รูปที่ 65 การป้องกันและแก้ไขพื้นที่กัดเซาะชายฝั่งบริเวณหาดบ้านเก้าเส้งโดยการใช้ถมหิน
บ้านเก้าเส้ง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา (ต่อ)
รอดักทรายรูปตัวทีที่หาดเก้าเส้ง (รูปที่ 66) สามารถป้องกันชายฝั่งในบริเวณพื้นที่ที่ตั้งได้ แต่ส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ถัดไปเป็นระยะทางยาวมากกว่า 200 เมตร (รูปที่ 67)
รูปที่ 66 ความรุนแรงของคลื่นที่ปะทะรอดักทรายรูปตัวทีบริเวณหาดบ้านเก้าเส้ง
รูปที่ 67 ผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ถัดไปจากรอดักทรายรูปตัวที
4. บ้านเกาะถ้ำ ตำบลเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา
เป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากเขาเก้าเส้งลงมาทางใต้ พบการกัดเซาะชายฝั่งตลอดแนวชายฝั่ง บริเวณถนนเลียบทะเลทางไป อบต.เขารูปช้าง จากรายงานของ TUDelft (1999) ระบุว่ามีสาเหตุมาจากการลักลอบขุดทรายจำนวนมากจากชายฝั่ง (รูปที่ 68)
รูปที่ 68 ลักษณะการกัดเซาะชายฝั่งบ้านเกาะถ้ำ
บ้านเกาะถ้ำ ตำบลเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา (ต่อ)
โครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่พบในบริเวณนี้ เป็นแนวป้องกันการกัดเซาะและท่อระบายน้ำบริเวณหน้าโรงงานปลาป่น (รูปที่ 69)
รูปที่ 69 โครงสร้างป้องกันการกัดเซาะและท่อระบายน้ำบริเวณโรงงานปลาป่น
บ้านเกาะถ้ำ ตำบลเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา (ต่อ)
ลักษณะการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้น พบด้านเหนือของโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและท่อระบายน้ำบริเวณโรงงานปลาป่น (รูปที่ 70)
รูปที่ 70 ลักษณะการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นบริเวณด้านเหนือของโรงงานปลาป่น
บ้านเกาะถ้ำ ตำบลเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา (ต่อ)
การป้องกันและแก้ไขการกัดเซาะชายฝั่งในบริเวณบ้านเกาะถ้ำ ตำบลเขารูปช้างนั้น อบต.เขารูปช้างเริ่มนำหินมากองริมชายฝั่ง เพื่อเตรียมการปรับถมทะเลเพื่อป้องกันแนวถนน (รูปที่ 71)
รูปที่ 71 อบต.เขารูปช้างนำหินมาปรับถมทะเลเพื่อป้องกันแนวถนน
5. ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
การกัดเซาะชายฝั่งด้านเหนือของเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองนาทับ (รูปที่ 72) พบการกัดเซาะเป็นทางยาวส่งผลกระทบต่อถนนเลียบชายฝั่งไปนาทับขาดเสียหายไม่สามารถใช้สัญจรได้ (รูปที่ 73)
รูปที่ 72 พื้นที่กัดเซาะชายฝั่งด้านเหนือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองนาทับ
รูปที่ 73 แนวถนนเลียบชายฝั่งนาทับถูกกัดเซาะเสียหาย
รูปที่ 74 สภาพถนนเลียบชายฝั่งนาทับที่ถูกกัดเซาะเสียหาย
รูปที่ 75 การกัดเซาะชายฝั่งรุนแรงบริเวณถนนนาทับลึกประมาณ 50 เซนติเมตร
ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา (ต่อ)
ชุมชนบ้านปึกเป็นชุมชนชายทะเล มีมัสยิดบ้านปึกและกุโบอยู่ริมทะเล ซึ่งถูกกัดเซาะมาอย่างต่อเนื่องจนเข้ามาถึงเขตกุโบ (รูปที่ 76) สภาพแนวเขื่อนคอนกรีตยาว 100 เมตรที่กั้นกุโบเสียหาย (รูปที่ 77)
รูปที่ 76 สภาพการกัดเซาะชายฝั่งที่ชุมชนบ้านปึก
รูปที่ 77 ความเสียหายของเขื่อนคอนกรีตกั้นกุโบบริเวณชุมชนบ้านปึก
ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา (ต่อ)
สภาพความรุนแรงของคลื่นที่เข้าปะทะแนวเขื่อนคอนกรีตที่กุโบของชุมชนบ้านปึก (รูปที่ 78) และผลกระทบบริเวณด้านเหนือของแนวเขื่อนคอนกรีต ซึ่งทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ถัดไป (รูปที่ 79)
รูปที่ 78 ความรุนแรงของคลื่นที่เข้าปะทะเขื่อนคอนกรีตบริเวณกุโบชุมชนบ้านปึก
รูปที่ 79 การกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนกั้นกุโบชุมชนบ้านปึก
6. บ้านบ่อโชน ตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
ลักษณะการกัดเซาะชายฝั่งด้านเหนือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองสะกอม (รูปที่ 80) พบการสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งทะเลตลอดแนวชายฝั่ง (รูปที่ 81)
รูปที่ 80 พื้นที่กัดเซาะชายฝั่งด้านเหนือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองสะกอม
รูปที่ 81 การกัดเซาะแนวชายฝั่งตำบลสะกอมเป็นระยะทางยาว
บ้านบ่อโชน ตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา (ต่อ)
พื้นที่ที่ถูกกัดเซาะด้านเหนือของเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองสะกอม ทำให้สูญเสียพื้นที่ชายฝั่งเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร (รูปที่ 82) ลักษณะการกัดเซาะพื้นที่ริมทะเลลึกมากกว่า 80 เมตร (รูปที่ 83)
รูปที่ 82 การสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งบริเวณด้านเหนือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองสะกอม
รูปที่ 83 การกัดเซาะแนวชายฝั่งตำบลสะกอมลึกเข้าไปมากกว่า 80 เมตร เป็นระยะทางยาว
7. บ้านปากน้ำเทพา ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
เขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองเทพา (รูปที่ 84) มีลักษณะเช่นเดียวกับปากคลองอื่นๆ พบพื้นที่กัดเซาะด้านเหนือขึ้นไป (รูปที่ 85)
รูปที่ 84 เขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองเทพา
รูปที่ 85 การสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งบริเวณด้านเหนือเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองเทพา
จังหวัดปัตตานี
จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 135 กิโลเมตร มีชายฝั่งถูกกัดเซาะรุนแรง 11 กิโลเมตร กัดเซาะปานกลาง 12.5 กิโลเมตร ชายฝั่งสะสมตัว 6 กิโลเมตร
ส่วนมากเป็นการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งตามสภาพธรรมชาติ ยกเว้นในบางพื้นที่ที่มีโครงสร้างชายฝั่ง
สำหรับพื้นที่ที่มีการกัดเซาะคือ
1. บ้านตันหยงเปาว์ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
2. บ้านตะโล๊ะสะมิแล ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
3. ชายหาดปะนาเระ ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
1. บ้านตันหยงเปาว์ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
แนวชายฝั่งอยู่ในแนวตะวันออก ตะวันตก พบการกัดเซาะบริเวณพื้นที่ด้านตะวันตกของเขื่อนกันทรายและคลื่นปากคลองตันหยงเปาว์ (รูปที่ 87) รุนแรง อัตราการกัดเซาะมากกว่า 10 เมตรต่อปี (รูปที่ 88)
รูปที่ 88 การสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งบริเวณด้านตะวันตกของเขื่อนกันทราย
และคลื่นปากคลองตันหยงเปาว์
รูปที่ 89 เขื่อนคอนกรีตที่ อบต.ท่ากำชำสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง
บ้านตันหยงเปาว์ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี (ต่อ)
การกัดเซาะชายฝั่งมีต่อเนื่องรุนแรงทุกปี และเข้าถึงเขตโรงเรียนบ้านตันหยงเปาว์ การแก้ไข อบต.ท่ากำชำ ได้จัดงบประมาณมาสร้างเขื่อนยาว 188 เมตร (รูปที่ 89) ปัจจุบันแตกเสียหายแล้ว (รูปที่ 90)
รูปที่ 90 สภาพความเสียหายของเขื่อนคอนกรีตหลังช่วงมรสุม
รูปที่ 91 สภาพการกัดเซาะชายฝั่งด้านตะวันตกของเขื่อนคอนกรีตหลังช่วงมรสุม
บ้านตันหยงเปาว์ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี (ต่อ)
นอกจากความเเสียหายของเขื่อนคอนกรีตที่ อบต.ท่ากำชำ ได้มาจัดสร้างแล้ว พื้นที่ถัดจากเขื่อนจะพบการกัดเซาะที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น (รูปที่ 91)
รูปที่ 92 สภาพการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณสันทรายริมถนนทางไปแหลมตาชี
2. บ้านตะโล๊ะสะมิแล ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
เป็นเส้นทางไปแหลมตาชี พบการกัดเซาะชายฝั่งรุนแรง อัตราประมาณ 5 เมตร ทำลายแนวสันทรายธรรมชาติ (รูปที่ 92) และส่งผลกระทบต่อถนนเส้นทางไปแหลมตาชี (รูปที่ 93)
รูปที่ 93 สภาพความเสียหายของถนนเลียบทะเลหลังช่วงมรสุม
3. ชายหาดปะนาเระ ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
สาเหตุของการกัดเซาะเกิดจากคลื่นลมที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ประกอบกับชายฝั่งเป็นหาดทรายที่ยังไม่คงสภาพ การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นได้ง่าย (รูปที่ 94)
รูปที่ 94 การเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งตามกระบวนการธรรมชาติ บริเวณหาดปะนาเระ
ที่มา : ประชาไท วันที่ : 30/7/2550