@-->- ฝนเทลงมา เทลงมา เทลงมา-<--@
...เวลาฝนตกคุณนึกถึงอะไร?...
ถ้าตกตอนเช้า...หลายคนคงนึกถึงลู่ทางที่จะใช้ถ้าไปถึงที่ทำงานสาย ส่วนคนว่างงานอย่างเรา คงนึกขอบคุณที่ทำให้การนอนสามารถยืดเวลาออกไปได้โดยไม่ต้องกลัวร้อน
ถ้าตกในตอนเย็น...หลายคนคงนึกให้ฝนมันตกไม่ตกตรงเวลาบ้าง ไม่ใช่ 5 โมงเย็นปุ๊บ ตกปั๊บ ถึงจะเลิกงาน แต่ฉันก็ต้องกลับบ้านนะยะ
ถ้าตกตอนอยู่บนรถเมล์...หลายคนคงนึกชอบใจที่อยู่บนรถแอร์แทนรถร้อน -____--" ประสบการณ์เช่นนี้ ถ้าคุณไม่เคยนั่งเมล์(ร้อน)มาเลย จะไม่รู้หรอกว่า มันอึดอัดขนาดไหน
ถ้าฝนตกแล้วเรานั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง...หลายคนคงเผลอใจแอบฮัมเพลงหวานๆ พร้อมกับนึกอยากให้ใครคนนั้นนั่งข้างๆอยู่ด้วยเป็นแน่ *วี๊ดวิ้ววววว*
ที่พูดมาทั้งหมดข้างต้น เราก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน (ไม่เว้่นแม้แต่ข้อสุดท้าย เอิ้กๆๆๆ)
เพียงแต่บางที...เรานึกย้อนกลับไปถึงฤดูฝนในสมัยเป็นเด็ก ในวันที่ไม่ต้องพะวงเรื่องเข้างาน หรือเรื่องของใครบางคน
พูดถึงหน้าฝนก็ต้องมาพร้อมกับการเปิดภาคเรียน...เป็นเรื่องที่ทรมาณใจนิดหน่อยที่ต้องคอยดูแลชุดนักเรียนชุดใหม่ไม่ให้เลอะดินเลอะโคลนที่มาพร้อมกับหน้าฝน (โดยเฉพาะรองเท้า)
ถ้าฝนตกในตอนเช้า พวกเราจะชอบมาก เพราะหมายถึงการยืนเข้าแถวหน้าห้องเรียน ไม่ต้องออกไปยืนกลางแดด แม้ครูจะโฆษณาชวนเชื่อว่า แดดอ่อนๆ ตอนเช้าอุดมไปด้วยวิตามิน D มันก็ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีตามวิตามินไปซะหน่อย เพราะฉะนั้น ถ้าฝนตกมาในตอนเช้า มันก็ทำให้วันที่แสนน่าเบื่อกลายเป็นวันที่พิเศษไปได้
ถ้าฝนตกในตอนบ่าย บางวิชาที่ต้องออกไปเรียนกลางสนาม ก็ต้องงดไปโดยปริยาย อันนี้แน่นอนว่า วิตามิน D ไม่เหลือแล้วแ่น่ๆ เพราะฉะนั้น ร้อนของจริง (ถึงครูพละจะโฆษณาชวนเชื่อต่อว่า เด็กๆ ต้องเข้มแข็ง อดทน) ฝนในตอนบ่ายมักจะตกไม่นาน หลังฝนตกเราก็จะเห็นสายรุ้งพาดผ่านกลางท้องฟ้า
แต่ถ้าฝนยังไม่หมดสนุก อยากตกนานๆให้สมหน้าที่ คราวนี้แหละ เริ่มจะไม่ค่อยมีความสุขกันบ้างแล้ว เริ่มจาก โรงเรียนเลิกแล้ว ก็เดินตัดสนามกลับบ้านไม่ได้ ต้องเดินไปตามทางแคบๆหน้าห้องเรียน ไปกระจุกตัวรอผู้ปกครองที่ห้องพักที่คับแคบไปถนัดตาเมื่อนักเรียนทั้งโรงเรียนหนีตาย เอ้ย หนีฝนมาอยู่ในที่เดียวกัน
ที่น่ากลัวสุดๆก็คือ ฟ้าร้องฟ้าผ่า ฟ้าแลบมาที ต่างคนต่างปล่อยกระเป่ายกนิ้วเล็กๆอุดหูกันเป็นแถบๆ ถึงตอนนี้ก็ยังกลัวอยู่ดี เพียงแต่มีมาดมากขึ้นเท่านั้น (แต่ในใจยังกรี๊ดนะ )
พูดถึงหน้าฝนตอนเด็กๆ ก็ต้องไม่ลืมที่จะพูดถึงเพลงนี้ด้วย
ฝนเทลงมา เทลงมา เทลงมา ให้นาตูฮง นาตูฮง นาตูฮง ให้ซ่งตูเปียก ซ่งตูเปียก ซ่งตูเปียก ให้เสื้อตูเปียก เสื้อตูเปียก เสื้อตูเปียก แมงตับเต่าออกลูกข้างหลังงงงง...นั่นแมงอันหยังงงง อ้อ แมงกีนุน แมงกีนุน แมงกีนุน ใต้ต้นบักเชียบ ต้นบักเชียบ ต้นบักเชียบ (ขออภัย พิมพ์เนื้อเป็นเสียงในฟิล์ม ไม่มีซับไตเติล เนื่องจากแปลไม่ถูกทุกวรรค^^")
จำได้ว่า ครูชอบให้นักเรียนร้องตอนฝนตก เมื่อฝนตกทีไร เพลงนี้จะลอยมาในความทรงจำทุกที รวมถึุงเจ้านี่ด้วย
"ฝนเอยทำไมจึงตก ฝนตกเพราะกบมันร้อง กบเอยทำไมจึงร้อง กบร้องเพราะท้องมันปวด ท้องเอยทำไมจึงปวด ท้องปวดเพราะข้าวมันดิบ ข้าวเอยทำไมจึงดิบ ข้าวดิบเพราะฟืนมันเปียก ฟืนเอยทำไมจึงเปียก ฟืนเปียกเพราะฝนมันตก ฝนเอยทำไมจึงตก ฝนตกเพราะกบมันร้อง" เริ่มวนไปเรื่อยๆ
หลังฝนตก...ทุกอย่างก็จะกระจ่างใส ในสนามหญ้า ก็จะเจิ่งนองไปด้วยน้ำ เป็นสัญญาณว่า วันรุ่งขึ้นเราได้เข้าแถวหน้าห้องเรียน(อีกแล้ว) ตามสองข้างทางเดิน จะเต็มไปด้วยกลีบดอกหางนกยูงฝรั่งสีส้มสด ที่ยับเยินเล็กน้อยจากพายุฝน แต่มันก็ยังคงมีค่าในสายตาเด็กๆอยู่ดี
การเสาะหา ดอกตูมของหางนกยูงที่หล่นลงมาตามแรงฝน กลายเป็นกิจกรรมสุดฮิตของเด็กประถมอย่างเราๆ เพราะเมื่อลอกเอากลีบอ่อนๆสีส้มที่อยู่ติดกับกลีบเลี้ยงสีเขียว ลอกออกมาเบาๆ เอามาติดที่เล็บ เราก็จะกลายเป็นหญิงสาวแสนสวยที่มีเล็บแดงยาวงาม
จินตนาการในวัยนั้น กระจ่างใสไม่แพ้บรรยากาศหลังฝนตกเลยทีเดียว
ปล.ป้ากระต่ายท่าพระจันทร์ถามว่า ทำไมบล็อกนี้จึงมีร่มแดง? อืมม์....
ก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก เพียงแต่เรานึกถึงหนังรักโรแมนติคอยู่สามเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับฝน แล้วนางเอกทั้งสามเรื่องนั้น ต่างใช้ร่มสีแดง
อาจเป็นความปรารถนาลึกๆของเราเองก็ได้ ที่ยังอยากเป็นหญิงสาวแสนสวย ทาเล็บสีแดง แล้วกางร่มสีแดง...เดินไปหาใครสักคน
ฝนตกในวันนี้...เหงาจัง
Create Date : 08 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 11 สิงหาคม 2548 1:09:34 น. |
|
6 comments
|
Counter : 5867 Pageviews. |
|
|
That's exactly what I like when I was a kid.
I'm so glad if it rain in the morning so that I just line up in front of the classroom instead. Love the smell of the earth & grass after the rain.
Actually I also like the sky after the rain in the afternoon too. Cuz it's painted with rainbow.