะ
อิอิในที่สุดก็มาแระ
เป็นกำลังใจให้หนุ่มน้อยของพี่โอคร๊าบ
^________^

จุดพลุว๊าววววววเต็มท้องฟ้าเลย!!!

 

โดย: sngg IP: 171.6.232.64 5 พฤศจิกายน 2555 23:20:26 น.  

 

อริ๊ววววววววววว >.< พี่ง้อน้องได้หวานมากๆเลยค่ะ ถึงจะงอนกันแค่ไหนแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อเสียงเรียกร้องของหัวใจ น่ารักมากๆๆๆๆๆๆ ติดตามตอนต่อไปนะคะ ^^

 

โดย: แมวบก (biomedical_girl ) 11 พฤศจิกายน 2555 20:41:03 น.  

 

ขอบคุณแม่ดา คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน อดใจหายไม่ได้นึกว่าจะไม่มีพ่ี น้องคู่นี้มาสร้างกำลังใจแล้ว
พี่นี่แสนงอนเชียว เน้อะ /

 

โดย: JI IP: 125.24.68.89 13 พฤศจิกายน 2555 18:13:50 น.  

 

ประโยคสุดท้ายโดนใจมาก

 

โดย: เดือน IP: 125.26.130.250 23 พฤศจิกายน 2555 7:59:31 น.  

 

เอ่อ บทรักตอนง้อกันตอนท้ายเอาซะเราเห็นภาพ555
ปล .อยากให้พี่โอกับฟลุครักกันจริงๆไม่ใช่แค่ในจินตนาการ

 

โดย: เดือน IP: 125.26.143.195 24 พฤศจิกายน 2555 2:45:39 น.  

 

โอ๊ะ!!!จะครบปีแล้วหรือนี่ที่ไม่ได้อัพเรื่องราวของไอ้พี่เกรียนกับคุณฟลุ๊ค

คิดถึงกันบ้างไหมคะ

 

โดย: womam in love (womam in love ) 17 ตุลาคม 2556 22:23:17 น.  

 

คิดถึงมากเลยคะ รอตอนต่อไปอยูนะคะ คราวนี้หายไปนานมากเลย

 

โดย: TUM IP: 27.55.2.214 24 ตุลาคม 2556 23:31:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


womam in love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




...อยากให้รัก...หมุนรอบตัวฉันและเธอ...ตลอดไป..
http://i485.photobucket.com/albums/rr213/yamiejung16/ui20.gif
New Comments
Friends' blogs
[Add womam in love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.