ฤดูหวานรัก...Sweet Ogi - Megi วางแผงแล้ว /สนพ. ที่รัก
Group Blog
 
 
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 กันยายน 2558
 
All Blogs
 

บทที่ 3

“บ้านหลังนี้เขาสร้างสวยจังเลยนะพี่ยิ่งมาเห็นใกล้ๆ ยิ่งสวยมากเลย สงสัยเจ้าของบ้านจะรวยมาก”ลิ้นจี่เอ่ยชื่นชมบ้านหลังงามขณะช่วยปุณฑริกขนของมากองไว้ด้านหลังบ้านพักตากอากาศสีขาว

หล่อนขนของขึ้นรถสองแถวพร้อมไข่ตุ๋นกับไข่ต้ม โดยลิ้นจี่ เด็กสาวน้ำใจงามตามมาช่วยขนของ

เสียหัวเราะของไข่ตุ๋นดังแว่วมาจากบริเวณชายหาดไม่ไกลจากบ้านพักนักหนูน้อยกำลังวิ่งเล่นกับไข่ต้มอย่างสนุกสนานหล่อนกำชับและสอนไข่ตุ๋นมาโดยตลอดว่าห้ามลงทะเลคนเดียวหรือวิ่งเล่นไปไกลกว่าที่อนุญาต หนูน้อยเป็นเด็กฉลาด เชื่อฟังและทำตามคำสอนรวมทั้งไข่ต้มก็เป็นสุนัขแสนรู้มันทำหน้าที่คล้ายเป็นบอดี้การ์ดให้ไข่ตุ๋นอย่างรู้หน้าที่

“จ้ะ รวยมาก แต่ก็ดุมาก” หล่อนพูดกระซิบ พลางทำหน้าแหยๆ

“จริงเหรอสงสัยจะเป็นพวกตาแก่ หัวล้าน หน้าตาน่าเกลียด”ลิ้นจี่คาดเดาเอาเอง “หนูอ่านการ์ตูนนะ พวกตาแก่หัวล้าน หน้าเหี้ยมดุเหมือนหมาทุกเรื่อง”

ปุณฑริกหันไปยิ้มเจื่อนๆ ให้ลิ้นจี่ไม่ได้โต้ตอบอะไร ไม่กล้าพูดว่าทุกอย่างมันตรงข้ามกับที่เด็กสาวบอกขณะกำลังไขลูกบิดประตู มีลิ้นจี่ยืนอยู่ด้านหลัง ยังมองตัวบ้านด้วยสายตาชื่นชมระหว่างนั้นเองประตูก็เปิดผัวะออกมาจากด้านใน หล่อนตกใจ ผงะถอยหลัง

ชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทเนี้ยบตามเคยเช่นเดียวกับแววตาคมกล้าและลักษณะความดิบเถื่อน...นี่เขาไม่คิดจะโกนไรหนวดเหนือริมฝีปากกับตลอดแนวคางบ้างหรืออย่างไรนะ...เขาเดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู มองมาอย่างเฉยเมย เหลือบมองไปทางลิ้นจี่แวบหนึ่ง ก่อนหันกลับมาโดยไม่สนใจท่าทางตะลึงงันอ้าปากหวอ มือข้างหนึ่งคาอยู่ในปากของลิ้นจี่ เพราะว่าอึ้งในความหล่อของมรุต

หล่อนส่งสัญญาณให้ลิ้นจี่ทำความเคารพแต่ไร้ผล เพราะดวงตาของลิ้นจี่เชื่อมหวานราวกับตกอยู่ในห้วงความฝัน

“สวัสดีค่ะ ทำไม...” หล่อนทักทาย และจะถามต่อว่าทำไมเขาออกจากบ้านแต่เช้าจะไม่กินอาหารเช้าก่อนเหรอ แต่ฉุกคิดได้ว่าผู้ชายห่ามๆคนนี้ไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายจุ้นจ้านกับชีวิตเขา เลยชะงักคำถามไว้แค่นั้น

“ทำไมอะไร” เสียงถามห้วนๆ จากคนห่ามๆ

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” หล่อนตอบอุบอิบ

เขามองมาอย่างหงุดหงิด “วันนี้ฉันมีธุระแต่เช้าเดี๋ยวฉันไปหากาแฟดื่มที่ออฟฟิศ” เขาเตรียมจะเดินไปแต่กลับหยุดชะงัก และถามว่า “เด็กผู้หญิงที่อ้าปากหวอมือคาปากนั่นเพื่อนเธอรึเปล่า”

หล่อนพยักหน้าแทนการตอบรับ แววตาฉงน

“ท่าจะสติไม่เต็มเต็งนะดูเพี้ยนๆ”

มรุตสาวเท้าตรงไปยังรถสปอร์ตคันหรูสีบรอนซ์เงินสตาร์ตรถและขับออกไปอย่างคล่องแคล่ว

หล่อนมองตามรถคันหรูหน้ามุ่ยรอจนรถคันนั้นแล่นหายไปลับตา และบ่นพึมพำ “คนนิสัยไม่ดี ยังไม่รู้จักก็ไปว่าคนอื่นเพี้ยน ตัวเองล่ะสติดีนักนี่”

พอหันไปมองลิ้นจี่ที่ยังอ้าปากหวอมือคาปาก มองตามรถสปอร์ตตาค้าง นัยน์ตาเคลิ้มฝัน

“ลิ้นจี่ๆ” หล่อนเรียกเด็กสาวเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะได้ยิน

“หล่อ หล่อมาก..จนหนูอยากโดนเขาปล้ำจังเลยพี่...โอ้ มาย ก๊อด”ลิ้นจี่พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าใส่อารมณ์จนดูน่าตลก

อีกฝ่ายอดขำไม่ได้คิดว่าสงสัยเขาจะพูดถูก ลิ้นจี่ท่าจะเพี้ยนจริงๆ

“พี่เขารับแม่บ้านเพิ่มอีกมั้ย” ลิ้นจี่ถามเสียงอ้อน

“เธอนี่ท่าจะอาการหนักนะแล้วจะบอกอะไรให้นะ เห็นรูปหล่ออย่างนั้น ดุอย่างกับอะไรดี ทั้งห่าม ทั้งเถื่อนไม่เห็นจะน่ารักเลย”

“ว้าว สเปค พี่ สเปคเลยหนูช้อบ ชอบ หล่อแบบดิบเถื่อน ซาดิสม์หน่อยๆ ดูหนวดเขาสิ เท้ เท่เหมือนพระเอกหนังเลย” เด็กสาวพูดไปทำนัยน์ตาชวนฝันไป

หญิงสาวกลอกตาขี้เกียจคุยกับคนเพี้ยน “แล้วจะไม่รีบกลับหรือจ๊ะคุณลิ้นจี่เดี๋ยวพ่อกับแม่กลับมาก็ดุเอาหรอก”

“อุ๊ยตายแล้ว! กี่โมงแล้วนี่ ยังไม่ได้ซักเสื้อผ้ากองโตเลย เดี๋ยวแม่กลับมาด่าเป็นชุดแน่เลย” คนเพี้ยนเพิ่งจะรู้ตัว จึงวิ่งออกไปพร้อมกับหันมาโบกมือให้พลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี

ปุณฑริกยิ้มขำกับความตลกของเด็กสาวแต่เพียงครู่เดียวใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นเปื้อนความกลัดกลุ้มแทนหันไปทางชายหาดอีกด้าน ยังเห็นไข่ตุ๋นกับไข่ต้มเล่นกันสนุกสนานอย่างเพลิดเพลิน

คืนนี้ ตอนชายหนุ่มกลับมาจะลองคุยกับเขาดู ไม่รู้ผลจะออกหัวหรือออกก้อย

สรุปวันนั้นทั้งวันเลยทำงานอย่างใจลอยเพราะคิดถึงแต่เรื่องที่จะต้องคุยกับเขาเย็นนี้

ช่วงบ่ายแก่ๆ หลังจากหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน จึงจับไข่ตุ๋นไปนอนงีบอยู่ในห้องเล็กๆ ด้านหลังส่วนไข่ต้มงีบพักผ่อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านพัก

เวลาช่างผ่านไปเร็วนักเผลอแวบเดียวก็ใกล้จะเย็นแล้ว หล่อนจัดแจงเตรียมอาหาร และหลังจากเตรียมตั้งโต๊ะจัดจาน ช้อนส้อม ไว้อย่างเสร็จสรรพ รอคอยนาทีระทึกใจอย่างใจจดใจจ่อเหลือบมองนาฬิกาข้างฝาอยู่บ่อยครั้ง และแล้วเสียงไขลูกบิดก็ดังขึ้นหัวใจเริ่มเต้นระรัว กลืนน้ำลายอย่างเหนียวคอขึ้นมา เดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมตักข้าวใส่โถแก้ว

มรุตเดินเข้ามาในสภาพไม่ต่างจากเมื่อวานพอมาถึงก็โยนเสื้อสูทสีเทาเข้มลงบนโซฟา หันมามองหล่อนแวบหนึ่งด้วยสีหน้าเฉยเมยก่อนเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวประจำตัวเดิม เอนหลังพิงพนักหงายศีรษะไปด้านหลังแนบกับด้านบนของพนัก หลับตาลง สองมือประสานกันตรงท้องน้อยสองขายกขึ้นไขว่กันวางพาดบนโต๊ะกลาง ท่าทางอ่อนล้า

“เอาเบียร์มาให้หน่อย...ไม่ต้องเปิดนะ” ประโยคถัดมามรุตกำชับเสียงกระด้าง

“ไม่ทานข้าวก่อนหรือคะ”

“ฉันยังไม่หิว”

หล่อนหยิบเบียร์จากตู้เย็นหนึ่งกระป๋องเดินเอาไปให้โดยไม่เปิดฝา เพราะกลัวเหตุการณ์จะซ้ำรอยไม่ต่างจากเขา

เขารับกระป๋องเบียร์ไปซดเอาราวกับดื่มน้ำเปล่า ปุณฑริกยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างกังวลใจผู้ชายคนนี้จะมีช่วงเวลาที่แสดงว่าอารมณ์ดีบ้างไหมหนอสีหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้ตลอดเวลา

คนหน้าบูดบึ้งซดเบียร์หมดในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที“เอาเบียร์มาเพิ่มหน่อย เอามาหลายๆ กระป๋อง”

ปุณฑริกยืนมองด้วยความกังวลในใจอยากบอกว่าถ้าเขาซดเบียร์แบบนี้นะ คงได้เมาหลับอยู่ตรงนี้แน่

“ยังไม่ไปเอามาอีก” ชายหนุ่มขึ้นเสียง เมื่อเห็นสาวน้อยยังยืนอยู่ที่เดิม หล่อนสะดุ้งและรีบไปหยิบกระป๋องเบียร์ใส่ถาด นำมาวางบนโต๊ะ

มรุตซดเบียร์ไปอีกหนึ่งกระป๋องเหลือบมองหล่อนพลางถามว่า “มายืนเกะกะตรงนี้ทำไม ไม่กลับบ้านหรือไง ถ้าฉันหิว ฉันจัดการเองได้” น้ำเสียงเจือความรำคาญอย่างชัดเจน

หล่อนมองเขาอย่างหวั่นๆในใจแอบบ่น...คนอะไร พูดจาดีๆ หน่อยก็ไม่ได้พูดมาแต่ละครั้งหัวใจแทบร่วงไปอยู่ตาตุ่มแล้วอย่างนี้เมื่อไรจะกล้าพูดสักทีล่ะ...สูดลมหายใจลึกๆ เท่าที่จะลึกได้เพื่อรวบรวมกำลังใจ และตัดสินใจพูดก่อนไข่ตุ๋นจะตื่น

“คุณมาร์คคะ” หล่อนเรียกเขาเบาๆ

เป็นครั้งแรกที่มรุตได้ยินสาวน้อยคนนี้เรียกชื่อเขารู้สึกแปลกหู และหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นคำถาม

“คือดิฉันมีเรื่องจะขอร้องน่ะค่ะ”น้ำเสียงใสเบาจนแทบจะเป็นกระซิบ

ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างเพ่งพินิจอยู่ครู่หนึ่งเห็นแววตาใสซื่อดูหวาดหวั่น ทว่าประสานกับดวงตาเขาอย่างมุ่งมั่นสองมือประสานกันอยู่ด้านหน้าบีบแน่น

“ขอร้องอะไร” มรุตเลื่อนสองขาลงจากโต๊ะ เริ่มอยากรู้ว่าหล่อนจะพูดอะไร

“คือ...ตอนนี้ดิฉันไม่...มีที่พักแล้ว...โดนเขาไล่ออกมา...เลยอยากจะมาขอ...พักที่นี่”

เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบ “ก็ตามใจเธอสิอันที่จริงที่นี่มีห้องพักให้แม่บ้านอยู่แล้วแต่ป้านวลบอกว่าเธออยากทำงานแบบเช้ามาเย็นกลับ”

ชายหนุ่มคิดว่าหล่อนคงมีปัญหาจริงๆเพราะท่าทางใสซื่อ น้ำเสียงขาดความมั่นใจ พูดติดๆ ขัดๆแสดงให้เห็นว่าคงไม่ได้คิดวางแผนอะไร ซึ่งถ้าคิดวางแผน หรือถ้าแสดงพฤติกรรมบางอย่างเช่น ส่งสายตาหวานเยิ้ม ทำท่ามีจริตจะก้าน หรือแต่งตัววับๆ แวมๆเหมือนแม่พวกสาวใช้บางคนที่เคยเจอมา โดยมากมักจะเป็นพวกรูปร่างหน้าตาดีหน่อยก็จะไล่ตะเพิดไปเดี๋ยวนี้เลย

แต่สาวน้อยตรงหน้าดูเรียบร้อยสวมเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาห้าส่วน ดูมิดชิด ไม่มีจริตจะก้านจะว่าไปหล่อนเป็นคนสวยคนหนึ่งเชียวล่ะตอนเห็นครั้งแรกยังแปลกใจว่าทำไมคนหน้าตาแบบนี้ถึงมาทำงานเป็นแม่บ้าน

“ค่ะ แต่ว่า...” หล่อนหลุบตาลง เมื่อต้องพูดถึงตอนน่ากลัวที่สุดคงไม่กล้าสบตาคมกล้าแข็งกร้าวคู่นั้นที่กำลังมองตรงมา

“แต่อะไร จะพูดก็พูดมาฉันเริ่มรำคาญแล้ว”

ปุณฑริก กลืนน้ำลายก่อนพูดต่อ “คือดิฉันมี...เด็กคนหนึ่งกับ...กับสุนัขอีกหนึ่งตัวที่จะมาพักด้วยกันค่ะ” อย่างน้อยเมื่อได้พูดไปก็เหมือนยกภูเขาลูกหนึ่งออกไปจากอกแต่ยังเหลือภูเขาอีกหลายลูก

แล้วเหมือนรู้คิวกันซะจริงเสียงไข่ต้มเห่าเบาๆ ดังมาจากด้านนอก ตามด้วยไข่ตุ๋นที่ตื่นพอดีเดินเข้ามาทางประตูด้านข้างของครัว และร้องเรียกหล่อน

“แม่เป๋อคับ หนูตื่นแล้วไม่ร้องไห้ด้วย” เด็กน้อยพูดอย่างภาคภูมิใจ

หนุ่มสาวทั้งสองหันไปมองตามเสียงหล่อนตกใจเพราะไม่คิดว่าไข่ตุ๋นจะตื่นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ส่วนมรุตทำหน้างงๆ ขณะมองเด็กเดินเข้ามาหาหล่อน พลันสีหน้าก็แสดงถึงความโกรธแววตาคมกล้าจ้องมองมาอย่างชวนให้ขยาด

หัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มอีกรอบเมื่อเห็นแววตาคู่นั้น ไข่ตุ๋นเข้ามากอดขาหล่อน แต่เมื่อเห็นคนหน้าดุนั่งอยู่ก็หลบไปด้านหลัง โผล่แค่เสี้ยวหน้าเล็กๆ ออกมาอย่างกลัวๆ กล้าๆ ตามประสาเด็ก

“เธอหมายถึงเด็กคนนี้กับไอ้หมาที่กำลังเห่าหนวกหูนี่ใช่มั้ย” เขาถามเสียงกร้าว

หล่อนพยักหน้าเพียงเล็กน้อยไม่กล้าเหลือบตาขึ้นมอง หัวใจเต้นระรัว

“ป้านวลไม่เคยบอกเธอรึไงว่าฉันไม่ชอบเด็กกับหมา” น้ำเสียงแทบจะเป็นตะคอกจนปุณฑริกสะดุ้ง

“แม่เป๋อคับลุงคนนี้ไม่ชอบเด็ก ลุงเป็นชีอุยหรือคับพี่ลิ้นจี่บอกว่าชีอุยไม่ชอบเด็กเลยกินเด็ก แต่ลุงไม่ชอบหมาลุงกินหมาด้วยรึป่าวคับ” เด็กน้อยถามขึ้นด้วยความไร้เดียงสาโดยหารู้ไม่ว่ากำลังสาดน้ำมันเข้ากองเพลิง ถือเป็นเรื่องถนัดของไข่ตุ๋นที่หล่อนเพิ่งค้นพบ

เสียงไข่ต้มหอนยาวหนึ่งชุดประหนึ่งเห็นว่าสถานการณ์ยังเข้าขั้นวิกฤติไม่พอ

มรุตมองคนทั้งสองด้วยแววตาโกรธจัดแทบจะกินเลือดกินเนื้อกรามสองข้างบดแน่นกล้ามเนื้อตึงเปรี๊ยะทุกส่วนขยับไหวราวกับพร้อมจะปะทุออกมานอกเสื้อผ้า

“ไข่ตุ๋นหยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ” เอ็ดหนูน้อยเสียงกระซิบ รู้สึกเหมือนกำลังจะโดนประหารชีวิตเพราะพลังแห่งเพลิงโทสะจากเขาแผ่กระจายไปทั่วทั้งห้องบรรยากาศในห้องตึงเครียดจนแทบจะลุกเป็นไฟ ทั้งที่เขายังนั่งอยู่ในท่าเดิมถ้าเขาขยับตัวแม้เพียงน้อยนิด โลกคงได้ถล่มทลายแน่

“เธอพาเด็กคนนี้เข้าบ้านฉันโดยพลการแล้วไหนจะไอ้หมาเวรด้านนอกนั่นอีก”

“หมานั่นชื่อไข่ต้มคับไม่ใช่ชื่อหมาเวร”

ปุณฑริกก้มตัวลงไปเพื่อใช้มือปิดปากหนูน้อยอย่างรวดเร็ว...ไข่ตุ๋นนะไข่ตุ๋นชะตาเราจะขาดอยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก...หล่อนโอดครวญในใจ

ใบหน้าดุดันบ่งชัดว่ากำลังระงับอารมณ์เต็มที่“ถ้าเธอยังอยากทำงานที่นี่เอาเด็กคนนี้กับไอ้หมาเว...หมานั่นออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”ยื่นคำขาดสุดท้ายอย่างหมดความอดทน แววตาไร้ความปราณี

หล่อนกลัวจนมือสั่นเทา แต่จนหนทางแล้วถ้าไม่อ้อนวอน ไข่ตุ๋นกับไข่ต้มจะไปนอนที่ไหนล่ะ “ดิฉัน...ขอโทษแทน...ไข่ตุ๋นด้วยนะคะ...เขายังเด็ก...แต่คืนนี้เราไม่...มีที่ไปจริงๆไม่งั้นเราก็ต้องนอน...ข้างถนนสงสารเราหน่อยได้มั้ยคะ...ถ้าฉันเก็บเงินได้...จะ...รีบย้ายออกไปทันที”

“พาเด็กออกไปได้แล้ว ไป ชายหนุ่มตะคอกใส่ หญิงสาวจนหนทางไม่รู้จะทำอย่างไร

ขณะนั้นปิดปากไข่ตุ๋นไว้ แต่ไม่อาจปิดกั้นความสามารถในเรื่องความพูดมากได้เพราะหนูน้อยยังส่งเสียงพูดได้แม้จะมีมืออุดปากไว้

“อือ อื่อ อือ อื๊อ อื๋ออื้อ อือ” เจ้าหนูพยายามพูดเสียงอู้อี้อะไรสักอย่างแต่ฟังไม่เป็นศัพท์และคาดว่าคงเป็นคำพูดที่ทำให้เจ้าของบ้านโกรธหน้าเขียวขึ้นไปอีก

มรุตลุกพรวดขึ้นในบัดดลความอดทนขาดผึง หล่อนสะดุ้งโหยง เรือนกายแข็งแกร่งความสูงไม่น่าต่ำกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ดูน่ากลัวกว่าทุกครั้ง “ไปได้แล้วฉันอยากอยู่คนเดียว”

เขาเน้นย้ำคำพูดแต่ละคำอย่างชัดเจน สีหน้าท่าทางแสดงให้เห็นว่าแค่ลมพัดผ่านเพียงเบาๆ อารมณ์ก็อาจระเบิดได้

หล่อนจนหนทางจริงๆ จึงรีบอุ้มไข่ตุ๋นเดินแกมวิ่งไปทางประตูหน้าบ้าน เปิดออกไปด้านนอก และปิดลงอย่างรวดเร็ว “คนอะไรใจดำเป็นบ้า” สงสารเด็กน้อยจับใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ

นี่กี่โมงกี่ยามแล้วก็ไม่รู้แต่น่าจะดึกมากแล้ว ปุณฑริกคิดขณะนั่งอยู่หน้าประตูบ้าน มีไข่ตุ๋นนั่งตักซบอกไข่ต้มก็นอนหมอบอยู่ใกล้ๆ ทั้งสองไข่เริ่มหิวมากขึ้นเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ส่วนหล่อนทานอะไรไม่ลง เลยไม่หิวและไม่รู้จะไปไหนแล้วจริงๆ จึงนั่งรออยู่หน้าบ้านเขาก่อน

ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยไปหาที่พักอีกที...จะว่าไปบ้านนี้ก็บ้านเขาเจ้าของบ้านก็ย่อมมีสิทธิ์ให้ใครอยู่หรือไม่ให้อยู่ก็ได้ ในเมื่อเขาบอกไว้แล้วว่าไม่ชอบเด็กกับสุนัข ก็ยังจะไปฝืนคำสั่งอีก และยังไม่อยากโดนไล่ออกเพราะงานเงินเดือนดีแบบนี้หาได้ง่ายๆ เสียที่ไหน

“แม่เป๋อคับ หนูหิวจังเลย” หนูน้อยโอดครวญ ตามด้วยเสียงครางหงิงๆ ของไข่ต้มทั้งเด็กและสุนัขต่างมองมาด้วยแววตาละห้อย

หล่อนมองสองไข่อย่างสงสาร...ดึกขนาดนี้เขาน่าจะหลับไปแล้วนะ...ตั้งใจจะเข้าไปเอาของกินมาให้ไข่ตุ๋นกับไข่ต้มกินเพราะซื้อนมกับขนมมาเก็บไว้เมื่อตอนเที่ยง

“งั้นหนูนั่งรอกับไข่ต้มตรงนี้นะอย่าไปไหน เดี๋ยวแม่ไปหยิบขนมมาให้”

สาวน้อยเดินอ้อมไปด้านข้างเห็นไฟยังเปิดอยู่ ลองแนบหูฟังก็มีแต่ความเงียบสงัดจึงเปิดประตูด้านข้างอย่างเบามือ เพื่อเข้าไปในห้องครัว ระวังฝีเท้าให้เบาที่สุดเมื่อลองแอบมองเข้าไปในห้องรับแขก เห็นคนใจดำนอนหงายหมดสภาพอยู่บนโซฟาตัวยาว ขาข้างหนึ่งห้อยต่องแต่งมือหนึ่งยกขึ้นอยู่เหนือศีรษะจนห้อยตกจากที่เท้าแขน อีกมือวางอยู่บนท้องยังอยู่ในชุดเดิม เพียงแต่เสื้อเชิ้ตสีขาวหลุดลุ่ยออกมานอกกางเกงไม่ได้ติดกระดุมสักเม็ด เผยให้เห็นแผงอกเปล่าเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามแนวไรขนอ่อนๆ ไล่ขึ้นมาเหนือขอบกางเกง หล่อนจึงเลี่ยงมองไปทางอื่น...แปลกคนจริงๆทำไมไม่ขึ้นไปนอนในห้องนอนตัวเองนะ

กระป๋องเบียร์เปล่าหลายกระป๋องวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะบางส่วนกลิ้งเรี่ยราดกระจัดกระจายอยู่บนพื้น...ดื่มเยอะขนาดนี้เลยหรือจะบ้าหรืออย่างไร

แล้วนี่เขาไม่หนาวหรือห้องนี้เปิดเครื่องปรับอากาศเสียเย็นฉ่ำ ไม่ห่มผ้าเดี๋ยวก็หนาวตายหรอก

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินไปเปิดตู้ในห้องนั่งเล่น หยิบผ้าห่มผืนหนึ่งออกมา ค่อยๆเดินย่องเข้าไปหาคนหมดสภาพ คุกเข่าลงช้าๆ ค่อยๆ คลี่ผ้าห่มคลุมตัวเขาอย่างเบามือ

ยามนี้ใบหน้าแสนยโส ดูอ่อนเยาว์ลงแม้จะมีไรหนวดเหนือริมฝีปากกับแนวกรามโหนกแก้มสองข้างแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาคมกล้าหลับสนิท ดูไร้พิษสงจึงกล้ามองเขาโดยไม่ต้องหลบตา

ขณะจัดผ้าห่มคลี่คลุมร่าง จู่ๆมือแกร่งข้างหนึ่งก็บีบมือเล็กๆ ของหล่อนแน่น มือเขาใหญ่มากจนกำมือเล็กๆ แทบมิด

ตอนนั้นปุณฑริกสะดุ้งสุดตัวคิดว่าเขาตื่น แต่คนหมดสภาพยังหลับสนิท ทว่ายังกุมมือแน่นหนำซ้ำยังดึงไปแนบอกข้างซ้าย แม้พยายามดึงมือออกมาหลายครั้งแต่มือแกร่งก็ยิ่งบีบกระชับแน่นขึ้น จนไม่รู้จะทำอย่างไร นั่งรออยู่ครู่หนึ่ง ค่อยๆ แกะนิ้วใหญ่ทีละนิ้วและกว่าจะแกะได้หมดจนมือเป็นอิสระก็ใช้เวลาไปพอสมควร

หล่อนปิดไฟทุกดวง เหลือไว้แค่ไฟในครัวกลัวว่าเผื่อเขาตื่นไปเข้าห้องน้ำกลางดึก จะสะดุดหกล้มอย่างน้อยเหลือไว้สักดวงจะดีกว่า จากนั้นก็เดินไปหยิบนมกล่องกับขนมในตู้เย็นเปิดประตูและปิดประตูอย่างเบามือเหมือนเช่นตอนเข้ามา

หลังจากไข่ตุ๋นกับไข่ต้มกินนมกับขนมจนอิ่มสามชีวิตก็หลับปุ๋ยอยู่ตรงหน้าบ้าน หญิงสาวนั่งพิงกำแพงข้างประตูไข่ตุ๋นหลับสนิทอยู่บนตัก และไข่ต้มหมอบอยู่ข้างๆ


^__________^




 

Create Date : 04 กันยายน 2558
1 comments
Last Update : 4 กันยายน 2558 9:36:39 น.
Counter : 878 Pageviews.

 

ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 25 สิงหาคม 2560 18:27:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


isaiahland
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add isaiahland's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.