Group Blog
เมษายน 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
'เครื่องหอม-บุหวาสด' พลิกขายได้หลายเทศกาล
ปัจจุบันสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยไม่ได้ถูกมองว่าเชยหรือล้าสมัยอีกแล้ว ทั้งกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ กลุ่มลูกค้าวัยใส วัยรุ่น-วัยทำงาน กลับมาให้ความสนใจ ยิ่งรู้จักพัฒนารูปแบบให้เข้ากระแส โอกาสทำเงินก็เพิ่มขึ้นได้ในทุกเทศกาล รวมถึง “สงกรานต์” อย่างเช่นงาน “เครื่องหอมไทย-บุหงาสด”

จรัสศรี โรหิโตปการ เล่าว่าตั้งกลุ่มเครื่องร่ำไทยเพื่อที่จะอนุรักษ์และผลิตงานเครื่องหอมไทยสูตรโบราณดั้งเดิม โดยสูตรการทำเป็นสูตรเฉพาะของครอบครัว ตอนแรกเป็นการทำไว้ใช้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนที่บ้านเท่านั้น โดยจะเป็นบุหงาสดที่มีกรรมวิธีขั้นตอนการทำแบบโบราณทุกอย่าง และจะแตกต่างจากการทำบุหงาแห้งที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย หลังจากนั้นตนจึงคิดว่าน่าจะนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายได้ อีกทั้งจะยังเป็นการอนุรักษ์เครื่องหอมไทยโบราณนี้ไม่ให้สูญหาย จึงนำสูตรและวิธีการทำจากคุณแม่สามีมาทำอย่างจริงจัง โดยได้นำมาปรับทำอยู่นานจนลงตัว จนสามารถผลิตเป็นสินค้าเพื่อจำหน่าย เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้

สำหรับบุหงาทั่วไปจะเป็นการทำดอกไม้ให้แห้งแล้วใส่กลิ่นสังเคราะห์เติมลงไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลิ่นสมัยใหม่ แต่บุหงาสดของเธอจะเป็นการนำวัตถุดิบสดมาผ่านกรรมวิธี “อบควันแบบโบราณ” เพื่อให้หอม ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้กลิ่นที่ออกมาเป็นธรรมชาติกว่า ยังทำให้วัตถุดิบแห้งลงอย่างช้า ๆ ทำให้กลิ่นคงทน จากนั้นในขั้นตอนการทำก่อนบรรจุขายก็จะนำมาทำให้เป็นบุหงาสดอีกครั้งด้วยสมุนไพรสูตรของครอบครัว
แม้ขั้นตอนการทำจะใช้ระยะเวลาทำนานกว่า แต่จุดเด่นของกลิ่นที่ได้จากบุหงาสดจะเป็นกลิ่นที่หอมเย็น หลากหลายกลิ่น อย่างที่คนโบราณเรียกว่า “กลิ่นบุหงาร่ำไป” คือจะหอมเรื่อย ๆ หอมโชย ๆ แตกต่างจากกลิ่นสมัยใหม่ที่ส่วนใหญ่ใช้กัน ที่จะหอมแหลมเพียงกลิ่นเดียวชัดเจน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเด่นของเครื่องหอมไทย

“กว่าจะพัฒนาจนสามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้นั้น ก็ต้องทดลองทำอยู่นาน เพราะต้องคำนึงถึงในมุมที่จะผลิตเป็นสินค้าด้วย เพราะจะแตกต่างจากการผลิตเพื่อใช้เองภายในครัวเรือน โดยต้องคิดเรื่องบรรจุภัณฑ์ ความชื้น เชื้อรา และระยะเวลาในการใช้งาน ปัจจุบันกลิ่นหมอของเราสามารถใช้ได้นานประมาณ 2-3 เดือน”

เจ้าของผลิตภัณฑ์กล่าวต่อว่า ตอนแรกที่เริ่มนำออกวางจำหน่ายลูกค้าจะสอบถามกันมากว่าเป็นสินค้าเกี่ยวกับอะไร พอบอกว่าเป็นบุหงาสดคนก็สนใจ โดยตอนแรกลูกค้ากลุ่มใหญ่สุดจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่-ผู้สูงอายุ ต่อมาเมื่อมีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้แตกชนิดออกไป และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ดูสวยงามน่ารักขึ้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานมากขึ้น และสามารถขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น คือจากเดิมที่เป็นสินค้าในตลาดกลุ่มเครื่องหอม-ของใช้ แต่ปัจจุบันสามารถขายกับลูกค้าในกลุ่มของที่ระลึก-ของชำร่วยได้อีกด้วย

“อย่างช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สินค้าประเภทเครื่องหอมไทยกับน้ำปรุงก็จะขายดีเพิ่มขึ้น เพราะคนนิยมนำไปเป็นของฝาก ของที่ระลึกมอบให้ผู้ใหญ่ หรือนำไปใช้สร้างบรรยากาศให้กับที่พักอาศัย ส่วนรูปแบบที่เป็นตุ๊กตาหรือตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ จะขายดีในช่วงปีใหม่ เพราะลูกค้าวัยรุ่นนิยมซื้อเพื่อนำไปเป็นของขวัญ หรือนำไปเป็นของชำร่วยในงานต่าง ๆ”

จรัสศรีกล่าวถึงผลสำเร็จจากตลาดที่ขยายกลุ่มภายหลังแตกชนิดสินค้าออกมาให้ฟัง

ทุนเบื้องต้นอาชีพ ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าอุปกรณ์และเครื่องมือสำคัญ เช่น ถังสแตนเลสสำหรับใช้อบวัตถุดิบ ขนาด 5 กิโลกรัม, ภาชนะสแตนเลสสำหรับเตรียมวัตถุดิบ

ส่วนทุนวัตถุดิบ อยู่ที่ประมาณ 50% ของราคาขาย โดยรายได้จะมาจากสินค้าชนิดต่าง ๆ เช่น เครื่องหอมไทยโบราณ, บุหงาสด, น้ำปรุง, ตุ๊กตาหอมปรับอากาศ ซึ่งราคาสินค้าจะเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 25 บาท ไปจนถึงสูงสุดชิ้นละ 250 บาท ขึ้นกับแบบและชนิดของสินค้า
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำ ประกอบด้วย ใบเตยหอม, ใบมะกรูด, ตะไคร้, ดอกไม้หอมชนิดต่าง ๆ อาทิ มะลิ กระดังงา ลีลาวดี ดอกประดู่ นอกจากนี้ก็ยังมีสมุนไพรหลักที่ใช้ ได้แก่ การบูร, พิมเสน เป็นต้น

ขั้นตอนการทำ หลัก ๆ ก็เริ่มจากการนำวัตถุดิบสดมาทำความสะอาด จากนั้นนำมาผึ่งลมให้แห้งสนิท นำวัตถุดิบที่ได้มาสับให้แค่พอละเอียด จากนั้นนำลงไปหมักรวมกันในถังอบ โดยใช้วิธีการอบแบบเดียวกับการอบควันเทียนในการทำขนม แต่ใช้เวลานานมากกว่า โดยการอบแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน เหตุที่ต้องใช้เวลานานก็เพื่อให้กลิ่นจากวัตถุดิบค่อย ๆ ซึมซับเข้าเนื้อของวัตถุดิบ เมื่อครบกำหนดจึงนำออกมาผสมกับสมุนไพรที่เตรียมไว้ ที่เป็นสูตรเฉพาะ จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงในถุงหรือบรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้

“ข้อควรระวังคือพยายามคุมกลิ่นอย่าให้ฉุนหรือหอมจัดจนเกินไปเหมือน้ำหอม สินค้าแต่ละชิ้นเมื่อเปิดห่อออกใช้จะตั้งทิ้งไว้ได้นานเป็นเดือน ถ้ากลิ่นหมดก็สามารถเติมกลิ่นจากน้ำปรุงบรรจุขวดได้ด้วย” จรัสศรีกล่าว


ที่มา //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=72371&NewsType=2&Template=1




Create Date : 26 เมษายน 2552
Last Update : 26 เมษายน 2552 11:29:58 น.
Counter : 1451 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]