Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2560
 
All Blogs
 

ชาวขอนแก่น35,000 คน รำบวงสรวงศาลหลักเมือง ถวายอาลัยรัชกาลที่9




https://www.youtube.com/watch?v=yziqM11tA5o






อลังการ... ขอนแก่นเตรียมปิดเมือง รำประวัติศาสตร์ 35,000 ชีวิต ฉลองตั้งเมืองครบ 220 ปี ถวายอาลัย ร.๙


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จ.ขอนแก่น ประกาศปิดเมือง 35,000 ชีวิต ร่วมรำดอกคูณเสียงแคน บวงสรวงหลักเมือง ฉลองครบ 220 ปี และถวายความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ วันที่ 16 ก.พ.นี้ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น มั่นใจบันทึกสถิติโลกสำเร็จ เล็งทาบ “ณเดชน์-ญาญ่า-สมรักษ์-กิตติ” ร่วมในกิจกรรมด้วย

นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ จังหวัดขอนแก่นร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเตรียมจัดพิธีรำบวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดขอนแก่น ในโอกาสครบรอบก่อตั้ง จ.ขอนแก่น ครบ 220 ปี ทั้งรวมใจชาวขอนแก่น น้อมเกล้าฯถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงจัดให้มีพิธีรำบวงสรวงครั้งแรกของจังหวัดขอนแก่นทั้ง 26 อำเภอ

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนซ้อมรำให้เป็นในทิศทางเดียวกัน ชื่อชุดรำดอกคูณเสียงแคน โดยมีอาจารย์นาฏศิลป์ของโรงเรียนขามแก่นนคร เป็นผู้กำหนดท่ารำ ขณะนี้ได้ฝึกซ้อมไปยังแกนนำรำจากทั้ง 26 อำเภอแล้ว เพื่อนำไปถ่ายทอด และฝึกซ้อมรำทุกวันเพื่อให้การรำดอกคูณเสียงแคนวันที่ 16 ก.พ.นี้สมบูรณ์แบบที่สุด

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวต่อว่า ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนเพื่อร่วมรำดอกคูณเสียงแคนมากกว่า 40,000 คนแล้ว แต่เพื่อให้การรำสมบูรณ์แบบเป็นไปทิศทางเดียวกัน จึงกำหนดยอดนางรำไว้ที่ 35,000 คน เพื่อร่วมกันบันทึกสถิติโลกให้ได้

สำหรับสถานที่รำบวงสรวงครั้งประวัติศาสตร์ ได้กำหนดจุดศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง และจะปิดถนนทั้งหมด 4 เส้นทาง ประกอบด้วย ถ.ศรีจันทร์ ทั้งสองฝั่ง, ถ.เทพารักษ์, ถ.รถไฟ และ ถ.ประชาสำราญ ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป โดยการรำบวงสรวงครั้งนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด เพราะทั้งชายและเพศที่ 3 ล้วนต้องการรำบวงสรวงเจ้าพ่อหลักเมือง และร่วมกิจกรรมถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ อีกด้วย

ส่วนการแต่งกายของนางรำทั้งหมด ผู้ชายจะสวมใส่โจงกระเบนสีดำ เสื้อไหมแขนยาวสีขาว พาดด้วยสไบไหล่สีขาว ขณะที่นางรำฝ่ายหญิงจะใส่ผ้าถุงหรือผ้าซิ่นสีดำ เสื้อไหมสีขาวแขนยาว และพาดสไบไหล่สีดำ รำประกอบเพลงดอกคูณเสียงแคน เพลงประจำจังหวัดขอนแก่น กำลังอยู่ระหว่างการซ้อมทุกอำเภอ รวมทั้งสถาบันการศึกษา ช่วงเวลาหลังเลิกงานและวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยได้อัพท่ารำและเนื้อเพลงไว้ในยูทูป เพื่อให้ทุกคนสามารถฝึกซ้อมได้ที่บ้าน

สำหรับสถานที่จะใช้เวทีกลางบริเวณลานด้านหน้าศาลหลักเมืองเป็นจุดส่งสัญญาณ และกำหนดเป็นพื้นที่กำหนดการรำ ล่าสุดจังหวัดขอนแก่นได้ทาบทามบุคคลที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะดารา และนักร้องลูกหลานคนขอนแก่น รวมถึงนักกีฬาทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็น นายณเดช คุกิมิยะ พร้อมแฟนสาวอุรัสยา สเปอร์บันด์ หรือญาญ่า, นายกิตติ สิงหาปัด, สมรักษ์ คำสิงห์, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันเพื่อร่วมรำครั้งประวัติศาสตร์ของจังหวัดขอนแก่น

//www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000012657




คลิปข่าวทีวี

ข่าวช่อง Nbt

https://www.youtube.com/watch?v=NI4zIx-3ofQ







https://www.youtube.com/watch?v=NehMGYscA7w






ข่าวช่อง ช่อง7

https://www.youtube.com/watch?v=Z-CfWIbR-U0


ข่าวช่อง 8

https://www.youtube.com/watch?v=6U-Zj4vOKl8


ข่าวช่อง BRIGHT TV20

https://www.youtube.com/watch?v=0fazqe1I2SQ


ข่าวช่อง เวิร์คพอยท์

https://www.youtube.com/watch?v=8ya7xC8i1PA


ข่าวช่อง tnn24

https://www.youtube.com/watch?v=Iq5Ve36UiJ0


ข่าวช่อง MGR Online VDO

https://www.youtube.com/watch?v=SQvmqS-tAVw





"ทำไมคนไทยถึงรักในหลวงรัชกาลที่ ๙"
สื่ออินโดฯเผยแพร่บทความสอนสำนักข่าวตะวันตก #KingBhumipol

●●สื่ออินโดนีเซียเผยแพร่บทความของอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยบูรพา ระบุการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของไทย และให้ข้อมูลอย่างละเอียดว่าทำไมผู้คนถึงรักพระมหากษัตริย์พระองค์นี้อย่างหาที่สุดมิได้ หลังสื่อมวลชนนานาชาติหลายฉบับรายงานข่าวโดยไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของพสกนิกรและรับรู้สถานการณ์ที่แท้จริงในไทย

บทความของ ดร.ภัทรพงษ์ รัตนเสวี จากมหาวิทยาลัยบูรพา ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของจาการ์ตาโพสต์ ระบุว่า หัวค่ำของวันที่ 13 ตุลาคม คือ ช่วงเวลาที่วิกฤตยิ่งของปวงชนชาวไทย เพราะมันเป็นเวลาที่สำนักพระราชวังแถลงอย่างเป็นทางการ ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก เสด็จสวรรคต สิ้นสุด 70 ปีแห่งการครองราชบัลลังก์ของพระองค์

ทั่วทั้งประเทศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน โศกเศร้า และความไม่แน่นอน ขณะที่มันเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สุึกที่ยากลำบากและยาวนานของพสกนิกรชาวไทย

ดร.ภัทรพงษ์ ระบุผ่านจาการ์ตาโพสต์ ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่งในไทย พระองค์ทรงเปรียบเสมือนหัวใจของชาติ แสดงให้เห็นจากเหล่าผู้นำโลกจำนวนมากออกถ้อยแถลงแสดงความอาลัย ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดี บารัค โอบามา, ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน, ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และ บันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ขณะที่สหประชาชาติก็จัดประชุมวาระพิเศษเพื่อสดุดีพระองค์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา

อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพา บอกต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ข่าวพาดหัวของสื่อมวลชนนานาชาติ เต็มไปด้วยข่าวลือและความคาดหมายเกี่ยวกับการสืบราชสันตติวงศ์ รวมถึงบทบาทซึ่งเป็นที่ถกเถียงในทางการเมืองของพระองค์และอนาคตของประเทศ นั่นเป็นเพียงมุมมองของต่างชาติ แทนที่จะสนทนากันในประเด็นต่างๆ เหล่านี้ มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนและรับรู้สถานการณ์ที่แท้จริงในไทย ซึ่งในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน

ที่สำคัญยิ่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือการตระหนักว่าทำไมพระมหากษัตริย์ไทยถึงเป็นที่เคารพรักทั้งพสกนิกรไทยและต่างชาติ เช่นเดียวกับทำไมพระองค์ทรงมีความพิเศษอย่างยิ่ง แตกต่างจากอย่างมากกับระบบราชาธิปไตยอื่นๆ

●●บทความในจาการ์ตาโพสต์ระบุว่า อย่างแรกเลย มีคนมากมายพูดว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถูกมองอย่างกว้างขวางในฐานะกึ่งเทพ มันเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว ครึ่งหนึ่งของความเชื่อว่าพระองค์เป็นมนุษย์กึ่งเทพ มาจากความเชื่อดั้งเดิมและในฐานะของกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนาน แต่อีกครึ่งหนึ่งมาจากบุคลิกและกิจวัตร รวมถึงความมีศีลธรรม ชีวิตส่วนพระองค์และพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะกษัตริย์ผู้ทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อ่อนโยน ห่วงใย โอบอ้อมอารี เอาจริงเอาจัง เฉลียวฉลาด เคร่งขรึมและตั้งใจ

พระองค์ทรงใช้ชีวิตเรียบง่ายและติดดิน มีเรื่องเล่ามากมายปากต่อปากในหมู่ผู้คนเดียวกับแบบอย่างการใช้ชีวิตเรียบง่ายของพระองค์ อย่างเช่น หลอดยาสีฟันที่ทรงใช้จนแบนราบคล้ายแผ่นกระดาษ นาฬิกาเรือนโปรดของพระองค์ ปากกาและรองเท้าที่ซ่อมแล้วซ่อมอีก ส่วนที่ทำงานของพระองค์ก็เป็นแค่ห้องแคบๆ กว้าง 3 เมตรยาว 4 เมตรที่เต็มไปด้วย วิทยุ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ แผนที่ และอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ บทความในจาการ์ตาโพสต์ระบุ

ดร.ภัทรพงษ์ บอกต่อว่า นอกเหนือจากหน้าที่ของกษัตริย์แล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงเป็นนักวาดภาพมืออาชีพ ช่างภาพมืออาชีพ นักดนตรีแจ๊ซ นักแต่งเพลง วิศวกร สถาปนิก นักประพันธ์หนังสือ นักแปล นักประดิษฐ์และนักคิดสร้างสรรค์ ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังมีความเชี่ยวชาญในภาษาต่างชาติ 7 ภาษา และครั้งหนึ่งเมื่อไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาแหลมทอง (ปัจจุบันคือซีเกมส์) พระองค์ก็ทรงคว้าเหรียญทองในกีฬาเรือใบโดยเรือที่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง

พระองค์ทรงได้ปริญญากิตติมศักดิ์กว่า 200 ใบ จากทั้งมหาวิทยาลัยภายในและต่างประเทศ เช่นเดียวกับรางวัลทรงคุณค่าระหว่างประเทศต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต (Lifetime Achievement Award) จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) คนแรกของโลก ในปี 2006 ที่เสนอโดยนายโคฟี อันนัน เลขาธิการยูเอ็น ณ ขณะนั้น

และตอนนี้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ แนวคิดที่สนับสนุนประชาชนใช้ชีวิตแต่พอมีและพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาอย่างสมดุลระหว่างความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่นเดียวกับแนวทางปฏิบัติต่างๆ แห่งความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เวลานี้กำลังถูกนำไปประยุกต์ใช้ทั่วโลก

●● อย่างที่สอง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพาระบุว่าคือ การที่พระองค์ทุ่มเทพระวรกายตลอดช่วงชีวิตทำงานเพื่อพสกนิกรในประเทศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงริเริ่มและดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ ทั้งในชนบทและพื้นที่เมือง

ในนั้นรวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอันสำคัญบางแห่ง อย่างเช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถนนรัชดาภิเษก ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี สะพานพระราม 8 และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ด้วยหลายโครงการเชื่อว่าใช้เงินส่วนพระองค์

ขณะเดียวกัน โครงการด้านการเกษตร ป่าไม้และอุตสาหกรรมขนาดเล็กบางส่วน ก็เริ่มต้นในฐานะการทดลองผลิตเองในสวนของพระราชวังดุสิต ที่ประทับของพระองค์ในกรุงเทพฯ และมันจะถูกนำไปใช้และมอบให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์เมื่อคิดว่าประสบผลสำเร็จแล้ว

ดร.ภัทรพงษ์ ให้ข้อมูลผ่านจาการ์ตาโพสต์ ต่อว่า #พระองค์ยังถือครองสิทธิบัตรระหว่างประเทศหลายใบ โดยที่โด่งดังที่สุดคือ

- เทคโนโลยีฝนหลวง
- กังหันน้ำเพื่อบำบัดน้ำเสียชัยพัฒนา และ
- พลังงานไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม

พระองค์ทรงงานคู่ขนานและประสานงานกับรัฐบาล แต่บ่อยครั้งความพยายามของพระองค์ดูเหมือนจะรวดเร็ว มีประสิทธิผล ได้คำตอบ มีการวางแผนที่ดีและปราศจากคอร์รัปชัน ซึ่งสวนทางกับทัศนคติไม่ใส่ใจและผลงานไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่ศรัทธาและน่าเชื่อถือที่สุดในสายตาประชาชน

●●อย่างที่ 3 บางทีอาจเป็นเพราะการครองราชย์ที่ยาวนานและบทบาทชี้ขาดในทางการเมือง วิกฤตและสังคมของพระองค์ ทั้งนี้ ด้วยทรงเป็นที่ความเคารพรักอย่างสูง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงทรงมีสถานะพิเศษเหมือนคนกลางสุดท้าย พระองค์ทรงแทรกแซงทางการเมืองอย่างชาญฉลาดและทำเท่าที่จำเป็น แต่ผลลัทธ์นั้นทรงพลังและไม่สามารถปฏิเสธได้

โดยหนึ่งในเหตุการณ์ซึ่งเป็นที่จดจำมากที่สุด ก็คือ ระหว่างเหตุความไม่สงบนองเลือดในปี 1992 พระองคทรงเรียก 2 แกนนำฝ่ายตรงข้ามเข้าพบเพื่อหาทางออกจากสันติและยุติการนองเลือด เหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้มีการออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ และนำมาสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่ได้รัฐบาลพลเรือน ขณะที่พระองค์เคยทำแบบเดียวกันนี้ในปี 1973 และ 1976 ดร.ภัทรพงษ์ ระบุ

บทความในจาการ์ตาโพสต์ ระบุว่า สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก 70 ปีแห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็คือ ด้วยการทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อุทิศพระวรกายทั้งชีวิตเพื่อสังคมและเป็นแบบอย่างด้านการใช้ชีวิตเรียบง่าย ประเทศไทยจึงประสบความสำเร็จในรูปแบบอำนาจซึ่งไม่เป็นไปตามแบบแผน ที่ทั้งหมดสร้างขึ้นรอบๆ บุคคลเดียว อำนาจที่อ่อนโยนของพระองค์เหนือกว่าอำนาจที่แข็งกร้าว และช่วยรักษาเสถีรภาพของประเทศ และบางครั้งบางคราว ทรงนำพาประเทศผ่านพ้นความยุ่งเหยิงทั้งภายในและภายนอก

แน่นอนว่าพลังอำนาจพิเศษของพระองค์ คงไม่สอดคล้องกับแนวทางที่ชาวตะวันตกทั่วไปคิด หากปราศากการศึกษาบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์ มันยากที่จะเข้าใจ มันพบเห็นได้น้อยมากในประวัติศาสตร์ และคงไม่ได้พบเห็นในอนาคตอันใกล้นี้ ดร.ภัทรพงษ์ กล่าวปิดท้ายในจาการ์ตาโพสต์

//m.manager.co.th/Around/detail/9590000110251





 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2560
0 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2560 21:52:40 น.
Counter : 1579 Pageviews.


ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.