บทที่ 9
วายุนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาเบดในโซนพื้นที่นั่งเล่นในห้องนอนยังอยู่ในชุดทำงาน แต่เสื้อสูทพาดอยู่กับพนักโซฟา ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวสองเม็ดบนสองมือประสานตรงท้ายทอย ดวงตาจดจ้องอยู่กับจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่เบื้องหน้าแต่หาได้มีสมาธิกับภาพบนจอหงุดหงิดกับเรื่องที่ยังรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับนายธาวันไม่ได้ดั่งใจ และเรื่อง...ใครอีกคน เฮ้อ เขานี่ท่าจะบ้าแค่ผู้หญิงคนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยเกือบสองสัปดาห์ก็ทำเอาเขาซังกะตายอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่หล่อนเข้ามาในชีวิตไม่ถึงเดือนก็มีอิทธิพลกับเขาได้ขนาดนี้ ไอ้วายุเอ๊ยไม่บ้าก็บ้าแล้ว งานนี้ หล่อนลืมไปแล้วหรือเปล่าเรื่องที่จะนัดสัมภาษณ์เกี่ยวกับภัยร้ายบนโลกไซเบอร์เมื่อนึกถึงหญิงสาว ใบหน้าคมสันก็เคร่งขรึมขึ้น สาวสวยพราวเสน่ห์ท่าทางจะเจ้าชู้ไม่หยอกหูตาแพรวพราว ลูกล่อลูกชนไม่ธรรมดา คนนี้ สงสัยอาจจะกำลังหว่านเสน่ห์ให้หนุ่มคนไหนอยู่กระมัง ก่อนหน้านี้เคยคิดอยากจะโทรศัพท์ไปหาหล่อน แต่หักห้ามใจไว้ กลัวหล่อนจะรู้ว่าเขาตกหลุมเสน่ห์อย่างจัง...เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ติดอกติดใจผู้หญิงสักคนได้ขนาดนี้อยากจะตามจีบให้รู้แล้วรู้รอด แต่ปัญหาติดอยู่ที่ หล่อนทำเหมือนกำลังเล่นเกมกับเขาอยู่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าหล่อนคิดหรือจะทำอะไรท่าทางยั่วเย้าแกมท้าทายและคำพูดทีเล่นทีจริงเหล่านั้นเป็นการแสดงว่าหล่อนพึงใจในตัวเขาจริงๆ หรือ เป็นแค่ภาพลวงตากันแน่ ชายหนุ่มถอนหายใจแรงๆ นึกตำหนิตัวเองที่ให้ผู้หญิงคนหนึ่งครอบงำจนเสียความเป็นตัวของตัวเองได้เช่นนี้นี่เหมือนไม่ใช่ ดร. วายุ วินเซนต์ สิทธาวรกานต์ ราชาแห่งนักล่าเลยสักนิด...หรือครั้งนี้เขาจะกลับกลายมาเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง ดวงตาคมหรี่แคบ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางว่าแล้วก็ตัดสินใจปัดความคิดไร้สาระทิ้งไป ลุกขึ้นเตรียมจะไปอาบน้ำ แต่เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ดังขึ้น ซันนี่...ชื่อของหล่อนปรากฏบนหน้าจอมือถือวายุคลี่ยิ้มทันควัน ในที่สุดหล่อนก็ต้องโทรศัพท์มาหาเขาจนได้ สวัสดีครับ เขากรอกเสียงห้าวทุ้ม ทั้งแฝงความเป็นกันเอง แต่ก็เป็นงานเป็นการอยู่ในที สวัสดีค่ะ ฮันนี่ ลีลาการทักทายสุดเร้าใจจากปลายสายส่งผลให้วายุหัวเราะขำเบาๆ คุณทักทายผู้ชายแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า คุณจะเชื่อฉันมั้ยถ้าฉันบอกว่าคุณเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันทักทายแบบนี้ อืม ว่าแต่คุณไม่ชอบหรือคะ ก็ไม่รู้สิ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรแต่ที่แน่ๆ ฉันรู้ว่าคุณคิดถึงฉันแน่นอนเสียงหวานใสแฝงความหนักแน่นอย่างมั่นใจ จนคนฟังหัวเราะขำอีกครั้ง นี่คุณฉันอุตส่าห์ลงทุนโทร. มาจีบคุณนะคะ ยังจะมาหัวเราะกันอีกซันนี่แกล้งตัดพ้อ โอเค ผมไม่หัวเราะก็ได้ ความซังกะตายก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้งและความมีชีวิตชีวาก็เข้ามาแทนที่ แต่ผมชอบความตรงไปตรงมาของคุณเป็นบ้าเลย ชอบความตรงไปตรงมาแล้วไม่ชอบอย่างอื่นบ้างหรือคะ คุณจะให้ผมชอบอะไรละครับน้ำเสียงเย้าหยอกในตอนนี้ช่างผิดกับน้ำเสียงห้วนและแข็งกร้าวในช่วงที่พบกันแรกๆ หล่อนยิ้มมุมปาก ก็ทีฉันยังชอบตาสีเทาเข้มของคุณผมสีน้ำตาลอ่อนๆ นุ่มสลวยน่าจับ ชอบเสียงหัวเราะสดใสจริงใจ ชอบผิวสีแทนอ่อนๆ ของคุณด้วยแล้วก็ชอบตอนคุณเก๊กหน้าขรึมด้วยนะ ถึงตาจะดูดุไปหน่อยก็เถอะ วายุนิ่งเงียบไปชั่วครู่ใบหน้าคมสันเปื้อนยิ้มละไมบางๆ ก่อนจะเอ่ยทอดเสียงทุ้มแผ่ว ผม...ชอบดวงตากลมโตเหมือนตากวางของคุณดูสวย ลึกลับ น่าค้นหา แต่ก็แฝงความเศร้าสร้อยในบางครั้ง ผมดำขลับของคุณก็ดูนุ่มไม่ต่างจากแพรไหมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของมันยังติดอยู่ในความรู้สึกผมถึงตอนนี้ ผิวขาวเนียนของคุณก็อีกคุณเป็นผู้หญิงผิวสวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา เลือดฝาดบางๆ ตรงแก้มของคุณทำให้ผมนึกถึงผิวเด็กทารก จมูกโด่งเรียวเล็กเชิดรั้นของคุณ ก็เข้ากับปากอิ่มๆได้รูป จนผมนึกอยาก... เขาเกือบเผลอหลุดไปว่าอยากจูบเรียวปากนี้ไม่รู้กี่ครา ...มือของคุณก็อีกเล็กบางน่าทะนุถนอม ดูนุ่มนิ่ม จนถ้าบีบแรงๆ ก็คงจะแตกคามือได้ แล้วที่สำคัญผมชอบรอยยิ้มหวานสดใสของคุณเพราะทำให้ผมนึกถึงดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังเบ่งบาน หญิงสาวอึ้งไปตั้งแต่เขาเริ่มพร่ำพรรณนาถ้อยคำอันชวนให้ไหวหวั่นไม่คาดคิดว่าเขาจะจดจำรายละเอียดของหล่อนได้เช่นนี้ หล่อนเม้มปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นคลื่นอารมณ์ไม่พึงประสงค์บางอย่างที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนบอกตัวเองว่าห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด นี่คือภารกิจที่ห้ามมีความรู้สึกส่วนตัวใดๆเข้ามาเกี่ยวข้องเด็ดขาด และหล่อนไม่ได้เกิดมาเพื่อเขาเช่นเดียวกับที่เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อหล่อน ซันนี่...ซันนี่ ชายหนุ่มเรียกเสียงทุ้มแผ่ว เมื่อเสียงจากปลายสายนิ่งเงียบไปนานผิดปกติ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ปะ...เปล่าค่ะ หล่อนกล้ำกลืนความอ่อนแอลงไป เพื่อเรียกพลังความเข้มแข็งกลับมาทั้งหมดคลี่ยิ้มสดใส ดวงตาเศร้าสร้อยกลับมาแข็งกร้าวอีกครา ก็คุณพูดซะจนฉันเคลิ้มหวั่นไหวไปเลยค่ะ เอ๊ะ คุณพูดกับผู้หญิงทุกคนแบบนี้หรือเปล่าน้า แกล้งสัพยอก แล้วคุณจะเชื่อผมมั้ยล่ะถ้าผมบอกว่าคุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมพูดแบบนี้น้ำเสียงสุภาพแฝงความจริงจังและจริงใจ จนหัวใจดวงหนึ่งไหวยวบอีกครั้ง หล่อนหลับตาลงเพื่อควบคุมสติให้มั่นคง ก่อนจะตอบเสียงหวานใสกลับไป ไม่รู้จะเชื่อดีมั้ยเนี่ยแต่ฉันจะลองเชื่อดูสักครั้งค่ะ ทั้งสองต่างนิ่งเงียบไปชั่วขณะประหนึ่งกำลังถ่ายทอดความรู้สึกพิเศษให้แก่กันผ่านความเงียบจากนั้นวายุก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง คุณโทร.มาเรื่องสัมภาษณ์เกี่ยวกับภัยร้ายบนโลกไซเบอร์หรือเปล่า ใช่ค่ะคือฉันต้องเดินทางไปต่างประเทศสักอาทิตย์สองอาทิตย์เอาไว้ถ้าฉันกลับมาค่อยมานัดสัมภาษณ์กันอีกครั้งนะคะ ผิดหวัง...บอกได้คำเดียวว่านี่คือความรู้สึกของเขาในตอนนี้สงสัยเขาจะหลงหล่อนน่าดู ก่อนหน้าที่หล่อนจะโทรศัพท์มาก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเลิกใส่ใจเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้แต่หลังจากได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์จากเรื่องไร้สาระก็กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตขึ้นมาดื้อๆ เฮ้อ ผู้ชายหนอผู้ชาย จะเชื้อชาติไหนก็เหมือนกันหมด โอเคครับเอาไว้คุณกลับมาก่อนก็ได้ ผมว่างให้สัมภาษณ์อยู่แล้ว ทำไมคุณโอเคง่ายจัง หล่อนตัดพ้อเสียงอ้อน แหม ฉันคิดว่าคุณจะตัดพ้อกันสักหน่อยแกล้งงอนที่ฉันต้องไปซะตั้งนาน นี่อะไรกัน เฉยชาซะไม่มี คุณ ผมไม่ใช่เด็กๆ นะจะได้งอนไม่เข้าเรื่อง แม้จะพูดเช่นนั้นแต่ใจจริงก็อยากทำอย่างที่หล่อนบอก คุณอาจติดงานหรือธุระอะไรสำคัญก็ได้ หล่อนพ่นลมทางจมูก เพื่อแสร้งงอนคนเล่นตัวและเก็บความรู้สึกเก่งเสียไม่มี ดี ถ้าอย่างนั้นฉันจะหายไปสักเดือนสองเดือน เอาให้คิดถึงซะให้เข็ด วายุหัวเราะเสียงดัง นี่ถ้าหล่อนหายไปเป็นเดือนอย่างที่ว่าจริงเขาคงจะคิดถึงหล่อนเอามากๆ แต่จะเผยความรู้สึกออกไปได้อย่างไรเพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าทั้งสองเหมือนกำลังเล่นเกมกัน อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้เปรียบเสมือนหมอกจางๆที่พร้อมจะเลือนรางหายวับไปในทุกขณะ โอเคๆ เขาพูดกลั้วหัวเราะ เมื่อปลายสายพ่นลมทางจมูกอีกครั้งฟ้องว่ายังไม่เลิกงอน คิดถึงก็ได้เอาเป็นว่าคุณรีบกลับมานะครับ ผมอยากให้คุณสัมภาษณ์เต็มแก่แล้ว หญิงสาวคลี่ยิ้ม ก็ยังดี...ถ้าอย่างนั้นราตรีสวัสดิ์นะคะ ที่รัก ยั่วเย้าตบท้ายก่อนจะวางสาย และคนฟังก็ต้องยิ้มละไมอีกครั้ง หลังจากวางสาย ก็ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงนานเป็นชั่วโมงขนาดนี้โดยไม่รู้เบื่อซันนี่ คุณเป็นนางฟ้าหรือแม่มดกันแน่ ^________^
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2558 9:35:27 น. |
Counter : 756 Pageviews. |
|
|
|