|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
American Sniper - Chris Kyle
American Sniper : The Autobiography of the Most Lethal Sniper in U.S. Military History
เล่มนี้เป็น Memorial Edition คือเคยพิมพ์มาครั้งหนึ่งแล้วตอนต้นปี 2013 ด้วยปกนี้
พิมพ์ซ้ำด้วยปกใหม่หลังการตายของเขาในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2013 คือหลังจากที่ฉบับพิมพ์ครั้งแรกวางแผงได้ไม่ถึงเดือน
American Sniper เป็นอัตชีวประวัติของ Chris Kyle ซึ่งเป็น sniper ที่ว่ากันว่าแม่นที่สุดในประวัติศาสตร์การทหารของสหรัฐอเมริกา เขามีประวัติว่าสังหารฝ่ายตรงข้ามมา 160 คน Kyle เป็น Navy SEAL ปฏิบัติการในช่วงสงครามอิรัค 4 รอบ ได้รับเหรียญกล้าหาญมากมายอย่างเช่น Silver Stars 2 เหรียญ Bronze Star 5 เหรียญ เหรียญสดุดีจาก Marine Corps และรางวัลแสดงความชื่นชมจาก Jewish Institute for National Security Affairs
หนังสือเล่มนี้มีผู้เขียนร่วมคือ Jim DeFelice กับ Scott McEwan ซึ่งก็คงเป็น ghost writers นั่นแหละค่ะ ระหว่างที่อ่านคิดตลอดเลยว่าถ้า Chris เขียนเองนี่รับรองว่าเป็นนักเขียนได้สบายๆ เลยเพราะเล่าเรื่องได้เก่งมาก อ่านแล้วติดหนึบวางแทบไม่ลงเลยค่ะ ทั้งๆ ที่ตอนนี้กำลังติดซีรีย์เกาหลีชนิดงอมแงมจนต้องมานั่งอ่านที่ที่ทำงาน
Chris เล่าเกี่ยวกับตัวเองเริ่มตั้งแต่เล็กๆ ที่เมือง Odessa รัฐ Texas เล่าว่าเขาล่าสัตว์ด้วยปืนไรเฟิล (คือหลงไหลปืนมาแต่เล็กๆ) เล่าว่าเขามีพรสวรรค์ในการฝึกม้า สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเขาฝึกม้าเก่งมากจนมีงานพิเศษทำ คือเป็น professional bronco rodeo rider จนกระทั่งบาดเจ็บก็เลยเลิก เขามีความสนใจจะเป็นผู้จัดการ ranch หลังเรียนจบเขาเข้าทำงานในไร่ที่รัฐ Colorado ต่อมาในปี 1999 สมัครเข้าเป็นทหารเรือ ผู้รับสมัครถามเขาว่าเขาสนใจจะเป็น SEAL หรือเปล่า เมื่อเขาแสดงความสนใจก็ได้เข้าฝึก ปรากฏว่าเป็นหนึ่งในทหารเพียง 10% ที่ผ่านการฝึกคราวนั้น
จากนั้นก็มาถึงส่วนที่น่าสนใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือเมื่อเขาเล่าถึงว่า special operations units ทำงานกันอย่างไร อย่างเช่น Army Rangers ประกอบด้วยหน่วยจู่โจมเป้าขนาดใหญ่ ในขณะที่ SEALs ปฏิบัติการที่อาศัยความรวดเร็ว เฉียบคมและแม่นยำสูงสุด มีเป้าขนาดเล็กแต่มีความสำคัญสดยอด อย่างเช่น SEAL Team 6 ที่ถูกส่งไปฆ่า Osama bin Laden
งานแรกของ Chris คือในช่วงฤดูหนาวของปี 2002-2003 เขาร่วมกับทีม SEAL มีหน้าที่ขึ้นค้นเรือบรรทุกอาวุธผิดกฏหมายบริเวณอ่าวเปอร์เซียนอกฝั่งประเทศอิรัค
และเมื่อสงครามอิรัคเริ่มต้นในเดือนมีนาคมปี 2003 ใน Operation Iraqi Freedom เขากลายเป็นพลปืนในหน่วย forward-deployed SEAL (แปลเป็นไทยว่าไงก็ไม่ทราบ) มีหน้าที่สอดแนมและสนับสนุน Army และ Marine Corps ถึงตอนนี้ในหนังสือเล่าเหมือนดูหนังสงคราม ทั้งสนุกทั้งตื่นเต้น ยิ่งเมื่อรู้ทั้งหมดที่เขาเล่าเป็นเรื่องจริง เป็นเหตุการณ์จริงที่รายงานจาก Pentagon ยืนยันก็ยิ่งตื่นเต้น เขาเล่าว่ายิ่งเมื่อ Iraq insurgents และองค์ประกอบฝ่ายตรงข้ามอื่นๆ รวมทั้ง al Queda ทวีความรุนแรงในการปฏิบัติการมากขึ้นเท่าไหร่ sniper ก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามรบที่เป็นชนบท
คำขวัญของบรรดา snipers คือ One shot, one kill ทักษะสำคัญอีกอย่างคือความสามารถในการแทรกแฝงเข้าไปในเขตแดนของฝ่ายตรงข้ามได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นเพื่อส่งกระสุนปืนเข้าสู่เป้าได้อย่างแม่นยำ ภาระกิจนั้นยุ่งยากหนักขึ้นไปอีกเมื่อ snipers ต้องแยกให้ได้ว่าใครคือข้าศึก ใครคือชาวบ้านเพราะ "Make an unjustified shot and you can be charged with murder." คือถ้ายิงพลาดไปถูกชาวบ้านเข้าจะถือว่าเป็นฆาตกรรม
เขาเล่าถึงพวก insurgents ว่าเป็นอย่างไร บางคนต้องอาศัยยาเสพติดเพื่อให้กล้าเสี่ยงตาย ชื่อเสียงความแม่นยำของ Kyle จากผลงานตามเมืองเสียงภัยอย่างเช่น Fallujah กับ Ramadi ทำให้เขากลายเป็นตำนาน เขาฆ่า insurgents ใน Ramadi มากเสียจน insurgents ที่นั่นตั้งค่าหัวเขา 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และให้สมญานามเขาว่า Al-Shaitan Ramadi หรือ the Devil of Ramadi
ผลงานที่เป็นตำนานที่สุดของเขาเกิดขึ้นนอกเมือง Sadr ในปี 2008 ตอนที่เขากำหนดเป้า insurgent คนหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปในระยะ 2,100 หลา เป็นระยะที่ไกลเกินกว่าปืนไรเฟิล .338 ของเขาจะยิงไปถึง แต่เขาก็ยอมเสี่ยง และฆ่า insurgent คนนั้นได้
หลังลาออกจากกองทัพเรือเขากลับบ้านเกิดคือรัฐ Texas ในปี 2009 วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2013 เขาถูก Eddie Ray Routh อดีตทหาร Marine เช่นกันซึ่งเขาพยายามให้ความช่วยเหลือเพราะ Routh มีอาการของ PTSD ยิงตาย Chris Kyle ตายเมื่ออายุเพียง 38 ปีเท่านั้นเองค่ะ
เรื่องนี้ใช้ตอบโจทย์ข้อ Non-fiction ใน Reading Bingo
วงเล็บไว้ตรงนี้ว่าที่จริงกำลังอ่านอยู่หลายเล่มเลยนะคะตอนนี้ แต่เพราะเหตุที่ว่ากำลังติดซีรย์เกาหลีอย่างรุนแรง กำลังตามดูอยู่ 2 เรื่องที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ (คือยังไม่จบ) คือเรื่อง Empress Ki กับ Secret Love Affair กับดูเรื่องเก่าๆ ที่ออกอากาศจบไปแล้ว ประเภทดูจนจบอาทิตย์ละเรื่องเลยแหละค่ะ บางเรื่องยาว 60 ตอนก็มี แล้วทีนี้ซีรีย์พวกนี้ใช้ sub-title ภาษาอังกฤษเพราะเขาพูดภาษาเกาหลีกัน เวลาดูก็ต้องอ่านตามไปด้วย เลยไม่มีปัญญาจะอ่านหนังสือในระหว่างนั้น
เผื่อมีใครสงสัยว่าอยู่อเมริกาแล้วดูจากไหน เป็นสมาชิก hulu ค่ะ มี section ของ Korean Drama โดยเฉพาะเลยค่ะ //www.hulu.com/tv/genres/korean-drama แต่ไม่ได้ดูทางเน็ตนะคะ ดูทางโทรทัศน์ผ่าน roku ค่ะ เพราะอย่างนี้เพื่อนๆ ร่วมเล่นเกมส์นี้อย่าเพิ่งตัดอิฉันออกจากกองมรดกนะคะ กะว่ายังไงก่อนสิ้นปีจะเติมวงกลมวงรีให้เต็มบอร์ดนั้นเลย
Create Date : 17 เมษายน 2557 |
|
7 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2557 5:52:32 น. |
Counter : 9920 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: prysang 17 เมษายน 2557 22:55:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 18 เมษายน 2557 7:14:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 19 เมษายน 2557 6:07:56 น. |
|
|
|
|
|
|
| บาเคอร์ | กุลธิดา | www.mebmarket.com | ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์
วันพรุ่งนี้
ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป
หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม | |
|
|
|
|
|
|
|
|