เราไม่ได้ฟังเพลงแล้วร้องไห้แบบนี้มาสักพักแล้ว
เหมือนยิ่งเติบโต ยิ่งผ่านประสบการณ์ทั้งดีและร้ายจนอายุขนาดนี้แล้ว เรื่องที่ผ่านตา ความรู้สึกที่ผ่านหัวใจมันก็ดูจะกลายเป็นแค่สายลมจางๆให้พอรับรู้แต่ไม่รู้สึก
มันคือความเข้มแข็งของหัวใจ ไม่ก็คือหัวใจเรานั้นกร้านและแกร่งจนไม่รู้สึกรู้สาเท่าไรกับเรื่องราวเลวร้ายที่พบเจออีกแล้ว
เพราะแบบนั้น...เวลาที่ฟังเพลง กับเนื้อเพลงและเสียงร้องจนกระทบความรู้สึกก็ดูจะลดน้อยลงเรื่อยๆ
ความรู้สึกที่ว่าแล้วทุกอย่างมันก็จะผ่านไปได้เอง ไม่มีเรื่องเลวร้ายแค่ไหนที่จะไม่มีวันพรุ่งนี้ เพราะแบบนั้น...ความรู้สึกที่ให้กับเสียงเพลง ความดื่มด่ำไปกับเนื้อหาโดนใจก็ลดลงตามย่างก้าวที่เดินผ่าน
เราคนที่ตอนยังเยาว์และไร้เดียงสาเคยร้องไห้แทบเป็นแทบตายแค่นั่งฟังเพลงลาจากในวันต้องบอกลาเพื่อนเพื่อแยกย้ายกันไป
กับน้ำตาที่ไหลรินเพราะเพลงที่มันตรงเหลือเกินกับหัวใจที่เจ็บปวด กับความทุกข์ที่พบเจอในเส้นทางกาลเวลา
ความรู้สึกแบบนั้น พอลองมองย้อนกลับไปก็กลายเป็นแค่ความทรงจำสีจางๆจนเกิดเป็นรอยยิ้มเยาะให้กับความเขลาในเยาว์วัยของตัวเองด้วยซ้ำไป
เราโหลดเพลง thats what freinds are for จากรายการBeatles Code เพียงแค่เพราะเห็นว่าเป็นเพลงที่จุนเคเลือกมาร้องในรายการ
ไม่มีความคาดหวังอะไรมากกว่านั้น ก็แค่จะฟัง...จากคนที่งานยุ่งแทบไม่เหลือเวลาให้กับชีวิตส่วนตัวแล้วในตอนนี้แบบเรา
เราคิดเพียงแค่ว่าขอฟังเสียงจุนเคหน่อยเถอะจะ้ร้องเพลงนี้ดีแค่ไหน จะออกเสียงภาษาอังกฤษดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแค่ไหน
แค่นี้เอง...
เราไม่ทันคิดไปถึงเนื้อหาเพลงเพลงนี้ด้วยซ้ำ
เพลงที่เราชอบมาแต่ไหนแต่ไรกับเนื้อหาของมันเมื่อยังเยาว์ ในช่วงวันและเวลาที่เพื่อนคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตวัยเยาว์
พอโหลดเสร็จ เราก็เปิดฟังทันทีโดยจัดการกับงานที่เต็มมือไปด้วย
เสียงเปียโนนำิอ่อนสร้อยดังขึ้น เราก็ยิ้ม...เหมือนความทรงจำคืนวันเก่าหวนกลับคืนมาทักทาย
แล้วเสียงร้องที่แสนเป็นเอกลักษณ์ของจุนเคก็ตามมายิ่งทำให้เรายิ้มกว้าง งานที่ยุ่งมืออยู่ดูไม่หนักหนาอย่างที่มันเคยเป็น
เราฟังไปเรื่อยๆโดยไม่ได้จับใจความ ไม่ได้ลงลึกไปกับเสียงร้องนั้นด้วยซ้ำ...จนกระทั่งมาถึงท่อน
~knowin u can always count on me, for sure Thats what friends are for~
เชื่อสิว่านายไว้ใจฉันได้เสมอ...เพราะนี่แหละคือความหมายของคำว่า "เื่พื่อน"
ไม่ได้โกหกเลยว่าเราถึงกับทรงตัวไม่อยู่ ทรุดตัวลงนั่ง มือไม้สั่นไปหมด...แล้วเราก็หยุดทุกอย่างที่ทำ
...ไม่มีอะไรสำคัญกว่านี้อีกแล้ว
เรานั่งฟังเงียบๆ นิ่งฟังอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก ไม่รู้ต่อกี่รอบที่มันวนกลับไปมาแบบนั้น
แล้วไม่รู้ตัว...น้ำตาก็คลอเต็มจนปวดตาไปหมด
เราไม่ถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่นั่งร้องไห้เงียบๆไปกับเสียงเพลงซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกนั้น กับเนื้อหาที่เหมือนแส้ฟาดซ้ำเติมลงมาอย่างไม่ปราณี
เราไม่ได้ดูรายการนี้(ยัง) เราไม่รู้ว่าก่อนหน้าพวกเขาพูดถึงอะไรกัน
แต่ที่รู้แน่ๆก็คือเราคิดว่าเรารู้ว่าทำไมจุนเคถึงเลือกเพลงนี้มาร้อง เพลงที่พูดถึงเพื่อน เพื่อนที่จะอยู่กับเราเสมอไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม
จริงอยู่นี่อาจเป็นเพลงเพื่อน...เพื่อนแท้ที่ไม่ว่าใครก็สามารถรู้สึกและเข้าใจกับเพลงนี้ได้ไม่ยาก
แต่กับผู้ชายหกคนนี้ ไม่ใช่แค่ช่วงยากลำบากหลังเหตุการณ์ร้ายแรงหลังจากเดบิ๊วท์ไม่นานนั่น แต่พวกเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดตั้งแต่ก่อนเดบิ๊วท์ ตั้งแต่ช่วงเข้าเวลาของความเป็นวัยรุ่นจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่มาด้วยกันตลอด ใช้ชีวิตร่วมกัน เจอทุกเรื่องราวด้วยกันและก้าวไปพร้อมๆกันผ่านวันเวลาของความเยาว์วัยนั้น
พวกเขาคงยิ่งกว่าเข้าใจ ยิ่งกว่ารู้สึกกับเพลงเพลงนี้สินะ
ความสุข ความทุกข์มากมายที่ต้องรับมือและเกินรับมือหล่อหลอมความเป็นเพื่อนของพวกเขาทั้งหกขึ้นมาผ่านช่วงเวลายากลำบากและสนุกสนานนั้นมาด้วยกัน
พอมองย้อนไป...แทบไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่พวกเขาไม่ต้องผ่านการทดสอบของความเป็นเพื่อนแท้เลยสินะ...พอคิดแบบนี้เราอดเศร้าบางๆให้กับชีวิตของพวกเขาไม่ได้
กับช่วงเวลาเลวร้ายของชีวิตของจุนเคเมื่อต้นปีที่แล้วกับการสูญเสียคุณพ่อไปอย่างไม่คาดฝัน
ผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตัวเองร้องไห้ออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำตอนรู้ข่าว...แต่กลับร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กตัวเล็กๆตอนที่เพื่อนของเขาเดินเข้ามากอดเขาเอาไว้
...นี่แหละคือเวลาีที่จุนเคเอนตัวลงไปพึ่งพิงเพื่อนๆได้อย่างวางใจ โดยที่รู้ว่าเขาถูกโอบอุ้มโดยครอบครัวของเขาเอง
~and i never thought id feel this way and as far as im concerned
im glad i got the chance to say that i do believe i love you~
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะรู้สึกแบบนี้ขึ้นมา ค่อยๆตรึกตรองกับความรู้สึกนี้
ดีใจนะ...ในที่สุดฉันก็มีโอกาสสักทีที่จะบอกกับนายว่า ฉันรักนายนะเพื่อน
เราเชื่อว่าจุนเคเลือกเพลงนี้มาร้องด้วยความรู้สึกที่อยากบอกขอบคุณเพื่อนๆอีกห้าคนของเขาที่พาเขาผ่านช่วงเวลายากลำบากมาด้วยกัน
และเชื่ออีกอย่างว่าไม่ใช่เพราะแค่เหตุการณ์เลวร้ายของตัวเองที่ต้องเจอ แต่รวมถึงเรื่องราวยากลำบากของ "คุณ" ที่พวกเขาผ่านมันมาด้วยกัน
จุนเคไม่ใช่แค่ผ่านเหตุการณ์ต้องพึ่งพิงเพื่อน แต่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้คนซึ่งปกติแล้วเคยเป็นหลักให้เพื่อนๆพึ่งพิงได้อย่างวางใจเสมออย่างนิชคุณกลับซวนเซจนแทบลุกไม่ไหว ต้องให้พวกเขาที่เหลืออีกห้าคนเป็นหลักยึดเพื่อให้สามารถลุกกลับขึ้นมายืนอย่างเข้มแข็งอีกครั้ง
พวกเขาต่างผ่านการเป็นหลักให้เพื่อน และรู้ที่จะยื่นมือมาขอความช่วยเหลือในเวลาที่ไม่อาจฝืนยืนได้ด้วยตัวเอง
พอจุนเคร้องท่อนนี้ขึ้นมา
~keep smilin, keep shinin knowin you can always count on me, for sure~
เราเห็นภาพคุณลอยมากับเหตุการณ์ที่คุณต้องเจอมาตลอดปีกว่าๆจนถึงตอนนี้ เราเหมือนได้ยินผู้ชายพวกนี้บอกกับคุณให้พยายามกลับมายิ้มแบบที่คุณเคยยิ้มอีกครั้ง และกลับมาส่องแสงในแบบที่คุณเท่านั้นจะส่องแสงแบบนั้นได้
...ตาของเราก็ร้อนเหลือเกินและหัวใจก็เจ็บกว่าที่เคยรับรู้
ขอบคุณที่ให้พวกเขาทั้งหกคนมีกันและกันในเวลาที่ยากลำบากเหลือเกิน...เราคิดแบบนี้
เพลงเพลงนี้อาจไม่เคยโดนจุนเคมากขนาดนี้มาก่อนก็เป็นได้ เราคิดแบบนั้น
หากเมื่อผ่านเหตุการณ์มากมายถาโถมในหนึ่งปีเขาคงได้เข้าใจ
เสียงร้องนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวเหล่านั้นและสื่อออกมาให้เรารู้สึกและรับรู้ได้โดยง่าย ภาพต่างๆที่เรารับรู้มาย้อนมาให้เห็นเหมือนฉากภาพยนตร์...เป็นภาพเลือนรางแต่ชัดเจนเหลือเกินในความรู้สึกจนน้ำลายขมคอไปหมด
...เราร้องไห้ไม่เพียงแค่เพราะรับรู้ตามเนื้อหาในเพลง แต่เรารู้สึกลึกลงไปกว่านั้น สัมผัสลงไปถึงเรื่องราวต่างๆของเจ้าของเสียงร้องกับความรู้สึกที่เขาอยากจะสื่อ
~for good times and bad times ill be on your side forever more thats what friends are for~
กับเวลาที่ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้ายแค่ไหน ฉันก็จะอยู่กับนายเสมอ เพราะนี่แหละคือ "เพื่อน"
หลายครั้งที่เราคิดถามติดตลกกับตัวเองว่าไม่น่าหลวมตัวมาเป็นแฟนคลับวงนี้เลย ถ้าเป็นแค่แฟนเพลง แค่ฟังเพลง ดูเพอร์ฟอร์มแมนซ์ก็คงไม่ต้องมารับรู้และรู้สึกไปกับทุกข์และสุขของคนแปลกหน้าหกคนมาตลอดหลายปีแบบนี้ หลายครั้งถึงกับถอนใจแล้วบ่นว่าพวกแกช่วยมีความสุขมากกว่านี้อีกนิดแล้วเป็นเพื่อนกับความทุกข์ให้มันน้อยลงอีกหน่อยเถอะนะ
ไม่รู้หรือว่า...ไม่ว่าพวกแกจะเจอทุกข์หรือสุขมันส่งผลกระทบไม่ใช่แค่พวกแกนะ แต่มันกลายเป็นระลอกคลื่นระลอกใหญ่ส่งผลกว้างไกลกว่าที่พวกแกคิดเลยรู้บ้างไหม ช่วยเห็นใจกันบ้างเถอะนะ
แค่่เพลงเพลงหนึ่งกับเสียงร้องคนคนหนึ่งกลับพาภาพหลายภาพกลับคืนมาพร้อมกับความรู้สึกในช่วงเวลานั้น
น้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ
ไม่ใช่เพราะผู้ชายหกคนต้องเจอเรื่องยากลำบากมามากมาย
แต่เราร้องไห้ให้กับความเป็นเพื่อนของพวกเขาทั้งหกคน ร้องไห้ที่พวกเขายังมีกันและกันเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
...เพื่อนกันไปตลอดไม่ว่าสักวันอาจต้องห่างกันไปไกลแค่ไหนก็ตาม
VIDEO
เสียงร้องของจุนเคยังคงคลอเบาๆอยู่ข้างหู
เราเคยบอกกับตัวเองว่าไม่อยากเขียนแบบที่ทำให้ต้่องรู้สึกอายเวลาย้อนกลับมาอ่านอีกแล้ว
แต่ครั้งนี้ รอยเปียกชื้นที่ขอบตายังคงอยู่ เราอยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้...กับตัวเรา คนที่ยังคงหลงเหลือความเขลาในวัยเยาว์อยู่สินะ
But this is not entry which I expected , it unexpected entry from you again.
You surprised me with touching wording most of it I can feel what do you want to share.( I guess )
really miss you girl.
back to work now ....