Group Blog
เมษายน 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
'กาแฟคั่วบด' ชาวบ้านก็ผลิตขายได้
เมืองไทยเรามีหลายพื้นที่ที่ปลูกต้นกาแฟได้ และก็ไม่จำเป็นว่าอาชีพเกี่ยวกับกาแฟในเมืองไทยจะเป็นได้แค่เกษตรกร เป็นนักธุรกิจกาแฟก็ได้ อย่างรายของกลุ่มชาวบ้านที่ ต.คลองท่อม จ.กระบี่ ที่ผันตัวจากเกษตรกรเป็นนักธุรกิจขาย “กาแฟคั่วบด” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ...

@@@@@

ป้าไพ-ประไพ จันทรักษ์ หนึ่งในเจ้าของสวนกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ในเขต ต.คลองท่อม เล่าว่า จากปัญหาเมล็ดกาแฟสดราคาตกต่ำ เกษตรกรส่วนใหญ่เลือกที่จะหนีภาวะขาดทุนด้วยการโค่นต้นกาแฟทิ้ง แล้วหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน แต่ตนเองเห็นว่าน่าจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปเมล็ดกาแฟเป็นสินค้า จนเป็นผลิตภัณฑ์ “กาแฟคั่วบด” ชื่อ “คลองท่อม คอมฟี่ นกแต้วแร้ว” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตราสินค้าที่เป็นความภาคภูมิใจของคนเมืองกระบี่ สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้อย่างน่าพอใจ

“พอราคาตก ก็ทดลองนำเมล็ดกาแฟดิบที่ขายไม่ได้ราคามาแปรรูปคั่วบด แล้วตั้งร้านชงขายแบบสด ๆ ในตลาด ได้คิดค้นสูตรจนได้รสชาติถูกใจคอกาแฟ ทั้งยามเช้า บ่าย ค่ำ ขายได้ดี จากนั้นก็เริ่มชักชวนเพื่อนบ้าน ทำกาแฟคั่วบดฝากขายตามร้านต่าง ๆ จนสินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ”

ป้าไพเล่าต่อไปว่า เมื่อมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้ ก็ชักชวนคนอื่น ๆ ที่ยังรักสวนกาแฟมาร่วมกันทำ เริ่มในปี 2545 รวบรวมแม่บ้านที่ว่างจากงาน จัดตั้ง “กลุ่มสตรีเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้” ขึ้น โดยตนเองเป็นประธาน ใช้เงินลงทุน 1,000,000 บาท ที่ขอกู้จากโครงการกองทุนหมู่บ้าน สร้างอาคาร ซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ ลงมือทำกันจริงจังจนเห็นผลเป็นรูปธรรม มาจนถึงปัจจุบันมีสมาชิก 40 คน

เคล็ดลับการผลิตกาแฟคั่วบดให้ได้คุณภาพนั้น ป้าไพบอกว่า ต้องพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เมล็ดกาแฟที่เก็บสด คัดเฉพาะเมล็ดสุกที่ได้คุณภาพ นำมาตากแดดให้แห้งสนิทประมาณ 2 สัปดาห์แล้วจึงนำไปสีเอาเปลือกออก จากนั้นบ่มทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี จึงนำมาคั่ว เสร็จแล้วหมักไว้ประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะบด แต่ก่อนบดเป็นผงละเอียดต้องคัดเลือกเฉพาะเมล็ดที่ดีอีกที ถ้ามีเมล็ดอ่อนหรือเมล็ดที่เสียปะปน รสชาติกาแฟจะไม่ดี เมื่อทำการบดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าเรียบร้อยแล้ว นำผงกาแฟที่บดละเอียดแล้วไปผสมกับกาแฟพันธุ์อาราบิก้าซึ่งสั่งตรงมาจากภาคเหนือในสัดส่วนที่พอเหมาะ หรือให้มีรสชาติตามต้องการ กาแฟที่ได้จะมีกลิ่นหอมกรุ่น และรสชาติกลมกล่อมอร่อย

ทั้งนี้ ป้าไพบอกถึงความสำเร็จของกลุ่มว่า เกิดจากความร่วมมือของสมาชิก และจากการสนับสนุนของเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ สาธารณสุขจังหวัด, พัฒนาชุมชน, อุตสาหกรรมจังหวัด ที่จัดอบรมให้ความรู้ แนะนำเทคนิคต่าง ๆ ให้ทั้งเรื่องกระบวนการผลิต คุณภาพสินค้า รวมถึงบรรจุภัณฑ์
จนผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้มาตรฐานสินค้าโอทอป 5 ดาวด้วย

“หลังจากตั้งกลุ่มได้ 2 ปี เราก็เริ่มเห็นความสำเร็จ เพราะได้ออกบูธงานสินค้าโอทอปที่เมืองทองธานีและตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ทำให้กาแฟสดคั่วบดกึ่งสำเร็จรูปของกลุ่มเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ปี 2547 สร้างยอดขายได้กว่า 500,000 บาท และเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับความอนุเคราะห์จากห้างเทสโก้ โลตัส สาขากระบี่ ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้นำสินค้าไปวางจำหน่ายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย”

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ป้าไพบอกว่า ที่สำคัญคือรสชาติเข้มข้น กับกลิ่นหอมกรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสินค้าต้องใหม่ สด อยู่เสมอ ผลิตตามออร์เดอร์ ส่งถึงมือลูกค้าภายในเวลาที่กำหนด ต้องไม่ให้มีสินค้าเหลือค้างสต็อก เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้มาตรฐาน

จากร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายในหมู่บ้าน กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่กระจายไปยังท้องถิ่นอื่น ขยายสู่ระดับจังหวัด ส่งต่อไปยังโรงแรมที่พัก ห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสตรีเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้มีจำหน่ายทั้งกาแฟคั่วบดชั่งเป็นกิโลขาย สูตรร้อน ราคากิโลกรัมละ 350 บาท ส่วนกาแฟสูตรเย็น กิโลกรัมละ 300 บาท และแบบบรรจุซองสำเร็จรูปพร้อมชงน้ำร้อน แพ็คเป็นกล่อง ๆ ละ 10 ซอง ราคา 80 บาท ไม่ว่าราคาเมล็ดกาแฟดิบจะขึ้นหรือลง ผลิตภัณฑ์กาแฟแปรรูปของกลุ่มก็ยังขายได้ราคา ช่วยให้คุณภาพชีวิตคนในชุมชนดีขึ้น


ที่มา //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=71814&NewsType=2&Template=1



Create Date : 06 เมษายน 2552
Last Update : 6 เมษายน 2552 11:22:03 น.
Counter : 654 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]