@@ เวลาผ่านไปไวจัง ไหมจัง ครบ "สี่เดือน" แล้วเหรอเนี่ย @@

"อารัมภบท"

เผลอแป๊ปไหมจังของแม่หลิงก็ครบสี่เดือนแล้วเหรอเนี่ย ไวจริงๆ
ยังคุ้นๆ ว่าเพิ่งคลอดลูกมาแล้วเพิ่งหายจากเบบี้บลูไม่นานนี่นา

ช่วงนี้ตัวเองเป็นไรไม่รู้ เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆ เดี๋ยวเจอแมลงกัด
ข้อมือก็เจ็บไม่หายสักที แถมเจอภาวะตับอักเสบเข้าไปอีก
อาทิตย์ที่ผ่านมาก็งอมไปกับหวัดญี่ปุ่น

ยังไม่หมดยังมีเรื่องซวยซ้ำซ้อนอีกก็คือ วันนี้ดันซุ่มซ่ามหั่นผักอยู่ดัน
หั่นนิ้วโป้งไปด้วยเลือดไหลใหญ่เลย ก็เลยต้องไปโรงพยาบาลให้
คุณหมอทำแผลให้ โชคดีรพ.แถวบ้านเปิดวันเสาร์ครึ่งวันเลยก็เลย
ได้พบคุณหมอ (ใจดีด้วย) ว่าแล้ววันจันทร์มีนัดให้ไปดูแผลอีกว่าเป็นไงบ้าง

คุณสามีอิฉันเดือนนี้เลยรับศึกหนัก เพราะอาทิตย์ที่แล้วก็ต้องเป็น
คนตื่นมาให้นมลูกกลางคืนเกือบทั้งอาทิตย์ เพราะไม่ยอมให้นอนกับลูกเลย
ไล่ให้ไปนอนอีกห้องหนึ่ง บอกว่ากลัวน้องไหมติดหวัด อืมม์ แอบเซ็งแต่ก็
จริงนะ กลัวน้องติดหวัด เพราะถ้าน้องเป็นหวัดคงแย่แน่ๆ เลย

พอวันนี้โดนมีดบาด ภาระอาบน้ำให้ลูกก็เลยต้องตกกับคุณสามี (สุดที่ร๊ากก)
อีกแล้ว ตอนนี้เลยจะลดจำนวนการอาบน้ำลงเหลือวันละครั้งพอ
ปกติต้องเช้าเย็นนะเนี่ย จะงดอาบน้ำเช้าหรือเย็นดีน้า กำลังคิดอยู่

แอบสงสารฝาละมีจังเลย ทำงานหนักแล้วยังต้องกลับมาช่วยเลี้ยงลูกอีก




"เดือนที่สี่ของน้องไหม"

เดือนนี้มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นหลายอย่างเหมือนกัน ไล่ไปทีละข้อแบบสรุปๆดีกว่า

อย่างแรก - คว่ำได้แล้ว ไหมพยายามเอียงตัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ประมาณสามเดือนครึ่งนิดๆ ไหมก็พยายามสำเร็จ พอคว่ำได้แล้ว
ทีนี้คว่ำไม่หยุดเลย วางนอนปุ๊ป ไหมก็จะพยายามหันรีหันขวาง
จะคว่ำให้ได้ทุกครั้งไปปัญหาตอนนี้ก็คือ คว่ำได้แล้วแต่หงายไม่ได้
ดังนั้นพอคว่ำสักพักก็จะร้องๆๆๆๆเพราะเมื่อยหรือไงไม่รู้ สรุปคือต้อง
คอยวิ่งมาช่วยหงายตลอดเวลา เหนื่อยไปอีกแบบ






อย่างที่สอง - จับของได้แน่นขึ้น เล่นของเล่นบ้าง ไล่จับพวกโมบายที่ห้อยๆ
ได้บ้างแล้วหล่ะ





อย่างที่สาม - ตอนนี้ใช้ถ้วยหัดดื่มป้อนนม ไหมก็เริ่มจับเองได้บ้างแล้ว
แต่อาจจะไม่สามารถถือไว้ได้นานหรือป้อนใส่ปากตัวเองได้ เรื่องนี้ทำได้
บ้าง ทำไม่ได้บ้าง แต่แม่ก็ไม่ซีเรียสอะไร เพราะตั้งใจให้จับเพื่อให้หัดจับสิ่ง
ของเท่านั้นเองแหล่ะ ไม่ได้ตั้งใจว่าต้องถือขวดนมเองได้





อย่างที่สี่ - ตอบโต้กับคนรอบข้างได้มากขึ้น เวลาคุยด้วย บางครั้งไหมจะฟังอย่างตั้งใจแล้วก็ตอบเป็นเสียงอ้อแอ้ด้วย




อย่างที่ห้า - ชอบนั่งมาก ตอนนี้พอปล่อยก็นั่งได้สักสิบวินาทีก่อนที่จะล้มไป
ด้านหน้าบ้าง ด้านข้างบ้าง ไม่จับนั่งก็ไม่ได้เพราะไหมจะร้องโวยวายพร้อม
ทำท่ายกตัวขึ้นเพื่อจะนั่ง ไม่เพียงแค่นั่งอย่างเดียว ตอนหลังชอบให้จับยืน
ด้วย พอจับยืนได้ ไหมจะมีสีหน้าบอกถึงความพึงพอใจอย่างยิ่งยวด
แบบว่าร้องงอแงอยู่ดี พอจับยืนก็จะยิ้มไปหัวเราะไปพร้อมกับขาสั่นไปสั่นมา


ที่เหลือเริ่มจำไม่ได้แล้ว แต่ก็เป็นพัฒนาการที่ต่อยอดมาจากเดือนที่สามทั้งนั้น


"นิสัยของน้องไหม"

ความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่าไหมเป็นเด็กมีแคแรกเตอร์ของตัวเองค่อนข้างชัดทีเดียว
เวลาร้องไห้ก็จะร้องแผดเสียงดัง เล่นเอาแสบแก้วหูไปตามๆ กัน
แต่เวลาไหมหัวเราะก็หัวเราะราวกับว่าชีวิตนี้มีความสุขเหลือเกิน
ช่วงหลังเสียงหัวเราะแบบลงเสียงเอิ๊กอ๊ากด้วยนะโดยเฉพาะ
ตอนลงโอฟุโระกับโอโต้ซัง

เวลาคุยก็จะส่งเสียงดังชัดเจนมีพึมพำบ้างเป็นบ้างครั้ง ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้
ชอบตื่นมากลางคืนตอนตีสามตีสี่แล้วก็มานอนคุยกับพ่อ พ่อก็ดันคุยตอบ
สรุปสองคนพ่อลูกกันถึงตีสี่ตีห้าแล้วนอนต่อ
เหนื่อยแทนโอโตซังจริงๆเลยนะเนี่ย
(พ่อต้องคุยด้วยเพราะไม่มีนมให้ลูกดูดเพลินๆส่วนตัวเองเวลาลูกตื่น
กลางดึกก็จะให้นมแม่แบบหลับไปเลยทั้งแม่ทั้งลูกหล่ะ)

ไหมไม่ชอบนอนกลางวันเท่าไหร่ นอนได้ครั้งละ 15-40 นาที
ไม่ค่อยถึงชั่วโมงเลยแต่ก็งีบบ่อยหน่อยสักสองสามครั้งช่วงกลางวัน
แต่พอห้าโมงกว่าไหมก็จะเริ่มง่วงนอนอีกรอบ พอจับอาบน้ำ
อ่านหนังสือให้ฟัง เปิดเพลงกล่อม ให้นมแม่ ไหมก็จะเริ่มหลับได้ตั้งแต่
หกโมงเย็น บางครั้งอาจเลทถึงสองทุ่ม แต่ก็จะหลับยาวไปถึงห้าทุ่ม
หรือเที่ยงคืน ตื่นมากินนม อ้อแอ้บ้าง แล้วก็หลับต่อตื่นอีกทีตี 3 หรือ
ตี 4 บางทีก็หลับต่อได้ บางทีก็คุยไปเรื่อย พอถึงตีห้ากว่าไหมก็ตื่น
จรืงอีกรอบ (แบบตาสว่างสุดๆ)

ไหมนอนไม่ยาวทั้งคืน มีตื่นมากินนมบ้าง เห็นลูกคนอื่นเขานอนกัน
ทั้งคืนไม่ตื่น ก็ต้องแอบอิจฉา เพราะแม่จะได้นอนยาวๆ ได้ด้วย
แต่ไหมก็ยังดีนิดนึงตรงที่ตื่นมากินนมแล้วมักจะนอนต่อได้ทันที
ก็ถือว่าพ่อกับแม่ได้นอนยาวมากกว่าช่วงไหมยังอายุเดือนสองเดือน




"ตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน"


เดือนนี้มีใบนัดจากเขตให้พาลูกไปตรวจร่างกาย"ฟรี"วันที่ 21 เดือนตุลานี้
ก็พาไปตรวจตามนัด ชอบไปจังเลยเพราะจะเห็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับ
ไหมเยอะแยะไปหมด เด็กๆ น่ารักทั้งนั้นเลย ตอนนี้ไหมหนัก 6600 กรัม
แล้วก็ยาว 60.2 cm วัดได้น้อยกว่าที่ตัวเองวัดเอง เพราะวิธีวัดแตกต่าง
กันหล่ะ ตัวเองไม่รู้ว่าวัดยังไงก็ลากยาวไปถึงปลายเท้าเลย
จริงๆ ต้องวัดถึงแค่ที่ฝ่าเท้าหง่ะ!! บล็อกก่อนหน้าดันเขียนไปว่าลูกยาว 63 cm
ต้องรีบแก้ไขข้อมูลด่วน


พอวันที่ 23 เดือนตุลาคมนี้ก็มีนัดไปฉีดวัคซีน BCG วิธีฉีดของญี่ปุ่น
น่าสนใจดี ใช้เข็มกดสองครั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจุดๆๆๆ ตอนกดเข็มลง
(กดแรงมาก)น้องไหมร้องจ๊ากเลย แต่พอเสร็จแล้วก็ไม่ได้ร้องไห้อะไร
โชคดีไปแต่ดันไปร้องไห้ตอนตรวจสุขภาพแม่แล้วต้องวางไหมลงบน
เตียง ไหมมันร้องไห้เสียงดังซะ volunteer ต้องวิ่งเข้ามาอุ้มไปกอด
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครอุ้มไหมก็ไม่ยอมหยุด แม่ๆ คนอื่นตกใจทำหน้าเลิ่กลั่ก
ว่าลูกใครหว่าร้องไห้เสียงดังขนาดนี้หนอ แต่แม่หลิงไม่อาย
หรอกเสียงดังก็ดีออกเนอะลูกเนอะ ปอดจะได้แข็งแรง หุหุ ปลอบใจตัวเองไป

อยู่ญี่ปุ่นก็ดีอย่าง ตรงที่การตรวจรักษาเด็กเนี่ย ฟรีตลอดแล้วก็มีการให้
ความรู้กับแม่ๆ ตลอดด้วย อย่างเดือนหน้าเขาก็มีคลาสให้ไปฟังวิธีการ
หย่านมลูกแล้วก็การให้อาหารเสริม เปิดเป็นคอร์สให้แม่ๆ ไปนั่งเรียนเลยนะ
ตัวเองก็เลยไปลงเรียนกับเขาด้วย ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็คงไม่เป็นไร
คิดว่าไปบ่อยๆ เดี๋ยวก็คงฟังรู้เรื่องเอง (มั๊ง)


ขออัพเดทรูปลูกเดือนที่สี่เป็นหลักฐานไว้


หมวกใหม่จ้า





ไปเดินเล่นที่สถานีรถไฟ Jiyuygaoka พ่อเลยนั่งเล่นพร้อมให้นมลูกไปด้วย
ในรูปกำลังคุยกับแม่บ้านญี่ปุ่นที่มาเล่นกับลูกวัยสองขวบอยู่




ชุดหมีรับหน้าหนาวของน้องไหม






พยายามจับถ้วยหัดดื่ม




ของขวัญเสื้อสวยจากเพื่อนคุณพ่อค่า




หินที่ทำพิธี okuizome แล้ว เอากลับมาที่บ้านโตเกียวเพื่อเขียน
คำปรารถนาแล้วไปวางกลับไปที่ศาลเจ้าที่ทำพิธีตอนครบเดือน
คำขอของพ่อกับแม่ไม่มีอะไรมาก ขอให้ลูกไหมมีความสุข




ตอนแรกไหมนอนหงายอยู่ดีๆ ต่อมาก็ค่อยๆ หันกลับมานอนคว่ำเองเฉยเลย
แต่เป็นแค่วันเดียวหล่ะ แปลกดี

Create Date : 25 ตุลาคม 2551 Last Update : 25 ตุลาคม 2551 19:58:19 น. Counter : 1336 Pageviews.		20 comments
Share Tweet