YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
พักโฆษณา .. ตัวบินออกจากเบอร์ลิน ใจล่ะ, จะบินตามมาทันไหม

ผ่านไปหนึ่งประเทศ เราก็อดไม่ได้ที่จะมาทบทวนตัวเราเอง วันนี้ .. เราอยู่ตรงไหน

  • การไม่คาดหวังในตัวเองนี่มันทำได้ยากกว่าที่พูด ณ จุดนี้ เราไปไกลกว่าจุดที่เราฝันไว้หรือยัง เราฝันถึงอะไรกันแน่ ฝันว่าจะได้รับการยอมรับ จากผู้คนที่เขามองเราเป็นตัวอย่างของคนที่กล้าทำตามความฝัน ... “เราเป็นคนบ้าที่ฝันว่าเราอยากจะมีความฝัน และเดินทางออกตามหามัน” ... มันว่างเปล่าขนาดนั้นรึเปล่า แก่นของมันคืออะไร
  • เราว่าความฝันของเรามันคงจะมีแก่นอยู่แน่ๆ ล่ะ เพราะถ้าหากมันว่างเปล่า เป็นแค่กฎที่วนมาจบในตัวเองเท่านั้นล่ะก็ มันก็จะต้องมีความเป็นสากลที่นำมาอธิบายได้กับทุกตัวแปรที่แทนค่าเข้าไปสิ แต่นี่เรายังมีบางตัวอย่างที่แทนค่าแล้วความรู้สึกของเรามันบอกว่าไม่น่ะ ไม่ใช่ ไม่ valid เช่น ถ้าแทนค่าด้วยคำว่า เจ้าของกิจการร้านเครื่องประดับ นั่นก็หมายถึง ... “เราฝันจะเป็นเจ้าของกิจการร้านเครื่องประดับ และเราก็ออกเดินทางไปทำมันให้เป็นจริง และผู้คนก็ชื่นชมที่เรากล้าที่จะทำ และทำมันได้” ... ถามว่าเรายอมรับได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ใช่ เราไม่ได้อยากเป็นเจ้าของกิจการร้านเครื่องประดับ
  • เพราะฉะนั้น ความฝันของเรามันคงจะมีแก่นบางอย่างอยู่แน่ๆ และมันก็หนักแน่นพอที่จะผลักให้เราก้าวมาอยู่ตรงนี้ มาสู้กับอากาศหนาวติดลบที่ต่างบ้านต่างเมือง มาทนนอนกับใครไม่รู้ มาแบกกระเป๋า 17 กิโลกรัมร่อนไปมาอย่างนี้
  • ไอ้เพื่อนรักเอ๋ย เอ็งฝันถึงอะไรกันแน่วะ? เธอฝันอยากมีความสุข เราอยากมีความสุขร่วมกันใช่ไหม ความสุขคือการอยู่ด้วยความเคารพและความภาคภูมิใจในตัวเอง รวมทั้งเป็นที่รักและชื่นชมจากคนรอบข้าง เป็นที่เคารพนิยมชมชอบจากผู้ที่มาทีหลังและผู้ที่จะกลายมาเป็นลูกศิษย์ลูกหา สิ่งที่จะนำมาซึ่งสิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน ความสามารถ ฐานะทางการเงิน มิตรภาพ และการจุดประกายฝันให้คนอื่น 
  • ความเติมเต็มในหน้าที่ที่พึงมี .. ใช่, นั่นคือสิ่งสำคัญในชีวิตเรา
  • คิดถึงบ้านจังเลย คิดถึงพ่อ แม่ และพี่สาว และรู้เหมือนกันว่าพวกเขาก็คิดถึงเราเหมือนกัน เราอยากกลับไปอยู่ใกล้ๆ เขาจัง เขาห่วงเรา แต่เขาก็เชื่อใจเรา เขาจึงปล่อยให้เรามา และตอนนี้เขาก็คิดถึงเราเหลือเกิน ทำไมคนที่คิดจะเป็นนักเต้นต้องอยู่ไกลบ้านเสมอนะ เราจะกลับไปอยู่เมืองไทยโดยไม่ทำให้ระดับของแรงบันดาลใจลดลงได้อย่างไร เราอยากกลับบ้าน อยากอยู่บ้าน แต่เรารู้ว่า เรายังไม่แกร่งพอที่จะกลับไปอยู่ในสังคมที่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เราทำ เราอยากกลับไปเพื่อจุดให้มีสิ่งนี้เกิดขึ้นที่บ้านเรา ไม่ใช่กลับไปเพื่อจมหายลงไปในสังคม เหมือนกับระยะเวลาสองสามปีที่เราออกเดินทางมานี้ไม่มีความหมายอะไรเลย
  • ยอมรับว่า.. เหนื่อยจัง การเดินทางของเราปราศจากจุดหมายรึเปล่า เรามาเพื่อให้ได้มา และพยายามจะไม่คาดหวังด้วยซ้ำว่าเราจะได้อะไรกลับไป วันนี้มันมาถึงจุดที่นิ่งๆ ไม่มีแรงบันดาลใจ สุดท้ายมันก็แค่นั้น ไม่รู้จะดั้นด้นมาทำไม เป็นความรู้สึกด้านลบสุดๆ เลย ที่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร เพราะว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้น หรือว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของอารมณ์มนุษย์ ที่มีขึ้นและมีลง มีทดท้อมีลุกฟู
  • มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน มันยังเร็วเกินไปที่จะคิดแบบนี้ ผ่านไปแค่เมืองเดียว เพิ่งจะผ่านไปแค่เมืองเดียว แค่เมืองเดียว
  • การออดิชั่นที่กำลังจะมาถึงคงทำให้เราเครียด .. เราคิดอะไรอยู่ เรากำลังคาดหวังอะไร ทำไมเราต้องเครียด เราหวังว่าเราจะได้เหรอ เราจะอยากมาอยู่ที่นี่เหรอถ้าเราได้ คิดไปก็เท่านั้น เราไม่มีทางได้อยู่แล้ว ไม่มีทาง.. เราไม่หวังอะไรอยู่แล้ว เราแค่อยากจะเข้าร่วม เราจะมุ่งเข้าไปเพื่อบอกกับตัวเองว่า “กูมาถึงแล้ว กูมาถึงท่าเรือแล้ว” แต่คนบนเรือจะรับเราขึ้นเรือไปด้วยไหม ไม่ได้อยู่ที่เรา อยู่ที่เขาต่างหาก แค่เราส่งตัวเองมาถึงตรงท่าเรือตรงนี้ เราก็ควรจะรักและชื่นชมตัวเองแล้ว
  • มีความสุขสิ ตั้งตารอประสบการณ์ที่จะได้รับสิ เดินเข้าหามันอย่างแจ่มใสเบิกบาน ถามตัวเอง เธอเต้นเพราะอะไร... “มะละกอสวนนั้น เธอปลูกมันเพื่ออะไร?"
  • เราอยากเป็นศิลปิน เราอยากให้งานของเราเป็นที่ประจักษ์ อยากให้คนเข้ามาค้นหาสารที่เราจะสื่อ เราอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ให้เขาลุกขึ้นตามหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ .. บางที, เราอาจจะอยากเป็นครู
  • คนจะเป็นแรงบันดาลใจ “ต้อง” มีความสุขกับสิ่งที่ทำและได้ทำ และละวางคำตัดสินของคนอื่นไว้นอกรั้วความรู้สึก ใส่ใจเพื่อพัฒนา แต่ไม่ใช่อ่อนไหวจนเสียจุดยืน
  • และจุดยืนของเราคือ “เราจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำ”



Create Date : 15 มีนาคม 2556
Last Update : 15 มีนาคม 2556 11:21:55 น. 4 comments
Counter : 987 Pageviews.

 


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2556 เวลา:5:32:24 น.  

 
ตอนไปเชียงรายกัน
หมิงหิมงอยู่ๆก็บอกว่า

"ป่ะป๊านี่ท่าหมื่นตา" 5555

พี่ก๋าเลยเอามาเป็นพรีเซนเตอร์ซะเลย 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2556 เวลา:10:53:11 น.  

 
แวะมาทักทายยามบ่ายครับ

ส่วนเรื่องหมี..อันนี้ม่ายรู้จริงๆ
สงสัยเอาไว้แปะธงชาติมั๊งครับ..????

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะครับ


View from Eiffel Tower, Paris


โดย: wicsir วันที่: 15 มีนาคม 2556 เวลา:16:43:45 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำ...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:18:56:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.