ทัวร์สิ้นปี
31 ธันวาคม 2549ขณะเล่นเกมส์ ออดิชั่นอยู่ เพื่อนในเกมส์บอกว่าเกิดเหตุระเบิดที่ กรุงเทพฯ 8 จุด มีคนตายด้วย ทราบข่าวว่าคนที่ตายเป็นผู้ชาย โดนสะเก็ดระเบิดด้านหลังปอดฉีกขาดและเสียเลือดมาก ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งคุณผู้ชายคนที่เสียชีวิตนี้ ยืนอยู่ด้านหลังนักศึกษาวิศวะ ปีที่ 3 มหาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บเช่นกัน คุณนักศึกษาวิศวะ จึงซาบซึ้งถึงบุญคุณครั้งนี้ เพราะหากคุณผู้ชายไม่ได้บังเอิญยืนอยู่ด้านหลัง คงเป็นนักศึกษาวิศวะ คนนี้ต้องเสียชีวิต สงบนิ่งให้คุณผู้ชายคะ อย่างไรก็ตามแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปนับถอยหลังนับถอยหลังปีนี้สนุก และมีความสุขเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ หนาวกว่าปีก่อนๆ พี่เจี๊ยบ น้องหนับหนุน พี่เล็ก พี่ราย พี่ผึ้ง พี่เล็กน้อง และเราและอีกหลายๆ ชีวิตไปดูการแสดงแสงสีเสียง ที่เนินเขาเล็กๆ ที่ถูกตั้งชื่อว่า พระที่นั่งรัตนรังสรรค์ ซึ่งปกติสถานที่นี้จะใช้จัดแสดงงานต่างๆ ของจังหวัดระนอง เมืองเล็กๆ น่าอยู่แห่งนี้ แม้ว่าวันนี้ข่าวการระเบิดกรุงเทพฯ จะดังสนั่นจนอาจทำให้เพื่อนอ้อยของเรา แม้ว่าจะนัดกันแล้วก็หายเข้าไปในกลีบเมฆ เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่ได้มายืนดูพลุ ครอบครัวพุ ที่เค้าจุดกันจนคนยืนดูอย่างเราและประชาชน อีกหลายคนที่ยืนดูอยู่เมื่อยคอ สวยงามคะ คุ้มกับที่ยืนรอพักใหญ่ๆ 1 มกราคม 2550ปีใหม่ของจริง ออกเดินทางไป จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่ากันว่าหาดทรายเค้างาม ไปถึงที่แรก อ่าวมะนาว สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเราเป็นอันมากเพราะชอบทะเล (พอคุยกับเพื่อนเปิ้ลบอกว่า "กูว่าธรรมดาวะมึง เที่ยวชุมพรดีกว่า" เออ มึงธรรมดา แต่สวยกูอะ) เข้าพักที่เปี่ยมสุขรีสอร์ท ห้องพักคืนละ 600 บาท น่านอนสะอาด ใหม่ เต็มใจบริการ ใกล้กองบิน 53 ที่พรุ่งนี้เราจะไปกันอีกหลายจุดดึกดื่น ออกไปหาซื้อแปรงฟัน และหาอะไรใส่พุง ตลาดโต้รุ่ง อยู่ที่หน้าเทศบาล โอเพ่นแอร์คะ ทุกอย่าง 20 บาท ถูกแต่หนาว ถูกใจ ปลาหมึกไข่ ย่างตัวละ 15 บาท หนึ่งร้อยบาท 5 เมนู อิ่มแทบอ้วก กลับมานอน สบายใจแฮใจ พรุ่งนี้มีแรงลุยต่อ2 มกราคม 2550เริ่มต้นกันที่ศาลเจ้าพ่อล้อมหมวก เป็นที่เล่าขานว่าท่านเป็นชาวจีน และมีปาฏิหารย์ให้จังหวัดประจวบฯ ร่มเย็นเป็นสุข มีลิงค่าง อยู่หลายฝูง หน้าตาน่ารัก มารอให้คนป้อนอาหารอยู่ มีป้ายห้ามให้ถั่วฝักยาว อาจะเป็นเพราะลิงกินแล้วอาจป่วย อันนี้เดาเอานะคะ ต่อด้วยพิพิทธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ กองบิน 53 ซึ่ง คุณลุงมัคคุเทศก์ ได้เล่าให้ฟังว่าเป็นที่มั่นสุดท้ายของกองทหารที่ต้านญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นที่เซ็นลงนามสงบศึก กับญี่ปุ่น ตลอดจน เป็นที่ฝังศพของคนไทย 36 คน ที่เสียชีวิตในเหตุการ์นั้น และมี ยุวชนทหารที่เสียชีวิตขณะกำลังส่งเสบียง และ อาวุธยุทธโธปกรณ์ด้วย 1 ชีวิต และแม่บ้านทหาร 2 คน คุณลุงเล่าได้กระชับ เข้าใจ มีมัลติมีเดีย ให้ชม มัคคุเทศก์น้อย รับช่วงต่อจากคุณลุงทหารคนแรก เล่าเรื่องพาเราเดินดูอาคารที่พักซึ่งสร้างก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และเล่าเรื่องราวโดยละเอียดให้เราฟัง น้องต้อมคนเก่ง ประทับใจพี่มากคะ บัตรเข้าชม 40 บาท คุ้มมากๆสถานที่ต่อมาเวียนดู ศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เลิศหรู อลังการงานสร้าง ดาวล้านดวง เสียดายไม่ได้ชักภาพสักใบ เพราะใจจดจ่อที่ วัดพระธาตุถำคั่นกระได พิชิต 346 ขั้นบันได ไม่มีปัญหาแม้ขาจะสั่นบ้าง แต่ปัญหาก็คือ ลิงเยอะมาก ทำให้เราไปได้ครึ่งเดียว เกิดโรคปอดแหกกับตัวเอง จึงต้องเดินลงมารอที่ศาลาพักขั้นแรก และกลับไปซื้อกับข้าวกินที่ร้านสวัสดิการทหารในกองบิน 53 เช่นเคย แต่คราวนี้เราเปลี่ยนสถานที่เป็นปูเสื่อ กินริมทะเลเล็กน้อยสำหรับ ห่อหมกสูตรต้นตำรับ อย่าคิดว่าเค้าใจใส่เนื้อปูทั้งตัวในห่อหมก ราคา 10 บาท/ห่อคะ ที่เราสัมผัสได้คือ ปูแปะหน้า ห่อหมก 10 6 ห่อ 50 บาท อิ่มแล้วไปต่อพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอมีหลายเสียงบอกว่าให้ไปดูเหอะ เพราะสวยกว่าที่พารากอน แถมดูฟรีคะมีอุโมงค์ใต้น้ำเช่นกัน สวยคะ แต่แอร์ร้อนไปนิด ดูฟรีนะคะ ถึงเวลากลับแล้วขากลับระหว่างทาง เราแวะไปที่ อ.สะพานใหญ่ กะจะไปหาดแม่รำพึง หาดทรายขาว หาดอ่าวทอง ทั้ง 3 หาด เราได้ไปหาดแม่รำพึง หาดอ่าวทอง ส่วนหาดทรายขาวนั้นหาทางไปไม่เจอเพราะหลงทาง คะ ไม่มีอะไรแต่เราว่าอ่าวมะนาวสวยกว่าเดินทางถึงบ้าน 5 ทุ่ม เพราะระหว่างทางแวะเยี่ยมแม่แก่ ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หลงทางเช่นเคยแต่สนุก ประมาณ 3 ทุ่มจึงขอตัวลากลับมาพักผ่อน
ขออวยพรต่ออีกสักวันสองวันนะคะ
Each moment in a day
has its own value.
Morning brings HOPE,
Afternoon brings FAITH,
Evening brings LOVE,
Night brings REST,
Hope you will all of them everyday.
HAPPY NEW YEAR.