Group Blog
สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
3 สาว 3 วัย เธอทำอย่างไรถึงพ้นจากหนี้สิน

ลองมาอ่านตัวอย่างเรื่องจริงของ 3 สาวที่ปลดหนี้ได้กันดีกว่า เผื่อคนเป็นหนี้จะได้มีแนวทางและกำลังใจมากขึ้น

นิดา

นิดาเคยเหนื่อยจากการหมุนเงินรายเดือนไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่พอกพูนจนรับไม่ไหวแล้ว แต่นิดาสามารถจ่ายหนี้คืนได้ทั้งหมด 800,000 บาท แล้วยังเริ่มมีเงินออมอีก 500,000 บาท หลังจากนั้นอีก 2 ปีด้วย

เธอทำได้อย่างไรกัน

สาวโสดวัย 32 ปีผู้นี้เล่าว่าเธอขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีไปถึง 3 ใน 4 รวมถึงกระเป๋าถือยี่ห้อต่างๆ หลายใบ รวมทั้งห้องในคอนโดที่ซื้อด้วยการผ่อนชำระ แล้วเอาเงินก้อนที่ได้ไปคืนหนี้ แล้วย้ายไปเช่าอพาร์ตเม้นท์ร่วมกับเพื่อนหญิงที่สนิทกันอีก 2 คน

3 สาวหารค่าใช้จ่ายในอพาร์ตเม้นท์เท่าๆ กัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเพื่อเป้าหมายของการล้างหนี้และมีเงินออม การตัดสินใจแบบนี้ทำให้นิดาประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ถึงเดือนละ 18,000 บาท ทำให้มีเงินเก็บใน 2 ปีหลังจากนั้นประมาณ 500,000 บาท

นิดาบอกว่าอีก 2-3 ปี เธอถึงจะเริ่มหาที่อยู่ของตนเองอีกครั้ง

สรี

สรีอายุ 36 แต่งงานแล้ว ยังไม่มีบุตร และสองคนสามีภรรยาก็เหมือนชนชั้นกลางอย่างเราๆ ที่มีหนี้

แต่ด้วยความที่เธอกับสามีไม่ยึดติดกับหน้าตา ไม่เกี่ยงงาน และทำงานหนักได้ ดังนั้น นอกจากงานประจำเป็นลูกจ้างออฟฟิสแล้ว ทั้งสองคนรับงานเพิ่มอีก สามีรับงานเพิ่มในช่วงค่ำและวันหยุดด้วยการขับรถมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารถึงบ้านลูกค้า ส่วนสรีรับจ้างทำความสะอาดบ้านและคอนโดในช่วงวันหยุด ความที่ กทม ขาดแคลนแรงงานแบบนี้ทำให้เธอมีงานล้านมือ และหลายครั้งเจ้าของบ้านก็ขอให้ช่วยดูแลคนชราหรือเด็กๆ ในบ้านเขา สอนการบ้านให้ลูกๆ ทำให้ได้รับเงินเพิ่มไม่น้อย

เพียง 3 ปีของความเพียร ไม่เลือกงาน ทำให้สองสามีภรรยาในวันนี้มีชีวิตที่มั่นคง และพ้นจากการเป็นหนี้ไปได้

สรีบอกว่าในเมื่อเจ้าของบ้านกล้ารับคนต่างชาติที่พูดรู้เรื่องน้อยกว่าเธอมาทำงานได้ ทำไมจะรับคนจบตรีมีงานออฟฟิสทำมั่นคงอย่างเธอไม่ได้ และเขายอมจ่ายมากกว่าบ้างเพื่อความสบายใจด้วย

วิมลวรรณ

วิมลวรรณ เป็นหนี้สินเพราะจ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากกว่าที่เธอหาได้ ถึงเธอจะโชคดีที่ไม่มีหนี้ที่อยู่อาศัยเพราะอยู่ในบ้านของพ่อแม่ แต่หนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อส่วนบุคคลที่เธอเอาไปซื้อเครื่องแต่งตัว เอาไปเที่ยวกลางคืน เอาไปเข้าฟิตเนส เอาไปทำศัลยกรรมความงาม และเอาไปท่องเที่ยวยุโรป ก็พอกพูนจนเธอเคยคิดจะไปเอาบ้านพ่อแม่ไปจำนอง เพื่อให้พ้นหนี้

โชคดีที่ยังไม่ทันทำ เพราะเราได้คุยกันก่อน

เราช่วยกันทำงบรายได้ รายจ่าย และสินทรัพย์ หนี้สิน ของเธอ แล้วเราก็พบวิธีควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยการลดมันลง กับเพิ่มรายได้ด้วยการขายของใช้ที่มีมากเกินเหตุออกไป ทำให้มีเงินก้อนไม่น้อยเลยที่เอาไปจ่ายลดหนี้ลงไปได้ รถยนต์ที่มีก็ขายไปซะ ใช้บริการรถไฟฟ้าแทน ทำให้ประหยัดไปได้มาก แถมยังทำให้เธอได้พบชายหนุ่มคนหนึ่งในระหว่างเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จนคบหาดูใจกันมา 2 ปีแล้ว

นอกจากนี้ เธอก็ทำงานเพิ่ม จากเดิมที่ไม่เคยอยู่ทำโอที วิมลวรรณก็เริ่มทำ ในวันเสาร์เธอออกไปสอนดนตรีให้โรงเรียนดนตรีแห่งหนึ่งตามคำแนะนำของชายคนดีที่เธอกำลังดูใจกัน ส่วนวันอาทิตย์เธอใช้เวลากับพ่อแม่ หรือชายผู้รู้ใจ
แค่เลิกใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เธอก็มีเงินเก็บได้แล้ว นี่ขายของที่ไม่จำเป็นออกไป และทำงานเพิ่มอีก ทำให้เธอปลดหนี้ได้ภายใน 2 ปี

เธอบอกว่าต้นเดือนมกราคมนี้ จะมีงานมงคลที่เรียบง่ายที่สุดกับชายหนุ่มผู้รู้ใจ ไม่มีพิธีอลังการงานสร้าง มีแต่พิธีเรียบง่าย คนไม่กี่คนที่รักสนิท และจัดในบ้าน หลังแต่งงานแล้ว ฝ่ายชายจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเธอ เพราะวิมลวรรณเป็นลูกโทน ส่วนคอนโดที่ฝ่ายชายอยู่ในปัจจุบันนี้น ก็จะให้คนอื่นเช่า

วิมลวรรณ บอกว่า จากเดิมที่เครียดกับหนี้ วันนี้เธอมีความสุขกับการมีเงินออม และเอาไปลงทุนเพื่ออนาคต

และนี่คือ 3 ตัวอย่างจริงของ 3 สาวที่เราควรศึกษาไว้

หากเราเป็นหนี้ก็อย่าเพิ่งท้อเลยคนดี ขอแต่เพียงให้ขยัน สู้งาน และที่สำคัญที่สุดคือต้องทำแผนการเงิน แล้วเราจะหลุดพ้นจากหนี้ มีอิสรภาพทางการเงิน กับมีความมั่นคง จนเป็นสุขในชีวิตได้

ที่มา : //www.bblam.co.th/web2/articleDetail.php?artID=483&langsel=th




Create Date : 09 สิงหาคม 2557
Last Update : 9 สิงหาคม 2557 17:31:35 น.
Counter : 1187 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]