ต้นณัฐวัตร เอเอฟ7 ฟังคำแม่สอน...อย่าใช้เงินเกินตัว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คอลัมน์ เจาะพอร์ตคนดัง ได้นำเกร็ดเคล็ดไม่ลับการออมเงินในแบบฉบับของหนุ่มน้อยหน้าใส AF7 บอส - ธนบัตร งามกมลชัย มานำเสนอกันไปแล้ว และในวันนี้เราลองมาดูอีกมุมของหนุ่มนักล่าฝันต้น เอเอฟ7 - ณัฐวัตร ดีวงกิจ ซึ่ง หนุ่มต้น เองก็มีเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่คุณแม่สอนมาตั้งแต่เด็ก และนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าใครอ่านแล้วอยากนำไปใช้บ้างหนุ่มต้นไม่ว่ากันจ้า...
ต้น บอกว่า จากการประกวด AF7 ในครั้งนี้ได้เงินรางวัลมาทั้งสิ้น 100,000 บาท ตอนนี้เงินดังกล่าวยังไม่ได้ทำอะไร แต่มีแผนว่าจะแบ่งเงินออกมาทำบุญก้อนหนึ่ง เพราะผมเองถือว่าโชคดีมากที่ได้เข้ารอบ เพราะก่อนหน้านี้ผมได้โดนโหวดให้ออกจากบ้านไปและหลังจากนั้นได้โหวดให้กลับเข้ามามาอีกครั้งหนึ่ง และในส่วนที่เหลือผมจะให้คุณแม่เก็บไว้
ทั้งนี้ จากการประกวด AF 7 ที่ผ่านมา ทำให้ ต้น เริ่มมีผลงานออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร AF7 ที่เริ่มวางแผงแล้วในเดือนตุลาคม นี้ ซึ่งจะมีเรื่องราวของเหล่า AF7 ที่อยู่ในบ้านความเคลื่อนไหวต่าง ๆ เป็นเรื่องราวที่สนุกสนาน รวมถึงมีการถ่ายแฟชั่นในนิตยสารเล่มนี้ด้วย นอกจากนี้แล้ว ในปลายเดือนตุลาคมนี้อีกเช่นกัน จะมีคอนเสิร์ตที่อิมแพคเมืองทองธานี และหลังจากนั้นก็จะมีคอนเสิร์ตที่จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา และสุราษฎ์ธานี
ต้น มีหลักและแนวคิดในการทำงานคือ ต้องตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อน เพื่อที่เราจะได้พยายามให้ถึงที่สุด และเป็นการสร้างความหวังให้กับเราในการทำงานให้เต็มที่ด้วย เพราะถ้าเราตั้งความหวังกับมันน้อยเราก็อาจจะไม่มีแรงดึงดูดหรือไม่กระตือรือร้นในการทำงาน และงานนั้นก็อาจจะออกมาไม่ดี
สำหรับในเรื่องของการออมเงิน ต้น บอกว่า การออมเงินเป็นสิ่งที่ดี เราไม่รู้ว่า อนาคตจะเกิดอะไรบ้าง ก็ควรที่จะเก็บเงินไว้เผื่อใช้เวลาจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพ เราไม่รู้ว่าเราจะไม่สบายเมื่อไหร่ เก็บไว้ใช้เวลามีเหตุฉุกเฉิน หรือเก็บไว้ในอนาคตเพื่อซื้อรถ ซื้อบ้าน มันดีกว่าที่เราได้เงินเดือนมาเท่าไหร่ก็ใช้หมด มันไม่ถูก
ต้น บอกว่า เงินของผมที่ได้มาจากการทำงานจะเก็บสะสมไว้ในส่วนของในบัญชีออมทรัพย์มากกว่า เพราะถ้าจะให้ผมไปลงทุนอะไรตอนนี้คงยังไม่ทำ เนื่องจากว่าผมยังเด็กเกินไปต้องรอให้โตกว่านี้สักหน่อย นอกจากนี้แล้วเงินต่าง ๆ ที่เป็นรายได้เข้ามาก็จะให้คุณแม่เป็นคนดูแลให้ เพราะคุณแม่จะมีการบริหารเงินที่ดีกว่าเราแน่นอน
ตัวผมเองยังเด็กเกินไปที่จะเก็บสตางค์เอง ดังนั้นเงินทั้งหมดของผมก็จะให้คุณแม่เก็บไว้ให้ และให้คุณแม่เป็นคนวางแผนในเรื่องการจัดสรรให้ เพราะถ้าจะให้ผมเก็บเองก็คงไม่มีระบบมากนัก อย่างที่บอกเรายังเด็กเกินไปที่จะเก็บเอง
ต้น บอกต่อว่า การออมเงินเป็นเรื่องที่ดี เป็นการฝึกวินัยให้กับตัวเราเอง รู้จักคิดรู้จักวางแผนให้กับตัวเราเองด้วย เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนแรกทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ ในสิ่งที่เราไม่คาดคิด และยิ่งเศรษฐกิจบ้านเราเป็นอย่างนี้มีปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่จบสิ้นก็ต้องมีการใช้จ่ายเงินกันอย่างระมัดระวังมากขึ้นด้วย
คุณพ่อคุณแม่จะสอนเสมอว่า ห้ามยืมเงินคนอื่นเลย เพราะเราอาจจะเสียมิตรภาพดี ๆ ได้ และเมื่อมีรายได้เข้ามาต้องรู้จักแบ่งเก็บออมไว้ด้วยไม่ใช่ใช้จนหมด เพราะคุณแม่จะสอนเสมอว่า พยายามออมเงินไว้ในระหว่างที่เรายังมีกำลังที่จะหาเงินได้ อย่าใช้เงินเกินตัว เพราะฉะนั้นเราควรใช้เท่าที่เรามีใช้ อีกอย่างอย่าไปยึดติดกับค่านิยม ต้องใช้มือถือยี่ห้อแพง ๆ หรือเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ๆ เป็นต้น เพราะเราอาจจะมานั่งทุกข์ตอนหลังก็ได้
ทั้งนี้ ต้น บอกต่ออีกว่า รายได้ที่สามารถหาได้ด้วยตัวเองนั้น เป็นช่วงตอนอายุ 17 ปี กับการถ่ายแบบในนิตยสาร และถ่ายโฆษณา จำได้ว่าถ่ายโฆษณาได้ค่าจ้างมาประมาณ 10,000 บาท ดีใจมาก เพราะเป็นเงินก้อนแรกของเราที่หาได้ด้วยตัวของเราเอง ก็ไม่ได้ทำอะไรนำไปให้คุณแม่เลยในตอนนั้น
สุดท้าย ต้น ฝากบอกว่า อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่าที่บ้านผมจะสอนเสมอว่าไม่ให้ยืมเงินใคร ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตามห้ามยืมโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เราเสียเพื่อน หรือผิดใจกับคนที่เรายืมได้ ดังนั้นผมจึงไม่เคยยืมเงินใครเลย มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ถ้าอยากได้อะไรจริง ๆ ก็จะเก็บสตางค์ซื้อทีหลัง และก็อยากให้หลาย ๆ คนทำเช่นเดียวกับผมก็จะเป็นการดี เพราะเราจะได้ประมาณตัวเราเองด้วยว่าเราสามารถใช้จ่ายได้เท่าไหร่ เป็นการไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป
ข้อมูลจาก manager.co.th
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [