My Life; My Destiny.
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าจากอเมริกา ตอน เรื่องของ “ของฝาก“ จากเมืองนอก

เมื่อต้องเตรียมตัวกลับ “แดนสยาม“ แผ่นดินเกิดของเรา ความโอลาหลก็มักจะเกิดขึ้น เพราะบางที คุณนายกระเหรี่ยง ไม่ได้ให้เวลาตัวเองคิดเลย จู่ ๆ ก็บอกนายจอมยุ่งว่ะ “จันทร์หน้า ชั้นไปกรุงเทพนะ“ อิ อิ นายตัวดี กำลังกินข้าวเช้าอยู่ ถึงกับ “เหลือบ“ สายตามามอง พร้อมคิดว่า “เมียกู ของขึ้นอีกแล้วเหรอเนี่ย“

คราวนี้ เวลาไปกรุงเทพเนี่ย นอกจากจะต้องหอบสมบัติบ้า ไปถวายให้โคตรเหง้าของเราแล้ว บางที (ยังใจดี) รับฝากของชาวบ้านอีกต่างหาก ป.ล. คำว่า “รับฝาก“ ในที่นี้ เป็น Past Tense ค่ะ เป็นอดีต ไม่มีปัจจุบัน ไม่มีอนาคต เพราะไม่รับอีกแล้วในชีวิตนี้ ไม่ว่าจะรับไป หรือรับกลับ

เรื่องรับฝากของนี่ มีหลายตอนมาก เดี๋ยวขอคั้นแต่ “หัวกะทิ“ มาเล่าให้ฟังล่ะกัน เอาเรื่องที่ทำให้ การ “รับฝาก“ เป็นอดีตก่อนเลยดีกว่า เด็ดที่สุด เพราะกินใจกันมาก ๆ ทั้งคนรับฝาก คนฝาก และจอมจุ้นของคนรับฝาก (ที่ “เจือก“ เข้ามาเชียว … แบบว่า กลัวตกข่าว) ใครว่า “ฝรั่ง“ ไม่ค่อยสนใจเรื่องชาวบ้าน กระเหรี่ยงขอเถียงอย่างแรง สุดยอดของความสอดรู้สอดเห็นเลย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (บ้าป่ะว่ะเนี่ย) อืมมม…นั่นแหละ ตอนที่ย้ายมาอยู่เมืองโอมาฮ่าใหม่ ๆ จอมจุ้นก็กระหื่นกระหาย อยากให้คุณเมียมีเพื่อน แบบว่า กลัวเราเหงาสุด ๆ ก็พากันตะลอน ๆ จนได้ผองเพื่อนชาวสยาม กลุ่มใหญ่พอตัว

อยู่ไปนาน ๆ เริ่มเซ็งค่ะ ทำไมมันวุ่นวายจังว่ะ คนนั้นชวนเราเกลียดคนนี้ คนโน้นนินทาอีกคนหนึ่ง ประมาณนี้ นานวันเค้า นังกระเหรี่ยงเลยพยายาม แอบ ๆ ตัด “เนื้อร้าย“ เหล่านี้ทิ้งไป เพราะว่า ปวดกระโหลกเหลือเกิน เรื่องมาก รำคาญหู (เอ๊ะ… หรือว่า พวกเค้าเหล่านั้น เห็นตูเป็น “เนื้อร้าย“ ว่ะ) อ่ะน่า ขออนุญาตเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน

เข้าเรื่องนะ แพร่มนานไปนิ๊ด แรก ๆ ไปเมืองไทย บุคคลเหล่านี้ ก็ขยันเอาของมาฝาก ให้เราหอบไปให้โคตรเหง้าสักกะหลาดของเค้ากัน ไอ้เราก็น่ะ อีลูกช่างหอบ ก็รับฝากเค้า แบบไม่ได้คิดอะไร (เป็นคนดีจริง ๆ)

บ่อยครั้งเข้า (เน้นว่า บ่อยครั้งมาก เพราะกลับเมืองไทยทุก ๆ สามเดือน) เขาเหล่านี้ ก็เริ่ม “บุกหนัก“ ค่ะ จากฝากนาฬิกา น้ำหอมขวดเล็ก ๆ หรือของกระจุกกระจิก เค้าก็เริ่มฝากของกันเป็นลัง ๆ นังกระเหรี่ยง เริ่มเซ็งตอนที่ทราบว่า ไอ้ของบางส่วนเนี่ย หอบไปให้คนข้างบ้าน ของพี่ ๆ เหล่านี้ด้วย เจ๋งม่ะค่ะ ? ฝากกันจนบางครั้ง เราต้องเอาของเราออก หิ้วของชาวบ้านไป คิดดูดิว่า อีนี่ “ซื่อบื้อ“ ขนาดไหน ดำเนินชีวิต เหมือนพวกสมองหมา ปัญญาควาย

ฝากไปกรุงเทพแล้ว ยังไม่พอค่ะ มีของฝากจากทางโน้น มาทางนี้อีกต่างหาก เห้อ แค่นั่งเขียนอยู่เนี่ย ก็นึกถึงภาพออก พาลให้เหนื่อยใจไปด้วย

มีพี่คนหนึ่ง ขออนุญาตใส่โค้ดให้ว่า “พี่เกรงใจ“ พี่เกรงใจเนี่ย ความจริงไม่ได้สนิทกับเค้าเลยด้วย ไม่รู้มาตีสนิทเราได้ไง ไอ้ความงี่เง่าของพี่เค้าเนี่ย สามารถเอามาเขียนได้เยอะมาก แต่อย่าเอาเค้ามาเผาเลย เดี๋ยวต้องตกนรกไปเจอกันอีก

พี่เกรงใจ ชอบฝากของเยอะมาก ด้วยติ๊ต่างว่า เราสนิทกัน (กูล่ะงง) อ่ะนะ ไม่เป็นไร เราก็รับฝาก ครั้งแรกไม่เท่าไหร่ มาครั้งถัด ๆ ไป พี่เกรงใจ ก็เอาของมาให้หนึ่งลัง บอกว่า ฝากไปกรุงเทพหน่อยนะ อ่ะ…ก็รับไป ครั้งถัดมา พี่เกรงใจ ก็มาบ้านเรา พร้อมกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ ภายในบรรจุสมบัติบ้า …เต็มพิกัด

เหอ เหอ หนูก็งงซิค่ะ มองหน้าพี่เกรงใจนิด ๆ ยังไม่ทันเอ่ยปาก พี่เกรงใจก็บอกว่า แพทไปกับแฟน ได้กระเป๋าหลายใบ เอาของพี่ไปด้วยล่ะกันใบหนึ่ง พูดไม่ออกค่ะ รับของเค้ามาแบบงง ๆ เหมือนอยู่ในความฝัน มาตื่นจากความฝันได้ ก็ตอนที่จอมจุ้น กลับจากที่ทำงาน มา “ด่า“ เมียตัวเอง ข้อหา “โง่เง่านัก“ เห้อ…สดุ้งตื่นเลย ฝันนั้นก็เสือกเป็นจริงอีก ไอ้กระเป๋านรกนั้น นั่งนิ่งอยู่ในห้องรับแขกบ้านเรา มองตาปริบ ๆ พี่เกรงใจนะคะ ทำหนูได้

หอบของพี่เกรงใจ กลับไปกรุงเทพแล้ว วันที่พี่ชายของพี่เกรงใจ มารับของ ก็เดินเข้ามาในบ้านของเรา พร้อม ๆ กับลังขนาดย่อม ลังหนึ่ง เอ่อ… เปิดออกมาดูแล้ว ตระการตามาก ๆ ค่ะ มาม่าเพียบเลย พร้อมกับขนมสารพัดชนิด เหมือนกับจะให้เราขน “ตลาดดอนหวาย“ กลับเมืองมะกัน หม่อมแม่ของเรา มาเรียบ ๆ มอง ๆ แล้วก็อุทานว่า “ว๊าย อกอีแป้นจะแตก…ทำไมเค้าฝากกันมากมายขนาดนี้“ ฮ่า ฮ่า


ด้วยความที่แม่ รัก ลูก วันนั้นทั้งวัน แม่ก็ “จิกหัวด่า“ ลูกสาวสุดที่รักทั้งวัน ถึงความโง่เง่า ไม่มีปากเสียง (ตู…ทำไมซวยซ้ำซ้อนฟ่ะ) บวกกับตอนนั้นอ่ะ ไอ้ของที่เราจะหอบกลับมาน่ะ เพียบอยู่แล้ว จอมยุ่งก็ชิ่งกลับไปก่อนซะด้วย

เฮ้อ … ต้องตัดใจ ตัดของ ๆ พี่เกรงใจ คือ เอากลับมาได้แค่จำนวนหนึ่ง เนื่องจากกระเป๋ามันเต็มจริง ๆ พอกับมาถึงเมืองมะกันแล้ว วันที่พี่เกรงใจ มารับของ พี่แกก็ทำหน้าแบบว่า ผิดหวังมาก ๆ อันนั้น คือ เหตุการณ์ที่กินใจกันครั้งแรก จากนั้นมา พี่เกรงใจ ก็หายเงียบไปเลย (ไอ้เราก็ดีใจ อิ อิ) ไม่ค่อยได้สุงสิงกัน

กลับเมืองไทยครั้งต่อไป (ยังไม่เข็ด) กระเหรี่ยงก็อีเมลล์ไปบอกพวกพ้องว่า ใครมีของจะฝากไปเมืองไทย ก็ให้เอามาให้ วันอาทิตย์เป็น Dateline พี่เกรงใจ ตอบกลับมาว่า “No, Thanks” เราอ่านดูแล้ว รู้สึกว่าเค้าเสียมารยาทสุด ๆ ไม่รู้นะ ตัวหนังสือมันตีความได้หลายแบบ แต่เราเลือกตีความในทางไม่ดี หุ หุ

ก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ ไม่มีอะไรฝาก ก็ไม่ว่า คือ ความจริงแล้ว เค้ายังโกรธอยู่ไง เค้าไม่พูดกับเรา คราวนี้ พอถึงวันอาทิตย์ที่ว่า กระเหรี่ยงกลับจากชอปปิ้ง ก็เห็นถุงพลาสติคห้อยอยู่ที่ลูกบิดประตู ก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าพ่อสามีเอาของมาทิ้งไว้ให้ เห็นซองจดหมายอยู่ในถุง แหะ แหะ เราก็ฉีกอ่านเลยซิค่ะ (ก็นึกว่า ของ ๆ เรานี่)

แป่ว….ปรากฎว่า มันเป็นจดหมายที่พี่เกรงใจ เค้าเขียนให้พี่ชายเค้าอ่ะ (แล้วตูจะรู้ได้ไงฟ่ะ) ทำไงดีอ่ะ ฉีกไปแล้วด้วย แต่ไม่ได้อ่านทั้งหมดนะ เดี๋ยวจะหาว่าสาวมั่นอย่างเรา เสียมารยาท อิ อิ

คืนนั้น พอดีไม่มีเวลาโทรไปบอกพี่เค้า เพราะต้องตื่นตีห้า เตรียมตัวออกเดินทาง ตอนแรก ก็กังวลอยู่เหมือนกัน กลัวเค้าโกรธ แต่เราจริงใจไง เราเลยคิด (ไปเอง) ว่า เออ เดี๋ยวเราบอกความจริงเค้าดีว่า ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ก็เราไม่ได้ตั้งใจเปิดจริง ๆ นี่หว่า คือว่า ตอนนั้น จะเปลี่ยนซองแล้วปิดผนึกใหม่ก็ได้ แต่เราเลือกไม่ทำ เพราะถือว่าเป็นการหลบซ่อนความผิด

วันที่พี่ชายพี่เกรงใจมารับของ เราก็อธิบายให้เค้าฟัง ว่าเรื่องมันเป็นยังไง ก็นึกว่าเค้าจะเข้าใจ แต่เค้าคงไปบอกน้องสาวเค้ามั้ง สองสามวันถัดมา กระเหรี่ยงก็เข้าไปเช็คเมลล์ หึ หึ วันนั้น น้ำตาแทบล่วงเลย พี่เกรงใจเขียนมาด่าแบบเสีย ๆ หาย ๆ มาก (ด่าว่าอะไร คนอ่านอย่ารู้เลยนะคะ) ประมาณว่า ทำไมถึงไม่มีมารยาทแบบนี้ (แล้วตูจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าหล่อนจะเอาของมาห้อยไว้กับประตู) คนมีมารยาท (ตามธรรมเนียมมะกัน) จะมาบ้านคนอื่น ต้องโทรมาบอกก่อนดิ

สองจิตสองใจ ว่าจะตอบกลับดีหรือเปล่า แบบว่า ถือคติว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ไอ้ตัวซาตาน มากระซิบหูว่า กด Reply เลยน้อง หุ หุ เชื่อซาตานค่ะ กดคลิ๊ก ทันใดนั้นเลย แล้วก็โซโลเลยค่ะ Blah Blah Blah ….หล่อนคิดว่าหล่อนเป็นใคร อยู่ดี ๆ มาด่าชั้น

เหอ เหอ แค่นั้นแหละ ไม่เคยได้ยินเสียงพี่เกรงใจอีกเลย จนกระทั่งบัดนี้ แบบนี้ต้องจับ “ตบ“ ใช่ป่ะค่ะ ??????





Create Date : 28 กรกฎาคม 2549
Last Update : 28 กรกฎาคม 2549 5:00:21 น. 18 comments
Counter : 1498 Pageviews.

 
โหเจ้ เจ้นะเจ้ไปตอบกลับเค้าทำไม ไม่รอให้เค้าเอารถ กับ บ้านมาฝากก่อนละ
(ยกนิ้วให้พี่เกรงใจเลย สุดยอดของความ(ไม่)เกรงในเลยอ่ะ อยากนี้ต้องเอาของฝากไปกินเอง ไม่ขนหรอกตั้งเป็นลัง ไม่ได้มีเรือบรรทุกสินค้านะยะพี่เกรงใจ


โดย: เวฟ IP: 71.127.6.13 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:28:24 น.  

 


คนอย่างนี้ก็มีด้วย

เห็นใจคุณมากๆเลยค่ะ นัทว่าที่คุณทำไปนะ ไม่มากไปหรอก สมควรแล้วละ


โดย: Picike วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:53:08 น.  

 
สมควรตอบกลับไปที่สุด น่าจะเจอแรงกว่านี้นะพี่เกรงใจน่ะค่ะ ก้อดีเดี๋ยวนี้กลับกรุงเทพฯ ตัวเบาเลยสิคะ ดีใจด้วยนะคะ ที่คิดได้น่ะค่ะ ดีใจด้วยนะที่ซาตานมากระซิบ


โดย: sheer bliss IP: 71.106.8.123 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:6:20:20 น.  

 
เข็ดค่ะเข็ด ขนาดไม่ได้เจอเอง แต่ได้ยินมาเยอะว่าคนที่ไปฝากของเค้าน่ะ เอาคนที่รับฝากมาด่าให้เราฟัง โกรธแทนอ่ะค่ะ เราเลยไม่เคยรับฝากของใครหนักๆ เลย แค่จดหมายกับของเล็กๆ น้อยๆ เพราะกลัวเค้าเอาเราไปด่าด้วยคน เสียความรู้สึกอย่างแรงค่ะ


โดย: สร้อยสายรุ้ง วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:15:29 น.  

 
โหย อ่านแล้วแบบ เซ็งงโคตร ๆๆ เซ็งแทนค่ะ ไอ้เรื่องของฝากนี่มันเป็นงี้จริง ๆ ค่ะ ไม่จบไม่สิ้น ไม่เอาไปก็หาว่าไม่มีน้ำใจ ไม่เอามาก็หาว่างั้นงี้ เข้าใจคุณกระเหรี่ยงเลยอ่ะ ดีนะที่พี่เกรงใจเค้าหายไปแล้ว ไม่งั้นต้องมีเม้งกันอีกยกนะคะ เฮ้อ..


โดย: naughty sugar วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:16:22 น.  

 
555 เป็นหนู๋ อ่ะ ตั้งแต่ อีแมวว่า no thanks แล้ว ไม่หิ้วให้ด้วย เอากองไว้อย่างนั้นอ่ะหล่ะ แล้วบอกว่าไม่เห็นหรือไม่ก็เอาไปทิ้งซะ แล้วบอกว่ามีโจรมันมาหยิบไปมั้ง แหม พี่แกก็ซะ


โดย: Jiguli วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:16:37 น.  

 
สถานการณ์แบบนี้นี่เอง


โดย: sunan IP: 124.120.93.176 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:56:57 น.  

 
โอ้โห..เจ๊ โกรธเจ๊ อ่ะ (อ่าวซะง้าน)
ก็ถ้าเป็นเรานะไอ้ถุงที่มาแขวนไว้หน้าบ้าน
จะไม่หิ้วไปให้หรอก เจ็บใจแทนตั้งแต่เห็น NO, Thanks แล้วมาแอบฝากทำไม

ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังนะ๊จ๊ะ
ไม่เหงาดี


โดย: kookai_tipu วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:14:06 น.  

 
ช่ายค่ะ แบบนี้ต้องจับ "..." โลด อย่างที่พี่แพทบอกอ่ะค่ะ


โดย: น้องเต้ IP: 61.47.104.11 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:39:13 น.  

 
ยังน้อยไปนะ...อย่างนี้ต้องด่าตบด่าตบจ้าน้องแพท


โดย: พี่พจนีย์ IP: 125.25.17.173 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:38:27 น.  

 
อีกแหละเราก้อประสบการณ์เหมียนกัล ของอิฉันหน่ะ เท้ายังไม่ได้สัมผัสแผ่นดินยูเอสเลยคะ ก็มีคนมาฝากของกลับมาที่นี่แระ เค้าเป็นเพื่อนสนิทของแม่สามี เป็นคนไทยร้อยเปอเซ็ง ฝากของมา 1 ลังน้ำปลาหนักมาก เสียตังค์อีกต่างหาก เฮ้อ...
ดีใจนะคะ ที่คุณแพทเชื่อพี่ซาตาน เป็นเรา ก้อจะทำเหมือนคุณแพทแหละ คนอาร้าย ไม่รู้จักบุญคุณ


โดย: มะปรางเปรี้ยว (มะปรางเปรี้ยว ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:10:34 น.  

 
มาอ่านประสบการณ์ เรื่องฝากของ.....

เออ....จริงแฮะ....ดีที่นี่ไม่ค่อนมีคนไทยอ่ะ หรือมี หว่า แต่เราไม่ไปเสาะแสวงหา เลยไม่ค่อยมีเรื่องแบบเนี๊ยะ

แต่ก็เป็นอุทาหรณ์ให้พี่ตุ๊กตาดีคะ ขอบคุง......

อย่าว่าแต่ของฝากที่มีคนฝากเลยคะ นี่พี่ตุ๊กตา กรอกหูแม่อยุ่ทุกครั้งที่โทรกลับบ้าน....แม่...กลับเมื่อไหร่ จะไปแต่ตัวน๊ะ ไม่มีของฝากญาติทั้งนั้น เพราะว่า ทำงานที่นี่ เหนื่อยสายตัวแทบขาด อยู่เมืองไทย หรืออยู่เมืองนอกก็ทำงานแลกเงินเหมือนกัน...ฉะนั้น งดของฝาก อิอิ (เอาตังฝากแม่อย่างเดียว....พอ)

แต่ก็แหม.......ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีคนใจดีแบบเนี๊ยะ อีเมลย์ไปบอกเพื่อนอีกตะหาก จะฝากของกลับอ๊ะป่าว.....เฮ้อ...น้องสาวเรา.....

อ่านแล้วก็สนุก ขำดีคะ ชอบวะธีการเขียนเล่าเรื่องได้มันส์ดีอ่ะคะอิอิ

แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ค๊า.......



โดย: tukata001 วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:7:34:38 น.  

 
อรว่าป่านนี้พี่เกรงใจ(น้อยไปหน่อย)คงจะเริ่มไปตีสนิทกับคนอื่นแทนคุณแพทแล้วแหละค่ะ คุณแพทจะได้กลับบ้านโดยไม่ต้องมาใครมาฝากของจะได้ช้อปเยอะ ๆ ค่ะ


โดย: สะใภ้อิตาลี IP: 87.9.105.138 วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:57:00 น.  

 
แฟนเราจะกลับเมกา เพื่อนของแฟนอีกที เลยฝากของไปให้แฟนเค้า เช่นกัน ของฝากคือ ผ้าปูที่นอน คิง ไซด์ ห้าชุด คิดดูแล้วกันขนาดมันจะ มากมาย ขนาดไหน คนเราฝากกันแบบไม่เกรงใจเลย


โดย: ดา IP: 68.234.61.175 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:6:25:18 น.  

 
จะกลับกรุงเทพอาทิตย์หน้าตอนนี้กระเป้าเต็มไปด้วยของ(ชาวบ้าน) ทั้งที่ตังเองยังไม่ได้จัดกระเป้าเลย เซ็งมากเลยค่ะ ไม่รู้ต้องหิ้วขึ้นเครื่องด้วยเปล่า แต่คิดไว้ว่าหากเกินไปก็ทิ้งมันไว้แถวๆสนามบินหรือแถวๆนี้ อิอิ
ปากมานบอกเกรงใจๆๆ แต่มันดัสั่งซื้อของเพียบ เราต้องมาคอยรับของมานอีกต่างหาก ไม่รู้เมื่อไหร่เมืองไทยจะมีของที่มี จะได้เลิกฝากกัน


โดย: ฮิปโป IP: 72.154.210.49 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:44:12 น.  

 
บางครั้งการเชื่อซาตานก็ทำให้สุขภาพจิตดี


โดย: yuy IP: 59.167.146.155 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:36:44 น.  

 
นั่นนะสินะคะ แทนที่คนไทยน่าจะเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่เท่าที่เจอมาก็คล้าย ๆ กันค่ะ โชคดีที่เมืองนี้คนไทยน้อย แต่พอเจอก็เริ่มคบ ก็เป็นแบบว่าเอาลูกมาฝากทำงานที่ร้าน แต่ทำยังกะเจ้าของร้านซะเอง สามีพี่ก็บอกว่าเดี๋ยวเป็นได้เลิกคบกันแน่แล้วก็จริง ๆ ก็ต้องเลิกคบกับคนไทยไปเลย ไม่อยากคบเลย แต่เขาพยายามมาตอแยเรา ตอนนี้เราเลยไม่ยุ่งด้วยแล้วล่ะ โชคดีเราไหวตัวทันจ๊ะ ยืมหนังไปดู ก็คืนไม่ครบ เคยเจอแบบไม่คืน ทวงก็แล้ว จนเราอาย เลิกทวงอ่ะ เราอยู่กัน สองคนตายายดีกว่าเนอะ อยากได้อะไรก็ให้ที่บ้าน EMS มา 3-4 วันก็ถึงล่ะ ทางบ้านอยากได้อะไรเราก็ส่งไป ไม่ต้องไปรบกวนใคร จริงแมะ เนอะะะะะ


โดย: shnkitty วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:4:17:54 น.  

 
เราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทยคบค่ะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของฝาก

แต่คุณแพทก็อึดนะคะ เป็นเราเราคงเลิกคบพี่เกรงใจไปแล้ว เพราะเราเป็นคนขี้รำคาญ

มิน่าถึงไม่ค่อยมีใครคบกะเรา


โดย: ลูกแม่ดอกบัว วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:9:08:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lilac Girl
Location :
The Land of 10,000 Lakes United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม Blog ของเรานะคะ มีอะไรแนะนำจะให้เขียน รบกวนเขียนฝากไว้ด้วยค่ะ

Disclaimer: ทุกข้อความใน Blog นี้ เราเขียนเรื่องจากประสบการณ์เท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายใคร และหากเรื่องที่เขียนไปกระทบใจใคร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้ไว้ ก็เป็นเพียงข้อมูลจากประสบการณ์จริงเท่านั้นค่ะ

***ประกาศ : ท่านที่นำเนื้อหาในบล็อคของเราไปแปะไว้ในเว็ปอื่น ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยกันเปิดเผยข้อมูล แต่ขอความกรุณาซักนิด แจ้งให้เราทราบด้วยนะคะ ให้เครดิตคนเขียนกันบ้างค่ะ ***

New Comments
Friends' blogs
[Add Lilac Girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.