วันที่ 3-4 เที่ยวปราสาทบันทายสรี ทัวร์ปราสาทรอบใหญ่ และเดินเล่นเบาๆในเมืองเสียมราฐ

บลอกนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ขอรวมเรื่องเที่ยวในวันที่ 3 และ 4 เอาไว้ด้วยกันเลย

วันนี้ช่วงเช้าไปเที่ยวปราสาทบันทายสรี ใช้เวลาเดินทางจากเสียมราฐไปประมาณ 45 นาทีโดยรถยนต์
ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทที่สร้างได้ละเอียดงดงามที่สุดในกลุ่มปราสาทของกัมพูชา

ทางเข้าร่วมสมัย กว้างขวาง



จะมีบอร์ดให้ความรู้รายละเอียดของปราสาทเอาไว้ด้วยค่ะ ถ้าใครมาเที่ยวนครวัด นครธม หรือปราสาทแถวๆนี้ไม่่ต้องห่วงว่าจะต้องมาลำบากกันเลย เพราะเค้าจัดการสถานที่ได้ดีเลยล่ะ มีห้องน้ำสะอาด ถ้าใครมีบัตรประจำตัวนักท่องเที่ยวก็ไม่ต้องจ่ายค่าเข้า ไม่มีคนเข้ามาขอเงินนั่นนี่ เรียกว่า นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้อย่างสบายใจ อาจจะมีเด็กเดินตามขายของแต่ก็ไม่ได้รุกเร้าเรามาก เค้าก็เดินตามแบบเรียบร้อยกันดีนะ

ใครไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อนหรือไม่มีไกด์มาด้วยจะแวะอ่านก่อนเข้าชมก็ได้นะ
แผนที่คร่าวๆ มีอะไรน่าสนใจตรงไหนในปราสาทบันทายสรี



มาถึงประตูทางเข้าปราสาทกันแล้ว ที่นี่สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพูนะ สีแรงได้ใจจริงๆ



เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระอิศวร ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา



ชั้นในของปราสาท ขนาดเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับพี่บิ๊กทั้งหลายที่เราไปเมื่อมาเมื่อวาน



จากทางเข้า เริ่มเห็นรายละเอียดยิบๆแล้วค่า..



พอเข้ามาถึงด้านใน ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้าถึงว่าที่นี่เป็นรัตนชาติของศิลปะขอม
ลายสลักอ่อนช้อยมากๆ ไม้เว่นแม่แต่ตามชอบประตูก็ยังจะแกะกันอีกนะ



ตรงหน้าบันประตูทางเข้า มีแกะสลักรูปพระนารายณ์ 8 กร



ตอนนี้ปราสาทชั้นในเค้ามีเชือกกั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปแล้วนะคะ

ภาพนี้ตึกที่เห็นทางซ้ายมือ คือบรรณาลัย ตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของปราสาท เอาไว้เก็บจารึกต่างๆ นักประวัติศาสตร์เค้าก็แกะเรื่องราวจากบันทึกพวกนี้แหละ ประตูที่เราเห็นแกะลวดลายสวยงาม จริงๆแล้วเปิดไม่ได้นะ เป็นประตูหลอก ส่วนประตูจริงๆอยู่ทางด้านขวาหันไปทางปราสาท



แกะสลักเรื่องต่างๆกันไปในแต่ละหน้าบัน แต่สวยทุกหน้าบันเลยอ่ะ ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นหิน



เห็นสวยงามขนาดนี้ ที่นี่สร้างขึ้นก่อนนครวัดนครธมอีกนะเนี่ย



เดินออกมาก็เจอก็วงดนตรีบรรเลงอยู่ หน้าตาเครื่องดนตรีคล้ายของไทยมากๆ (ดีไม่ดีอาจจะเหมือนกันเลยก็ได้) แถมชื่อยังคล้องจองกันอีกด้วย ขิม=เคิ่ม ระนาด=ระเนียด จระเข้=จะเข้ ซอด้วง ซออู้ ซอสามสายมาครบวงเลย ใครชอบใจจะบริจาคเงินด้านหน้าก็ได้ หรือจะซื้อซีดีกลับไปก็ได้ เจอวงดนตรีแบบนี้ได้เกือบทุกที่ที่ไป



ระหว่างทางกลับ เราแวะเที่ยวกันที่ปราสาทบันทายสำเหร่ ที่นี่จะเงียบๆ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว



เป็นปราสาทที่สร้างโดยเจ้าเมืองสำเหร่ เลยไม่ได้มีการตกแต่งอะไรมาก เรียบๆ



เจอการสกัดเอาพระพุทธรูปออกจากตัวปราสาท ในหลายๆที่ที่ไป ทั้งปราสาทบายน ตาพรหม พระขรรค์ รวมถึงที่บันทายสำเหร่ เนื่องจากเปลี่ยนการนับถือศาสนาจากพุทธมาเป็นฮินดู พระพุทธรูปบางองค์ก็ยังเหลือมาให้เราเห็นได้ในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดออกหมดแหละ



มุมกว้าง ขนาดไหนก็ไม่มีคน เหมือนมีกลุ่มเรากลุ่มเดียวเลยอ่ะ



มื้อเที่ยงมาทานอาหารที่ริมสระสรงอีกแล้ว แต่คนละร้านกับเมื่อวาน
ร้านนี้ชื่อ ลำดวนอังกอร์ (ดอกลำดวนเป็นดอกไม้ประจำชาติของกัมพูชาค่ะ)
ขึ้นมานั่งชั้นสอง ตอนเรามาถึงยังไม่มีคน แต่ซักพักก็มีนักท่องเที่ยวฝรั่งมาเต็มร้านเลย



ราคาอาหารบางส่วน ตกร้อยกว่าบาท



เครื่องดื่ม เราสั่งชามะนาวมา อร่อยชื่นใจเหมาะกับวันอากาศร้อนอย่างนี้มากๆ
ส่วนอีกแก้วเป็นน้ำมะพร้าวปั่น แก้วนี้ไม่เหมือนที่เมืองไทยนะ เหมือนเค้าใส่นมหรือกะทิไปปั่นด้วยไม่ถูกปากเราเท่าไหร่



ร้านนี้ก็อาหารอร่อยทุกอย่างอีกแล้ว ไกด์แนะนำให้ลองสั่งแกงส้มสไตล์แขมร์มาทาน รสชาติไม่เหมือนแกงส้มเมืองไทยนะ เราขอเรียกว่าต้มส้มผักบุ้งละกัน มุมขวาล่างชื่อ Lok-Lak เหมือนหมูผัดซอส จานนี้ก็อร่อยเว่อร์ อีกสองจานที่เหลือเป็นปลาผัดซอสต่างๆกัน รสชาติเหมือนกินข้าวที่บ้าน อาหารถูกปากคนไทยแน่นอน อ่อ.. ร้านอาหารที่นี่ถ้าสั่งกับข้าวมา เค้าจะมีข้าวติดมาเป็นเซตให้กินด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ต้องสั่งข้าวเพิ่ม



ปราสาทแปรรูป ใช้เป็นที่เผากระดูกของคนตาย



ไกด์เล่าให้ฟังถึงพิธีศพของคนกัมพูชาว่า เมื่อมีคนตายจะนำศพไปฝังก่อน 3-5 ปี จากนั้นจึงค่อยนำศพขึ้นมา แล้วนำกระดูกมาเผาค่ะ

สิ่งก่อสร้างสมัยโบราณนี่ชอบสร้างบันไดชันๆเนาะ ทั้งกำแพงเมืองจีน ปราสาทแถวนี้ แสดงว่าคนสมัยก่อนคงแข็งแรงมากๆ



ทางเดินเข้าไปชมปราสาทนาคพัน



ดูไม่ค่อยจะเป็นปราสาทแบบทุกที่ที่เราไปมาซักเท่าไหร่ เป็นสระน้ำใหญ่อยู่ตรงกลาง แล้วมีบ่อน้ำเล็กๆอยู่รอบๆอีก 4 บ่อ เมื่อก่อนใช้ประโยชน์เป็นสถานพยาบาลรักษาโรค

ที่นี่ก็มีเชือกกั้นไม่ให้เข้าไปด้านในเช่นกัน



ให้ดูห้องน้ำตามที่เที่ยว จะมีรูปแบบการสร้างคล้ายกันหมด ด้านในก็สะอาดดี ไม่เก็บค่าเข้าเพิ่มด้วย



มาถึงปราสาทแห่งสุดท้าย ปราสาทพระขรรค์ ทางเข้าปราสาทคล้ายกับทางเข้านครธมเลย เพราะคนสั่งให้สร้างคนเดียวกันค่ะ คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7



สร้างถวายให้พระบิดาของพระองค์ค่ะ



ปราสาทขนาดใหญ่โตทีเดียว ด้านในก็สวยดี แม้ไม่ค่อยมีภาพแกะสลักมากเท่าไหร่ แต่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่เลยอ่ะ อยากเชียร์ให้มากันนะ ส่วนตัวเราชอบที่นี่ค่ะ



ภาพแกะสลักยังสมบูรณ์อยู่เลย



มีอาคารที่เสาแปลกไปจากปราสาททุกที่ คือเป็นเสากลมแบบเสาโรมันด้วย



ภาพสลัก 2 ภาพนี้ไม่ใช่นางอัปสรค่ะ เป็นพระมเหสีของกษัตริย์ ไกด์เล่าว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน โดยภาพซ้ายมือเป็นองค์น้อง ถ้าเข้าไปดูใกล้ๆจะเห็นว่าตายังเปิดอยู่หมายถึงว่าตอนสร้างปราสาทยังมีชีวิตอยู่ ส่วนภาพขวามือเป็นองค์พี่ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วตอนสร้างปราสาทแห่งนี้เลยสลักให้หลับตาค่ะ



ช่วงเย็นๆ มาเดินเล่นในเมืองเสียมราฐกันค่ะ ตรงนี้แถวตลาดเก่าซาจ๊ะ



แผงนี้ขายปลาแห้ง กุนเชียง



ทานอาหารมื้อเย็นที่ร้าน Le Grand Cafe อยู่แถวๆ Pub street ย่านนักท่องเที่ยวของเมือง



ราคาก็พอๆกับมื้อเที่ยง เห็นร้านสวยๆราคาอาหารก็ไม่แพงมากนะ
มาดูอาหารที่ทานกันค่ะ มื้อนี้ก็อร่อยทุกอย่างเหมือนเดิม ^^



เนื่องจากวันนี้ทานข้าวกันเร็วเลยมาซื้อขนมตุนเผื่อหิวตอนดึกที่ร้าน Blue Pumpkin
ร้านสวยดี แต่ไม่ได้นั่ง ส่วนรสชาติขนมก็งั้นๆ ไม่ได้ทานก็ไม่น่าเสียดายละกัน



มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้ ที่จริงๆแล้วไม่ได้มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนเลย กะจะนั่งรถกลับไปที่ปอยเปตแล้วเดินทางเข้ากทม. แต่ลุงแบงคนขับรถชวนพวกเราไปเที่ยวกันระหว่างทางกลับ ที่บารายฝั่งตะวันตก เป็นระบบชลประทานสมัยก่อน สร้างขึ้นมาเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในเมือง



ถ่ายรูปกับลุงแบงคนขับรถ แฟนเราจะสนิทกับลุงแบงเป็นพิเศษ เพราะบางทีจะอู้ไม่ยอมลงไปเที่ยว ขอนอนรอที่รถกับลุงแบง



สำหรับทริปนี้แม้ตอนเริ่มดูจะไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ แต่พอได้มาเที่ยวจริงๆกลับสนุกสนานมาก สถานที่ท่องเที่ยวก็น่าสนใจมีเอกลักษณ์ อาหารอร่อย ที่พักก็ดี ผู้คนก็ดูเป็นมิตร ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แถมใกล้ๆเมืองไทยแค่นี้เอง

สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆแบบเดินทางใกล้ๆค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก เชียร์ให้มาเที่ยวที่นี่กันนะ



สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมบลอกต่ะ





 

Create Date : 26 สิงหาคม 2555
3 comments
Last Update : 27 สิงหาคม 2555 0:46:40 น.
Counter : 5291 Pageviews.

 

คุณคิมโยคะ วันศุกร์นี้เรากับสามีจะไปเที่ยวเสียมราฐ อยากขออีเมล์ติดต่อไกด์ที่คุณใช้บริการได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ อีเมล์เรานะคะ cherrydl@hotmail.com

 

โดย: เชอรี่ IP: 125.24.27.140 13 พฤศจิกายน 2555 23:39:03 น.  

 

ได้แล้วค่ะ เพิ่งไปอ่านเจอในบล็อควันที่1 ถ้าเป็นเก๋งอย่างคัมรี่เค้าคิดวันเท่าไรคะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: เชอรี่ IP: 125.24.27.140 14 พฤศจิกายน 2555 0:19:40 น.  

 

ไม่รู้ว่ามาตอบช้าไปมั้ย.. ถ้าให้ดี เราว่าคุณเชอรี่ลองเมลติดต่อเองดีกว่าค่ะ เพราะราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางของสถานที่ที่จะไปด้วย
ยังไงขอให้เดินทางไปเที่ยวให้สนุกและปลอดภัยนะคะ

 

โดย: khimyo 16 พฤศจิกายน 2555 0:35:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
 
สิงหาคม 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.