Group Blog
กุมภาพันธ์ 2552

3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
15
17
20
24
25
26
 
All Blog
ไอเดียธุรกิจน่าสนใจรับหน้าร้อน
ไอศกรีม น้ำปั่น หวานๆ เย็น ๆ เตรียมพร้อมเปิดตลาดช่วงหน้าร้อน

* ตกงาน อย่าเพิ่งตกใจ แต่ให้ตั้งสติ

* เมืองร้อน เข้าหน้าร้อน ขายไอศกรีม น้ำปั่น หวานเย็น ดีกว่า

* ลงทุนเริ่มต้น 30,000 บาท รวมคีออส

* เล็งทำเลให้ดี หน้าโรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว เจ๋งสุด

* อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง วิกฤตคือโอกาส ท่องไว้

ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจปีนี้ไม่ดีนัก หรือกล่าวอย่างถึงที่สุดก็คือ อยู่ในอาการโคม่าทีเดียว มีข่าวมาเป็นระลอกๆ ว่า คนงาน ลูกจ้างประจำ ถูกเลิกจ้างครั้งละมากๆ บ้างได้ค่าชดเชย บ้างยังมีปัญหากับนายจ้างอยู่ แม้ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบ้างแล้ว แต่คิดว่า ตนเป็นที่พึ่งของตนก่อนดีกว่า

ถ้าสมมติว่า คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ทำงานบริษัทเอกชนอยู่ อย่าได้ไว้วางใจเป็นอันขาดว่า บริษัทมั่นคง เงินเดือนดี หวังจะฝากชีวิตไว้กับเงินเดือนประจำ ทางที่ดี ควรหาความรู้ใส่ตัวไว้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ หรือทักษะในการประกอบอาชีพใดก็ตาม ควรมีเสริมเอาไว้ เหมือนกับเป็นอาชีพสำรอง เผื่อว่าวันใดอาจจะต้องถูกเลิกจ้าง หรือบริษัทเกิดความไม่มั่นคง จะได้ออกมาประกอบอาชีพอิสระของตัวเอง

เริ่มต้นอาจจะต้องทำงานหนักหน่อย ทั้งงานประจำ และอาชีพเสริมที่ต้องขวนขวายหาความรู้ เป็นไปได้ว่า ต้องมาเข้ารับการอบรมในวันหยุด และต้องกลับไปฝึกมือให้ชำนาญมากขึ้นในวันธรรมดา แม้จะต้องเหนื่อย แต่คิดว่า เป็นทางออกสำรองที่ดีที่สุด เพราะการมีงานประจำทำไปด้วย ทำงานอดิเรกที่รัก หรือชอบไปด้วย ผลที่ออกมาย่อมดีกว่าการสร้างสรรค์ในภาวะกดดัน

มีข้าราชการวัย 40 ปลายๆ อยู่ท่านหนึ่ง ทำงานทางด้านบัญชี การเงิน ชีวิตปกติทำงานประจำ ไปเช้า เย็นกลับ ทำงานอยู่กับตัวเลข แค่ปลายเดือนต่อต้นเดือนเป็นช่วงที่ยุ่งหน่อย วันหนึ่งมีโอกาสคุยกัน ได้ความว่า เธอเป็นคนชอบทำอาหาร ขนม ในวันหยุด และนำมาให้เพื่อนๆ ชิมในเช้าวันจันทร์ เลยแนะไปว่า น่าจะทำเป็นอาชีพเสริมได้เพราะเท่ากับว่ามีพรสวรรค์ มีความชำนาญอยู่แล้ว จากนั้นเธอจึงเริ่มทำขนมออกขาย ได้เสียงตอบรับจากเพื่อนร่วมงานค่อนข้างดี และดีมากขึ้นๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อขายได้มากขึ้น ทุกวันนี้เธอมีกำลังใจและวางแผนไว้ว่า จะเปิดร้านขายขนมในวัยเกษียณ หรืออาจจะลาออกมาก่อนถึงวัยเกษียณด้วยซ้ำ นับเป็นความสุข และความมั่นคงให้กับชีวิต

สำหรับผู้ที่ถูกเลิกจ้างกะทันหัน อย่าเพิ่งท้อถอย อย่าเพิ่งหมดหวัง สร้างกำลังใจให้กับตัวเองไว้ว่า "วิกฤตคือโอกาส วิกฤตคือโอกาส" ท่องไว้ แม้จะทำอะไรไม่ได้ในทันที แต่เมื่อมีกำลังใจแล้ว ไม่นานสิ่งดีๆ จะตามมาเอง

ดูอย่างปี 2540 ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ล้มกันระเนระนาด นับจากวันนั้น จนถึงวันนี้ มีผู้ประกอบการอนาคตสดใสมากมาย บางรายถึงขั้นส่งออก และเมื่อมาพบกับวิกฤตอีกครั้ง พวกเขาเหล่านี้ ต่างรับมือได้เป็นอย่างดี เพราะมีประสบการณ์ มีบทเรียนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บทเรียนที่ว่า อย่าหมิ่นเงินน้อย การใช้จ่ายระวังอย่าให้ผิดประเภท บัญชีของกิจการค้า กับบัญชีส่วนตัว ควรแยกกัน มิเช่นนั้นแล้ว จะไม่มีทางทราบเลยว่า มีต้นทุน ยอดขาย และกำไร เป็นอย่างไร

เมื่อมีกำลังใจดีแล้ว ขั้นต่อไปคือตั้งสติ ลองสำรวจดูว่า พอจะทำการค้าการขายอะไรได้บ้าง หรือทำเองไม่ได้ ไปรับมาขายก่อนในช่วงแรกก็ยังดี แต่อย่าเพิ่งคาดหวังมากว่าจะต้องมีรายได้เข้ามาเป็นกอบเป็นกำ เพราะการเริ่มต้นกิจการอย่างน้อยต้องให้เวลาตัวเองสัก 3 เดือน จึงจะเข้าที่เข้าทาง ที่สำคัญอย่าท้อถอย และในความพยายามนั้นต้องหมั่นสังเกตและปรับปรุงไปด้วย รวมทั้งการหาข้อมูลด้านต่างๆ มาประกอบด้วยยิ่งดี

บางคนเลือกที่จะเดินเข้าไปในหน่วยงานของภาครัฐ ที่เปิดให้ความช่วยเหลือ ซึ่งคิดว่า ในภาวะปัจจุบัน หน่วยงานเหล่านี้ย่อมต้องตื่นตัว และเตรียมพร้อมเสมอ ที่สำคัญ น่าจะมีงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรมาให้พอสมควรทีเดียว

เกริ่นนำไปยืดยาว สำหรับทางหนีทีไล่ กับภาวะเศรษฐกิจ ณ เวลานี้ สำหรับ "เส้นทางเศรษฐี" ฉบับนี้ ก็มีกิจการเล็กๆ ที่น่าจะไปได้สวยมาเสนอ นั่นคือ การเปิดร้านขายไอศกรีมผลไม้ ซึ่งจริงๆ แล้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์ว่า จะพยายามไม่ใช้คำว่า ไอศกรีมอย่างเดียว เพราะไม่ใช่ไอศกรีมซะทีเดียว เมนูนี้ไม่มีส่วนผสมของครีม ไขมัน และไม่ใช่ไอศกรีมซอร์เบ เชอร์เบท หรือไอศกรีมโยเกิร์ต แต่เขาว่าเป็นไอศกรีมน้ำผลไม้ ที่ตั้งชื่อว่า "ไอซ์ ทวิสเตอร์"


ไอศกรีมน้ำผลไม้
สินค้าแปลก อร่อย ขายได้

คุณศิริชัย จรัสศรีวิสิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาร์โมนี่ โพรดักส์ จำกัด เผยว่า "เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2543 เราทำน้ำผลไม้เข้มข้นอยู่แล้ว ชื่อว่า ควีน โปรดักส์ ในปีนั้น มีส้มออกมาล้นตลาด ล้นโกดัง เราก็คิดว่าน่าจะนำมาแปรรูป ใช้เนื้อผลไม้ คือเนื้อของส้มให้มากขึ้น เรามาปรับปรุงใหม่ แต่งตัวใหม่ บางคนเรียกเชอร์เบท บางคนเรียกซอร์เบ แต่เราไม่เรียกอย่างนั้น เราต้องการส่งเสริมให้เป็นไอศกรีมที่มีเนื้อผลไม้ให้มากขึ้น จากนั้นก็มาพัฒนากระบวนการผลิตเอง"

คุณศิริชัย บอกอีกว่า ครั้งแรกที่ทำก็มีส้มตัวเดียว แต่ปัจจุบันพัฒนาให้มีหลากหลายรสชาติมากขึ้น อาทิ กีวี ฝรั่ง บลูเบอร์รี่ ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ สับปะรด ไอซ์พันช์ สไกเทรน ชาเขียว ราสเบอร์รี่ ไอซ์พีช ไอซ์สตาร์ฟรุต มะพร้าวน้ำหอม ค็อฟฟี่ ชูวี่ และเรนโบว์

"หน้าตาจะคล้ายไอศกรีม แต่จะมีเนื้อผลไม้มาก เราใส่เข้าไปมาก มีความสด แต่ก็มีการปรุงแต่งนิดหน่อย เพราะคนไทยชอบกินรสเข้มข้น"

เมื่อได้ผลิตภัณฑ์แล้ว การตลาดในยุคแรก คือการออกงานแสดงสินค้า ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจมากทีเดียว แต่แล้วทางบริษัทก็มีความคิดว่า น่าจะขยายสาขาด้วยรูปแบบแฟรนไชส์ คุณศิริชัย จึงไปเข้ารับการอบรมโครงการแฟรนไชส์รุ่น 1 กับทาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

"ถ้าจะขยายสาขาด้วยตัวเอง ต้องทำเองเยอะ ต้องไปขอพื้นที่วางตู้เย็น หาพื้นที่ เลยทำแฟรนไชส์ดีกว่า รูปแบบของร้านคือเป็นร้านแบบมีถังแช่ที่ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟ ขายตรงไหนก็ได้ เป็นถังแช่เก็บความเย็น ซึ่งจะว่าไปแล้ว เป็นแฟรนไชส์ สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่มากนัก ตอนนั้นเมื่อปี 2544 ลงทุน 20,000 กว่าบาท ตอนนี้อยู่ที่ 30,000 กว่าบาท"

ดังนั้น สรุปได้ว่า เงื่อนไขแฟรนไชส์ ณ ปัจจุบันคือ ลงทุน 30,000 บาทเศษ สิ่งที่จะได้คือ ถังแช่พร้อมสินค้า 2 ถัง ถังละ 2 รสชาติ ขนาดถังละ 19 กิโลกรัม รถเข็น ถ้วย 200 ใบ ช้อน ที่ตัก และการตกแต่งรถเข็น

"จากที่เราจัดให้จะสามารถตักได้ไม่ต่ำกว่า 260 ถ้วย ขายถ้วยละ 15 บาท ราคาขายยืดหยุ่นได้ เป็นไปตามทำเล ที่คำนวณไว้คือ 1 ถัง 19.5 กิโลกรัม ตักได้ 400 ลูก (ใส่ 3 ลูกต่อ 1 ถ้วย) ถ้าขายที่ราคา 15 บาท ต่อถ้วย จำนวน 2 ถังนี้ (260 ถ้วย) จะมีรายได้ จากไอศกรีมผลไม้นี้เริ่มต้น ประมาณ 3,900 บาท จากนั้นรับไอศกรีมผลไม้ จากทางบริษัท ได้ในราคา ถังละ 750 บาท พร้อมแก้ว "

หรือพูดง่ายๆ ถึงต้นทุนได้ว่า ซื้อมาถังละ 750 บาท ตักได้ 130 ถ้วย ขายถ้วยละ 15 บาท จะมีรายได้ 1,950 บาท เมื่อหักต้นทุนออกแล้วจะเห็นกำไรมากกว่าครึ่ง

"ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา เรามีแฟรนไชซีประมาณ 100 กว่าจุด หลังจากที่ดำเนินงานไประยะหนึ่ง เรามีข้อผิดพลาดเรื่องถังเก็บความเย็น ทำให้จำนวนแฟรนไชซีลดลง แต่ตอนนี้ เข้าที่เข้าทางแล้ว มีจำนวนคงที่อยู่ 60 จุด กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดนิดหน่อย"

สำหรับทำเลที่น่าสนในนั้น คุณศิริชัย ว่า เนื่องจากแต่ละจุดใช้พื้นที่ไม่มากประมาณ 2-3 ตารางเมตรเท่านั้น ดังนั้น หากเป็นพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ในตลาดสด ข้างโรงเรียน หรือในโรงเรียน ก็ตั้งได้ทั้งนั้น และนับเป็นทำเลที่ดี


สร้างรายได้จากน้ำหวาน
ทำเลสวย ไปได้สวย

ผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่งที่คุณศิริชัยแนะนำคือน้ำหวานเข้มข้น ที่ใช้ในการผสมน้ำ ผสมโซดา หรือผสมเป็นค็อกเทล ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือมีแอลกอฮอล์ก็ได้ เหมาะกับการทำดื่มเองที่บ้านหรือสำหรับร้านอาหาร หรือร้านขายค็อกเทลโดยเฉพาะ

"น้ำหวานไอซ์ทวิสเตอร์ สามารถสร้างเมนูเครื่องดื่ม ของหวานได้มาก อาทิเช่น ทำเป็นไอซ์เมาน์เท่น (น้ำแข็งไส ใส่น้ำหวาน ราดนม ประดับด้วยเชอร์รี่เชื่อม) ผสมเป็นค็อกเทล แบบทั้งที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ นำไปผสมกับโซดาหรือน้ำ ในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 ทำน้ำปั่น และทำไอศกรีมน้ำผลไม้ เป็นต้น เรียกว่าทำได้หลากหลายเมนู มากกว่าที่คิดเลยทีเดียว" คุณศิริชัย ว่าอย่างนั้น และบอกอีกว่า

"เราพัฒนาน้ำหวานตัวนี้ขึ้นมาสู้กับของต่างประเทศได้สบาย ของนำเข้าขายประมาณ 200 บาทต่อขวด แต่เราขายปลีกขวดละ 65 บาท กลุ่มลูกค้าหลักๆ ของเราคือ ร้านที่ขายเหล้าปั่น ร้านค็อกเทล รวมทั้งการวางจำหน่ายในร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ ที่เราผลิตขึ้นมาตอนนี้มีทั้งหมด 17 รสชาติ ได้แก่ ส้ม สตรอเบอร์รี่ สับปะรด องุ่น ฮันนี่ดิว แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ ฝรั่ง บลูฮาวาย โคล่า บลูเบอร์รี่ มะนาวหวาน กีวี มะพร้าว ชาเขียว กล้วย และราสเบอร์รี่"

สำหรับการลงทุนในการทำการค้าโดยใช้น้ำหวานตัวนี้ คุณศิริชัย ว่า น่าจะเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท โดยมีคีออสวางอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ได้แก่ แหล่งชุมชน หรือสถานที่ท่องเที่ยว โดยรูปลักษณ์ของร้านต้องพยายามสื่อให้เห็นถึงความสดชื่น ซึ่งน่าจะเหมาะกับอากาศในช่วงร้อนๆ อย่างเดือนเมษายน เป็นต้นไป

"ถ้าจะลงทุน ควรจะมีป้ายโปสเตอร์เพื่อให้มีสีสัน ป้ายนี้ลงทุนประมาณ 5,000 บาท คือเราจะแนะนำให้เค้า จะไปตั้งเฉยๆ ก็ไม่ได้ สำหรับผู้สนใจที่ยังทำไม่เป็น ผมแนะนำว่า ไปเริ่มต้นเรียนกับทางศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน ก่อนดีกว่า เพราะมีหลากหลายสูตรให้เลือกทำ และค่าอบรมไม่แพง"

จากข้อมูลของคุณศิริชัย ที่ว่ามานี้ พอจะประมวลได้ว่า ช่องทางอาชีพนี้คือ การตั้งรถเข็น หรือคีออส โดยมีเมนู น้ำปั่น ค็อกเทล น้ำแข็งไส หรือผสมกับโซดา แล้วแต่จะเลือก หรือเลือกรวมๆกันไปก็ได้ ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องขายสินค้าตัวนี้ตัวเดียว อาจจะนำไปประกอบขายกับสินค้าตัวอื่นได้ เช่นอาจจะทำควบคู่กับร้านกาแฟสด ร้านเบเกอรี่ ร้านไอศกรีม หรือร้านอาหาร

การซื้อน้ำหวานตัวนี้ ซื้อได้ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือซื้อผ่านทางบริษัทผู้ผลิต สำหรับความรู้ในการทำ หรือการสร้างเมนูขึ้นมา ถ้ามีพื้นฐานดีอยู่แล้ว อาจจะหาสูตรจากหนังสือ หรือในอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่ทั่วไป หรือหากยังไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับการอบรมได้ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน เป็นหลักสูตรวันเดียว (ติดตามโปรแกรมการอบรมได้ที่คอลัมน์อบรมประจำเดือน)

ส่วนการลงทุน ถ้ามีคีออสด้วย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท ต้นทุนน้ำหวานขวดละ 65 บาท น้ำแข็งเลือกเจ้าที่สะอาดหน่อย ราคาน้ำแข็งปกติไม่แพงอยู่แล้ว นอกจากนั้น อาจจะต้องมี มะนาวสด นมข้น นมสด และเครื่องประดับตกแต่ง เช่น เชอร์รี่เชื่อม สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก มะนาวฝาน หรือดอกกล้วยไม้

ส่วนอุปกรณ์ ได้แก่ กระบอกเชค ถ้าเป็นสเตนเลส ราคาประมาณ 500-600 บาท แก้วรูปทรงต่างๆ มีขายทั่วไปราคาเริ่มต้น ใบละ 20 บาท ถ้วยแก้ว รูปทรงพอเหมาะกับปริมาณน้ำแข็ง หลอด ที่คน เครื่องปั่น มีให้เลือกหลายราคา

ทำเลที่ดีที่สุดคือ หน้าหรือในโรงเรียน หน้าหรือในมหาวิทยาลัย และสถานที่ท่องเที่ยว ทางทะเล ตั้งแต่ ชะอำ หัวหิน กระบี่ พังงา สมุย ภูเก็ต ฯลฯ หรือไปทางภาคตะวันออก อาทิ หาดบางแสน พัทยา ชาดหาดที่จังหวัดระยอง เกาะช้างที่จังหวัดตราด เป็นต้น (แนะนำว่า ให้ลองไปเปิดตลาดตามชายหาดที่ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก แต่มีแนวโน้มดี แล้วค่อยๆ เริ่ม ค่อยเป็นค่อยไป เพราะสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ถ้าเป็นสถานที่สวยงาม เงียบ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก นักท่องเที่ยวจะบอกกันปากต่อปาก ดูอย่างอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ยินข่าวมา 5-6 ปีแล้วว่าสวยมาก จนถึงขณะนี้ นักท่องเที่ยวมหาศาลแล้ว นั่นหมายความว่า ถ้าตาถึง ตาไว ชิงความได้เปรียบไปยึดพื้นที่ไว้ก่อน ใช้เวลาสักนิด แล้วค่อยๆ สร้างขึ้นมาจะมั่นคง ซึ่งประเด็นนี้เป็นเพียงคำแนะนำ หรือเป็นอีกเส้นทางหนึ่งเท่านั้น หากใครที่ชอบพื้นที่คนเยอะพลุกพล่าน ก็ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวข้างต้น แต่ต้องคำนึงถึงข้อหนึ่งว่า คนเยอะ นักท่องเที่ยวเยอะ พ่อค้าแม่ค้าก็เยอะตามไปด้วย การแทรกตัวเข้าไปขายก็อาจจะยากขึ้น ทุกตัวเลือกมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบอยู่ในตัว)

นี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางอาชีพที่น่าสนใจ ที่ลงทุนน้อย ขั้นตอนไม่ยาก เพียงแต่ต้องอาศัยความอดทนในช่วงแรกของการดำเนินกิจการ ถ้าไม่ถอยเสียก่อน ความสำเร็จต้องมาเยือนแน่ๆ

สนใจติดต่อได้ที่ บริษัท ฮาร์โมนี่ จำกัด 36/303 หมู่ 13 ถนนโชคชัย 4 ลาดพร้าว ซอย 85 กรุงเทพฯ 10230 โทร. (02) 942-2410, (02) 942-1174


การขายไอศกรีมน้ำผลไม้ ในรูปแบบแฟรนไชส์

เงื่อนไข ลงทุนเริ่มต้น 30,000 บาท

สิ่งที่จะได้ ถังแช่พร้อมสินค้า 2 ถัง ถังละ 2 รสชาติ (แล้วแต่จะเลือก)

ขนาดถังละ 19.5 กิโลกรัม

รถเข็น ถ้วย 200 ใบ ช้อน ที่ตัก และการตกแต่งรถเข็น

ต้นทุนกำไร ต้นทุนไอศกรีมถังละ 750 บาท ตักได้ 130 ถ้วย

ขายถ้วยละ 15 บาท จะมีรายได้ 1,950 บาท

ดังนั้น เมื่อหักต้นทุนออกแล้วจะเห็นกำไรมากกว่าครึ่ง

ทำเล หน้าโรงเรียน มหาวิทยาลัย ตลาดสด ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว

จุดเด่น ถังเก็บความเย็น โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ดังนั้น จึงสะดวกในการเลือกพื้นที่ขาย

รสชาติไอศกรีม กีวี ฝรั่ง บลูเบอร์รี่ ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ สับปะรด

ไอซ์พันช์ สไกเทรน ชาเขียว ราสเบอร์รี่ ไอซ์พีช ไอซ์สตาร์ฟรุต

มะพร้าวน้ำหอม ค็อฟฟี่ ชูวี่ และเรนโบว์


การเปิดร้านขายค็อกเทล น้ำปั่น น้ำแข็งไส

รูปแบบ รถเข็น คีออส หรือนำไปประกอบขายกับสินค้าตัวอื่นได้

เช่น อาจจะทำควบคู่กับร้านกาแฟสด ร้านเบเกอรี่ ร้านไอศกรีม หรือร้านอาหาร

เมนูหลัก น้ำปั่น ค็อกเทล น้ำแข็งไส หรือผสมกับโซดา

การดำเนินงาน การซื้อน้ำหวานตัวนี้ ซื้อได้ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย

หรือซื้อผ่านทางบริษัทผู้ผลิต

สำหรับความรู้ในการทำ หรือการสร้างเมนูขึ้นมา ถ้ามีพื้นฐานดีอยู่แล้ว

อาจจะหาสูตรใหม่ๆ จากหนังสือ หรือในอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่ทั่วไป

หรือหากยังไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับการอบรมได้ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน

เป็นหลักสูตรวันเดียว (ติดตามโปรแกรมการอบรมได้ที่

คอลัมน์อบรมประจำเดือน)

การลงทุน เริ่มต้น 30,000 บาท

วัตถุดิบ น้ำหวาน น้ำแข็ง มะนาวสด เกลือ นมข้น นมสด และเครื่องประดับตกแต่ง

เช่น เชอร์รี่เชื่อม สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก มะนาวฝาน หรือดอกกล้วยไม้

อุปกรณ์ กระบอกเชค ถ้าเป็นสเตนเลส ราคาประมาณ 500-600 บาท

แก้วรูปทรงต่างๆ ถ้วยแก้ว รูปทรงพอเหมาะกับปริมาณน้ำแข็ง

หลอด ที่คน เครื่องปั่น มีให้เลือกหลายราคา

ทำเล หน้าหรือในโรงเรียน หน้าหรือในมหาวิทยาลัย

และสถานที่ท่องเที่ยว ทางทะเล

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขาย ฤดูร้อน ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม แต่ควรเริ่มเตรียมงานก่อนเข้าช่วงร้อนสัก 1-2 เดือน

ที่มา //info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07008010252&srcday=&search=no



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2552 16:00:42 น.
Counter : 5406 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]