1. ใช้กระเป๋าแบบยาวที่สามารถเอาธนบัตรใส่ได้แบบไม่ต้องพับใบเลย
2. เรียงธบัตรให้ไปในทิศทางเดียวกัน และเรียงจากแบงค์มูลค่าน้อยไปมาก (มูลค่ามากเอาไว้ข้างในสุดค่ะ)
3. กระเป๋ายิ่งแบนยิ่งดี ซึ่งก็คือ ให้แยกกระเป๋าเศษเหรียญต่างหากเลย ไม่ปนกัน
4. ก่อนนอนทุกคืน ให้ทำความสะอาดกระเป๋าโดยเอาผ้านุ่มเช็ดและจัดการเคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากกระเป๋า
5. เวลายื่นเงินให้ยื่นอย่างสุภาพ หันหัวธนบัตรไปทางผู้รับ และถ้ามีเศษเหรียญก็ให้ยื่นก่อนและให้ยื่นนธนบัตรตาม
6. ดูแลใส่ใจเงินเหมือนเพื่อน เพราะถ้าดูแลดีอย่างไร เงินก็อยากอยู่กับเรานานๆ
7. นอกจากนี้เคล็ดลับที่พิเศษซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลออกแนวจิตวิทยาก็คือ เมื่อซื้อกระเป๋าเงินมาใหม่ ก่อนที่จะเริ่มใช้ ให้นำเงินธนบัตรที่แพงที่สุดและมากที่สุด (ของพี่ไทยเราก็คือแบงค์พันบาท) มาใส่ไว้ในกระเป๋า 3 วัน เพื่อให้กระเป๋าใหม่ได้คุ้นชินกับรสชาติของเงิน แล้วจึงนำมาใช้
8. ส่วนเคล็ดสุดท้ายนี่แปลก แต่เมื่อลองทดสอบดูส่วนใหญ่แล้วใกล้เคียงค่ะ คือ ถ้าอยากรู้รายได้ต่อปี ให้เอาราคากระเป๋า x 200 ได้ผลลัพธ์เท่าไรคือรายได้ทั้งปีของเราเลย เช่น กระเป๋าราคา 1000 บาท
ก็คือ 1,000 x 200 = 200,000 บาท ซึ่งถ้าอยากรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้น ควรใช้กระเป๋าที่มีราคาที่คูณ 200 แล้วมากกว่าเงินรายปีปัจจุบัน
อืม...น่าคิดนะ ซึ่งพอลองกับตัวเอง และเพื่อนๆที่สนิท ก็ใกลเคียงแฮะ
กะเบิ๊ดเป็นคนชอบลองค่ะ ไหนๆถ้าจะลองแล้วก็ทำให้ถึงที่สุด ไม่มีกั๊กๆครึ่งๆกลางๆ แต่อยากที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ... ไม่รอช้า ทำการ search หากระเป๋ายี่ห้อโปรด อันได้แก่ LV Prada Gucci และ Chanel เมื่อในเนตดูแล้วไม่ละเอียดพอ จึงตระเวนไปห้างเพื่อดูของจริงซะเลย เริ่มจาก Central embassy และต่อด้วย Siam Paragon ถูกใจใช่เลยที่สุดคงจะเป็น Chanel สีแดง ซึ่งมีทั้งหนังวัว และหนังแกะ จริงๆหนังอะไรก็ได้ขอให้สีมันใช่และรูปแบบลงตัว จับๆลูบๆคลำๆ คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะราคาแพงกว่าเงินเดือนเราอีก คุณพระ ตรูล่ะเบื่อตัวเอง รสนิยมสูง รายได้ต่ำ เพราะตั้งแต่ดูๆมา ใบที่ชอบสุดนี่ก็แพงที่สุดเช่นกัน.....
คิดๆๆๆๆๆ อีกรอบ กลับไปคิดที่บ้านทั้งคืน ก็ อืม...เอาวะไหนๆก็ไหนๆละ เอาใบนี้แหละ และก็ซื้อที่ช็อปไทยด้วย ไม่ฝากไม่หิ้วจากใครทั้งนั้น (แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าราคาที่เมืองไทยทำขนหน้าแข้งเจ๊ร่วงเลย555 ถ้าใครอยากได้ราคาที่ถูกกว่าแนะนำว่าให้หิ้วเข้ามาดีกว่าค่ะ )
วันต่อมา กลับไปซื้ออย่างมั่นใจ ชื่อกระเป๋ารุ่นอะไรยังไม่รู้เลย รู้อย่างเดียวว่าชั้นชอบใบนี้แหละ ถูกใจทุกสิ่งอย่างยกเว้นราคา555 เดินออกมาจากช็อปตัวปลิวเลย^^
อยากบอกว่านี่เป็นกระเป๋า Chanel ใบแรกที่ซื้อ รักมากกกกกกก ซื้อวันที่ 13 กค 2557 ตั้งชื่อให้ว่า น้อง "Proudprann (พราวพรรณ)" เป็นไงล่ะ มีกระเป๋าเหมือนมีลูก และเราลองมาดูกันนะคะว่า ใน 1 ปีข้างหน้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงกับกะเบิ๊ดมั้ย เมื่อครบ 1 ปีแล้วจะมาอัพเดทให้ทุกคนดูนะคะว่าจริงเท็จอย่างไร แต่ถ้าใครสนใจปฎิบัติและลองทำไปพร้อมๆกันเลยก็ได้นะคะ :)