นั่งรถไฟสายทรานไซบีเรีย จีน มองโกเลีย รัสเซีย (วันที่2: นั่งรถไฟปักกิ่ง-มองโกเลีย)
Day 2 : 25/1/17 Beijing, China -Ulaanbaatar, Mongolia
Check out 9 โมงเช้า แง๊งๆๆ กระเป๋าเป้ขาดอ่ะ ขาดตรงรอยต่อระหว่างสายสองสายอ่ะ เซ็งเบย เพิ่งเห็นง่า น้องบอกว่ามันขาดมาตั้งแต่เมื่อวานที่น้องสะพายให้แล้ว เอิ่ม...ต้องสะพายอย่างระมัดระวังเพราะมันเริ่มจะขาดเป็นวงกว้างขึ้นละ โชคดีที่ผึ้งให้ยืมถุงผ้าคลุมเป้ เพื่อต่อชีวิตกระเป๋าต่อไป อากาศเช้านี้ -10 องศา สบายๆค่ะ ยิ้มสู้ :) เหรอ???
ด้วยความที่มีเวลาไม่มาก จึงซื้อแพคถุงร้อน ที่ร้าน manning ตุนไว้ให้อุ่นใจ ขนมขบเคี้ยวที่ร้านของชำข้างสถานี และ Check in รถไฟสาย Trans-Mongolian ทรานส์มองโกเลีย (เข้าเครื่องแสกนตรวจสัมภาระอย่างละเอียดยิบประหนึ่งว่าขึ้นเครื่องบิน) อ้อ! น้องหมี หนึ่งในผู้ร่วมทริปเมื่อวานมาส่งพวกเราขึ้นรถไฟด้วย ไม่ได้ไปนะคะ น้องจะอยู่เที่ยวปักกิ่งต่ออีก
ส่วนพวกเราทั้ง 4 ( ป้า ผึ้ง แทน หมอก ) เริ่มเดินทางยิงยาวกันด้วยรถไฟสายในฝันของใครหลายๆคน Trans-Siberian จุ๊กกรู๊!!! ดีใจตื่นเต้นกันใหญ่
ทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) เป็นสายทางสายรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 9,289 กม. (บางแหล่งข้อมูล 9,288 กม.) การเดินทางถ้าจะเดินทางตลอดระยะทางจากเส้นทางเริ่มต้นไปจนสุดปลายทางคือ Moscow (กรุงมอสโก) ไปสิ้นสุดที่ Vladivostok (เมืองวลาดิวอสต๊อค) ของรัสเซียต้องใช้เวลาถึง 7 วัน!!! เส้นทางนี้ช่วยในการเชื่อมต่อไปยังเขตตะวันออกไกล ทะเลญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ มีสายย่อยดังนี้ -เชื่อมต่อไปมองโกเลีย คือ Trans-Mongolian ทรานส์มองโกเลีย -เชื่อมต่อจีนผ่านเมืองฮาร์บิน (Harbin) เข้าปักกิ่ง คือ Trans-Manchurian ทรานส์แมนจูเรีย เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1891 และเปิดให้บริการในช่วงแรกเมื่อปี 1916 มันช่างคลาสสิคมากเลยนะเธอที่จะได้นั่งรถไฟสายโบราณ ตื่นเต้นอ่า!!!
(ดูจากในรูปประกอบจะเข้าใจมากขึ้น: CR google ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลค่ะ ขออนุญาตยืมมาใช้นะคะ)
เส้นทางสายนี้นอกจากจะสร้างผลประโยชน์ให้แก่เกษตรกรในไซบีเรียแล้วยังใช้เพื่อขนส่งสินค้าจากตะวันตกมาตะวันออก แต่ด้วยมนต์เสน่ห์และสิ่งแวดล้อมรอบๆที่สวยงาม ชวนหลงใหลจึงเป็นสิ่งที่นักเดินทางทุกคนอยากจะได้มาสัมผัสกับประสบการณ์นี้สักครั้งในชีวิต... แต่อีชั้นดันมาช่วงที่อากาศหนาวสุดขั้วนี่สิ (ม.ค.-ก.พ.) มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย เป็นพนักงานเงินเดือนอย่าบ่นค่ะ ลางานพักร้อนตอนไหนได้ก็ต้องรีบคว้า ลุ้นๆกรูจะรอดมั้ย 555+ แล้วมาแบบไม่ได้ศึกษาข้อมูลอีกต่างหาก เพราะคิดว่าเพื่อนและน้องๆทำคร่าวๆไว้แล้ว ส่วนรายละเอียดลงลึกวันต่อวันค่อยว่ากัน
พวกเราเริ่มต้นที่ปักกิ่ง จองตั๋วรถไฟสาย Trans-Mongolian จากปักกิ่ง ไป อูลานบาตาร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงมองโกเลีย แล้วจากนั้นก็จะเปลี่ยนเส้นทางเข้าสาย Trans-Siberian แบบเต็มตัวที่ Irkutsk รัสเซีย
ตั๋วรถไฟ K3 (ปักกิ่ง-Ulaanbaatar-Moscow) ส่วน K4 คือขบวนรถไฟที่วิ่งย้อนกลับมายังปักกิ่ง ปกติรถไฟสายนี้วิ่งสัปดาห์ละครั้งทุกวันพุธและมีเที่ยวเดียวเท่านั้น คือ 11.22 น. (เมื่อก่อนรถไฟจะออกเวลา 7 โมงเช้า แต่ตั้งแต่ 8/07/2014 เป็นต้นมาตารางก็เปลี่ยนมาเป็นรอบ 11.22 น.) ระยะทางเท่าไรไม่รู้แต่ต้องอยู่บนรถไฟ 1 วันกว่าๆ จาก 11.22 น. วันนี้ ถึงที่หมายพรุ่งนี้เวลา บ่าย 2 ครึ่งค่ะ
จองตั๋วแบบ Soft sleep ตั๋วนอน 4 คน 1,723 หยวน ราคานี้จองสดหน้างานได้ที่โรงแรม Beijing internation hotel อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Beijing Zan แต่ต้องลุ้นนะคะว่าตั๋วจะเหลือมั้ย ถ้าเอาชัวร์ๆจองในเวบ CITS (China international travel service) ราคา 2,056 หยวนค่ะ ส่วน options อื่นก็มี -Deluxe soft (ตั๋วนอน 2 คน) ราคาหน้างาน 1,883 หยวน -Hard sleep ห้องรวมเป็นตู้ๆนอนรวมกัน ราคาหน้างาน 1,222 หยวน ส่วนราคาในเวบคือ 1,430 หยวน
เส้นทางรถไฟวันนี้จาก Beijing - UlaanBaatar รถไฟค่อนข้างเก่า ขบวนยาวมาก รถออกเวลา 11.22 น. ออกตรงเวลาเป๊ะนะจ๊ะ เค้าแจกบัตรอาหารมื้อเที่ยง (12.30-13.00) และเย็น (17.00-17.30) เพราะฉะนั้นขึ้นรถไฟมาต้องเตรียมกินมื้อเที่ยงเลยนะ อย่าติ๊งต๊องคิดว่าเป็นมื้อเที่ยงพรุ่งนี้อย่างพวกเรา 555+ ดันซื้อ KFC มานั่งกินเองเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนมื้อเที่ยงนั้นก็หมดสิทธิ์อดกินสิคะ^^ พนักงานรถไฟจีนล้วนๆค่ะ พูดอังกฤษได้บ้างบางคน
ตู้นอน Soft sleep ตั๋วนอน 4 คน ห้อง 3 (ลำดับที่ 9, 10, 11, 12) เป็นตู้ส่วนตัว เตียง 2 ชั้น 2 คู่ มีหมอน ผ้าห่ม ไม่มีผ้าขนหนู โต๊ะติดหน้าต่าง กาน้ำร้อนให้เติมน้ำฟรีแต่ต้องเตรียมแก้วกันความร้อนมาเองนะจ๊ะ
รถไฟเคลื่อนขบวนอย่างช้าๆ ตื่นเต้นกับการมองสิ่งแวดล้อมข้างทาง กินตลอดเวลา เปิดเพลงคลอสบายอารมณ์ และเมาท์มอยกันน้ำไหลไฟดับ 555+ คือต้องอยู่ในนี้ 1 วันกว่าๆ กิจกรรมที่ทำก็วนๆซ้ำๆไปค่ะ เพื่อนๆยังดีที่มีอินเตอร์เน็ตในมือถือ แชทได้บ้างเป็นระยะ แต่ของเรานี้สิไม่มีอะไรเลย >< นั่งชิลล์ไปค่ะ แดร๊กจนกางเกงแน่น
5 โมงเย็น ได้เวลาอาหารแล้ว พวกเราเดินไปที่ห้องอาหารซึ่งอยู่ 3 โบกี้ถัดไป เห็นเพื่อนร่วมขบวนมีทั้งฝรั่งทั้งเอเชียหลากหลายมานั่งกินมื้อเย็น
นำตั๋วแลกอาหารมื้อนี้ เมนูผัดผัก + หมูก้อน 2 ชิ้น และข้าวสวย ไม่มีน้ำบริการนะจ๊ะ หาดื่มเอง เหลือบไปเห็นฝรั่งโต๊ะข้างๆดื่มไวน์ พวกเราไม่รอช้า ถามราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ -เบียร์กระป๋อง 6 หยวน -เบียร์ขวด 15 หยวน -ไวน์แดงขวด 45 หยวน โอเค ไวน์แดงขวดนึง จัดไป ครุคริงุงิ ดื่มเพลิน บรรยากาศดี ชีวิตดีอ่ะค่ะ^^
3ทุ่ม 42 นาที ถึงชายแดนประเทศจีน รถไฟหยุดพัก เพื่อรอเปลี่ยนล้อ เพราะขนาดลางรถไฟจีนและมองโกเลียไม่เท่ากัน (ทางรถไฟมองโกเลียมีขนาดเล็กกว่าจีน)
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ ตม. ประมาณ 4-5 คนมาตรวจ passport/ visa/ และ กระเป๋า ตรวจทุกอย่าง ย้ำ!ทุกช่องทุกซอกทุกมุมละเอียดมาก (แม้กระทั่งช่องผ้าอนามัยเรายังขอดูเลย เราบอกว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างในนอกจากผ้าอนามัย ก็ยังให้เปิดออกให้หมด จัดให้ค่ะ ตรูรูดซิปแผ่กว้าง ดึงจำนวนผ้าอนามัยที่อัดใส่ไว้ในช่องซิปทั้งหมดออกมา ฮาแตกทั้งขบวน 555+ แถมเจ้าหน้าที่ผู้ชายยิ้มเขินๆอายๆหน้าแดงด้วย) จากนั้นเค้าทั้งหลายเอา passport พวกเราใส่กระเป๋าไปด้วย ไม่ต้องตกใจนะ เอาไปสักพักใหญ่ๆแล้วเดี๋ยวเค้าเอามาคืน
อ้อ! พนักงานเอาบัตร baggage declaration ให้เรากรอกข้อมูล (เหมือนขึ้นเครื่องบินอ่ะค่ะ) เพราะจะออกจากจีนแล้ว
4 ทุ่ม 47 นาที ณ สถานี Er Lian รถไฟลากมาเข้าอู่ เพื่อทำการเปลี่ยนล้อ โดยแยกแต่ละตู้ออก แล้วยกลอยขึ้นและเปลี่ยนล้อ ใครที่กำลังนอนหลับอยู่ต้องสะดุ้งตื่นแน่นอน เพราะกระตุกตัวโบกี้แต่ละตัวออกจากกันนี่สะเทือนกันทั้งแถบ ไหนจะยกลอยขึ้นเพื่อเปลี่ยนล้อ เสียงโลหะตีกันโป๊งเป๊งไปหมด และไหนจะตอนต่อโบกี้กลับเข้ากันอีก โอยยย ทรมานดีแท้ ซึ่งการเปลี่ยนล้อกินเวลาไปหลาย ชั่วโมงเลยทีเดียว ใครปวดฉี่ ห้ามฉี่! ทำใจ อั้นไว้ก่อน
เปลี่ยนล้อเสร็จ รถไฟแล่นต่อเพื่อออกจากจีน เจ้าหน้าที่นำ Passport มาคืน ประทับตราให้ตรูออกจากจีนได้เป็นอันเสร็จสิ้น นอนละนะ ไม่รบกวนนะ พี่ง่วงจะตี1แล้วzzz
| Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2560 |
| Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2560 19:27:48 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 5339 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [